ปชป.ซัดภท.ด้อยค่าคนอื่น

เกาเหลากัญชา! "ราเมศ" ซัดภูมิใจไทยด้อยค่าประชาธิปัตย์ คิดเหยียดคนอื่น จุดจบไม่ดีสักราย เด็กสูบกัญชาทั่วบ้านทั่วเมืองกลับใจบอดมองไม่เห็น ด้าน “สาธิต” รับเป็นคนกลางเคลียร์ปมกัญชา แต่เป็นเรื่องยากด้วยจุดยืนต่างกัน เตรียมเชิญ ตร.-อัยการหารืออุดช่องว่างกฎหมาย "เหลิม" ทุบโต๊ะกัญชาต้องเป็นยาเสพติดเท่านั้น

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2565 นายราเมศ รัตนะเชวง  โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้ออกมาชี้แจงแทนนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ภท. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ ที่พาดพิงพรรคประชาธิปัตย์เรื่องกัญชาว่า ประการแรก นายศุภชัยได้กล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์โดยการโพสต์เฟซบุ๊กก่อน ตนในฐานะโฆษกพรรคออกมาชี้แจง ถ้าได้ติดตามไม่มีที่ตนจะไประรานใครก่อน แต่เมื่อมาพาดพิงพรรคตลอดเวลาก็ต้องออกมาชี้แจง ไม่เช่นนั้นพรรคจะเสียหาย

 “ที่กล่าวหาว่าระวังพรรคจะสูญพันธุ์นั้น คำพูดนี้มาจากใครทราบดี พรรคจะได้กี่ที่นั่งในการเลือกตั้งไม่ใช่ภูมิใจไทยกำหนด ประชาชนจะเป็นผู้กำหนด อย่าคิดแทนประชาชน ตอนนี้ทุกคนห่วงอนาคตของลูกหลานที่จะต้องสูญสิ้นอนาคตไปกับนโยบายกัญชาเสรีมากกว่า ข่าวออกทุกวันเด็กเยาวชนสูบกันทั่วไป เชื่อว่าคนที่เป็นพ่อเป็นแม่  ลูกออกไปเรียนก็ไม่สบายใจ เพราะกัญชามันใกล้ตัวลูกหลานของทุกคนแล้ว คนที่ไม่เห็นสิ่งเหล่านี้คือคนที่ใจบอดเท่านั้นเอง การด้อยค่าพรรคอื่นอย่าคิดว่าพรรคตนจะสูงขึ้น  สังคมมองออกว่าคนที่มีปัญญาเขาไม่คิดด้อยค่าคนอื่น  เพราะจะทำให้เห็นความต่ำความสูงชัดขึ้น พรรคที่มีความคิดเหยียดคนอื่นจุดจบไม่ดีสักราย” นายราเมศระบุ

ส่วนที่กล่าวหาว่าจ้องทำลายในทางการเมืองนั้น  โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ไม่มีเหตุผลใดที่จะทำลายกัน ย้ำตลอดว่าเรื่องนี้ท้วงติงเพื่อส่วนรวม การมีนโยบายที่มีผลกระทบต่อสังคม เด็กและเยาวชน ระเบิดที่แขวนไว้รอบตัวนักการเมือง พรรคการเมือง รอเวลาระเบิดทำลายตัวเองอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นใดต้องทำเช่นนั้น ที่บอกว่าด่าพรรคอื่น ควรเอาเวลาไปทำอย่างอื่นนั้น ถือว่าพูดถูกต้อง ที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยเริ่มพาดพิงมาก่อนตลอด พอถูกออกมาโต้มาชี้แจง ก็จะดิ้นเหมือนโดนน้ำร้อนลวกทุกที

ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวภายหลังการหารือร่วมกันกับอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อหาแนวทางในการบังคับใช้กฎหมายควบคุม ป้องกันการใช้กัญชาในทางที่ผิดว่า ในระหว่างที่กฎหมายใหญ่ยังไม่ออก กำชับให้มีการเคร่งครัดเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายเท่าที่มีอยู่ เพื่อลดช่องว่างในการเข้าถึงสาร THC ที่มีโทษต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่ยังไม่มีวุฒิภาวะ ต้องป้องกันให้ดีที่สุดไม่ให้มันเสรีเกินไป

เขายอมรับว่า จุดยืนเรื่องกัญชาของพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ต่างกัน ตนเป็นคนกลาง ในฐานะผู้ปฏิบัติต้องบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ในตอนนี้ให้เข้มที่สุด ซึ่งกำลังร่างหนังสือเพื่อเชิญผู้แทนจากฝ่ายกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ อัยการ มาหารือทำความเข้าใจ เพื่อใช้ประกาศที่มีอยู่ในช่วงที่ยังมีช่องว่างสุญญากาศ และตีความนำสู่การบังคับใช้ให้มากที่สุด

 “วันนี้มันยังมีความต่างกันในเรื่องของกัญชาเสรี โดยในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ประกาศที่มีอยู่มันไม่สามารถควบคุมการสูบในบ้านหรือสูบในที่อื่นได้ แต่หลักการประชาธิปัตย์เราไม่เห็นด้วยกับการใช้กัญชาในลักษณะของการสูบเพื่อสันทนาการ มันเป็นช่องว่างแน่นอน ผมในฐานะเป็นสมาชิกพรรคต้องปฏิบัติตามมติพรรค แต่ในฐานะที่เป็นผู้คุมกฎหมายต่างๆ ของหน่วยงานในสังกัด สธ. ต้องเร่งให้อธิบดีทุกกรมที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายด้วย” นายสาธิตกล่าว

 เมื่อถามว่า ในฐานะเป็นคนกลางได้มีการประสานให้เกิดความเข้าใจกันระหว่าง 2 พรรคหรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า มันยากเพราะจุดยืนต่างกันมาก และในเรื่องนโยบายทางการเมืองเป็นความต่างคนละมิติ หากต่างกันเล็กน้อก็ยังพอเป็นคนกลางได้บ้าง แต่พอต่างกันเยอะมันมีความยาก แต่พยายามไม่ให้เกิดความขัดแย้ง สงวนจุดต่าง และแสวงหาจุดร่วมกัน

ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ปรึกษาคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวตอนหนึ่งว่า "ปัจจุบันพรรคการเมืองคึกคัก  ออกนโยบายไม่เว้นแต่ละชั่วโมง บางพรรคต้องการคะแนนนิยม คิดได้แม้กระทั่งให้กัญชาพ้นจากวงจรยาเสพติด ผมไม่ใช่นักเรียนนอก แต่ปราบยาเสพติดมาตั้งแต่เป็นนายตำรวจกองปราบ ยังยืนยันว่ากัญชายังต้องเป็นยาเสพติด ไม่ใช่ผมคนเดียว สมาชิกกลุ่มอาเซียนทุกประเทศด้วย ในประเทศไทยมีความขัดแย้งทางความคิด ส่วนตัวขอขีดเส้นใต้ว่าไม่เห็นด้วย การเมืองเล่นนอกระบบมากเกินไป  นักการเมืองอย่าหลงระเริงว่า 8 ปีจะไม่มีการกลับมาอีกครั้งหนึ่ง"

นายสนธยา แซ่โย้ หรือหลวงสน หมอยาเกาะพะงัน ที่รักษาคนไข้ด้วยกัญชาให้หายนับหมื่นราย กล่าวว่า ตนใช้กัญชารักษาคนไข้มานานกว่า 3 ปี มีหลักฐานและผลการรักษาอย่างแน่ชัดทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยคนไข้ที่เข้ารับการรักษาด้วยกัญชา ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์หายเป็นปกติ ส่วนที่รักษาไม่หายมีหลายสาเหตุ 1.เพราะอาการหนักมามากแล้ว 2.ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ และ 3.คนไข้บางรายร่างกายไม่รับ ซึ่งมีเป็นจำนวนน้อย นอกจากนี้ตนยังได้ร่วมทำวิจัยกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อนำกัญชาไปใช้ในทางการแพทย์ด้วย

นายสนธยากล่าวว่า โดยส่วนตัวไม่ได้เห็นด้วยกับกัญชาเสรี ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีกฎหมายมาควบคุม แต่สิ่งที่กังวลเวลานี้คือ การตีรวนของฝ่ายคัดค้านที่จะคว่ำ พ.ร.บ.กัญชา มีการเบี่ยงเบนประเด็นเลือกใช้วาทกรรมที่ตัวเองได้ประโยชน์ในทางการเมืองให้ร้ายกัญชา ทั้งที่กรรมาธิการที่ประกอบไปด้วยทุกพรรคได้ผ่านการพิจารณามาแล้ว 1 วาระ โดยไม่มีเสียงคัดค้าน นอกจากนี้ยังมีการปล่อยข่าวรายวันให้ร้ายกัญชา โดยพุ่งเป้าไปที่เด็กและเยาวชน โดยไม่ได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงทั้งหมด ภาพที่ปรากฏในหน้าสื่อ คนวงในกัญชารู้ดีว่าความจริงมันเป็นอย่างไร.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง