'พาณิชย์ ลดราคา'ลุยต่อ! ช่วยคนกรุงเทพฯถึง30มิ.ย.

พาณิชย์ลุยต่อ! ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนต่อเนื่อง จัดโครงการ “พาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน @กรุงเทพฯ” เดินหน้าจำหน่ายสินค้าลดค่าครองชีพ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 ไปจนถึงช่วงวันที่ 30  มิถุนายนนี้           

กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์     นำสินค้าอุปโภคบริโภคกว่า 6 หมวดสินค้า กว่า 80 รายการ ลดสูงสุด 62% มาจำหน่ายให้กับพี่น้องประชาชนทั่วกรุงเทพฯ ทั้ง 50 เขต นอกจากนี้ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน นายกรนิจ โนนจุ้ย ยังได้ติดตามสถานการณ์มะนาวแพง  โดยนำมะนาวมาจำหน่ายให้กับพี่น้องประชาชนในราคาถูกกว่าท้องตลาดในช่วงหน้ามะนาวแพง คาดลดค่าครองชีพตลอดโครงการไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท  

ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันถึงแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงต่อเนื่อง ที่ทำให้ราคาสินค้าในตลาดทรงตัว แต่สินค้าอาหารและเครื่องดื่มยังคงมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ ที่เกิดจากราคาสินค้าน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นทุกประเภทตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงของแหล่งวัตถุดิบในการผลิตสินค้าต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า แก๊สหุงต้ม หรือการขนส่ง ที่เป็นต้นทุนในการผลิตสินค้าต่างๆ ส่งผลให้ราคาสินค้ายังคงมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 มีการประกาศปรับราคาสินค้าขึ้น 1-2 บาท เช่น นมถั่วเหลือง น้ำตาล ซอสปรุงรส เป็นต้น นอกจากนี้ ความเสี่ยงจากปัญหาสถานการณ์ภัยแล้งที่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย อาจจะส่งผลต่อสินค้าเกษตร สินค้าปศุสัตว์ หรือสินค้าอุปโภคบริโภคด้วย

ในการนี้ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปากท้องของพี่น้องประชาชนโดยตรง จึงได้จัดโครงการ “พาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน @กรุงเทพฯ” และพยายามจัดสรรให้มีจุดจำหน่ายเข้าไปทั่วถึงในชุมชนเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด

โดยมีจุดจำหน่าย 100 จุด แบ่งเป็น รถโมบาย 25 คัน และจุดจำหน่าย 75 จุด และจะดำเนินการยาวต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 นอกจากนี้ ในโครงการยังได้นำมะนาวมาจำหน่ายเพื่อแก้ปัญหามะนาวแพงในช่วงหน้าแล้ง โดย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน นายกรนิจ โนนจุ้ย ได้ติดตามสถานการณ์ราคาของมะนาวที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยนำมาจำหน่าย ในราคาลูกละ 3 บาท

นอกจากนี้ ยังมีสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ มากมายกว่า 6 หมวดสินค้า 85 รายการ ลดสูงสุด 62% โดยมีสินค้าไฮไลต์ อาทิ ไข่ไก่เบอร์ M แผงละ 90 บาท, น้ำตาลทราย กก.ละ 18 บาท, หมูเนื้อแดง กก.ละ 145 บาท, ไก่น่องสะโพก กก.ละ 50 บาท, น้ำมันพืชปาล์ม ขวดละ 42 บาท, ข้าวขาว 5% ถุง 5 กก. 80 บาท, ข้าวหอมไทย ถุง 5 กก. 100 บาท และยังมีสินค้าจากเกษตรกร อาทิ มะม่วงฟ้าลั่น กก.ละ 12 บาท โดยคาดว่าตลอดโครงการนี้จะช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนได้ไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท

ประชาชนสามารถเช็กตารางการจำหน่ายสินค้ารายวันได้ที่  Application Line โดยค้นหาคำว่า @mobilepanich หรือค้นหาคำว่า “โมบายพาณิชย์” ใน Google โดยใน Application นั้นจะมีรายละเอียดแจ้งให้ทราบว่าวันไหนจะไปจำหน่ายสินค้าที่ใด และสามารถตรวจเช็กราคาสินค้าและรายการสินค้าล่วงหน้าได้อีกด้วย หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ สามารถแจ้งมาได้ที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง