ชิงตัดหน้าก้าวไกล ครม.ปลดล็อกผลิตเหล้า โวยจงใจคว่ำสุราก้าวหน้า

รัฐบาลหักเหลี่ยมพรรคก้าวไกล ออกกฎกระทรวงการผลิตสุรา  “วิษณุ” บอกอย่ามองเป็นการเมืองปาดหน้าสุราก้าวหน้า ชี้ซุ่มทำมานานแล้วหวังแก้ไขกฎเดิมเมื่อปี 2560 ที่ตึงเกินไป แต่จังหวะประจวบเหมาะ เผยกฎใหม่ยกเลิกทั้งเรื่องทุนจดทะเบียน กำลังการผลิต แต่ยังต้องขอใบอนุญาตจากสรรพสามิต “พิธา” อัดเกมการเมืองชัดๆ เพราะรู้ทั้งรู้ว่าสภากำลังจะโหวต

เมื่อวันอังคารที่ 1 พ.ย. ยังมีความต่อเนื่องในวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่จะเปิดประชุมนัดแรก วันพุธที่ 2 พ.ย.   ในร่างพระราชบัญญัติที่กรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้ว โดยเฉพาะร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่..) พ.ศ..... หรือร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า และร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ.....

โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกระแสการแลกโหวตระหว่างพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กับพรรค ภท. ในร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าและ พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ว่าไม่มี เหตุใดชอบจินตนาการกันเยอะแยะ โทรศัพท์คุยหรือไลน์ก็ยังไม่มี ส่วนที่มองว่าพรรคเล่นการเมืองนั้น เราไม่เคยเล่นการเมือง และมั่นใจว่าพรรคก้าวไกลก็ไม่เล่นการเมือง ยืนยันว่าไม่มีเรื่องการเมือง มีแต่ประชาชนอย่างเดียว

เมื่อถามว่า กฎหมายสุราก้าวหน้า ภท.เห็นด้วยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เป็นเรื่องของวิปรัฐบาล ดูวิปรัฐบาลก่อนว่าเห็นอย่างไร เราอยู่ในรัฐบาลด้วยกัน ก็ต้องพยายามรักษามารยาทและอยู่ร่วมกัน พรรคเป็นมืออาชีพอยู่แล้ว รู้มารยาท รู้ในสิ่งที่ควรหรือไม่ควร โดยเฉพาะเรื่องที่ประชาชนได้ประโยชน์ และขออย่าไปกังกล เพราะ พ.ร.บ.กัญชาฯ และ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า เป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งก็ต้องว่ากันไป

ภายหลังประชุม ครม. นายอนุทินให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้หัวหน้าพรรคแต่ละพรรคแจ้งมติของวิปรัฐบาล และขอให้ควบคุมการลงคะแนนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยในส่วนของ พ.ร.บ.กัญชา กัญชงนั้น พรรคร่วมรัฐบาลคงไม่มีอะไร เพราะได้ขอให้สงวนคำแปรญัตติ

เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แสดงจุดยืนจะสนับสนุนกัญชาในทางการแพทย์ แต่ไม่สนับสนุนกัญชาเสรี นายอนุทินยืนยันว่า ไม่มีกัญชาเสรี มีแต่กัญชาทางการแพทย์ กัญชาเพื่อสุขภาพ  กัญชาเพื่อเศรษฐกิจ มีอยู่แค่นี้ เรื่องกัญชาเสรีอย่าว่าแต่พรรค ปชป.ที่ไม่สนับสนุนเลย พรรค ภท.ก็ไม่เคยสนับสนุน เวลาพูดเราต้องดูก่อนว่ากฎหมายมันเขียนไว้อย่างไร ซึ่งกฎหมายไม่มีคำว่าสันทนาการเลยแม้แต่คำเดียว

วันเดียวกัน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์หลังประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 2 เนื่องจากกฎหมายที่ออกมาตั้งแต่ปี 2560 ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าตึงเกินไป ทำอะไรก็ไม่ได้ จึงจะทำให้หย่อนลง คือออกกฎหมายฉบับใหม่ ซึ่งพรรค ก.ก.เสนอเข้าสภาไปแล้ว และรัฐบาลรับมาพิจารณา และสภารับหลักการไป แต่เมื่อมาดูพบว่ากฎหมายของปี 2560 ตึง แต่กฎหมายของฝ่ายค้านหย่อน ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และกระทบกับภาษีรายได้ของประเทศ จึงมาคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะพบกันครึ่งทาง คณะกรรมการกฤษฎีกาจึงมีข้อแนะนำว่าไม่ต้องเดือดร้อนออกเป็น พ.ร.บ. แต่ออกเป็นกฎกระทรวงได้ โดยกฎกระทรวงนี้จะหย่อนลง อะไรที่เคยบังคับก็หย่อน เกือบเท่ากับพรรค ก.ก.

 “กรมสรรพสามิตจึงยกร่างเสนอเข้ามา ซึ่ง ครม.พิจารณาแล้วให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปดูต่อ โดยกฤษฎีกาดูแล้วยังเห็นว่าไม่รัดกุม จึงปรับใหม่เป็นกฎกระทรวงฉบับที่ 2 โดยทิ้งฉบับที่ 1 และวันนี้ ครม.จึงอนุมัติกฎกระทรวง ฉบับที่ 2” นายวิษณุกล่าว

ปัดปาดหน้าก้าวไกล

นายวิษณุแจงอีกว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การชิงไหวชิงพริบ ตัดหน้าอะไรสภา แต่ต้องการให้มีกฎเกณฑ์ เพื่อผ่อนปรนให้สามารถผลิตสุรา โดยเฉพาะสุราที่ไม่ได้เพื่อการค้าให้สามารถทำได้ โดยเฉพาะสุราพื้นบ้าน เพราะ ครม.เห็นว่าเป็นการรักษาภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยกฎกระทรวงฉบับที่ 2 นี้ไม่ได้ทำให้รายได้ของรัฐบาลลดลง และทำให้ผู้ที่ประสงค์ผลิตสุราสามารถทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาตให้วุ่นวายและเป็นภาระแก่ประชาชน โดยร่างกฎกระทรวงฉบับที่ 2 จะมีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา

เมื่อถามว่า เมื่อมีกฎกระทรวงฉบับนี้แล้ว ถ้าร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าของพรรค ก.ก.ไม่ผ่านสภาก็ไม่เป็นไรใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ก็ไม่จำเป็น เพราะกฎกระทรวงมีสิ่งที่ดีเกือบเท่าเทียมกัน แต่รายละเอียดจะหย่อนลงจากกฎหมายปี 2560 เยอะมากกว่าครึ่ง และไม่ได้เป็นการแก้เกม เพราะร่างกฎกระทรวงฉบับที่ 2 นี้ทำมา 6 เดือนแล้ว ก่อนที่พรรค ก.ก.จะเสนอกฎหมาย เพียงแต่กฎกระทรวงที่กรมสรรพสามิตเสนอคณะกรรมการกฤษฎีกาดูแล้วเห็นว่าในเมื่อแก้แล้วยังไม่ดีก็จะแก้ใหม่

ถามถึงการออกกฎกระทรวงในช่วงที่สภากำลังพิจารณา พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า นายวิษณุกล่าวว่า ถ้ามองอะไรเป็นการเมือง ก็ชิงไหวชิงพริบได้ทุกเรื่อง แต่ถ้าเห็นว่ามีความจำเป็นก็ต้องปล่อยไป

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ..… ซึ่งร่างกฎกระทรวงใหม่มีสาระสำคัญคือ 1.เปิดโอกาสให้สุราชุมชนขนาดเล็กจากที่ต้องใช้เครื่องจักรในการผลิตต่ำกว่า 5 แรงม้า และใช้คนงานน้อยกว่า 7 คน ให้ขยายกำลังการผลิตเป็นระดับกลาง ที่ใช้เครื่องจักรที่มีกำลังการผลิตสูงกว่า 5 แรงม้า แต่ไม่เกิน 50 แรงม้า และใช้คนงานมากกว่า 7 คนได้ แต่ต้องไม่เกิน 50 คน ซึ่งผู้ผลิตสุราชุมชนที่จะขยายกำลังการผลิตต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตสุราแช่ หรือสุรากลั่นชุมชนขนาดเล็กมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และไม่เคยกระทำความผิดตามกฎหมายภาษีสรรพสามิต หรือเคยกระทำความผิดและพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี อีกทั้งต้องใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ตามมาตรฐานที่อธิบดีประกาศกำหนด และปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและกฎหมายเกี่ยวกับการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง

2.ยกเลิกการกำหนดกำลังการผลิตขั้นต่ำและทุนจดทะเบียนสำหรับทั้งกรณีผลิตเบียร์เพื่อขาย ณ สถานที่ผลิต (Brewpub) และโรงงานผลิตเบียร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเดิมกรณีผลิตเบียร์เพื่อขาย ณ สถานที่ผลิตต้องมีขนาดการผลิตไม่ต่ำกว่า 100,000 ลิตรต่อปี และไม่เกิน 1 ล้านลิตรต่อปี และกรณีโรงงานผลิตเบียร์ขนาดใหญ่ ต้องมีขนาดการผลิตไม่ต่ำกว่า 10 ล้านลิตรต่อปี สำหรับทุนจดทะเบียนนั้นต้องไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท แต่การผลิตเบียร์เพื่อขาย ณ สถานที่ผลิต ต้องใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ตามมาตรฐานที่อธิบดีประกาศกำหนด และปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและกฎหมายเกี่ยวกับการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง

3.เปิดโอกาสให้บุคคลธรรมดาที่มีอายุไม่น้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และนิติบุคคลสามารถขอใบอนุญาตผลิตสุราที่มิใช่เพื่อขาย แลกเปลี่ยน หรือดำเนินการอื่นใดโดยได้รับประโยชน์ตอบแทน โดยต้องมีปริมาณการผลิตสุราไม่เกิน 200 ลิตรต่อปี โดยสถานที่ผลิตสุราต้องมีพื้นที่เพียงพอที่จะผลิตสุราโดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย เหตุเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น และมิใช่สถานที่ผลิตสุราของผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตสุรารายอื่น โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของการบริโภคสุราและมิติของสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ..... ซึ่งเรื่องดังกล่าวเสนอ ครม.มาก่อนหน้านี้ และอนุมัติในเบื้องต้นว่าจะปรับปรุงเรื่องของหลักการและรายละเอียดตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2565 ตามข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการพัฒนากฎหมาย โดยจะมีการดูแลที่สำคัญอยู่ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ปกป้องดูแลสุขภาพประชาชน 2.ดูแลป้องกันอุบัติเหตุ และ 3.ดูแลสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญไม่ได้เป็นการเอื้อต่อนายทุน

ด้านนายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ใบอนุญาตแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ใบอนุญาตการผลิตสุราแช่และสุรากลั่นชุมชน สำหรับใบอนุญาตผลิตสุราแช่ เดิมต้องมีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท กำลังการผลิตต้องอยู่ระหว่าง 1 แสนลิตร-1 ล้านลิตรต่อปี ตรงนี้ยกเลิกหมดเลย ทำให้ต่อไปเบียร์โรงเล็กไม่จำเป็นต้องมีทุน 10 ล้านบาท

 “วันนี้เราได้อนุญาตกรณีที่ไม่ใช่การค้าสามารถผลิตได้ ทำเอง รับประทานเอง บริโภคภายในครัวเรือน แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนดังต่อไปนี้ 1.ขออนุญาตจากกรมสรรพสามิต 2.ต้องมีกำลังผลิตไม่เกิน 200 ลิตรต่อปี 3.ต้องผู้ที่บรรลุนิติภาวะ และ 4.สุรา เบียร์ ประเภทสุราแช่อื่นๆ เวลาผลิตแล้วต้องให้กรมสรรพาสามิตตรวจสอบคุณภาพก่อน เพื่อป้องกันสารปนเปื้อน และเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้” นายณัฐกรกล่าวและว่า ที่ผลิตโดยไม่ได้ขออนุญาตถือว่าผิดกฎหมายหมด

'พิธา'โวยเกมการเมือง

รายงานข่าวจากที่ประชุม ครม.แจ้งว่า ในระหว่างการพิจารณาวาระร่างกฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ....นายวิษณุได้รายงานให้ที่ประชุม ครม.ฟังว่า เป็นกฎกระทรวงที่มีอยู่แล้ว เพียงแต่ผ่อนปรนให้สอดคล้องสถานการณ์มากขึ้น รวมทั้งได้ไปรับฟังความเห็นจากชาวบ้านมาแล้ว ขณะที่นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมฯ แสดงความเห็นว่า สุราถือเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุอันดับหนึ่งของประเทศ การมีกฎหมายนี้ออกมาน่าจะเป็นตัวช่วยเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนมากขึ้น อย่างไรก็ดี มีรัฐมนตรีรายหนึ่งได้เน้นย้ำกับที่ประชุมว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าที่จะเข้าสภา ไม่มีนัยทางการเมือง เป็นการทำกฎหมายล่วงหน้ามาแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาทำ เพียงแต่ไทมิงมันได้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปชี้แจงทำความเข้าใจว่า พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ถ้าจะเปิดเสรีอย่างที่เสนอนั้น มันทำไม่ได้ โดยที่ประชุม ครม.ได้มอบหมายให้นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ไปประสานกับวิปรัฐบาลในเรื่องนี้

ทั้งนี้ ร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่นี้ยึดหลัก 7 ข้อ 1.คุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยด้านสุขภาพ 2.จัดเก็บภาษีได้ตามเป้า 3.รักษาภูมิปัญญาท้องถิ่น 4.ส่งเสริมอาชีพให้กับชาวบ้าน 5.มีการใช้ความคิดสร้างสรรค์เรื่องการผลิตสุราพื้นบ้านด้วยวิธีแช่และกลั่น 6.กลไกตลาดจะเกิดการแข่งขัน และ 7.เกิดความเท่าเทียมในการเข้าสู่ตลาด ไม่กีดกันทางการค้า และการขออนุญาตจะทำได้ง่ายขึ้น

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวว่า เป็นเรื่องการเมืองล้วนๆ ถึงแม้นายวิษณุบอกว่าไม่ได้ปาดหน้า และอ้างว่าทำมานาน 6 เดือนก่อน พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าก็ตาม และหากอ้างเหตุผลเช่นนี้ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ทำเรื่องนี้มาตั้งแต่ 6 ปีที่แล้ว และพรรคได้ยื่นร่างกฎหมายฉบับนี้มาตั้งเเต่พรรคอนาคตใหม่ไม่ถูกยุบ

“ชัดเจนว่าการมีมติ ครม.ก่อนการลงมติ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ออกมาเพียง 1 วัน เป็นการจงใจเพื่อให้ ส.ส.รัฐบาลอภิปรายเป็นเหตุผลกับสภาว่า พ.ร.บ. สุราก้าวหน้าไม่จำเป็นอีกต่อไปเเล้ว เพราะกฎกระทรวงออกมาเเล้ว ซึ่งจริงๆ เเล้ว พ.ร.บ.สุราก้าวหน้ายังคงจำเป็นในการประกันหลักเสมอภาคในการเเข่งขันทางธุรกิจของประชาชน เนื่องจากเป็นกฎหมายลำดับชั้นสูงกว่าที่เเก้ยากกว่ากฎกระทรวง ซึ่งได้เตรียมตอบทุกข้อสงสัยในสภาอยู่เเล้ว” นายพิธากล่าว และว่า กฎกระทรวงนี้ไม่ได้ตอบโจทย์การปลดปล่อยอุตสาหกรรมสุราจากทุนผูกขาดที่เเท้จริง เเละยังเป็นเครื่องพิสูจน์อีกครั้งว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้สนใจประชาชน เเค่กลัวเสียหน้ากลัวขัดผลประโยชน์นายทุน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง