3ป.ไม่แยกทางกัน บิ๊กป้อมรักตู่เหมือนเดิม/แผนกบฏไล่จุรินทร์เหลว

“บิ๊กป้อม” ไม่สน ส.ส.ย้ายรัง พูดติดตลกออกให้หมดจะได้ปิดพรรคเลย รับยังรัก “น้องตู่” เหมือนเดิม “สันติ” โวพลังประชารัฐจะกวาด ส.ส.เมืองกรุงเยอะที่สุด เปิดตัว “นิพิฏฐ์” แล้ว ส่วนอันวาร์รอหายป่วย เจ้าตัวแจงเหตุชิ่งสร้างอนาคตไทยเพราะหลักการเปลี่ยนไปจากเดิม ทั่นผู้แทนหลายพรรคแห่ยื่นลาออกเตรียมย้ายเข้าพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน” บอกเป็นเรื่องปกติเหมือนการทำงาน  “ปชป.” อาการหนักเจอคลื่นใต้น้ำ ล่าชื่อ กก.บห.หวังเขี่ยจุรินทร์ “สอท.” ส่อเค้าจบก่อนเลือกตั้ง คุย ทสท.ไม่ลงตัวเตรียมควบรวมชาติพัฒนากล้า

เมื่อวันอังคารที่ 13 ธันวาคม ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ระหว่างวันที่ 12-15 ธ.ค.2565

ก่อนการประชุม พล.อ.ประวิตรไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในประเด็นการเมือง เพียงหันมายิ้มให้เท่านั้น โดยก่อนเริ่มประชุม เลขาธิการ ครม.ได้รายงานว่ามีรัฐมนตรีลาประชุม 5 คน ซึ่งบรรยากาศการประชุมก็เป็นไปด้วยความรวดเร็ว เนื่องจากมีวาระพิจารณาเพียง 10 วาระ และวาระเพื่อทราบ 11 วาระเท่านั้น

และเป็นการพิจารณารวดเดียว โดยรับประทานอาหารกลางวันกันในห้องประชุม ไม่มีพักเบรก และเสร็จการประชุมตั้งแต่เวลา 11.20 น. 

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และพรรคการเมืองว่า มาถึงรัฐบาลแล้ว คาดว่าจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้

พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุม ครม.ถึงกระแสข่าว ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กว่า 10 คน เตรียมย้ายไปพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่า  เขายังไม่ลาออก ยังไม่ทราบว่าจะลาออกหรือเปล่า เพราะตอนนี้ยังไม่ลาออก และไม่ต้องเรียกมาพูดคุย ก็แล้วแต่เขา ความคิดของคนไม่เหมือนกัน ซึ่งที่เข้ามาก็เยอะ

เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรส่ายหัวพร้อมกล่าวว่า ยังไม่ได้คุยเรื่องนี้ ไม่มีคุยเรื่องนี้

ถามย้ำว่า พรรค ภท.จะดึง ส.ส.พรรค พปชร.ไปพอสมควร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ก็เอาไปให้หมดเลยก็ได้ ผมไม่ว่าอะไร ผมจะได้ปิดพรรคเลย” ซึ่งทันทีที่พูดจบ พล.อ.ประวิตรหัวเราะ เมื่อถามอีกว่าสรุปแล้วไปทั้งหมดเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรหัวเราะไม่ตอบคำถาม

เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าทำไมนะ และเมื่อถามว่านายกฯ บอกว่ายังอยากอยู่กับพรรค พปชร.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ท่านนายกฯ ดูเหมือนแสดงว่าจะไป จะไปแล้ว ยังไม่รู้ ถามย้ำว่าทำไมมีคำว่าเหมือน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ยังไม่รู้ เพราะท่านนายกฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคตั้งแต่แรก

ถามว่านายกฯ มีโอกาสเปลี่ยนใจอยู่กับพรรค พปชร.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ท่านนายกฯ ไม่ได้อยู่ในพรรค พปชร. เป็นเพียงพรรค พปชร.สนับสนุนให้เป็นนายกฯ ส่วนท่านจะอยู่หรือไม่อยู่ ก็เป็นเรื่องของท่าน เพราะท่านก็ไม่ได้อยู่อยู่ แล้ว ใช่ไหม

