เร่งกม.กัญชา เสร็จสัปดาห์นี้ ยันคุมรอบด้าน

“อนุทิน” ชี้ปลดล็อกกัญชา 2 เดือน พบผู้ป่วยแค่ 60 ราย คาดสร้างมูลค่าตั้งแต่ต้นน้ำปลายน้ำถึง 5 หมื่นล้านบาท เผยร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ เสร็จสัปดาห์นี้ ชงเข้าสภาสัปดาห์หน้า

ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น  กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม เวลา 09.45 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวระหว่างเป็นประธานในงาน “Meet the Press : กัญชา-กัญชง เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และเศรษฐกิจ” ว่า หลังจากปลดล็อกกัญชา กัญชง ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. เป็นเวลา 2 เดือน นโยบายกัญชาเสรีเพื่อสุขภาพและการแพทย์ไม่ได้ก่อผลกระทบด้านลบต่อสังคมมากอย่างที่มีการกังวล  เห็นได้จากจำนวนผู้เข้ารับการรักษาและผู้ป่วยที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์ หรือภาวะพิษเฉียบพลันจากกัญชา ณ ห้องฉุกเฉิน ระหว่างวันที่ 6 มิ.ย.-16 ส.ค. เป็นเวลา 2 เดือนกว่า มีผู้ป่วย 60 ราย หรือเฉลี่ยเพียงวันละ 1 คน ซึ่งไม่มีนัยสำคัญเมื่อเทียบเทียบกับจำนวนประชากรทั้งประเทศเกือบ 70 ล้านคน

"ในช่วงที่ พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ....  ยังไม่มีผลบังคับ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกประกาศกระทรวง 4 ฉบับ เพื่อกำกับดูแลการใช้กัญชาให้เหมาะสม ที่หากกระทำผิดก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ซึ่งความคืบหน้าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ.... คาดว่าคณะกรรมาธิการฯ จะพิจารณาแล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ หลังจากนั้นจะนำเสนอสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป" นายอนุทินระบุ

นายอนุทินกล่าวว่า มูลค่าตลาดของกัญชา กัญชง ของไทยตั้งแต่ต้นน้ำถึงผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ ในขณะนี้อยู่ที่ 28,000 ล้านบาท จากพื้นที่การปลูก 7,500 ไร่ และยังมีที่รอการอนุมัติอีกจำนวนมาก เชื่อว่าจะช่วยผลักดันให้การเติบโตทั้งอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ในอนาคตไม่กี่ปีข้างหน้าจะเพิ่มไปอยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท  

ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. …. ชี้แจงถึงความคืบหน้าร่างกฎหมายว่า กมธ.ประชุมมาแล้ว 13 ครั้ง ล่าสุดคือวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา เปิดรับฟังความเห็นจากทั้งภาควิชาการที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในการใช้กัญชา ภาคนันทนาการ ภาคธุรกิจอุตสาหกรรม ภาคสังคม และภาคทางการแพทย์ ถือว่ารับฟังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจำนวนมาก เพื่อให้กฎหมายรอบคอบ โดย กมธ.มีหลักการทำงาน คือ ควบคุมดูแลไม่ให้กัญชากระทบเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งผลสำรวจต่างๆ พบว่าเห็นด้วยการปลดล็อกกัญชาจากยาเสพติด แต่ส่วนใหญ่ห่วงเยาวชน ต้องการให้ควบคุมระดับเดียวกับเหล้าและบุหรี่ ซึ่ง กมธ.ประยุกต์กฎหมาย 3 ฉบับ มาควบคุมกัญชา ได้แก่ พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ เพราะกัญชามีควันได้เหมือนบุหรี่ก่อให้เกิดเหตุรำคาญ, พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมึนเมาระหว่างขับรถคล้ายแอลกอฮอล์ และ ร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม พ.ศ..…

"ร่างกฎหมายกัญชากัญชงมีการประยุกต์จากกฎหมายที่มีอยู่ ทำให้รู้ว่าทำอะไร และควบคุมมากน้อยแค่ไหน หากกฎหมายออกมาก็ช่วยให้สบายใจได้มากขึ้น โดยวันที่ 19 ส.ค.นี้ กมธ.จะพิจารณาช่วงเปลี่ยนผ่าน คนที่จดแจ้งเกิน เช่น ปลูกเกินใช้ในบ้าน และกำลังรอกฎหมายฉบับใหม่ ใครจดแจ้งจะได้รับสิทธิคุ้มครองไปจนกว่าจะหมดรอบการปลูกเป็นอย่างน้อย จากนี้หน้าที่ กมธ.เหลือแค่ร่างหมวดบทเฉพาะกาล สัปดาห์หน้าก็ให้ผู้สงวนแปรญัตติของ ส.ส. เข้ามาชี้แจงทำความเข้าใจและเสนอเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป หากเห็นว่ากฎหมายฉบับนี้มีประโยชน์ดีกว่าสถานการณ์สุญญากาศ ก็ต้องช่วยกันส่งสัญญาณให้สมาชิกรัฐสภาช่วยกันออกกฎหมายฉบับนี้ให้เร็วที่สุด หวังว่าจะเป็นกฎหมายที่ดีฉบับหนึ่งที่มีการพิจารณารอบด้านและทุกมิติ" นายปานเทพระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง