ใต้ระอุ‘รทสช.-ปชป.’แห่ลงพื้นที่

ภาคใต้คึกคัก! ช่วง 29-30 เม.ย. "รทสช." วางคิวหาเสียง "ตรัง-พัทลุง-สงขลา" ส่วน "ปชป." ไป จ.สุราษฎร์ฯ-พังงา "บิ๊กตู่" ไม่หวั่นหลายพรรครุมทึ้งสนามใต้ พร้อมเจอทุกพรรค "พปชร." เข็นนโยบายปุ๋ยคนละครึ่งซื้อใจเกษตรกร "เศรษฐา" นำทีมลุย 4 จังหวัดอีสาน "หญิงหน่อย" ปลื้มชาวอุบลฯ กว่า 2 หมื่นรอฟังปราศรัย "ดร.พิชาย" ชี้คนไทยต้องการเปลี่ยนรัฐบาล แย้ม 3 สูตรหลังเลือกตั้ง แนะ "พท." จับมือ "ปชป." ดีกว่า "พปชร." 

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 28 เม.ย. เวลา 10.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียงในหลายจังหวัดในภาคใต้ ซึ่งเป็นช่วงที่ไปพร้อมกับอีกหลายพรรคการเมือง ถือเป็นการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นหรือไม่ว่า ไม่ว่าอยู่ตรงไหนก็ถือเป็นการแข่งขันกันอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่ารักใครชอบใคร ก็ฟังคนนั้นหาเสียง ช่วงนี้เป็นช่วงท้ายของการหาเสียงแล้ว ทุกคนก็ต้องมุ่งหวังที่จะนำพาพรรคไปสู่ชัยชนะเป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย ไม่ใช่ว่าใครไปจังหวัดนี้แล้วคนอื่นจะไปไม่ได้ หลายคนพร้อมที่จะพบเจอกันก็ได้ แต่อย่าขัดแย้งกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ก็มีสีหน้าอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อให้สัมภาษณ์เสร็จระหว่างที่เดินขึ้นบันไดตึกไทยคู่ฟ้า นายกฯ ได้จับแขนทีมรักษาความปลอดภัยทั้ง 2 ข้าง ซ้าย-ขวา เพื่อก้าวขึ้นบันไดด้วย ซึ่งช่วงที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่หาเสียงอย่างต่อเนื่องหลายจังหวัด รวมทั้งยังสอดคล้องกับที่เคยให้สัมภาษณ์ยอมรับเครียด นอนไม่หลับและน้ำหนักลดลงไป 5-6 กิโลกรัม จึงทำให้ไม่แข็งแรงเท่าเดิม

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ กล่าวถึงการลงพื้นที่ภาคใต้ของ พล.อ.ประยุทธ์ว่า ในวันที่ 29-30 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค รทสช.มีกำหนดการลงพื้นที่หาเสียงภาคใต้ จ.ตรัง จ.พัทลุง และ จ.สงขลา โดยจะพักค้างคืนที่โรงแรมลากูน่า แกรนด์ โฮเทล แอนด์ สปา ตะพะวง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา ซึ่งถือเป็นการลงพื้นที่แบบนอนพักค้างคืนครั้งแรกในการหาเสียงของ พล.อ.ประยุทธ์

"ภาคใต้ถือเป็นฐานที่มั่นสำคัญของพรรค รทสช. จากการลงพื้นที่สัมผัสได้ กราฟกระแสความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ดีขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเองเดินหน้าลงพื้นที่อย่างหนัก โดยที่ก่อนหน้านี้ผมได้ลงมาเปิดเวทีปราศรัยย่อยช่วยผู้สมัครที่ จ.นครศรีธรรมราช พี่น้องชาวนครศรีธรรมราชให้การตอบรับเป็นอย่างดี บวกกับนโยบายพรรคที่มุ่งหวังความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น ซึ่งทำได้จริงทั้งหมด ไม่มีขายฝัน ไม่มีโกหกกับประชาชนเพื่อหวังผลคะแนน" นายธนกรกล่าว

ด้านพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย ทีมโฆษกประจำศูนย์เลือกตั้งพรรค ปชป. กล่าวว่า ในวันที่ 29-30 เม.ย. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ปชป. พร้อมแกนนำพรรคเตรียมล่องใต้ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและพังงา เพื่อพบปะกับพี่น้องประชาชน พร้อมเปิดเวทีปราศรัย 3 เวที โดยจะเริ่มต้นกิจกรรมตั้งแต่ในช่วงเย็นที่ 29 เม.ย. เปิดเวทีปราศรัยบริเวณข้างโรงแรมวังใต้ ต.ตลาด อ.เมืองฯ จ.สุราษฎร์ธานี และในวันที่ 30 เม.ย. ช่วงเย็นจะมีปราศรัยที่ อ.เมือง จ.พังงา และช่วงค่ำไปปราศรัยที่ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา บริเวณศาลเจ้าเล่งสั้นเก้ง (ศาลเจ้าท้ายเหมือง)

นางดรุณวรรณกล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ส่งผู้สมัคร ส.ส.ครบทั้ง 7 เขตเลือกตั้ง ส่วนใหญ่เป็นอดีต ส.ส. ซึ่งเป็นผู้ที่มีผลงานและทำงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้พรรคเชื่อมั่นว่าในการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.นี้ พรรคจะยังคงรักษาแชมป์ครองเก้าอี้ครบทุกเขต ได้ที่นั่ง ส.ส.ยกจังหวัดอย่างแน่นอน ส่วน จ.พังงา การเลือกตั้งครั้งนี้แบ่งเป็น 2 เขต โดยเขต 1 พรรคส่ง นางกันตวรรณ ตันเถียร ซึ่งเป็น ส.ส.มา 5 สมัย และมีผลงานโดดเด่นทั้งในพื้นที่และการทำงานในสภา จึงคาดว่าจะยังรักษาที่นั่งไว้ได้ ขณะที่เขต 2 คือ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ก็ได้รับเสียงตอบรับดีขึ้นตามลำดับ

"จึงอยากขอโอกาสจากพี่น้องชาวสุราษฎร์ฯ และพังงาให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ และผู้สมัคร ส.ส.แบบเขตทุกเขต เพื่อช่วยกันเดินหน้านโยบายภายใต้ยุทธศาสตร์ สร้างเงิน-สร้างคน-สร้างชาติต่อไป" ทีมโฆษกประจำศูนย์เลือกตั้งพรรค ปชป.ระบุ

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ โฆษกคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรค พปชร.กล่าวถึงนโยบายด้านการเกษตรว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ให้ความสำคัญกับเกษตรกรทุกกลุ่ม จึงมีนโยบายปุ๋ยคนละครึ่งออกมาเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของเกษตรกร พร้อมกับจัดตั้งกองทุนปุ๋ยประชารัฐ เพื่อรักษาเสถียรภาพ ซึ่งจะครอบคลุมเกษตรกร จำนวน 8 ล้านครัวเรือน เพื่อลดต้นทุนการเพาะปลูก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 17.00 น. พล.อ.ประวิตรพร้อมด้วยแกนนำพรรค เดินทางมาที่จังหวัดสงขลาเพื่อขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่พบปะประชาชนชาวใต้ โดยได้เข้าสักการะพระพุทธมหัตตมงคล หรือพระนอนองค์ใหญ่ ที่วัดมหัตตมังคลาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าวัดหาดใหญ่ใน ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดสงขลา และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก เพื่อความเป็นสิริมงคลเอาฤกษ์เอาชัยก่อนขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่พบปะพี่น้องชาวใต้

โดยเจ้าอาวาสได้สวดให้พรพร้อมกับมอบรูปหล่อหลวงปู่ทวดธุดงค์ให้ พล.อ ประวิตร ขณะที่ พล.อ.ประวิตรได้ถามเจ้าอาวาสว่า "พรรคผมดีไหม" ซึ่งเจ้าอาวาสบอกว่าดี อยู่ในระดับเมมเบอร์ ขอให้สำเร็จ

ชง 'พท.' จับมือ 'ปชป.' ตั้ง รบ.

ขณะที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย แถลงกรณีการลงพื้นที่ภาคอีสานของพรรค ในวันที่ 29-30 เม.ย.นี้ ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรค จะลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ จ.สุรินทร์ จ.มหาสารคาม และ จ.บุรีรัมย์

พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส.นครปฐม เขต 6 พรรค ชทพ. กล่าวถึงการหาเสียงโค้งสุดท้ายว่า ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.เป็นต้นมา เราเริ่มเพิ่มป้าย เพิ่มรถหาเสียง เป็นป้ายเบอร์พรรค-หัวหน้าพรรค ให้มากขึ้น เรามาเร่งสปีดช่วงโค้งสุดท้าย เพราะเบอร์คนประชาชนรู้แล้ว จนเราแน่ใจก็มาโหมเบอร์ 18 นี่คือยุทธวิธีของเราทำ เป็นแผนยุทธศาสตร์โค้งสุดท้าย เรื่องเขตก็ไม่ต้องห่วงมากนัก เราน่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 4-5 เขต

ที่ จ.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) นำโดย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 1 พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมาและแกนนำพรรค ร่วมจัดเวทีปราศรัยใหญ่เวทีที่ 3 ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ที่ลานหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา

ที่วัดป่าศรีมงคล เทศบาลตำบลบุณฑริก อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) พร้อมแกนนำจัดปราศรัยใหญ่ โดยมีประชาชนสนใจฟังปราศรัยกว่า 20,000 คน รวมทั้งพร้อมใจกันตะโกนเชียร์ "นายกฯ หน่อยๆ" ดังสนั่น ตลอดระยะเวลาการปราศรัย

วันเดียวกัน สภาที่ 3 ร่วมกับ คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา'35 จัดเวทีสภาที่ 3 Speak วาระประเทศไทย เรื่อง "อนาคตประเทศไทย หลังการเลือกตั้ง #66" มีผู้ร่วมอภิปรายประกอบด้วย รองศาสตราจารย์ (รศ.) ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า), นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา'35 และ ดร.กุลชยา เต็มชวาลา จากกลุ่มแรงคิด

รศ.ดร.พิชายกล่าวตอนหนึ่งว่า ภาพรวมจากการสำรวจของนิด้าโพลพบว่า คน 70% ของประเทศต้องการเปลี่ยนแปลง ดูจากคะแนนนิยมของฝ่ายค้านและความต้องการเปลี่ยนรัฐบาลอย่างชัดเจน

นอกจากนี้ รศ.ดร.พิชายได้เสนอแนวโน้มที่จะเป็นทางออกจากปัญหาการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งว่า มี 3 แนวทางคือ สูตรที่ 1 พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและอาจต้องชวนพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยเพื่อร่วมโหวตเลือกนายกฯ สูตรที่ 2 พรรคเพื่อไทยต้องประนีประนอมกับขั้วอำนาจเก่า คือจับมือกับพรรคพลังประชารัฐเพื่อจัดตั้งรัฐบาล แต่ปมปัญหาของสูตรที่ 2 มวลชนจะไม่พอใจพรรค พท.ที่ผิดสัจจะวาจาที่ไปร่วมงานกับพรรค พปชร.

ส่วนสูตรที่ 3 มีแนวโน้มที่จะเกิดอันตรายต่อสังคมไทยหากดำเนินการตามสูตรนี้ แต่มีข่าวการเตรียมการโดยที่ปรึกษาของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ดึงดันจะจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยให้ได้ โดยการรวม 4 พรรครัฐบาลในปัจจุบันจะได้ประมาณกว่า 100 เสียง แล้วจะให้ ส.ว.สนับสนุนเสียงในรัฐสภา แต่สูตรนี้รัฐบาลจะไร้เสถียรภาพและจะสร้างปัญหาให้ประเทศอย่างมหาศาล จะมีการชุมนุม รัฐบาลจะบริหารประเทศไม่ได้และต่างชาติจะบอยคอต

"สรุปว่าสูตรของรัฐบาลใหม่ที่มีโอกาสเป็นไปได้ และให้การบริหารเป็นไปได้ดีคือ สูตรที่ 1 โดยพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง และดึงพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลด้วย ซึ่งจะเป็นตามครรลองประชาธิปไตย รัฐบาลมีเสถียรภาพ แต่ได้ฝ่ายค้านที่อ่อนแอ อีกทั้งชนชั้นนำจารีตนิยมจะไม่พอใจ แต่ก็ไม่สามารถสั่นคลอนรัฐบาลได้" รศ.ดร.พิชายกล่าว.