จับตาบารมีประยุทธ์ ส.ส.แห่ตามสมัคร‘รวมไทยสร้างชาติ’

จับตางานเปิดตัว "บิ๊กตู่" เข้า รทสช. พร้อมประกาศทิศทางก้าวต่อไปเพื่อคนไทยทั้งชาติ ขนมวลชนกว่าหมื่นเข้าร่วม ส.ส.ล็อตใหญ่กว่า 30 คนจ่อซบ รทสช. อีกกว่า  10 คนรอเวลาเหมาะสม ชูทีมนายก อบจ.กลจักรสำคัญสู้ศึกเลือกตั้ง "เสี่ยเฮ้ง" ลาออก ส.ส.พปชร.แล้วก่อนร่วมเปิดตัว "พท." ลั่นไม่มีผลต่อการเปิดโฉมแคนดิเดตนายกฯ เย้ยจะไม่ได้ที่นั่งอีสานสักคน ก.ก.อยากเห็นทุกพรรคไม่จับขั้วทหาร “อุตตม-สนธิรัตน์” จบดีลบ้านใหญ่ชัยภูมิชื่นมื่น โวปักธงยกจังหวัด

เมื่อวันที่ 8 มกราคม แหล่งข่าวจากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยถึงการจัดงานเปิดตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ภายใต้ชื่องาน "รวมใจ รวมไทยสร้างชาติ" วันจันทร์ที่ 9 ม.ค.66 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่ Exhibition Hall 1 (ชั้น G) ไฮไลต์จะอยู่ที่  พล.อ.ประยุทธ์จะพูดถึง Mission และทิศทางก้าวต่อไป เพื่อคนไทยทั้งชาติ และการเปิดตัวทีมสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ "คนรุ่นใหม่" และ "คนรุ่นใหญ่" โดยจะมีผู้ร่วมงานเต็ม Hall 1

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพรรค รทสช.ว่า  หลังจากนี้จะมี ส.ส.จากพรรคต่างๆ และผู้บริหารท้องถิ่น ทยอยเข้ามาสมทบตาม พล.อ.ประยุทธ์จำนวนมาก ในส่วนของนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เตรียมนำ ส.ส.พรรค พลังประชารัฐ (พปชร.) หลายคนมาร่วมงานกับ รทสช. ได้แก่  น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ, ร.ต.อ.ฐนภัทร  กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี, นายสมพงษ์ โสภณ ส.ส.ระยอง, นายรณเทพ อนุวัฒน์ ส.ส.ชลบุรี, นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์  ส.ส.ฉะเชิงเทรา, น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี, นายสาธิต อุ๋ยตระกูล ส.ส.เพชรบุรี, นายสมบัติ อำนาคะ ส.ส.สระบุรี, นายประสิทธิ์ มะหะหมัด ส.ส.กทม. รวมถึง นายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ

ขณะที่ ส.ส.พลังประชารัฐ ในสายของเสธ.หิ หรือนายหิมาลัย ผิวพรรณ ที่ประกาศตัวชัดเจนว่าพร้อมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ก็เตรียมมาร่วมงานด้วย ได้แก่ นายสุรชาติ  ศรีบุศกร ส.ส.พิจิตร, นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์,  นายมานัส อ่อนอ้าย ส.ส.พิษณุโลก ที่เตรียมส่งลูกชายลงสมัคร ส.ส.แทน

นอกจากนี้ยังมี น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.กทม., นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช, นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายศาตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา, นายพยม พรหมเพชร  ส.ส.สงขลา, ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.สงขลา และนางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ ที่ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐก่อนหน้า ต่างก็เตรียมย้ายมาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ

สำหรับ ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้แก่ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม, พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร  ส.ส.นครปฐม, น.ส.พิมภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช,  น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี, นายเจือ ราชสีห์  ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงนายสุพล จุลใส ส.ส.ชุมพร จากพรรครวมพลังด้วย

ส่วน ส.ส.จากพรรคพลังท้องถิ่นไท ประกอบด้วย นายชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายนพดล แก้วสุพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี และ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส. ชลบุรี

ขณะเดียวกันจะมีการเปิดตัวทีมนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเลือกตั้ง  ประกอบด้วย นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี, นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุง, นายนพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร, นายชัยยะ อังกินันทน์ นายก อบจ. เพชรบุรี, นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา  เป็นต้น

'เสี่ยเฮ้ง' ไขก๊อก พปชร.ร่วมเปิดตัว

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับ ส.ส.ที่จะมาร่วมเปิดตัวในวันที่ 9 ม.ค. นับรวมแล้วมีมากกว่า 30 คน อย่างไรก็ตามยังมี ส.ส.อีกกว่า 10 คนที่ยังไม่ขอเปิดตัวในวันที่ 9 ม.ค. เนื่องจากต้องการรอจังหวะทางการเมืองที่เหมาะสมมากกว่านี้ ทำให้มี ส.ส.ที่จะเข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติแล้วกว่า 40  คนด้วยกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ได้ทำหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร  เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.65 เพื่อขอลาออกจาก ส.ส.ชลบุรี พรรคพปชร. โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.66 ทั้งนี้ สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ได้ลงหนังสือรับใบลาออกดังกล่าวเมื่อวันที่  6 มกราคม เวลา 10.29 น.

ทั้งนี้ มีรายข่าวแจ้งว่าในช่วงเช้าวันที่ 9 ม.ค. นายสุชาติ จะได้ดำเนินการลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร.ต่อไป เพื่อเตรียมร่วมงานกับพรรค รทสช. และจะนำทีมงานและผู้สมัคร  ส.ส.ไปร่วมกิจกรรมเปิดตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงเย็นวันเดียวกันที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งคาดว่าจะมีมวลชนผู้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ รวมถึงนายสุชาติ และแกนนำพรรคในแต่ละพื้นที่มาร่วมงานไม่ต่ำกว่าหมื่นคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชาติได้รับการวางบทบาทให้เป็นแม่ทัพคุมพื้นที่ภาคตะวันออกและพื้นที่ภาคกลางในการเลือกตั้งครั้งต่อไป โดยในส่วนของ จ.ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา และเพชรบุรี ขณะนี้วางตัวผู้สมัคร ส.ส.ครบหมดแล้ว

นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีวันที่ 9 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมเปิดตัวเข้าพรรค รทสช.ว่า ตนก็จะเดินทางไปให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ด้วย โดยจะอยู่จนจบงานเพื่อรอฟังท่านนายกรัฐมนตรีปราศรัยด้วย ตนตั้งใจว่าจะอยู่จนสภาปิดสมัยประชุมคือวันที่ 28 ก.พ. หลังจากปิดสมัยประชุมก็จะไปลาออกจากพรรคเก่าและไปสมัครสมาชิกพรรคใหม่ เพื่อที่จะได้ผ่านกฎหมายสำคัญอีกหลายฉบับก่อน เพราะหากเราลาออกก็จะไม่มี ส.ส.ที่จะผ่านกฎหมายได้ เสียดายโอกาส โดยจะมี ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 30 คน ทั้งจากพรรค พปชร.และพรรคอื่นๆ  ที่จะมีความประสงค์จะไปร่วมงานกับพรรค รทสช.

เมื่อถามถึงกรณีที่นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค พปชร. ระบุว่าคำพูดของนายสายัณห์เคยเชื่อได้หรือไม่ จากกรณีที่ระบุว่าจะมี ส.ส.และว่าที่ผู้สมัครจากภาคใต้ รวมกว่า 30 คนย้ายไปร่วมงานกับพรรค รทสช. นายสายัณห์กล่าววา เราอย่าพูดถึงดีกว่า เขาก็เสียเอง จังหวัดเดียวกันไม่ใส่ร้ายป้ายสีดีกว่า ให้เขาพูดคนเดียวไป เพราะคำพูดเขาคงไม่มีใครฟังอยู่แล้ว เขาเป็นคนที่ไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันในพื้นที่ ไม่สามารถนับได้เลยว่าใน  4 ปี เขาทำอะไรให้ประชาชนบ้าง ไม่อยากพูดถึง อยู่บ้านเดียวกัน

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีวันที่ 9 ม.ค. พรรค รทสช.จะเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นการกระตุ้นให้พรรคเพื่อไทยเร่งเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ว่า ไม่มีผลกับพรรคเพื่อไทย  เขาจะเปิดตัวก็เปิดไป พรรคเพื่อไทยกำหนดจังหวะเวลาที่เหมาะสมจะเปิดตัวว่าที่แคนดิเดตนายกฯ เอาไว้แล้ว โดยหลักพรรคเพื่อไทยอาจจะเปิดตัวแคนดิเดตก่อนรัฐบาลครบวาระ 23 มี.ค. ถือเป็นกลไกต้องนำไปรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง แต่ถ้ามีการยุบสภาเราก็พร้อมเปิดตัวเลย 

พท.เย้ยไม่ได้ ส.ส.อีสานสักคน

 “ถ้ามีสัญญาณของ ส.ส.ที่ประกาศตัวว่าจะไปอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกและไปอยู่พรรคใหม่ มีผลให้สมาชิกภาพหมดไป สัญญาณนั้นค่อนข้างชัดว่าจะไม่ยุบสภา เพราะเขาเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าวันที่  6-7 กุมภาพันธ์ ส.ส.พวกนั้นยังอยู่ และจะให้อยู่ถึงวันที่ 28  กุมภาพันธ์เพื่อทำหน้าที่ในสภา คือสัญญาณยุบสภา  100% เพราะสามารถสังกัดพรรคใหม่ทันภายใน 30 วัน” นพ.ชลน่านกล่าว 

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท. กล่าวว่า ได้เคยอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์เอื้อประโยชน์ให้เจ้าสัว มีการซื้อขายที่ดิน บ่อตกปลาย่านบางบอนกว่า 600 ล้านบาท และครั้งนี้ทำไม พล.อ.ประยุทธ์ต้องไปเปิดตัวที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพราะค่าใช้สถานที่แพง คงไม่น่าจะต่ำกว่า 3 พันบาท มีการจ่ายค่าใช้สถานที่หรือไม่ ตอนเปิดตัวพรรค รทสช.ที่สโมสรราชพฤกษ์ เป็นของเจ้าสัวชื่อดังอีก ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่ เรื่องนี้ขอฝาก กกต.ไปดูการเปิดตัว มีการจัดเลี้ยงหรือไม่ สำหรับพรรค รทสช.ในภาคอีสานแพ้แน่นอน เป็นศูนย์ ไม่ได้ ส.ส.สักเสียงเดียว ไม่รู้พล.อ.ประยุทธ์ไปสิงห์บุรีทำไมซ้ำๆ หลายรอบ ตั้งแต่เป็นนายกฯ 8 ปีไม่เคยไปมหาสารคามเลย ซึ่งชาวบ้านเขารอต้อนรับอยู่ แต่คงไม่ได้มีดอกไม้มารอต้อนรับแน่นอน

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงงานเปิดตัวดังกล่าวว่า ภาพลักษณ์คงไม่เปลี่ยนจากเดิมหรือมีผลกระทบอะไรมาก ตราบใดที่ตัว พล.อ.ประยุทธ์สืบทอดอำนาจมา ก็เหมือนกับเหล้าเก่าในขวดใหม่ อย่างที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคได้ให้สัมภาษณ์ไป สัญญาณที่ตนอยากรอดูชัดๆ คือสัญญาณการจับขั้วตั้งรัฐบาล ซึ่งทุกพรรคต่างออกมาบอกว่าให้รอดูผลเลือกตั้งจำนวนพื้นที่ในสภาก่อน ตอนนี้ก็มีแต่ ก.ก.ที่ประกาศชัดเจนว่าเราจะไม่จับขั้วกับการสืบทอดอำนาจของทหาร เชื่อว่าการเเสดงตัวชัดของแต่ละพรรคก่อนการเลือกตั้ง จะส่งผลต่อการตัดสินใจในการลงคะแนน

เมื่อถามว่า หมายความว่าก่อนเลือกตั้งต้องประกาศให้ชัดเลยใช่หรือไม่ว่าจะไม่จับมือกับพรรค พล.อ.ประยุทธ์  พรรค พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค  พปชร. หรือพรรคทหาร นายณัฐพงษ์ตอบว่าใช่ เพราะตอนลงคะแนนหย่อนบัตรประชาชนจะได้ตัดสินใจได้ชัดเจน เมื่อถามย้ำว่ารวมทุกพรรคใช่หรือไม่ คือพรรคเพื่อไทย ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ก้าวไกล เพื่อไทย ที่ควรประกาศไม่จับมือพรรคทหารก่อนการเลือกตั้ง นายณัฐพงษ์ตอบว่า คงก้าวล่วงพรรคอื่นไม่ได้ แต่ถ้าเป็นตัวเราคือก้าวไกลก็ประกาศชัดไปแล้ว

วันเดียวกัน เวลา 14.00 น. “จุรินทร์ออนทัวร์  บางคอแหลม” นำโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์  พร้อมด้วยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ กทม. ศ.ดร.สุชัชวีร์  สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. พรรค ปชป. นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค พร้อมด้วยสมาชิกพรรค เดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนที่ชุมชนหลังตลาดเก่า วัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม โดยมีนายอภิมุข ฉันทวานิช เป็นผู้ประสานงานลงพื้นที่กรุงเทพฯ

จากนั้นนายจุรินทร์ได้กล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็หวังและมั่นใจว่า พี่น้องจะให้โอกาสประชาธิปัตย์ได้ปักธงผู้แทนราษฎรในพื้นที่นี้ พร้อมกับแนะนำทายาททางการเมืองของนายสมเกียรติ ฉันทวานิช อดีต  ส.ส.ประชาธิปัตย์ คือนายอภิมุข ฉันทวานิช อดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) 3 สมัย มีพื้นฐานการศึกษาดี  พร้อมที่จะเข้าไปทำหน้าที่เป็น ส.ส.ได้ หากพี่น้องช่วยกันสนับสนุน มั่นใจว่าเที่ยวหน้าประชาธิปัตย์ได้ปักธงในกรุงเทพฯ แน่นอน และเราก็มีโอกาสที่จะได้ในหลายพื้นที่  และในพื้นที่นี้เราก็ถือว่าเป็นพื้นที่เป้าหมายอีกพื้นที่หนึ่ง

สอท.จบดีลบ้านใหญ่ชัยภูมิ

ที่ จ.ตรัง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรค ปชป. เปิดบ้านให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์จะเข้าร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติจะมีผลกับการอภิปรายหรือไม่นั้น มองว่าโดยหลักทั่วไปน่าจะไม่มีผลอะไร เพราะการเข้าไปร่วมกับ รทสช.เป็นการแสดงความชัดเจนทางด้านการเมือง แต่มันจะมีผลต่อการเลือกตั้งในครั้งหน้าซึ่งยังมาไม่ถึง สำหรับการจัดตั้งรัฐบาลครั้งหน้านั้น พรรคประชาธิปัตย์ กับเพื่อไทย ตั้งแต่นายกฯ ที่เคยต่อสู้กันมาตั้งแต่ปี 44 จนถึง ปี 56 คิดไม่ตรงกัน วิธีคิดแนวคิดการบริหารก็ไม่ตรงกัน ที่สำคัญเพื่อไทยเขามีอเจนดาที่ชัดเจน คุณทักษิณประกาศจะกลับประเทศค่อนข้างชัด

"เที่ยวนี้ส่งลูกสาวตัวเอง คนใกล้ชิดมากุมบังเหียนหัวของพรรคเพื่อไทย เราก็ไม่รู้ว่าโดยแนวคิดที่แท้จริงเขาคิดอะไร เพราะฉะนั้นโอกาสตรงนั้นเรายังพูดไม่ได้ แต่โดยแนวคิดพื้นฐานไม่ตรงกัน ซึ่งทุกคนต้องบอกว่ารอดูผลการเลือกตั้ง ผลการเลือกตั้งจะเป็นตัวชี้ แต่โดยความคิดส่วนตัวการร่วมกับพรรคเพื่อไทย ณ วันนี้แนวคิดยังไม่ตรงกัน จุดยืนอุดมการณ์ไม่ตรงกัน" นายสาทิตย์กล่าว

ที่อำเภอเมืองชัยภูมิ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์  เลขาธิการพรรค และนายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรคฝ่ายการเมือง ร่วมพบปะกับนายอร่าม โล่ห์วีระ นายก อบจ.ชัยภูมิ อดีตรัฐมนตรีและอดีต ส.ส.ชัยภูมิหลายสมัย  เพื่อหารือแผนการเลือกตั้งและการจัดทัพผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรค สอท.ใน จ.ชัยภูมิ และพื้นที่อีสานใต้ โดยนายอุตตมกล่าวว่า การพูดคุยครั้งนี้มีความลงตัวและพร้อมที่จะเดินหน้าไปด้วยกัน ตนและพรรค สอท.รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้บุคคลที่มีชื่อชั้นและเป็นตัวจริงทางการเมืองของ จ.ชัยภูมิเข้ามาร่วมทำงานกับพรรค เชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์ทางการเมืองของนายอร่าม จะเข้ามาเสริมให้การทำงานในพื้นที่ชัยภูมิและพื้นที่อีสานใต้ของ สอท.เป็นที่จับตา และตอบโจทย์ประชาชนไม่เป็นรองพรรคใด

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า การเข้ามาของนายอร่ามจะทำให้พรรคมีความแข็งแกร่งในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิและพื้นที่อีสานใต้มากยิ่งขึ้น โดยมั่นใจว่าในจังหวัดชัยภูมิภายใต้การขับเคลื่อนของบ้านใหญ่อย่างนายอร่าม จะทำให้ สอท.สามารถปักธงยกจังหวัดในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิและพื้นที่อีสานใต้ให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ซึ่งในเร็วๆ นี้พรรคจะมีการเปิดตัวนายอร่ามและผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรค สอท.ในชัยภูมิอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรค พปชร. เปิดเผยว่า หลังจากพบเห็นป้ายพรรคเพื่อไทยติดตามท้องถนนทั่วไป ซึ่งมีแต่รูป น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โดยไม่มีรูป นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเลย ทำให้รู้สึกสะดุดตา เมื่อเปรียบเทียบกับป้ายพรรคการเมืองอื่นที่มักจะมีรูปหัวหน้าพรรคกันทั้งนั้น จึงมีประเด็นที่ควรตรวจสอบว่า การติดป้ายทั้ง 8 ภาพเพื่อชูนโยบาย 8  ด้านนั้น เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตราต่างๆ หรือไม่ จะเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 21 วรรคสี่ ที่ระบุส่วนหนึ่งว่า “ให้หัวหน้าพรรคการเมืองเป็นผู้แทนของพรรคการเมืองในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอก” หรือไม่ ได้ส่งหนังสือไปทางไปรษณีย์ถึง กกต.เพื่อขอให้ตรวจสอบแล้ว

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้า พท.  กล่าวว่า นายเรืองไกรใส่ร้ายร้องเท็จตาม พ.ร.ป.พรรคการเมืองมาตรา 101 หรือไม่ ขณะที่ป้ายรณรงค์หาเสียงนั้น ตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการจัดทำป้ายรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งนั้น สามารถใส่ภาพหัวหน้าพรรค แคนดิเดตนายกฯ ผู้สมัครหรือสมาชิกพรรค น.ส.แพทองธารเป็นสมาชิกพรรคประเภทตลอดชีพ ไม่ผิดระเบียบ กกต.แต่อย่างใด.