ลุ้นกม.เลือกตั้ง!ไม่ผ่านมีทางออก

"วิษณุ" ยอมรับเตรียมทางออกไว้หลายทางหากร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.ไม่ผ่านศาล รธน. 30 พ.ย.นี้    "หมอระวี" วอนทุกฝ่ายเคารพคำวินิจฉัยยันหากถูกตีตกไม่คิดยื่นใหม่แล้ว วงเสวนา ส.ว. "มาร์ค" ค้านหากออก พ.ร.ก.คุมเลือกตั้ง "เจษฎ์" ชี้รากเหง้าปัญหามาจากคสช. ท้องถิ่นผนึก "ก้าวไกล" ชงแก้ รธน.กระจายอำนาจ "ธนาธร" ชู 3 ประเด็นหลักปลดล็อกกระจายอำนาจท้องถิ่น  "เลิศรัตน์" สวนกลับข้อเสนอสุดโต่งทำยากหวั่นเป็นการปฏิวัติการปกครองรุนแรงโยนเป็น รบ.เองค่อยทำ "นายกฯ" ยันต้องกระจายรายได้ให้เท่าเทียม

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 30 พ.ย. นี้ รัฐบาลมีความกังวลหรือไม่ ว่าไม่มีอะไรน่ากังวล ได้คิดทางออกไว้หลายทาง แต่ยังไม่รู้จะลงท้ายอย่างไร คิดคนเดียวไม่ได้ ต้องคิดกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่วันนี้จะชวนมาคิดก็ไม่ได้เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราบ้าหรือตีตนไปก่อนไข้ 

เมื่อถามว่า ทุกทางออกที่คิดไว้จะมีการเลือกตั้งตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ในที่สุดต้องพยายามทำให้ทันตามนั้น ทำไปแล้วอยู่ในกรอบเวลา แต่หากมีใครระบุว่าที่ทำไปผิดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

เมื่อถามว่า หากศาลตัดสินเป็นทางลบจะหารือ กกต.ทันทีเลยใช่หรือไม่ นายวิษณุบอกว่า ใช่ แต่จริงๆ กกต.ต้องมาหรือรัฐบาล เพราะเป็นกฎหมายของเขา 

ด้าน นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า ส.ส.และ ส.ว. 105 คน ได้ร้องไป 2 ประเด็น ไม่ใช่ประเด็นเดียว ก็คือขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามาตรา 25 และมาตรา 26 ของร่างกฎหมายลูกฉบับดังกล่าว มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 93 และ 94 หรือไม่ และตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งทางออกอาจจะวินิจฉัยว่าเห็นด้วยทั้ง 2 ประเด็นหรือไม่เห็นด้วยทั้ง 2 ประเด็น หรืออาจจะเห็นด้วยประเด็นใดประเด็นหนึ่ง เพราะฉะนั้นคำวินิจฉัยสามารถเป็นไปได้ทุกทาง แต่ไม่ว่าจะออกมาอย่างไร จะถือเป็นจุดเปลี่ยนการเมืองไทย

"ถ้าออกมาว่าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ผมร้องไป ผมก็พร้อมยอมรับคำวินิจฉัยของศาล และถือว่าเป็นที่สิ้นสุด สงครามจบนับศพทหารได้ ถึงแม้ว่าจะมีช่องว่าง 5 วัน ก่อนนายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย แต่ผมจะไม่ใช้สิทธิตรงนั้นแล้ว ส่วนฝั่งตรงกันข้ามที่เห็นด้วยกับระบบหารด้วย 100 หากคำวินิจฉัยของศาลออกมาไม่ตรงกับสิ่งที่พวกพ้องตัวเองคิด ก็ขอให้ยอมรับคำวินิจฉัยดังกล่าวเหมือนผมด้วย" นพ.ระวีกล่าว

จวก คสช.ก่อปัญหาไว้

วันเดียวกัน เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ผู้กำกับมูลนิธิคอนราด อาเดนาวร์ ประเทศไทย จัดโครงการพัฒนากระบวนการมีส่วนร่วมและการสื่อสารทางการเมืองเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสถาบันนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นการเสวนาในเรื่อง กติกาเลือกตั้งใหม่ ใครได้ประโยชน์ โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี, นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และนายเจษฎ์ โทณะวณิก ประธานคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย เข้าร่วมเสวนา

โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เชื่อว่าอาจจะมีการให้ผ่าน และมาตราที่มีการพูดถึงส.ส.พึงมีก็เสมือนกับว่าไม่ได้ใช้ ทิ้งไว้เช่นนั้น ซึ่งน่าจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด แต่หากอยากจะเปลี่ยนมาเป็นอย่างที่ต้องการคือ ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน และหารด้วย 100 ก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญและทำกฎหมายลูกให้เสร็จให้ทัน ถ้ากฎหมายลูกเสร็จไม่ทัน ก็ต้องมีการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ และ กกต.ก็ต้องจัดให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญด้วยวิธีการออกกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่เขียนไว้

 “ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับความคิดที่บอกว่าถ้าทำกฎหมายไม่ทันก็ออก พ.ร.ก. เพราะเห็นว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้ให้อำนาจฝ่ายบริหารในการออก พ.ร.ก.มาแทนพ.ร.ป.รัฐธรรมธรรมนูญให้อำนาจเฉพาะออกพ.ร.ก.มาแทนพ.ร.บ.เท่านั้น ในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน" นายอภิสิทธิ์ กล่าว และว่า ไม่ว่าพรรคเล็กหรือพรรคใหญ่จะได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เราก็ยังมีมรดกที่ตกค้างคือมาตรา 272 ที่ให้ส.ว. 250 คนสามารถเลือกนายกฯ ได้อยู่ 

ด้านนายเจษฎ์กล่าวว่า ถ้าดูรากเหง้าของปัญหา ปัญหาแรกคือคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และผู้สนับสนุน คสช. เพราะระบบจัดสรรปันส่วนผสม กรธ. คิดโดยปรับมาจากระบบสัดส่วนผสมของเยอรมนี ไม่อยากให้คะแนนเสียงตกน้ำ และ คสช.มาตั้งพรรคตามธรรมเนียมระบบรัฐสภาพรรคที่ได้คะแนนมากที่สุดลำดับแรกมีสิทธิ์ลำดับก่อนในการจัดตั้งรัฐบาลไม่มีการจัดแข่ง พรรคพลังประชารัฐไปจัดแข่งกับเขา เลยเกิดปัญหาว่าไปเขียนคำถามเพิ่มเติมให้ ส.ว. มาเลือกนายกฯ ใครจะจัดแข่งกับท่านได้ ท่านเล่นเอา ส.ว. 250 คน ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นคนเดียวที่คนในโลกนี้รู้ว่าเป็นคนเลือก นอกนั้นคนอื่นอยู่ไหน และไม่รู้ว่าใครได้ประโยชน์ แต่รู้ว่าใครก่อปัญหา ก็ต้องรอดูต่อไป

ขณะที่นายสมชัยกล่าวว่า หากสูตรหาร 100 ผ่าน ก็จะเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งอย่างสบายใจ แต่สิ่งที่หลายคนคาดการณ์ไว้คือ พรรคการเมืองขนาดใหญ่จะได้เปรียบจากการเลือกตั้งในครั้งนี้จะเป็นจริง ถ้าไม่ผ่าน กกต.จะอ้างว่าไม่มีกฎหมายที่ใช้ในการจัดการเลือกตั้ง กกต.อาจจะออกคำสั่งประกาศ ซึ่งมีโอกาสที่จะขัดรัฐธรรมนูญ และมีโอกาสที่จะถูกฟ้องว่าทำผิดรัฐธรรมนูญเหตุให้การเลือกตั้งทั้งหมดเป็นโมฆะในภายหลัง โดยในร่าง พ.ร.ป.พรรคการเมืองมีการเปลี่ยนสาระในสาระสำคัญเพื่อให้พรรคการเมืองทำงานง่ายขึ้น พรรคเล็กได้เปรียบมากขึ้น

ก๊วนสีส้มชงปลดล็อกท้องถิ่น

ขณะเดียวกัน นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก ส.ส.พรรคก้าวไกล นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ,  นายคำพอง เทพาคำ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วยตัวแทน 3 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย, นายสมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย, ผศ.พิเศษวิระศักดิ์ ฮาดดา นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย เรื่องขอสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ..... หมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น

นายประเสริฐพงษ์กล่าวว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคือองค์กรที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด วันนี้ทุกพรรคการเมืองต่างมีนโยบายในการส่งเสริมการกระจายอำนาจไปสู่การปกครองส่วนท้องถิ่น จึงขอเชิญชวนสมาชิกรัฐสภาทุกคน ช่วยกันสนับสนุนผลักดันให้ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์ เพื่อความเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยในทางที่ดีขึ้น

ขณะที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วยนายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ในฐานะตัวแทนของประชาชนผู้เข้าชื่อเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ร่วมกันแถลงข่าว ก่อนที่ที่ประชุมรัฐสภาจะพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.... เกี่ยวกับการปลดล็อกกระจายอำนาจท้องถิ่นว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เสนอปลดล็อก 3 เรื่อง 1.การจัดสรรภาษีให้เป็นธรรม โดยกำหนดส่วนแบ่งภาษีให้เป็น 50 ต่อ 50 ส่วนกลางครึ่งหนึ่งและท้องถิ่นอีกครึ่งหนึ่ง เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีงบประมาณดูแลอย่างเพียงพอ 2.เรื่องอำนาจทุกวันนี้มีคำสั่งประกาศกระทรวง และกฎหมายที่ออกจากส่วนกลางจำนวนมากโดยไม่ไว้ใจท้องถิ่นถ้าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านจะทำให้ท้องถิ่นมีอำนาจเต็มที่ในการจัดการบริการสาธารณะของตัวเอง และ 3.ในร่างฉบับนี้จะเปิดให้จัดทำประชามติเพื่อเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้หาฉันทามติร่วมกันว่า ราชการส่วนภูมิภาคยังจำเป็นอยู่หรือไม่ ซึ่งจะเป็นการปรับปรุงราชการแผ่นดินครั้งใหญ่ของไทย

นายธนาธรกล่าวว่า หวังว่าสมาชิกรัฐสภาทุกคนจะให้ความเห็นชอบกับการแก้ไขครั้งนี้ ขอให้ลงมติผ่านวาระที่ 1 ไปก่อน แล้วหากไม่เห็นด้วยในประเด็นใดสามารถไปพูดคุยรายละเอียดได้ในวาระที่ 2 และถ้าไม่เห็นด้วยจริงๆ ก็ค่อยตีตกในวาระที่ 3 ได้

เมื่อถามว่า หากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ผ่าน เตรียมแผนไว้อย่างไรบ้าง นายธนาธรกล่าวว่า ยืนยันจะเดินหน้าต่อเพราะพรรคก้าวไกลได้แถลงนโยบายการหาเสียงเรื่องการกระจายอำนาจไปแล้ว

สว.หวั่นปฏิวัติการปกครอง

พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว. ในฐานะประธาน กมธ.การปกครองท้องถิ่น วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมรัฐสภา ที่มีวาระพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม แก้ไขหมวดว่าด้วยการปกครองส่วนท้องถิ่น และการกระจายอำนาจ ซึ่งนายธนาธรและประชาชน 76,591 คนร่วมเสนอว่า ในเนื้อหาและสาระของการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นดังกล่าวมีหลักการที่รับได้ ทั้งการกระจายอำนาจ งบประมาณ แต่กังวลว่าบทบัญญัติที่เสนอแก้ไขนั้นจะยากต่อการปฏิบัติ เพราะกำหนดรายละเอียดและเขียนเนื้อหาที่มีลักษณะสุดโต่ง และสุดกู่ งบประมาณ ตามร่างแก้ไขกำหนดให้จัดสรรงบให้ท้องถิ่น 50% จากรายได้สุทธิของรัฐ หากพิจารณางบประมาณประจำปีที่มี 2.5 ล้านล้านบาท เท่ากับต้องจัดสรรให้ท้องถิ่น 1.25 ล้านล้านบาท ซึ่งปัจจุบันท้องถิ่นได้รับงบประมาณ 29% หรือ 7 แสนล้านบาท ดังนั้นการเพิ่มงบประมาณอีกเท่าตัว หากจะทำให้เป็นจริงได้ ต้องยุบราชการส่วนต่างๆ เพื่อนำงบประมาณให้กับท้องถิ่น

 “ปัจจุบันท้องถิ่นได้งบประมาณและเงินอุดหนุน 29% หากจะต้องหาเงินมาอุดหนุนอีก 5 แสนล้าน ต้องปฏิวัติการปกครองรุนแรง ยุบกระทรวง ทบวง กรม หน่วยงานในต่างจังหวัด และอาจยุบผู้ว่าราชการจังหวัดด้วยหรือไม่ หากจะแก้ไขเรื่องงบประมาณ ไม่จำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะมีกฎหมายว่าด้วยกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งกำหนดเป้าหมายการจัดสรรรายได้ให้ อปท.ที่กำหนดว่าไม่น้อยกว่า 25% และตั้งเป้าให้มีรายได้เพิ่ม 35%” พล.อ.เลิศรัตน์กล่าว

พล.อ.เลิศรัตน์กล่าวว่า แนวคิดการยุบราชการภูมิภาคทั้งหมด ในยุโรป ญี่ปุ่น อเมริกา ทำได้เพราะเป็นรัฐอิสระ มีอำนาจ มีความอิสระในงบประมาณ ทำให้ทุกท้องถิ่นมีอำนาจเหมือนรัฐบาลกลาง ส่วนการลงมติวาระแรก ต้องใช้เสียง ส.ว. เห็นชอบด้วย 83 เสียง ส่วนตัวมองว่ายาก เพราะมีประเด็นที่ยากต่อการปฏิบัติ หากเขาได้เป็นรัฐบาลค่อยมาทำ

มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ประสานงานวิปรัฐบาล ได้รายงานวาระการประชุมสภา ซึ่งมีการพิจารณาร่างแก้รัฐธรรมนูญกระจายอำนาจท้องถิ่น ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า เป็นผู้เสนอ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเห็นเรื่องนี้ว่า ท้องถิ่นจะมีปัญหาถ้าบริหารกันเอง เพราะรายได้อาจไม่เพียงพอ จึงต้องกระจายรายได้ให้เท่าเทียม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทบ.เดือดจัด ซัด‘เฮงรัตนา’ จอมลวงโลก

โฆษก ทบ.จี้นานาชาติจับตา “เฮง รัตนา” ผอ. CMAC กัมพูชา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บ่อนทำลายความไว้วางใจและสันติภาพในภูมิภาค ใช้จินตนาการปั้นแต่งเรื่องราวเพื่อหลอกลวงสังคมโลก

‘ราชินี’แรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่

ในหลวงพระราชทานถ้วยรางวัลนักกีฬาเรือใบ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 พระราชินีทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เรือวายุมีคะแนนดีที่สุดในการแข่งขัน

‘อนุทิน’ล่องลงใต้ ขออภัยผมผิดเอง

"อนุทิน" นำคณะ ครม.ลงใต้อีกรอบ เตรียมตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12

พท.ขึงขังซักฟอก อ้างเหตุเพราะมีคนตายปากกล้าขาสั่นท้าไม่กลัวยุบสภา

พรรคเพื่อไทยจะเอาทุกอย่าง ซักฟอกดิสเครดิตรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง บีบพรรคส้มตัดสินใจ เชื่อ "อนุทิน" ไม่ยุบสภา ไม่กระทบรัฐธรรมนูญ "สรวงศ์" ลั่น

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี