เร่งสรุปสำนวนเคร้อยล้าน

"ผบ.ตร." สั่งนครบาลเร่งทำสำนวนคดี "เค ร้อยล้าน" พร้อมนำผลตรวจทางจิตเวชส่งศาลพิจารณาเป็นโรคจิตหรือวิกลจริตดูแลตัวเองได้หรือไม่ หากพบครอบครัวปล่อยปละละเลยโดนด้วย  "รองโฆษก อสส." ร้องสาธารณชน-ภาครัฐ ใช้ พ.ร.บ.สุขภาพจิตมาแก้ไขปัญหาคนวิกลจริต "พี่ศรี" ลุยต่อเดินสายร้องเรียนแล้ว

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 25 ต.ค. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่นายคเณศพิศณุเทพ จักรภพมหาเดชา หรือเค ร้อยล้าน บุกเข้าล็อกคอนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ขณะพบปะนักอ่านในบูธหนังสือมูลนิธิคณะก้าวหน้า และข่มขู่มีระเบิดในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ว่า ขณะนี้กำลังรอผลการตรวจของแพทย์ที่มีการตรวจนายเค ร้อยล้าน เพื่อจะนำคดีต่างๆ ที่ยังไม่สิ้นสุด ทั้งที่ สน.ปทุมวัน สน.ลุมพินี รวบรวมข้อมูลเร่งรัดคดีเข้าสู่ศาล ให้ศาลมีความเห็นเรื่องของการเป็นบุคคลที่จะต้องอยู่ในสถานที่บำบัดหรือไม่ อย่างไร ขอเวลาใช้อำนาจศาลในการพิจารณา

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า ได้สั่งการไปที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ให้เร่งดำเนินการผลตรวจของแพทย์ เพื่อนำสำนวนขึ้นสู่อัยการให้ศาลพิจารณา ถ้าจำเป็นต้องประสานกับกระทรวงสาธารณสุขก็ต้องรีบดำเนินการ

"เราอยากรู้ว่าเป็นโรคจิต หรือวิกลจริตดูแลตัวเองได้หรือไม่ หรือถ้าศาลมีความเห็นไปแล้วให้ญาติเอาไปดูแลเอง ถ้าออกมาลักษณะเกิดเหตุต่อคนอื่นก็เข้าข่ายปล่อยปละละเลย” ผบ.ตร.กล่าว 

ขณะที่นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (รองโฆษก อสส.) กล่าวถึงกรณีเค ร้อยล้าน ว่า จากการตรวจสอบข้อกฎหมายแล้วพบว่า นอกจากผู้ก่อเหตุจะต้องรับโทษในการกระทำของตัวเองแล้ว ผู้ดูแลบุคคลก็ยังมีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 373 ที่ระบุว่า ผู้ใดควบคุมดูแลบุคคลวิกลจริต ปล่อยปละละเลยให้บุคคลวิกลจริตนั้นออกเที่ยวไปโดยลำพัง ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ซึ่งตามมาตราข้างต้นแค่ปล่อยปละละเลยให้บุคคลวิกลจริตออกไปโดยลำพัง ก็ถือเป็นความผิดแล้ว

"กรณีที่เกิดขึ้น อยากขอให้สาธารณชนหันมาให้ความสำคัญในการดูแลผู้ป่วยทางจิต โดยตาม พ.ร.บ.สุขภาพจิต ให้อำนาจคนทุกคนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครอง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ดำเนินการนำผู้ป่วยจิตเวชเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา เพื่อความปลอดภัยสาธารณชนและตัวผู้ป่วยจิตเวชเอง เพราะหากผู้ป่วยจิตเวชไปก่อเหตุละเมิดผู้อื่น บุคคลนั้นก็สามารถใช้สิทธิป้องกันตัวได้โดยชอบตามกฎหมาย"

วันเดียวกัน นายศรีสุวรรณ จรรยา สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ออกมาแจ้งหมายข่าวต่อสื่อมวลชนว่าในวันพุธที่ 26 ต.ค.65 เวลา 10.00 น. จะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.นนทบุรี เพื่อขอให้ตรวจสอบผู้บริหารกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรณีมีการสั่งยกเลิกการประมูลโครงการพระราชดำริน้ำบาดาลเพื่อบรรเทาภัยแล้งให้กับประชาชน กว่า 7 โครงการ

ทั้งนี้ การออกมายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ครั้งนี้ของนายศรีสุวรรณ ถือเป็นครั้งแรกหลังจากที่เกิดเหตุถูกนายวีรวิทย์ รุ่งเรืองศิริผล หรือลุงศักดิ์ อายุ 62 ปี สมาชิกกลุ่มศักดินาเสื้อแดงต่อต้านเผด็จการ ทำร้ายร่างกายขณะที่นายศรีสุวรรณอยู่ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อยื่นเรื่องตรวจสอบ อุดม แต้พานิช กรณีพูดล้อเลียนหรือพาดพิงรัฐบาลในทอล์กโชว์ จนนายศรีสุวรรณได้รับบาดเจ็บและไปแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุครั้งนี้.