‘อนุทิน’โวตอกเสาเข็มแดนใต้

“อนุทิน” นำทีมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา 7 เขต ลั่นไม่หวังแลนด์สไลด์ แต่ต้องการตอกเสาเข็มในหัวใจคนไทย โวกวาดเก้าอี้ทั้ง 9 เขตแน่  พร้อมเปิดนโยบายใหม่เพื่อคนด้ามขวาน ทั้งพักหนี้ 3 ปี-ภาษีบ้านเกิดเมืองนอน- ไฟฟ้าประชาชน “ไพร” เชื่อคนเชียร์ ปชป.หันมาเชียร์ ภท.แทน “สอท.” เปิด 5 พันธกิจรีเซตประเทศ

เมื่อวันอาทิตย์ มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่น่าสนใจของหลายพรรคการเมือง โดยที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมแกนนำ อาทิ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรค, นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรค และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา รองหัวหน้าพรรค เป็นต้น เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา 7 เขต จากทั้งหมด 9 เขต  และ 2 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยมีประชาชนมาร่วมในงานไม่ต่ำกว่า 6,000 คน 

นายอนุทินกล่าวตอนหนึ่งในการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา ว่ามั่นใจ จ.สงขลาจะได้ ส.ส.ยกจังหวัด พวกเรามากันมากขนาดนี้ ถ้าไม่ทำงานให้กระโดดแม่น้ำตานีตายดีกว่า วันนี้พรรค ภท.ไม่ต้องการที่จะแลนด์สไลด์ เพราะคำว่าแลนภาษาใต้ความหมายไม่ดี แต่เราจะมาตอกเสาเข็มให้ทั่วสงขลา เพื่อดูแลประชาชนให้ดี ซึ่งนายศักดิ์สยามก็บอกว่าอย่าใช้คำว่าแลนด์สไลด์ เพราะความหมายเหมือนดินถล่ม ต้องเปลี่ยนเป็นตอกเสาเข็มให้มั่นคง เพื่อเป็นรากฐานให้พี่น้องประชาชน ทั้งนี้เราจะทยอยตอกเสาเข็มไปทั่วประเทศ วันนี้ จ.สงขลา พรรคมี ส.ส. 1 คน คือนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ซึ่งทำงานได้ดี ดังนั้นวันนี้จะมาขอเพิ่มอีก 8 คน

 “พรรคภูมิใจไทยเกลียดความแตกแยก  เกลียดความรุนแรง เราไม่ต้องการสร้างความเสียหายใดๆ โดยพรรคเราได้พัฒนาพื้นที่ภาคใต้ เช่น สะพานเชื่อม อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา ไปยัง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง  ระยะเวลาการสร้าง 3 ปี ถ้าเลือกพรรคภูมิใจไทยให้มากๆ โดยเฉพาะ 3 จังหวัด คือ สงขลา พัทลุง สตูล สิ่งนี้จะเป็นพยาน  นอกจากนี้เรายังได้พัฒนาระบบการขนส่งด้านคมนาคม จ.สงขลา และจังหวัดใกล้เคียง งบประมาณ 5.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเราก็ได้เตรียมไว้แล้ว” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินกล่าวต่อว่า พรรคจะต่อยอดจากนโยบายที่เราพูดแล้วทำสำเร็จมาแล้ว เช่น หนี้ กยศ. แกร็บเพื่อรองรับการท่องเที่ยว และนโยบายเสรีกัญชาทางการแพทย์ ซึ่งต่อไปเรามีนโยบายให้คนใต้ คือพักหนี้ 3 ปี จากพิษโควิด-19 ไม่มีต้นไม่มีดอก ให้เวลาประชาชนไปทำมาหากิน แล้วค่อยมาใช้หนี้ในปีที่ 4  ภาษีบ้านเกิดเมืองนอน ที่จะให้ทุกคนสร้างบ้านแปงเมืองด้วยตัวเราเองจากภาษีของทุกคน ที่กำหนดได้เองว่า 30% จะไปลงพื้นที่ใด นโยบายไฟฟ้าประชาชนเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานธรรมชาติมาขายให้รัฐบาล

“พรรคภูมิใจไทยเราพูดแล้วทำ เราไม่สัญญาอะไรแล้วทำไม่ได้ เราเป็นพรรคการเมืองที่มีเสถียรภาพ ไม่มีขั้ว ไม่มีมุ้ง ไปไหนไปกันหมด ทำให้รัฐบาลเข้มแข็ง ผมขอให้สัญญาว่าสิ่งที่ได้ปราศรัยไปทั้งหมดจะเกิดขึ้นอีกไม่นาน ถ้าได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน” นายอนุทินกล่าว และยืนยันว่า จะส่งผู้สมัครครบทั้ง 9 เขต

สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลาทั้ง 7 เขตของพรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วย เขต 1 นายประสงค์ บริรักษ์, เขต 2 นายฉัตรชัย ชูแก้ว, เขต 3 นายไพร พัฒโน, เขต 4 ว่าที่ ร.ต.ไกรธนู แกล้วทนงค์, เขต 5 นาย อนลอัทธ์ พลธนนินท์ธัญ, เขต 7 นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ และเขต 8 นายวสันต์ ชั่งหมาน นอกจากนี้ยังเปิดตัว 2 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้แก่ นายปราโมทย์ แสงอรุณ และนายณรงค์พร ณ พัทลุง

นายไพรกล่าวถึงการร่วมงานกับพรรค ภท. ว่าไม่ได้ขัดแย้งกับพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) แต่บริบททางการเมืองในพื้นที่ภาคใต้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงไม่สามารถแบกด้ามขวานไว้คนเดียว จึงย้ายมาพรรค ภท.ที่มีความพร้อมมากกว่า เพราะพรรค ศท.มีฐานเสียงในภาคเหนือ ส่วนพรรค ภท.มีแม่ทัพทางภาคใต้ คือ นายพิพัฒน์ และนางนาที รัชกิจประการ ซึ่งมีเครือข่ายอีกมากมาย

 “ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปลี่ยนไปจากอดีต จะโทษสมาชิก ปชป.เก่าๆ ที่ออกไปไม่ได้ วันนี้ผมกล้าพูดว่าคนที่เคยสนับสนุนพรรค ปชป.ปัจจุบันเทให้พรรคภูมิใจไทย ผมรับรองว่าคนที่เคยเลือกผม 95% จะตามเรามาพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีความแข็งแกร่งมากใน จ.สงขลา” นายไพรกล่าว

ส่วนที่ จ.พัทลุง นายประเทือง มนตรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทย เขต 3 จ.พัทลุง ได้เปิดตัวแนะนำตัวกับประชาชนที่หมู่ที่ 11 บ้านควนล่อน เทศบาลตำบลควนเสาธง อ.ตะโหมด และระบุว่า ในวันที่ 7 ต.ค. พรรคจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 3 เขตนี้

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ตนพร้อมด้วย ส.ส.ภาคใต้ของพรรค มีแนวคิดลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนภาคใต้ในทุกด้าน โดยช่วยเข้าไปประสานกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในวันอาทิตย์ที่ 4 ก.ย.2565 จะลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเชื่อว่าวันนี้คนใต้รัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรักษาการนายกฯ เพิ่มมากขึ้น เพราะมีผลงานให้เห็นมากมาย

ขณะที่โรงภาพยนตร์ที่ 3 ชั้น 7 เอสเอฟเวิลด์ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์ พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) จัดแถลงข่าวเปิดยุทธศาสตร์ เราพร้อม เปลี่ยนอนาคตประเทศไทย โดยมีนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และแกนนำพรรคร่วมอย่างคึกคัก โดยนายอุตตมกล่าวว่า พรรคมีพันธกิจรีเซตประเทศไทย 5 แก้ไข คือ 1.แก้ปัญหาที่สั่งสมเป็นปัญหารุนแรง คือ ฉ้อราษฎร์บังหลวงต้องหยุดทุกระดับ 2.ปราบปรามยาเสพติด 3.สร้างความเท่าเทียม ลดการผูกขาด เพิ่มการแข่งขัน 4.ลดขนาดราชการ และ 5.ยกระดับเกษตรกรทันสมัย นอกจากนี้จะมี 5 สร้าง คือ 1.สร้างเศรษฐกิจฐานราก 2.สร้างเศรษฐกิจใหม่ 3.สร้างสังคมเกื้อกูล 4.สร้างคนและโครงสร้างพื้นฐานพร้อมก้าวสู่สังคมยุคใหม่ และ 5.สร้างการเมืองที่สร้างสรรค์

นายอุตตมกล่าวถึงความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้งว่า พรรคตั้งใจอาสาทำงานรับใช้ประชาชนทุกภาคส่วน และวางป้าหมายอาสาทำงานในทุกๆ พื้นที่ ส่วนการเสนอชื่อบุคคลที่จะมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคนั้น ขณะนี้ยังมีเวลาอยู่ที่จะนำเสนอ ขอให้พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งก่อน

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวว่า หากยุบสภาพรุ่งนี้ พรรคก็มีความพร้อมที่เลือกตั้ง ส่วนการจับมือร่วมงานทางการเมืองกับพรรคการเมืองหลังเลือกตั้งนั้น พรรคไหนจะเป็นรัฐบาล อยู่ที่ประชาชนตัดสิน หากพรรคสร้างอนาคตไทยได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากพอเป็นแกนนำรัฐบาล จะผลักดันสิ่งที่นำเสนอไปสู่การปฏิบัติ และการจะร่วมงานกับใครหรือไม่ทำงานกับใครจะพิจารณาบนเงื่อนไขสิ่งที่พรรคนำเสนอ 

 “ใครจะได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ให้ถึงวันนั้นก่อน หากพูดไปก็เป็นเรื่องสมมติ ไม่มีความจริงที่เกิดขึ้น ความจริงทางการเมืองไม่มีอะไรที่แน่นอน อะไรก็เกิดขึ้นได้ จุดยืนของพรรคคือทำงานการเมืองเพื่อประชาชน” นายสนธิรัตน์กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ชื่นชมทีมจับกุมยาบ้า 4.5 ล้านเม็ด พร้อมเครื่องปั๊ม เตือนทาสยานรก ระวังชักตาย ยาบ้าสูตรใหม่ ส่วนผสมสุดอันตราย เร่งการไฟฟ้า ตรวจสอบการใช้ไฟตามชายแดน หากพบปลายทาง เป็นขบวนการค้ายา ต้องรีบตัดไฟทันที

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้บริหาร ฝ่ายปกครองและฝ่ายความมั่นคงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เดินทางมาแถลงข่าวการจับกุมพ่อค้ายาบ้ารายใหญ่ ซึ่ง ถูกจับกุมได้ที่จังหวัดสุพรรณบุรีพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 4.5 ล้านเม็ด เครื่องปั๊มเม็ด และยานพาหนะ