“บิ๊กป้อม” นัดพรรคร่วมรัฐบาลจัดกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ 26 พ.ย.ที่สโมสรราชพฤกษ์ หวังกลบรอยร้าว-ปัญหาองค์ประชุมสภาล่ม “นิโรธ” ประเดิมคุมเสียงนัดแรก โหวตกฎหมายการศึกษาผ่านฉลุย รัฐบาลเอาใจฝ่ายค้าน โยกโควตาถามกระทู้สดให้ไป 2 สัปดาห์ วิษณุแจงต่อไปไม่มี รมต.เบี้ยวแน่ เพราะมี 3 รัฐมนตรีรอไปตอบแทน “หมอสุกิจ” แจงยิบตัวเลขกระทู้ ชี้ดีกว่าหลายรัฐบาลที่ไม่สนใจสภา
เมื่อวันอังคารที่ 9 พ.ย. นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ในฐานะรองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ได้มอบหมายให้จัดกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์กับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อนำไปแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในวันที่ 26 พ.ย. ที่สโมสรราชพฤกษ์ นอร์ธปาร์ค ซึ่งไม่ใช่ลักษณะงานเลี้ยงหรืองานสังสรรค์แต่อย่างใด โดยเรื่องนี้ได้แจ้งไปยังคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เรียบร้อยแล้ว โดยจะเชิญส.ส.และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลมาร่วมงานดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยจะมาร่วมงานด้วยหรือไม่ นายไผ่ตอบว่า ไม่ทราบ เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่จะประสานเรื่องดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า งานดังกล่าวเป็นดำริของ พล.อ.ประวิตร ที่ต้องการให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลได้มาพบปะกัน เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร หลังจากไม่ได้จัดมานับกว่าหนึ่งปีจากสถานการณ์โควิด-19 ประกอบกับช่วงที่ผ่านมามีข่าวความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาลออกมาตลอด รวมถึงการทำงานในสภาที่มักเจอปัญหาองค์ประชุมล่ม รวมทั้งยังมีการพิจารณากฎหมายสำคัญ และถือโอกาสแนะนำนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ได้สร้างความคุ้นเคยกับ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลให้มากขึ้นกว่าเก่า โดยคาดว่า พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.อนุพงษ์จะตอบรับคำเชิญ และเดินทางมาร่วมงานด้วย เหมือนการจัดงานครั้งที่แล้ว เพราะนายกฯ ก็ต้องการใกล้ชิด ส.ส.มากขึ้น เพื่อลดความห่างเหิน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงงานดังกล่าวว่า ทราบแล้ว พล.อ.ประวิตรได้โทร.มาประสาน ตอนแรกจะเป็นวันที่ 19 พ.ย. แต่เป็นวันลอยกระทง จึงเลื่อนไปเป็นวันที่ 26 พ.ย. ซึ่งคงมอบหมายให้รองหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคนำทีมไปแทน เพราะติดภารกิจประชุมองค์การอนามัยโลกที่สวิตเซอร์แลนด์ ต้องเดินทางไปก่อน
“สัมพันธ์ดีอยู่แล้ว แต่บางทีก็คิดถึง เพราะไม่เจอกันมานาน” นายอนุทินกล่าวถึงความสัมพันธ์กับพรรคร่วมรัฐบาล
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากพรรค พปชร.แล้ว โดยจะแจ้ง ส.ส.พรรคให้ทราบต่อไป โดยพรรคพร้อมให้ความร่วมมือพบปะตามคำเชิญของพรรค พปชร. เพราะเป็นเรื่องดี จะได้เจอพร้อมๆ กันบ้างนอกเหนือจากการเจอในสภา
ลั่นโพลกระจกสะท้อนทำงาน
นายจุรินทร์ยังกล่าวถึงโพลคนกรุงเทพฯ สนับสนุนให้เป็นนายกฯ ว่า เรื่องโพลเคยพูดหลายครั้งแล้วว่ามีทั้งโพลที่ได้คะแนนมากบ้างน้อยบ้าง ถือเป็นเรื่องธรรมดา โดยจะถือทุกโพลเป็นกระจกสะท้อนการทำงาน เพราะเราเป็นนักการเมืองระบอบประชาธิปไตย ก็ต้องฟังเสียงสะท้อนของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นมุมดีหรือไม่ดี แล้วเอามาปรับปรุงแก้ไข เพื่อทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์ที่สุด ตอนนี้ก็กำชับให้ ส.ส.ทำหน้าที่โดยสมบูรณ์ นอกจากลงพื้นที่แล้วก็ต้องทำหน้าที่ในสภาด้วย
เมื่อถามว่า การลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องของ ปชป. เป็นเหตุผลทำให้โพลล่าสุดสนับสนุนให้นายจุรินทร์เป็นนายกฯ หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ขอไม่ตอบ แต่ในฐานะนักการเมืองที่ผูกพันกับพี่น้อง กทม.มาอย่างยาวนาน และพื้นที่ กทม.มีความสำคัญทำให้เราเดินลงไปพบชาว กทม.เพื่อนำปัญหาต่างๆ มาแก้ไข รวมทั้งการกำหนดนโยบายเพื่อนำเสนอต่อไปในเวลาที่เหมาะสม
ถามว่าการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องของพรรค เป็นเพราะประเมินว่าอายุของรัฐบาลเหลือไม่มากแล้วใช่หรือไม่ นายจุรินทร์หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า ไม่ได้ประเมิน เราแค่ทำหน้าที่ของเรา
ขณะที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลฯ ในฐานะกรรมการบริหารพรรค พปชร. กล่าวถึงกระแสข่าวนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (อดีต ผบ.ตร.) จะมาสมัครเข้าพรรค พปชร. ว่ายังไม่ทราบเรื่อง ส่วนกระแสผู้มีชื่อเสียงหลายคนกำลังจะเข้ามาสมัครพรรคนั้นเป็นเรื่องปกติทางการเมือง ที่มีคนอยากจะมาอยู่ในพรรคที่พร้อมช่วยเหลือประชาชน ส่วนจะเปิดตัวหรือไม่ในอนาคตต้องถาม พล.อ.ประวิตร แต่คิดว่าคงจะมีคนเข้ามาเรื่อยๆ เพราะว่าพรรค พปชร.เป็นพรรคที่มีคนนิยม คนจึงอยากมาอยู่เยอะ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังคงเดินสายลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ขณะที่วันที่ 12 พ.ย. พล.อ.ประวิตรวางกำหนดการเตรียมลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ โดยจะไปวัดหนองโพ อ.ตาคลี ไหว้สักการะพระรูปเหมือนหล่อหลวงพ่อเดิม พุทฺธสโร" หรือ "พระครูนิวาสธรรมขันธ์" อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองโพ ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง ชาวนครสวรรค์ให้ความเคารพนับถือ พร้อมพบปะเยี่ยมประชาชน มอบถุงยังชีพ อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาความเคลื่อนไหวการลงพื้นที่ครั้งนี้ว่าจะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรเดินสายลงพื้นที่แล้ว 6 จังหวัด ได้แก่ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.นครราชสีมา จ.สระแก้ว จ.ขอนแก่น จ.กาญจนบุรี จ.นราธิวาส และ จ.นครสวรรค์ จะเป็นจังหวัดที่ 7
วันเดียวกัน มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. .... ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ ในวาระที่หนึ่ง ต่อจากเมื่อวันที่ 17 ก.ย. และจะเป็นการทำหน้าที่ครั้งแรกของนายนิโรธในฐานะประธานวิปรัฐบาล โดยก่อนการประชุมนายนิโรธระบุว่า ตื่นเต้นนิดหน่อย เหงื่อแตกบ้าง แต่ไม่กังวล เพราะมีทีมวิปรัฐบาลคอยช่วยงานอยู่ และเชื่อว่าร่างกฎหมายจะผ่านได้ไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า ในการประชุมวิปรัฐบาลเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกฯ ได้กำชับอย่างไรหรือไม่ นายนิโรธกล่าวว่า ยังไม่เจอนายกฯ เพราะเรื่องของสภา เป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติและวิปรัฐบาลก็ถือเป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการนำกฎหมายเข้าสู่สภาเพื่อพิจารณา แต่ไม่ใช่จะถูกครอบงำความคิดจากรัฐบาล กฎหมายใดหากไม่สมบูรณ์ก็ส่งกลับ เพราะมีขั้นตอนสภา
ส่วนกรณีนายกฯ ขอให้วิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านหันหน้าพูดคุยกันถึงกฎหมายสำคัญต่างๆ นายนิโรธกล่าวว่า ไม่ทราบว่านายกฯ พูด ซึ่งก็ปรับวิถีชีวิตอยู่เหมือนกัน ส่วนจะกำชับ ส.ส.พรรค พปชร.หรือไม่ว่าให้เข้าร่วมประชุม และโหวตอย่างพร้อมเพรียงนั้น คิดว่าไม่ต้อง เพราะผู้แทนราษฎรต้องทำหน้าที่ ทั้งนี้ เชื่อว่าไม่จำเป็นต้องควบคุมองค์ประชุมสภา ทุกคนจะต้องช่วยกัน หากสภาไม่ผ่าน ก็ต้องยอมรับว่าสภาไม่ผ่าน ถ้าดี ก็ไปตั้งกรรมาธิการในชั้นต่อไป
ถามอีกว่า ส่วนกรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) บอกว่าหลังจากนี้องค์ประชุมเป็นหน้าที่ของรัฐบาลนั้น นายนิโรธกล่าวว่า ไม่ได้ยิน และเชื่อว่าท่านน่ารัก ท่านอยู่มาหลายสมัย ท่านทราบดี และมีจิตใจละมุน และไม่กังวล ที่ฝ่ายค้านขู่นับองค์ประชุม เพราะหาก ส.ส.ไม่อยู่ ก็ไม่ต้องนับ เนื่องจากประชุมต่อไม่ได้ อยู่ที่ท่านประธานในที่ประชุมจะพิจารณา
ทั้งนี้ ในที่ประชุมของพรรค พปชร.ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค นั่งเป็นประธานในที่ประชุม โดยมีนายนิโรธมานั่งตรงที่นั่งประธานด้วย ซึ่งนายไพบูลย์ได้แนะนำให้กับ ส.ส.ของพรรคว่า นายนิโรธมารับตำแหน่งประธานวิปรัฐบาลคนใหม่ ขอให้ทุกคนปรบมือต้อนรับ จากนั้นนายนิโรธ ประธานวิปรัฐบาลคนใหม่กล่าวขอขอบคุณสมาชิกพรรค และยืนยันว่าจะทำหน้าที่ให้เต็มพลังความสามารถ
“ผมต้องกราบสมาชิกทุกคนให้ช่วยกัน เพื่อไม่ให้ภาพของสภาเป็นแบบที่คนอื่นกล่าวหา เพราะบางคนก็มีความคิดเห็นที่ใจร้ายเกินไปกับ ส.ส.” นายนิโรธกล่าว
กฎหมายแรกผ่านฉลุย
ต่อมาในเวลา 09.10 น. ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้ลงมติร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ..... ซึ่งมีมติรับหลักการด้วยคะแนน 435 ต่อ 30 งดออกเสียง 2 เสียง ไม่ออกเสียง 1 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ 49 คน และให้แปรญัตติเป็นเวลา 15 วัน
จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ.... ซึ่ง ครม.เป็นผู้เสนอ กระทั่งเวลา 15.40 น. ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวด้วยคะแนน 532 ต่อ 38 เสียง งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 6 เสียง พร้อมตั้ง กมธ.วิสามัญ 49 คน แปรญัตติ 15 วัน และนายชวนได้สั่งปิดการประชุมในเวลา 16.00 น.
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงการพูดคุยกับนายนิโรธ ว่าได้พูดคุยกันหลายอย่าง เพราะรัฐบาลต้องให้ความสำคัญต่อกฎหมายที่จะเข้าสภาในสมัยประชุมนี้ ได้แก่ กฎหมายลูก 2 ฉบับที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง และกฎหมาย กยศ. ซึ่งรัฐบาลยังไม่ส่งไปให้วิปฯ และยังมีกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องการศึกษา และ พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ และ พ.ร.บ.พินัยหลวง
ผู้สื่อข่าวถามว่า กฎหมายเลือกตั้งนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเป็นผู้เสนอเองหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า กกต.ต้องส่งมาให้รัฐบาล เพราะ กกต.เสนอเองไม่ได้ ต้องให้ ครม.เป็นผู้เสนอ ซึ่ง กกต.ได้แจ้งความคืบหน้าไทม์ไลน์เข้ามาแล้ว ส่วนจะส่งให้รัฐบาลได้เมื่อไหร่นั้น คงรอให้รัฐธรรมนูญประกาศใช้ก่อน
เมื่อถามว่า เท่าที่ได้พูดคุยกับนายนิโรธแล้วเชื่อว่าจะสามารถควบคุมเสียงในสภาได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ เพราะไม่ได้คุ้นเคยกับนายนิโรธ ซึ่งก็ต้องช่วยกันหลายฝ่าย เนื่องจากจะโยนให้ประธานวิปฯ คนเดียวก็คงไม่ได้ แต่ก็คาดว่าน่าจะเอาอยู่
ส่วนกรณีฝ่ายค้านระบุว่า หากรัฐมนตรีจะไม่ไปตอบกระทู้ถามสดต้องออกเป็นมติ ครม.นั้น นายวิษณุกล่าวว่า ในรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดไว้อย่างนั้น หากรัฐมนตรีไม่ไปตอบ ก็แปลว่าต้องเลื่อน แล้วต้องบอกให้สภารู้ ไม่ใช่อยู่ดีๆ หายไป ซึ่งเขาก็บอกกันทั้งนั้น ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พ.ย.เป็นอุบัติเหตุ ที่ร้อยวันพันปีจะเกิดขึ้นสักครั้งหนึ่ง เนื่องจาก ครม.ไม่เคยประชุมในวันพฤหัสบดี แต่ครั้งนี้นายกฯ ติดภารกิจต่างประเทศ จึงได้เรียกประชุม ครม. และก็ไม่ได้รู้ว่าจะมีกระทู้ถามสดมากน้อยขนาดไหน คือรู้ว่ามี แต่ไม่รู้ว่ามีมากน้อย และปรากฏว่าเป็นกระทู้สดด้วยวาจาเกิดขึ้นมาทันทีทันใด 3 กระทู้ กระทู้ทั่วไปอีก 3 กระทู้ และกระทู้แยกถามในห้องเล็กห้องน้อยอีก 6 กระทู้ รวมทั้งหมดจึงเป็น 12 กระทู้ ซึ่ง ครม.ต้องอยู่ ครม. และใน 12 กระทู้นั้น เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรฯ ซึ่งนายวราวุธยังมีภารกิจอยู่ที่สกอตแลนด์ จนวันนี้ก็ยังไม่ได้กลับมา นอกจากนี้ยังมีกระทู้ของกระทรวงกลาโหม ซึ่ง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหมก็ได้ไปตอบ
“ในวันพฤหัสบดีที่ 11 พ.ย.นี้ จะมีกระทู้ถามสด 3 กระทู้ พรรคร่วมรัฐบาลก็ตกลงกันว่าจะถอยออกมาเพื่อให้เป็นกระทู้ของฝ่ายค้านทั้งหมด ทั้งที่ปกติต้องแบ่งกันทั้งฝ่ายค้าน และรัฐบาลเพื่อให้รัฐมนตรีได้ไปตอบ กระทู้ถามสดของฝ่ายค้านทั้ง 3 กระทู้นั้น และยังตกลงกันแล้ว ว่าต่อไปนี้หากมีกระทู้ที่กระทรวงไหนไม่มีรัฐมนตรีว่าการหรือรัฐมนตรีช่วยว่าการ ไม่ว่างไปตอบ ก็อาจจะมอบให้ผม นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ หรือนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เป็นผู้ไปตอบแทน แต่ก็คงไม่ดีเหมือนกับเจ้ากระทรวง แต่อย่างน้อยก็มีคำตอบที่จะตอบได้ หมายความว่าต่อไปกระทู้ถามสดจะมีรัฐมนตรีไปตอบแน่นอน”
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ในเรื่องนี้ว่า นายอนุชาในฐานะตัวแทนวิปรัฐบาล ได้ชี้แจงต่อ ครม.ว่าเพื่อเป็นการคืนสิทธิ์ให้ ส.ส.ฝ่ายค้านที่ตั้งกระทู้สดไปเมื่อวันที่ 4 พ.ย. และรัฐมนตรีไม่ได้ไปตอบ วิปรัฐบาลเห็นชอบให้คืนโควตาที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลต้องถามกระทู้ในสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้าให้กับฝ่ายค้าน ซึ่งแปลว่าในสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า 3 กระทู้ทั้งหมดจะเป็นของฝ่ายค้าน จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเพื่อนสมาชิกฝ่ายค้านจะหยุดวิจารณ์ว่ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับสภา เพราะที่ผ่านมาให้ความสำคัญเรื่อยมา และครั้งนี้ก็คืนโควตาให้ เพื่อให้เกิดการชี้แจงได้อย่างโปร่งใส
หมอสุกิจเปิดตัวเลขกระทู้
นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงชี้แจงกรณีเสียงวิจารณ์สภามีการตอบกระทู้ถามเป็นจำนวนน้อยมากว่า ตั้งแต่เริ่มตอบกระทู้ถามของสภาชุดที่ 25 เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2562-18 ก.ย.2564 ถือว่ามีเยอะมาก ครม.ให้ความร่วมมือตอบกระทู้ดีมาก โดยมีสมาชิกตั้งกระทู้ถาม 1,175 กระทู้ มีรัฐมนตรีพยายามมาตอบกระทู้ ยกเว้นจะติดภารกิจจริงๆ ไม่เหมือนรัฐบาลในอดีต บางชุดขอให้ไปค้นหาดู มีการหนีตอบกระทู้ แต่รัฐบาลชุดนี้ไม่หนี ซึ่งผลการตอบกระทู้ต่างๆ แบ่งเป็นดังนี้ 1.กระทู้ถามสดด้วยวาจา ประธานอนุญาตให้ถามได้ 145 กระทู้ ตอบแล้ว 112 กระทู้ รัฐมนตรีขอเลื่อนการตอบ 29 กระทู้ 2.กระทู้ถามทั่วไป แบ่งเป็นประธานอนุญาตให้ถามได้ 403 กระทู้ ตอบแล้ว 123 กระทู้ ผู้ตั้งกระทู้ขอถอน 122 กระทู้ และโอนไปตอบในราชกิจจานุเบกษา 158 กระทู้ และ 3.กระทู้ถามแยกเฉพาะ ที่เป็นเรื่องเพิ่งตั้งขึ้นมาใหม่ แบ่งเป็นประธานอนุญาตให้ถามได้ 311 กระทู้ ตอบแล้ว 165 กระทู้ ผู้ตั้งกระทู้ถามขอถอน 57 กระทู้ และโอนไปตอบในราชกิจจาฯ 89 กระทู้
ขณะที่ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่นายสนธิญา สวัสดี ยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้พิจารณาตรวจสอบจริยธรรม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง ในฐานะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม โดยเฉพาะเรื่องสอบเอนทรานซ์ พ.ศ.2547 ว่าเรื่องนี้คุณอุ๊งอิ๊งตอบชัดเจนแล้ว ไม่ได้เป็นความจริงอย่างที่ถูกกล่าวหา มีการตั้งกรรมการสอบและเรื่องนี้จบไปแล้ว แต่คนเอามาพูดเป็นเรื่องทางการเมือง ต้องการที่ดิสเครดิต ทำให้เสื่อมเสีย หากคุณอุ๊งอิ๊งเอาเรื่องนี้มาใส่ใจ สามารถฟ้องกลับได้ แต่เลือกที่จะไม่ทำ เพราะไม่ได้มีประโยชน์กับประชาชนส่วนใหญ่ ขอตั้งใจทำงานมากกว่า
“กรณีคดีทุจริตและประพฤติมิชอบสนามกอล์ฟอัลไพน์ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ตรงนี้ต้องเข้าใจว่าไม่ได้มีข้อห้ามไม่ให้มีกิจการ แต่หากสงสัยแล้วมาร้องตรวจสอบก็สามารถทำได้ อยากให้ผู้ร้องทำความเข้าใจใหม่ว่าคุณอุ๊งอิ๊งไม่ได้มาเป็นกรรมการบริหารพรรค เข้ามาในตำแหน่งที่ต้องการช่วยเหลือพรรค การเชื่อมต่อคนรุ่นใหม่กับพรรคให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น” น.ส.ธีรรัตน์กล่าว และว่า ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตถึงความสัมพันธ์ทางการเมือง ระหว่างคุณอุ๊งอิ๊งกับนายทักษิณ ที่ถือเป็นนักโทษทางการเมืองนั้น ไม่เข้าใจในความหมายของคุณสนธิญา คิดได้อย่างไร พ่อลูกกัน จะมาตัดพ่อตัดลูก ไม่ให้มาทำงานการเมืองเพื่อช่วยเหลือประเทศชาติ คงไม่ใช่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘บุญทรง’พ้นคุก คุมตัวที่บ้าน3ปี ชื่นชมลูกผู้ชาย
"บุญทรง" ได้พักโทษ พ้นคุก ใส่กำไลอีเอ็มกลับบ้านที่เชียงใหม่
รุมดีดปาก‘เชิดชัย’ขู่ยุบสภา
"ภูมิธรรม" โบ้ย "หมอเชิดชัย" ให้ไปยุบสภาเอง ยันอำนาจอยู่ที่นายกฯ
เมินเปิดเวทีถกMOU รอทีบีซีช่วยคนไทย
“ภูมิธรรม” ปัดทิ้งข้อเสนอ พปชร.เปิดเวทีสาธารณะถก MOU 44
ชูแม่สายโมเดลแก้ท่วมใต้ เพิ่มงบผู้ว่าฯ-เร่งเยียวยา
"ในหลวง" โปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีเชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ผู้ประสบภัย
เงิน10ล้านค่าหุ้นกู้ ศรีสวัสดิ์โต้แทนหวานใจบิ๊ก จ่อฟ้องคนทำให้เสียชื่อเสียง
"บิ๊กเต่า" เผยคดีรีสอร์ตหรูรุกที่ ส.ป.ก.เป็นอำนาจ ป.ป.ช. เชื่อมีผู้กระทำผิดหลายคน
กต.เรียกทูตเมียนมาแจง ‘มาริษ’ขึงขังทำเกินเหตุ!
“แพทองธาร” ไม่กล้าแหย็มเมียนมา บอกต้องรอให้ รมว.กต.คุยกับฝั่งหม่องก่อนถึงรู้ว่ารุกล้ำน่านน้ำหรือไม่