พี่ป้อมยังรักน้องตู่เหมือนเดิม

ถามถึงการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ต่อไป พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า อย่างนี้มันต้องแล้วแต่สมาชิกพรรคที่จะว่ากัน เมื่อย้ำถามว่า ไม่ว่าอยู่ที่ไหนจะยังเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า อ๋อใช่ อยู่ที่ไหนมันก็รักกันเหมือนเดิม เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์เหมือนกับว่ายังรอพรรค พปชร.ทาบทามก็พร้อมจะมา พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะทาบทามหรือเปล่า

เมื่อถามว่าจะคุยหรือไม่ ในฐานะที่เป็นพี่ใหญ่และเป็นผู้จัดการรัฐบาล พล.อ.ประวิตรย้อนถามว่า ใครเป็นผู้จัดการ เมื่อถามว่าเป็นบารมีของ พล.อ.ประวิตรที่ดูแลรัฐบาลได้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ผมจะไปเป็นผู้จัดการที่ไหน”

เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับกระแสข่าวการยุบสภาในช่วงนี้ พล.อ.ประวิตรส่ายหัวพร้อมกล่าวว่า ไม่รู้ เมื่อถามอีกว่าเวลาที่เหมาะสมที่สุดปลายปีหรือไม่ เพราะ ส.ส.ลาออกกันเยอะเพื่อไปสังกัดพรรคใหม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า อะไรนะ ก็ไม่รู้ ก็แล้วแต่ แล้วแต่เขา

ถามอีกว่า พล.อ.ประวิตรเคยพูดว่า 3 ป. มาด้วยกันไปด้วยกัน และจะไม่มีวันแตกกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่วันนี้แยกทางกัน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ไม่แตก เมื่อถามว่าแต่วันนี้จะแยกทางกันเดิน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ใช่แยกทางกัน ไม่ได้แยกทางกัน พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้อยู่ในพรรคพลังประชารัฐเลยนะ ไม่เคยเป็นสมาชิกเลย เมื่อย้ำว่าต่อจากนี้ไปพรรค พปชร.ไม่ได้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตของพรรคแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ยังไม่รู้เลย ต้องไปประชุมพรรคก่อน

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าพรรค พปชร.ไม่เห็นถามมาตกลงพรรคจะถามหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า “ก็ยังไม่รู้ ผมเองก็ไม่รู้เลย ผมเองก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของพรรค ผมจะตอบอะไรได้” เมื่อถามว่าจะชวน พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวย้ำว่า ก็บอกไปแล้ว ตอบแล้วตอบอีก เมื่อย้ำถามว่าวันนี้การเดินคนละพรรคทั้งที่เคยบอกว่ามาด้วยกันไปด้วยกันจะตอบอย่างไร พล.อ.ประวิตรไม่ตอบ ก่อนเดินขึ้นรถเดินทางออกจากทำเนียบฯ

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณี 12 ส.ส.กทม.เตรียมย้ายออกจากพรรค พปชร.ว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ ส.ส.หรือว่าที่ผู้สมัครจะเคลื่อนย้ายกันบ้าง แต่ พปชร.เป็นสถาบัน ซึ่งพรรคมั่นใจว่ายังมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เตรียมไว้ และพรรคไม่ได้กังวลอะไร 

 “เรามีบุคคลที่มาแสดงตนจะลงสมัครส.ส.ในนาม พปชร.จำนวนมาก ส่วนคนเก่าที่มีข่าวก็ยังไม่แน่นอนว่าจะยังอยู่หรือย้ายออกไป ขอย้ำว่าเรายังมีว่าที่ผู้สมัครที่มีอุดมการณ์และความตั้งใจไว้พร้อมอยู่แล้ว และอยู่ระหว่างการคัดเลือก อีกไม่กี่วันก็จะได้บุคคลที่มีคุณภาพและความตั้งใจที่จะดูแลในทุกด้านของกรุงเทพฯ”

เมื่อถามว่า พรรคจะหาผู้สมัครหน้าใหม่ลงแข่งขันทั้ง 33 เขตใน กทม.หรือไม่ นายสันติกล่าวว่า เรามีว่าที่ผู้สมัครอยู่แล้ว ส่วนคนเก่า 12 คนที่อาจไปหรือยังอยู่กับพรรคก็เตรียมไว้ เราจะให้เกียรติหากเขายังอยู่ เพราะยังเป็นแค่ข่าวลือที่ระบุว่าเขาจะไปพรรคอื่น แต่หากไปจริงก็สามารถคัดเลือกว่าที่ผู้สมัครคนใหม่ได้ และมั่นใจ 100% ว่าจะดึงพื้นที่กรุงเทพฯกลับมาได้ และจะได้ที่นั่งในกรุงเทพฯ เยอะที่สุด

นายสุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรฯ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ว่าต่างคนต่างหาเสียง ส่วนพรรค พปชร.สมุทรปราการ ทำงานเต็มที่ พูดได้เต็มปากว่าถ้าจะพูดเขาเรียกว่าสิงก็ได้

เมื่อถามย้ำว่า คำว่าสิงคือให้คำมั่นกับ พล.อ.ประวิตรว่าจะกลับ พปชร.ใช่หรือไม่  นายสุนทรกล่าวว่า ใช่

มั่นใจ ‘บิ๊กตู่’ ยังขายได้

ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงผลสำรวจนิด้าโพลว่า ผลโพลก็คือผลโพล การเลือกตั้งก็อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งอีกสักพักหาก พล.อ.ประยุทธ์มีความชัดเจนมากกว่านี้ เชื่อว่ากระแสจะดี เพราะจากที่ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช สัมผัสได้ว่ากระแส พล.อ.ประยุทธ์ดีมากในภาคใต้ สุดท้ายคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไปได้

                    เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ถึงความชัดเจนที่จะย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ (รทสช.) นายธนกรกล่าวว่า น่าจะเร็วๆ นี้ แต่เบื้องต้นวันนี้ยังเป็น ส.ส.พรรค พปชร. และยังทำหน้าที่ ส.ส.อยู่ ส่วนอนาคตทางการเมือง และ ส.ส.บางคนมีความชัดเจนอยู่แล้วว่าจะอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนจะไป รทสช.ในปลายปีนี้หรือไม่ ยังไม่มั่นใจ แต่วันนี้คิดว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้งในสมัยหน้า เพราะวันนี้กลุ่ม ส.ส.ที่ตัดสินใจจะอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ก็พูดกับประชาชนได้ว่าเราจะอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์

วันเดียวกัน ยังคงมีความเคลื่อนไหวในเรื่องการย้ายพรรคอย่างคึกคัก โดยที่พรรค พปชร. ซึ่งเดิมมีกำหนดเปิดตัวนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) และนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นั้น ล่าสุดนายอันวาร์ระบุว่า รู้สึกไม่สบาย เกรงว่าจะติดโควิดหรือไม่ จึงขอดูอาการก่อน ซึ่งได้แจ้งให้ พล.อ.ประวิตรทราบแล้ว หลังจากนี้หากไม่ได้เจ็บป่วยอะไรก็จะเดินทางไปยื่นหนังสือลาออกจากพรรค ปชป.ด้วยตัวเอง

ขณะที่นายนิพิฏฐ์นั้น ได้ยื่นหนังสือลาออกจากพรรค สอท. ลงวันที่ 13 ธ.ค. และได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในเวลา 08.50 น. โดยไม่ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรค สอท.ที่จัดประชุมในเวลา 09.30 น.แต่อย่างใด และในเวลา 1.3.40 น. นายนิพิฏฐ์ได้เดินทางเข้ามายังที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเปิดตัวร่วมทำงานกับพรรค พปชร.

โดยเมื่อเวลา 15.15 น. แกนนำพรรคที่นำโดยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคร่วมกันแถลงต้อนรับนายนิพิฏฐ์ พร้อมทั้งเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พื้นที่ภาคใต้และอีสาน

นายนิพิฏฐ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดตัวถึงการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร ว่าได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตรบ้างแล้ว พล.อ.ประวิตรได้ให้เข้ามาช่วยดูภาคใต้ จากที่ พล.อ.ประวิตรดูแลด้วยตัวเองอยู่ก่อนแล้ว โดยเข้ามาช่วยดูในรูปแบบที่คณะกรรมการ โดยมีนายอภิชัย เตชะอุบล แกนนำพรรคมาช่วยในพื้นที่ภาคใต้ด้วย 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ไม่มีชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นผลดีหรือไม่ดีกับการหาเสียงพื้นที่ภาคใต้ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า คิดว่าทุกพรรคไม่ใช่เฉพาะภาคใต้มีคะแนนนิยมใกล้เคียงกันมาก ซึ่งกระแส พล.อ.ประยุทธ์ในภาคใต้ดี แต่มีเงื่อนไขหลายประการ คิดว่าอาจไม่ดีเหมือนกับการเลือกตั้งปี 2562 อีกต่อไป เช่น วาระการดำรงตำแหน่ง ถ้าเลือกไป 2 ปีต้องเลือกนายกฯ ใหม่ นอกจากนี้ พรรคใหม่ของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นพรรคที่เหมือนสร้างขึ้นมาใหม่เลย เพราะฉะนั้นไม่ง่ายไปแข่งกับพรรคที่มี ส.ส.อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นคิดว่าไม่ร้อนแรงเหมือนเดิม

นิพิฏฐ์เปิดปมซบ พปชร.

