รบ.โชว์ผลงาน ยอดคนเตะฝุ่น ตํ่าสุด!รอบ4ปี

ไตรศุลี ไตรสรณกุลรัฐบาลโวตัวเลขอัตราการว่างงานของคนไทยต่ำกว่า 1% เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 4 ปี ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม มี.ค.66 อยู่ที่ระดับ 97.8 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และสูงสุดในรอบ 10 ปี นายกฯ ปลื้มตลาดเกาหลีใต้นิยมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไทยมูลค่าการส่งออก 1.92 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 57.1% โชว์ผลงานหาเงินได้ ใช้เงินเป็น ยกระดับระบบโลจิสติกส์ไทย  ประเดิมขบวนรถไฟขนทุเรียนแช่เย็น ไทย ลาว จีน

เมื่อวันอาทิตย์ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   กล่าวว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.)  ได้รายงานถึงสถานการณ์ด้านแรงงานในช่วงต้นปี 66 ที่สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยผู้มีงานทำมีจำนวนมากขึ้น ส่วนผู้ว่างงานก็ลดลง สสช.ระบุว่า ณ เดือน ก.พ.66 ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งจัดอยู่ในเกณฑ์ของกลุ่มที่เป็นกำลังแรงงานอยู่ 58.81 ล้านคน โดยในจำนวนนี้เป็นผู้อยู่ในกำลังแรงงาน 40.49 ล้านคน อยู่นอกกำลังแรงงาน เช่น อยู่ระหว่างเรียนหนังสือ เป็นแม่บ้านทำงานบ้าน เป็นผู้พิการ ทุพพลภาพ 18.32 ล้านคน ซึ่งเมื่อแยกพิจารณาเฉพาะผู้อยู่ในกำลังแรงงานพบว่าเป็นผู้มีงานทำ 39.91 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 39.81 ล้านคนเมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 65 เป็นผู้ว่างงาน 3.6 แสนคน หรือร้อยละ 0.9 ของผู้อยู่ในกำลังแรงงาน เทียบกับ 3.9 แสนคน หรือร้อยละ 1 ณ สิ้นปี 65 ส่วนที่เหลืออีก 2.2 แสนคน เป็นผู้อยู่ระหว่างการรอฤดูกาล

 “อัตราการว่างงานที่ระดับร้อยละ 0.9  นับเป็นอัตราที่ต่ำที่สุด และต่ำกว่าร้อยละ 1 ครั้งแรกในรอบเกือบ 4 ปี ซึ่งระบบกำลังแรงงานไทยเคยมีอยู่ว่างงานต่ำกว่าร้อยละ 1 ครั้งล่าสุดคือเดือน ต.ค.62 ที่มีอัตราการว่างงานร้อยละ 0.9 เช่นกัน ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงที่เศรษฐกิจมีการเติบโตเป็นปกติ และนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงที่ทั่วโลกเกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในต้นปี 63”

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า จำนวนผู้มีงานทำที่เพิ่มขึ้นและผู้ว่างงานที่ลดลง เข้าไปสู่ระดับเดียวกับก่อนเกิดโควิด-19 เป็นไปตามเป้าหมายและนโยบายที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้มอบหมายแก่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าต้องให้ความสำคัญสูงสุดกับการรักษาการมีงานทำและการมีรายได้ของประชาชน

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนมีนาคม 2566 โดยผลปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ระดับ 97.8 ซึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และสูงสุดในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2556 โดยองค์ประกอบของค่าดัชนีฯ พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทุกองค์ประกอบ ทั้งดัชนีฯ คำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ ยกเว้นต้นทุนประกอบการ

ทั้งนี้ ส.อ.ท.คาดการณ์ว่าใน 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมจะอยู่ที่ระดับ 106.3 เป็นผลมาจากเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ รวมไปถึงการเปิดประเทศของจีน ซึ่งเป็นแรงสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกของไทยในช่วงครึ่งปีหลัง นายอนุชากล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ยินดีกับแนวโน้มการส่งออกสินค้าไทยที่เพิ่มมากขึ้น จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ รวมทั้งรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโซล เกาหลีใต้ สินค้าไทยประเภทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดเกาหลีใต้ จากกระแสความนิยมของอาหารไทยที่แผ่ขยายไปยังทั่วโลก โดยจากการจัดอันดับทางด้านอาหารและเครื่องดื่มในปีที่ผ่านมา มีทั้งเมนูอาหาร เครื่องดื่ม หรือขนมของไทย ติดอันดับความนิยมอยู่เสมอ  โดยในปี 2565 เกาหลีใต้นำเข้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากไทย มูลค่าประมาณ 1.92 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 57.1% และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 “นายกรัฐมนตรียินดีต่อตัวเลขการส่งออกสินค้าของไทย ซึ่งความนิยมสินค้าไทยในรูปแบบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในเกาหลีใต้ ถือเป็นอีกโอกาสสำคัญของสินค้าไทย เพิ่มความนิยม ส่งผลเกื้อกูลต่อยอดความนิยมผ่านซอฟต์เพาเวอร์ทางด้านอาหารไทย" นายอนุชากล่าว

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่นโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ความสำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้ทัดเทียมนานาชาติ และก้าวไปสู่การเป็นผู้นำในภูมิภาค มุ่งเน้นหาเงินได้อย่างยั่งยืน และพัฒนาให้คุ้มค่าเงินที่จะลงทุนเสมอ ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีพิธีเปิดเดินขบวนรถสินค้าคอนเทนเนอร์ ส่งออกทุเรียนจากภาคตะวันออกไทยสู่ประเทศจีน ด้วยรถไฟขบวนพิเศษ "มาบตาพุด-สถานีท่านาแล้ง" สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือ สปป.ลาว ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทยกับภาคเอกชน โดย เก้าเจริญ เทรน ทรานสปอร์ต จำกัด เริ่มขนส่งจากมาบตาพุด จังหวัดระยอง ถึงจังหวัดหนองคาย และขนส่งต่อไปยังสถานีท่านาแล้งใน สปป.ลาว จากนั้นเชื่อมต่อการขนส่งไปที่ Transshipment yard จุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าลาว-จีน ไปยังปลายทางเมืองกว่างโจว ประเทศจีน เพื่อส่งเสริมการขนส่งสินค้า แก้ปัญหาผลไม้ค้างด่านจากแหลมฉบังถึงคุนหมิงใน 5 วัน

ในการเปิดเดินขบวนรถสินค้าคอนเทนเนอร์ขนส่งทุเรียน ด้วยรถไฟขบวนพิเศษมาบตาพุด-สถานีท่านาแล้ง สปป.ลาวครั้งนี้ ได้มีการขนส่งทุเรียนจำนวน 25 ตู้ ตู้ละ 24 ตัน รวมจำนวนทั้งสิ้น 600 ตัน โดยตู้คอนเทนเนอร์มีการควบคุมอุณหภูมิพร้อมติดตั้งเครื่องทำความเย็นในตัว

"ขบวนรถไฟขนทุเรียนแช่เย็นนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นโบแดงของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่หาเงินได้ ใช้เงินในการพัฒนาเส้นทางขนส่งสินค้าระหว่างประเทศได้แล้วจริงๆ โดยนำมาซึ่งประโยชน์ในหลายมิติ ตั้งแต่โครงสร้างทางเศรษฐกิจไปจนถึงชาวสวน นอกจากพี่น้องเกษตรกรและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ยังกระตุ้นให้เกิดการลงทุน การขยายกิจการ พัฒนาอาชีพ กระจายรายได้สู่ชุมชนตลอดเส้นทาง และภาพรวมของประเทศเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน พร้อมกับมุ่งมั่นในการสร้างงาน สร้างเม็ดเงินเข้ากระเป๋าให้ประชาชนเพิ่มขึ้น" น.ส.ทิพานัน กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง