ซ้อมนับคะแนน ไม่เกิน5ทุ่มรู้ผล การันตีโปร่งใส

กกต.ซักซ้อม "ECT  Report" คาดไม่เกิน 5 ทุ่มรู้ผลเลือกตั้งไม่เป็นทางการ การันตีโปร่งใสตรวจสอบได้ แจงหนังสือแนะนำผู้สมัครคลาดเคลื่อนจากระบบจัดพิมพ์ สั่งทุกจังหวัดเร่งตรวจสอบ พร้อมแก้ไขข้อผิดพลาดเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรแล้ว จ่อถกให้คนไทยกลับจากซูดานใช้สิทธิ์ 

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 27 เมษายน นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เชิญสื่อมวลชน, ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ,   ผู้แทนสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ และผู้แทนบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติฯ ร่วมหารือและซักซ้อมการเชื่อมต่อระบบผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.อย่างไม่เป็นทางการ หรือ ECT Report เพื่อนำเสนอรายงานผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.อย่างไม่เป็นทางการ วันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.2566  ได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ​ เริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป

โดยนายแสวงกล่าวว่า​ คาดว่าจะทราบผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.อย่างไม่เป็นทางการครบทุกเขตไม่เกินเวลา 23.00 น.ของวันเลือกตั้ง ยืนยันการนับคะแนนมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ซึ่งผู้ที่รวมคะแนนเป็นเจ้าพนักงานการเลือกตั้งตามกฎหมาย และการแก้ไขคะแนนไม่สามารถทำได้เพียงคนเดียว เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ 9 คน ที่จะทำหน้าที่บันทึกคะแนนลงในระบบ ทั้งนี้ มั่นใจว่าการรายงานผลจะมีความรวดเร็ว มีความถูกต้องแม่นยำกว่าการรายงานผลแบบเดิม

สำหรับกระบวนการรายงานผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.อย่างไม่เป็นทางการ จะเริ่มต้นหลังจากปิดหีบบัตรเลือกตั้งและนับคะแนน เมื่อนับคะแนนเสร็จสิ้น ประธานกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจะถ่ายรูปแบบรายงานผลการเลือกตั้งนับคะแนน ส.ส.5/18 จากนั้นส่งมายังศูนย์รวมคะแนนอำเภอหรือเขตปกครอง เพื่อทำการตรวจสอบอีกครั้ง ขณะเดียวกันประธานกรรมการประจำหน่วยจะนำแบบ ส.ส.5/18 ติดหน้าหน่วยเลือกตั้ง และเมื่อศูนย์รวมคะแนนประจำอำเภอตรวจสอบเสร็จสิ้น จะส่งมายังระบบรายงานผลกลาง จากนั้นเข้าสู่ระบบของ ECT Report เพื่อนำคะแนนออกมาเผยแพร่ตามช่องทางต่างๆ ทั้งนี้ ในวันที่ 14 พ.ค.นี้ สื่อมวลชนสามารถเข้ารับข้อมูลการรายงานผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ที่บริเวณหน้าสำนักงาน กกต.

นายแสวงให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการเผยแพร่คลิปซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับเอกสารแจ้งเจ้าบ้าน ที่สำนักงาน กกต.จัดทำถึงเจ้าบ้าน เพื่อแจ้งรายละเอียดข้อมูลนโยบายของพรรคการเมืองและผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ตรงกันว่า ทาง กกต.ตรวจสอบแล้ว พบว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งจะมีการตรวจสอบว่าใครเป็นผู้โพสต์ต่อไป ยืนยันว่าในเรื่องการแจ้งใช้สิทธิ์ของเจ้าบ้านไม่มีปัญหาอะไร ส่วนที่มีข่าวว่าเอกสารแจ้งเจ้าบ้านไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น วันนี้ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดตรวจสอบว่าเอกสารถูกต้องหรือไม่ เพราะในขั้นตอนการจัดพิมพ์มีการคลาดเคลื่อนกันได้ สำหรับเรื่องร้องเรียนทุจริตเลือกตั้ง ข้อมูลเมื่อวันที่ 26 เม.ย. มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาทั้งหมด 43 เรื่อง โดยเรื่องที่ร้องเรียนมากที่สุดคือการทำลายป้ายหาเสียง

เมื่อถามว่า กระทรวงมหาดไทยประชาสัมพันธ์กับประชาชนว่า หากไม่ได้นำบัตรประชาชนตัวจริงมาในวันเลือกตั้ง สามารถเปิดแอป ThaiD (ไทยดี) ยืนยันตัวตนได้นั้น นายแสวงกล่าวว่า ในวันเลือกตั้งประชาชนสามารถใช้แอพ ThaiD ได้ แต่ต้องเปิดจากแอป ไม่ใช่จากแคปหน้าจอโทรศัพท์ เพื่อป้องกันการทุจริตและป้องกันการเปิดจากเว็บไซต์อื่นหรือการบันทึกภาพหน้าจอ ซึ่ง กกต.ต้องซักซ้อมกับกรรมการประจำหน่วยอีกครั้ง

ส่วนที่มีการร้องเรียนจากประชาชนว่าลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าไว้ในวันที่ 7 พ.ค. แต่ไม่สามารถไปใช้สิทธิ์ล่วงหน้าได้นั้น นายแสวงกล่าวว่า ในกฎหมายให้เลือกตั้งในวันที่ตัวเองได้ลงทะเบียนไว้ เพราะได้จัดทำบัญชีรายชื่อผู้ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าไว้แล้ว ซึ่งกรณีนี้คล้ายกับการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่ประเทศซูดาน ที่มีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร 94 คน แต่รับกลับมาที่ประเทศไทย 91 คน โดยวันที่ 28 เม.ย.นี้ กกต.จะพิจารณาว่าคนเหล่านี้สามารถลงทะเบียนเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.ได้หรือไม่ เพราะประเทศซูดานได้งดการลงคะแนนไปแล้วเนื่องจากเกิดเหตุเฉพาะพื้นที่

เลขาธิการ กกต.กล่าวถึงกรณีพบความผิดพลาดในเอกสารแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่จัดส่งไปยังสถานทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา คลาดเคลื่อนไปอยู่อีกพรรคในลำดับถัดไปว่า สถานทูตได้ดำเนินการแก้ไขแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าแบบหนังสือแนะนำตัวผู้สมัครต้นฉบับจัดพิมพ์ถูกต้อง แต่เกิดความคลาดเคลื่อนในกระบวนการจัดพิมพ์ ส่งผลให้ชื่อพรรคการเมืองเลื่อนไปอยู่ในช่องแนะนำตัวผู้สมัครของพรรคอื่น ทำให้เข้าใจว่าผู้สมัครคนนั้นสังกัดอยู่ 2 พรรคการเมือง จึงได้มีการสั่งให้ทั่วประเทศมีการตรวจสอบและไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้ขึ้นอีก ทั้งนี้ ภาพรวมที่ได้มีการประชุมกับกรมการกงสุลไม่มีปัญหาในเรื่องใด โดยวันที่ 28 เม.ย. ​สาธารณรัฐเช็กจะส่งถุงเมล์บัตรเลือกตั้งมาถึงไทยเป็นประเทศแรก ส่วนประเทศอื่นที่ไม่มีเที่ยวบินตรงมาถึงประเทศไทยนั้น ทูตจะนำจัดส่งถุงเมล์จนถึงเที่ยวบินที่มาถึงประเทศไทย

ส่วนการจัดส่งบัตรเลือกในการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 7 พ.ค.นั้น วันที่ 1 พ.ค. กกต.จะจัดส่งบัตรเลือกตั้งที่ศูนย์ใหญ่ไปรษณีย์ โดยมีเจ้าหน้าที่ กกต. ตำรวจ และไปรษณีย์ ร่วมดำเนินการในการจัดส่ง

ด้านนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. กล่าวถึงช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งว่า มีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง ซึ่งพยายามแก้ไขให้เร็วที่สุด เพื่อให้ไม่ไปกระทบกับประเด็นอื่นๆ เราขอเรียนว่า เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงาน และกรอบเวลาที่เหลืออยู่ ตอนนี้เป็นช่วงการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร และจะมีเลือกตั้งนอกเขตขึ้น วันที่ 7 พ.ค. ตอนนี้มีสิ่งที่ต้องคำนึงและปฏิบัติให้ดีที่สุด

ส่วนกรณีเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่พบว่าเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครผิดพลาดนั้น นายอิทธิพรกล่าวว่า กรณีที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้มีการสลับรูปกันจริง และได้แก้ไขให้ถูกต้องส่งไปยังผู้มีสิทธิเลือกตั้งแล้ว รวมถึงกรณีที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.        

เมื่อถามว่า มีแนวทางการเยียวยากรณีความผิดพลาดในการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรหรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า คงไม่ถือว่าเป็นคำร้องที่จะขอเยียวยา แต่ถ้าใครเห็นว่าการกระทำของ กกต.ไม่ถูกต้อง มีสิทธิ์ที่จะยื่นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ส่วนผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรมีความกังวลเรื่องบัตรว่าอาจจะมีการสลับบัตรแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อนั้น ก่อนเราส่งไป เราได้มีคู่มือการปฏิบัติอยู่ในนั้น ถ้าอ่านเชื่อมั่นว่าปฏิบัติได้ถูกต้อง

ส่วนกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เข้ายื่นร้องเรียนเรื่องการซื้อเสียงนั้น นายอิทธิพรกล่าวว่า ผู้ที่สนใจเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบเรื่องการทุจริตสามารถยื่นร้องเข้ามาได้ แต่เบื้องต้นเรารับทุกคำร้องที่มายื่น

ขณะที่นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ขณะนี้บัตรเลือกตั้งออกมาแล้ว พบว่าตัวหนังสือไม่ได้ใหญ่มาก ฉะนั้นใครที่สายตาสั้นอาจจะต้องเอาแว่นไปด้วย บางครั้งตัวเล็กเกินไปมองไม่เห็น แต่เมื่อบัตรทำออกมาแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้ ซึ่ง กกต.ต้องเร่งทำความเข้าใจประชาชนให้ระมัดระวังเวลาลงคะแนน ขณะที่บัตรสีม่วง ซึ่งเป็นบัตรผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ไม่ค่อยสับสนเท่าไหร่

วันเดียวกัน นายชูวิทย์ได้เดินทางไปร้องเรียนต่อ กกต. โดยอ้างว่ามีหลักฐานการซื้อเสียงของผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย พร้อมเปิดเผยด้วยว่า วันนี้มีการใช้เงินซื้อเสียงเกิดขึ้นทั่วประเทศไทย สูงถึง 4,000 บาทแล้วที่ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ส่วนที่อยุธยา ถ้าได้ยกจังหวัด เอาตำแหน่งรัฐมนตรีไปเลย ดังนั้นขอเรียกร้องให้ กกต.ดำเนินการเรื่องนี้ให้ชัดเจนก่อนการเลือกตั้ง

ต่อมา นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ออกมาชี้แจงกรณีที่นายชูวิทย์ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กกต. พร้อมระบุว่า กรณีที่นายชูวิทย์ ไปร้องเรียน กกต. จึงถือว่ากระทำผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 143 ยื่นเรื่องร้องเรียนอันเป็นเท็จ และกระทำผิดตาม พ.ร.ป.คณะกรรมการเลือกตั้ง มาตรา 101 ซึ่งมีโทษทางอาญา ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายกำลังดำเนินการกับนายชูวิทย์.