เมื่อถามว่า เพิ่งอยู่พรรค สอท.ไม่นาน ย้ายมา พปชร.ประชาชนจะสับสนหรือไม่ นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า คงไม่ เพราะมีเหตุจำเป็น ส่วนเหตุจำเป็นอะไรนั้น ขอให้พรรค สอท.พูดเอง การที่เดินออกมาไม่ใช่ไม่มีเหตุผล เพราะคุยกันมาไม่ต่ำกว่า 3 เดือนแล้ว แต่ไม่ใช่ความขัดแย้ง เพราะที่มาร่วมตั้งพรรค สอท.มีหลักการที่นำอยู่ 2 เรื่องคือ 1.ไม่สุดขั้วทางทางการเมือง ไม่แดงจัด ไม่เหลืองจัด ไม่ซ้ายจัด ไม่ขวาจัด และ 2.พรรคมุ่งเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากกว่าปัญหาทางการเมือง แต่พอพรรคเดินมาได้ระยะหนึ่งก็มีแนวคิดในการควบรวมพรรค ซึ่งไม่ได้ขัดข้อง เพราะมีเงื่อนไขรัฐธรรมนูญที่ทำให้พรรคโตยาก แต่การควบรวมต้องไม่ขัดหลักการ 2 ข้อนี้

"การควบรวมมีการเบี่ยงเบนไปบางส่วน เช่น มีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคจากนายอุตตมเป็นคนอื่น และที่สำคัญคือเปลี่ยนแปลงแคนดิเดตนายกฯ จากนายสมคิดไปเป็นบุคคลอื่น โดยนายสมคิดจะเป็นเบอร์ 2 และเบอร์ 3 ไป ซึ่งหลักการตรงนี้มันถูกเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งทุกคนก็เข้าใจไม่ได้มีความขัดแย้ง" นายนิพิฏฐ์ กล่าว

สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรคภูมิใจไทยนั้น โดยเฉพาะประเด็น 37 ส.ส.จะย้ายมาในวันที่ 16 ธ.ค.นั้น นายอนุทินกล่าวว่า วันที่ 16 ธ.ค.จะมีการประชุมพรรค ส่วนจะเปิดตัวหรือไม่นั้น พรรคไม่ได้มีการปิดกั้น รอให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อน ตอนนี้พูดอะไรไม่ได้ เพราะยังไม่ได้เซ็นใบสมัครให้ใคร ไม่ทราบว่ารายชื่อออกมาได้อย่างไร มีจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง พูดไม่ได้ จะพูดก็ต่อเมื่อลงนามรับใบสมัคร และหากวันที่ 16 ธ.ค. มีการสมัครก็จะแจ้งให้ผู้สื่อข่าวทราบ

เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เต็มที่มากกว่าทุกครั้งใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ต้องเตรียมความพร้อม ประมาทไม่ได้ ใครก็ประมาทไม่ได้ทั้งนั้น ของตายมีที่ไหนในโลก ไม่มีหรอก ทุกอย่างจะประสบผลสำเร็จอยู่ที่การทำงานของแต่ละคน ก็ต้องขยัน ถ้าไม่ขยันก็ไม่สามารถนำพาอะไรได้”

ถามว่า จะมีการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตรถึงเรื่อง ส.ส.พรรค พปชร.ที่ย้ายมาหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า พรรคการเมืองเป็นของคนทุกคน ใครมาใครไปเราห้ามไม่ได้หรอก เหมือนผู้สื่อข่าววันหนึ่งอยู่สำนักนี้ สักพักรู้สึกว่าถ้าไปสำนักอื่นแล้วมีโอกาสที่ดีกว่า ทำงานที่ตนเองชอบได้มากกว่า เราก็ไปห้ามไม่ได้ ของพวกนี้ไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ เพราะว่าเคยผ่านภาคเอกชนมา วันๆ เซ็นใบลาออกลูกน้องไม่รู้ตั้งกี่คน บางวันเจอคนเก่งๆ ก็ต้องชวนเขามาทำงานด้วยกัน จะได้ทำให้องค์กรส่วนรวมเจริญรุ่งเรืองขึ้นไป เป็นเรื่องปกติธรรมชาติ ไปบังคับใครไม่ได้หรอก เขาจะมาเขาก็มา เขาจะไปเขาก็ไป

เมื่อถามถึงผลโพลที่คะแนนความนิยมของนายอนุทินแซงหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จะให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์อย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องโพลฟังไว้ก็เป็นกำลังใจดี แต่ของแท้คือการเลือกตั้ง ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกันอยู่แล้ว ทำงานมาด้วยกัน 4 ปี ให้กำลังใจกันทุกวัน พล.อ.ประยุทธ์ให้กำลังใจตนเอง ตนเองก็ให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ตลอดเวลา

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค ภท. กล่าวสั้นๆ ในเรื่องนี้ว่า ให้รอดูวันที่ 16 ธ.ค.นี้

พาเหรดไขก๊อกซบ ภท.

ขณะที่ น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรค ปชป. ระบุว่า ได้ยื่นใบลาออกจาก ส.ส. และลาออกจากสมาชิกพรรค ปชป.แล้ว พร้อมจะไปเปิดตัวเป็นสมาชิกพรรค ภท.ในวันที่ 16 ธ.ค.นี้

นายสมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพนก.) กล่าวเช่นกันว่า ในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ จะยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.กับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ และมีให้ผลในวันที่ 15 ธ.ค. จากนั้นในวันที่ 16 ธ.ค. จะไปร่วมงานเปิดที่ทำการพรรคภูมิใจไทย พร้อมกับสมัครเป็นสมาชิกพรรค ภท.

นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้จะไปลาออกจากสมาชิกพรรค และ ส.ส.พรรค แต่การที่นายรังสิมันต์ โรม ให้สัมภาษณ์บางช่วงบางตอนใช้คำว่าคนทรยศต่อพรรค เป็นการด้อยค่าคนที่จะย้ายพรรค จะขอตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อดูองค์ประกอบทางกฎหมายว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่ หากเข้าข่ายก็อาจจะดำเนินคดีฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท

 "นายรังสิมันต์เป็นลูกครึ่ง แต่ผมเป็นคนไทยแท้ เมื่อเป็น ส.ส.อยากพัฒนาบ้านเมือง ไม่ได้อยากเป็น ส.ส.เพื่อทำให้ความความแตกแยก การมาด้อยค่าคนจะย้ายพรรค ทั้งที่ผมเป็นรุ่นพ่อเขา ถามว่านักการเมืองแบบนี้ ที่บอกเป็นคนรุ่นใหม่ ไม่เคารพคนเห็นต่าง มาด่าคนไม่เห็นด้วย เป็นนักการเมืองแบบไหน การย้ายพรรคมีมาตั้งนาน ไม่ใช่เพิ่งมี ถ้าย้ายออกไปพรรคอื่นถือว่าทรยศประชาชน แล้วคนที่ย้ายเข้าพรรคตัวเองกลายเป็นคนดี หูตาสว่างหรือไม่อย่างไร แบบนี้เป็นจิตใจของนักการเมืองเผด็จการหรือประชาธิปไตย ถ้าผมจะดำเนินคดีแล้วไม่ต้องมาขอ” นายคารมกล่าว

ส่วนนางบุญรื่น ศรีธเรศ ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยนางจุฑาพัตธน์ เมนะสวัสดิ์ ส.ส.อุดรธานี พรรค พท. แถลงข่าวชี้แจงกรณีจะลาออกจากพรรค พท.ไปพรรค ภท.ว่า ไม่จริง ไม่มีความคิดที่ย้ายไปพรรคการเมืองอื่น เป็น ส.ส.ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน จนมาถึงเพื่อไทย เป็นเวลารวม 23 ปี 

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรค พท. กล่าวถึง ส.ส.ของพรรคที่จะย้ายไปอยู่กับพรรค ภท.ว่า เป็นคนเก่าคนเดิมที่พรรคทราบอยู่แล้ว ตอนมีเรื่องไม่โหวตตามมติพรรค และคณะกรรมการจริยธรรมของพรรคก็ได้สอบสวนแล้ว ซึ่งเราไม่ห่วงเรื่องคนลาออก พรรคขออวยพรให้ไปดี และเราก็เตรียมคนไปต่อสู้ในพื้นที่นั้นๆ แล้ว

ส่วนความเคลื่อนไหวที่พรรคประชาธิปัตย์นั้น นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ และนายไชยยศ จิรเมธากร รองหัวหน้าพรรคภาคอีสาน นำคณะแกนนำ ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภาคเหนือและอีสานเข้ามอบกระเช้าผลไม้และข้าว เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่และให้กำลังใจนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป.  โดยนายจุรินทร์ได้กล่าวขอบคุณทีมภาคเหนือและภาคอีสาน ที่มั่นคงและเหนียวแน่นอยู่กับพรรค และยืนยันว่าพร้อมจับมือทำงานร่วมกัน ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการปักธง ปชป.ทั้งในภาคเหนือและอีสาน ท่ามกลางเสียงปรบมือและพูดคุยอย่างเป็นกันเอง

ปชป.เผชิญคลื่นใต้น้ำ

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรค ปชป. กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เตรียมลาออกทั้งคณะ เพื่อกดดันเปลี่ยนหัวหน้าพรรคว่า ไม่รู้ แต่ไม่มีอะไรจริงๆ ไม่รู้จริงๆ และไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ เพราะไม่มีอะไรต้องตรวจสอบ ยืนยันว่าไม่มีอะไร

มีรายงานจาก ปชป.แจ้งว่า ขณะนี้รองหัวหน้าพรรค 1 คน และรองเลขาธิการพรรคอีก 2 คน เดินสายขอให้ กก.บห.คนอื่นๆ ร่วมลาออกจากการเป็น กก.บห. เพื่อต้องการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยอ้างผลสำนักโพลต่างๆ ที่นายจุรินทร์ได้รับคะแนนนิยมค่อนข้างน้อย ประกอบกับการบริหารภายในพรรคนายจุรินทร์ค่อนข้างเอาแต่คนของตัวเองเป็นหลัก และปล่อยให้คนในครอบครัว รวมทั้งคนใกล้ชิดก้าวก่าย ซึ่งการเคลื่อนไหวของกลุ่มมีเป้าหมายรวบรวมเสียงให้ได้ครึ่งหนึ่งของคณะ กก.บห.ที่มีอยู่ หรือ 17 เสียง จากทั้งหมด 34 เสียง

“ขณะนี้ กก.บห.ที่ร่วมเป็นเสียงให้มีทั้งหมด 16 เสียง ขาดเพียง 2 เสียงเท่านั้น โดยเสียงที่ 17 ยื่นเงื่อนไขว่าจะใช้ชื่อได้ก็ต่อเมื่อเสียงที่ 18 พร้อมเป็นเสียงให้ โดยกลุ่มเห็นว่าขณะนี้สถานการณ์ในพรรคอึมครึม และถ้ายังปล่อยไปเช่นนี้จะยิ่งทำให้มี ส.ส.เกรดเอของพรรคไหลออกอีก จึงเห็นพ้องว่าต้องทำอะไรสักอย่าง จนเป็นที่มาของการเคลื่อนขบวนการครั้งนี้”

ขณะมีรายงานอีกด้านแจ้งว่า รองหัวหน้าพรรคที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จในพรรคพูดกับคนใกล้ชิดถึงการเคลื่อนไหวล้มนายจุรินทร์ว่า ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวทั้งสิ้น มีบางคนมาขอต่อรองเป็นรัฐมนตรี บางคนขอเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อในลำดับที่ปลอดภัยเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวพรรค สอท. หลังเจรจากับพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ไม่สำเร็จ เนื่องจากเงื่อนไขการวางตัวบุคคลไปอยู่ในตำแหน่งต่างๆ ไม่ลงตัว ล่าสุดมีรายงานข่าวพรรค สอท.นำโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค จะหารือกับพรรคชาติพัฒนากล้า เพื่อเจรจาถึงความเป็นไปได้ในการควบรวม คาดจะได้ความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ หากเงื่อนไขการพูดคุยไม่ลงตัวจะให้แกนนำแต่ละคนเลือกตัดสินใจทิศทางการเมืองของตนเองในการอยู่กับพรรคอื่น โดยแกนนำบางคนอาจขอเว้นวรรคทางการเมืองไว้ก่อน ส่วนว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่เตรียมวางตัวไว้ ต้องหาสังกัดพรรคในการลงสมัครต่อไป ซึ่งบางคนอาจไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย.        

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง