รบ.แย้มข่าวดี ของขวัญปีใหม่ จ่อยืดอุ้มน้ำมัน

"สุพัฒนพงษ์" แย้มข่าวดี! รัฐบาลเตรียมออกมาตรการของขวัญประชาชนช่วงสิ้นปี เผยลดค่าไฟยังไม่เข้า ครม. ชง "บิ๊กป้อม" นัดประชุม กพช. สัปดาห์หน้า ต่ออายุชดเชยราคาน้ำมัน

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน  เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า  ขณะนี้เศรษฐกิจไทยยังสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ และในช่วงสิ้นปีรัฐบาลจะดำเนินมาตรการที่เป็นของขวัญให้แก่ประชาชน โดยกระทรวงการคลังกำลังพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้อยู่ อาทิ  การลดหย่อนภาษี

สำหรับมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนด้วยการลดค่าไฟฟ้าเป็นระยะเวลา 4 เดือนนั้นยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของ ครม. แต่มองว่าหากขยับไปพิจารณาในเดือน ก.ย.จะยังสามารถช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางได้ทัน แม้ว่าราคาพลังงานขณะนี้อยู่ในระดับทรงตัว แต่สิ่งที่กังวลคือ เมื่อเริ่มเข้าฤดูหนาวจำเป็นต้องเร่งรณรงค์การประหยัดพลังงาน ซึ่งที่ประชุม ครม.ได้หารือในเบื้องต้นถึงมาตรการส่งเสริมโซลาร์รูฟท็อปเพื่อประหยัดพลังงาน

นอกจากนี้ ยังได้เสนอให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือในประเด็นสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการต่ออายุการชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของน้ำมันชีวภาพที่จะสิ้นสุดลงในเดือน ก.ย.65 

ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  แถลงว่า ในช่วงท้ายการประชุม ครม. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ ได้มีข้อสั่งการในเรื่องหนี้ครัวเรือน โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังไปแยกสถานะลูกหนี้ ทั้งในส่วนของหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) และส่วนอื่นๆ ที่ยังสามารถปรับโครงสร้างหนี้ได้ เพื่อจะหามาตรการช่วยเหลือลูกหนี้และแก้หนี้ได้ตามเป้า นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตรยังมอบหมายให้กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย  และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องไปหาแนวทางในการที่จะส่งเสริมการใช้โซลาร์รูฟท็อป หรือการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้เพื่อลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง และส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกอีกด้วย 

วันเดียวกัน นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ซึ่งได้ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลก เปิดเผยว่า  ในสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบยังคงผันผวน จากตลาดที่ยังคงกังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก จากตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรปและจีน ซึ่งเป็นสัญญาณการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและอาจส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันลดลง นอกจากนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (FED) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ยังเป็นอีกปัจจัยที่กดดันราคาน้ำมัน เนื่องจากสัญญาน้ำมันดิบจะมีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น 

ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามสัญญาณจากกลุ่มโอเปกพลัส ที่อาจพิจารณาเพิ่มทางเลือกลดการผลิตน้ำมันดิบ เพื่อกระตุ้นราคาน้ำมันในการประชุมครั้งถัดไป (วันที่ 5 ก.ย. 65) ขณะที่ภาพรวมสถานการณ์ราคาน้ำมันโลก (วันที่ 15- 21 ส.ค.65) ราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์เท็กซัสเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 92.84 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และ 89.06  เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว  3.01 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และ 2.86 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ตามลำดับ ทั้งนี้ มาจากสัญญาณของภาวะเศรษฐกิจถดถอยในจีนจากผลกระทบนโยบายปลอดโควิดในปักกิ่ง. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง