รทสช.ถามคนไทย อยากกลับหลุมดำ?

รทสช.จัดหนัก ปล่อยคลิปถามคนไทยอยากให้ไม่เหมือนเดิม  ถอยหลังตกลงไปในหลุมดำแห่งความขัดแย้งหรือจะไปต่อ "พี่ตู่" ยกทัพลงใต้อ้อนคนกระบี่ ต้องอยู่ต่อเพื่อทำบ้านเมืองสงบปลอดภัย ลั่นอย่าไปยุ่งกับกฎหมายข้างบน "เอกนัฏ" เมินผลโพลโวภาคใต้กระแสพุ่งขึ้น จะโกย ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 40 เขต หวัง "พลังเงียบ" หนุน "ลุงตู่" ให้ได้ไปต่อ "เศรษฐา" ควง "ภรรยา-ลูก" ลุยขอคะแนนเมืองกรุง "สุดารัตน์"  บุกอุดรฯ ประชาชนแห่ฟังปราศรัยกว่า 3 หมื่นคน "อดุลย์" ดักคอ "ประยุทธ์" ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยบ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้เผยแพร่คลิป “ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” โดยเป็นเชิงตั้งคำถาม พรรค รทสช.ถามคนไทย “คุณอยากให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม จริงหรือ” ผ่านคลิป “ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” โดยหลายๆ ฉากในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว   หลายๆ ฉากเป็นเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นจริง การตัดสินใจของประชาชนในวันที่ 14 พ.ค.นี้ จะชี้ขาดว่า ประเทศไทยจะไปต่อ เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง เป็นปึกแผ่น อย่างที่เป็นมาในช่วง 8 ปี หรือจะถูกฉุดให้ถอยหลังตกลงไปในหลุมดำแห่งความขัดแย้ง  การโค่นล้มฝ่ายที่คิดต่าง ขุดรากถอนโคนวัฒนธรรม ประเพณี ค่านิยมอันดีงามของสังคม เป็นประเทศไทยที่ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว 

สำหรับความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค รทสช. เมื่อเวลา 10.10 น ที่ จ.กระบี่ พล.อ.ประยุทธ์พร้อมนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค, นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค และแกนนำพรรค ลงพื้นที่ขึ้นรถแห่หาเสียง จุดแรกที่ตลาดเหนือคลอง อ.เหนือคลอง เพื่อช่วยหาเสียง 3 ผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ คือ นายสรรเพ็ชญ ศรีสวัสดิ์ เขต 1, นายสุชีน เอ่งฉ้วน เขต 2 และนายภูเบท บุตรสมัน เขต 3 

บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนนำดอกไม้มารอต้อนรับและถ่ายเซลฟี โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวทักทายด้วยภาษาใต้ว่า มาด้วยความคิดถึงจังฮู้ รักแรง กินข้าวหรอยแรง สงสัยต้องหาแฟนใต้สักคน แต่บังเอิญที่บ้านไม่ยอม แต่ทั้งหมดอยู่ในหัวใจของตนอยู่แล้ว เพราะตนคือนายกฯ ของประเทศไทย ต้องดูแลคนทุกจังหวัดให้ได้ ใจเราเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน เราต้องเดินหน้าไปด้วยกันทุกคน ทุกช่วงวัย เราดูแลหมด ตนหาเงินเพิ่มให้ได้ เตรียมไว้หมดแล้วที่มาทั้งหมด และอย่าไปเกลียดชังทหาร ตำรวจ ข้าราชการ เพราะเขารับใช้ประชาชน คนดีมีเยอะแยะ คนไม่ดีก็เอาออก

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกอย่างเริ่มหมด มาสู่ความก้าวหน้า อย่าทะเลาะกัน อย่าไปเชื่อคำสัญญาที่เป็นไปไม่ได้ ตนไม่ได้ไปก้าวล่วงใคร พ่อแม่ทุกคนรักลูก รักพี่รักน้องไหม แล้วมีใครทำให้เราไม่รักกันมีไหม แล้วจะร่วมมือกับเขาไหม  ฝากดูแลผู้สมัคร ส.ส.เขต และฝากเลือกเบอร์ 22 ไปให้ทุกบ้าน ทุกครัวเรือน เลือกทุกจังหวัด ทุกเขต ทุกอำเภอ เลือกรวมไทยสร้างชาติ เลือกให้ถล่มทลายไปเลย

ระหว่างนั้นได้มีชาวบ้านตะโกนว่า อย่ายกเลิกมาตรา 112 ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ใครเห็นด้วยเขาฝากอย่ายกเลิก ม.112 ขอให้ยกมือ ขอช่วยกันรักษา อะไรดีต้องรักษา วัฒนธรรม ประเพณี ขอบคุณมากๆ ขอบคุณหลายๆ ลุงตู่อยู่ต่อ อยู่ทำต่อให้เสร็จ เพื่อทำให้บ้านเมืองสงบปลอดภัย ไม่มีอะไรทำได้วันเดียว ไอ้ที่บอกทำวันเดียวมันขี้โม้

จากนั้นเวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมายังลานปูดำ อ.เมืองฯ จ.กระบี่ เพื่อช่วยนายสรรเพ็ชญ ศรีสวัสดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ต้องการยกระดับคนมีรายได้น้อยให้มีรายได้สูงขึ้น เพื่อความเป็นธรรม เท่าเทียมทางโอกาส และเท่าเทียมอยู่ใต้กฎหมายเดียวกัน เพราะกฎหมายคือกฎหมาย

อย่าไปยุ่งกับ กม.ข้างบน

"อย่าไปยุ่งกับกฎหมายมากนัก ถ้าเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับข้างบนๆ อย่าไปยุ่ง กฎหมายข้างล่างเราจะรื้อ ลด ปลด สร้างกฎหมายที่เป็นปัญหาและอุปสรรคให้กับประชาชน เราจะดูแลทุกคน การจะสร้างบ้านใหม่ไม่ใช่รื้อฐานรากทั้งหมดออกแล้วไปสร้างบ้าน มันไม่มีทางสำเร็จ จะไปสร้างหลังคาใหม่ไม่ได้ ต้องมีฐานราก เสาที่แข็งแรง"

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า "ผมไม่เคยทำอะไรเพื่อประโยชน์ของตัวเองสักบาทเดียว ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตมา 8 ปีเต็มๆ ถ้าทุจริตอยู่ไม่ได้ถึง 8 ปี ขอให้เชื่อมั่นด้วย และผมไม่เคยทำให้ประเทศชาติเสียหาย มีแต่ทำให้ประเทศชาติสงบปลอดภัย ดูหน้าผมสิว่าขี้โกงหรือเปล่าแบบนี้"

 “สังคม ครอบครัว จะต้องอยู่ใช่หรือไม่ ลูกต้องเคารพพ่อแม่ใช่หรือไม่ หรือจะให้แม่มากราบลูก มันไม่ได้ ลูกต้องกราบแม่ เราเลี้ยงลูกกัน กี่ปีๆ ก็คือลูก 50 ปียังเป็นลูกอยู่เลย พ่อแม่รักลูกทุกคน มีเมตตาให้ตลอด และต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่เฒ่าด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ต่อมาเวลา 13.35 น. พล.อ.ประยุทธ์ และคณะเดินทางมายังศาลาประชาคม อ.อ่าวลึก โดยมีชาวบ้านต่างตะโกนต้อนรับว่า พี่ตู่มาแล้ว รักลุงตู่ เชียร์ลุงตู่ รักพี่ตู่ เชียร์พี่ตู่ เบอร์ 22 พล.อ.ประยุทธ์ ปราศรัยว่า วันนี้ลุงตู่ตัวจริงมาแล้ว คิดถึงจังฮู้ วันก่อนกลับบ้านไป ลูกเมียถามว่าทำไมตัวเหลวลง เลยบอกว่าเจอคนเยอะ ตนอยู่มา 8 ปีทำได้เยอะพอสมควร แต่หลายคนพูดว่าจะมาทำนั่นทำนี่ภายในวันเดียวหรือไม่กี่วัน ตนทำมา 8 ปีแล้ว บางเรื่องยังทำไม่ได้เลย"

จากนั้นเวลา 16.00 น. พล.อ.ประยุทธ์และแกนนำ รทสช.เดินทางไปยัง จ.พังงา เพื่อร่วมพิธีเคารพศพนายวีระ ลักษณวิศิษฏ์ บิดานายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตั้งศพสวดพระอภิธรรมอยู่ที่บ้านเลขที่ 3/1 บ้านท่าซอ ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง เมื่อเดินทางถึง นายจุรินทร์ได้ให้การต้อนรับ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เข้าเคารพศพนายวีระ พร้อมแสดงความเสียใจกับนายจุรินทร์และครอบครัว และได้สวมกอดให้กำลังใจกับนายจุรินทร์ด้วย

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนช่วงโค้งสุดท้ายของโพลสำนักต่างๆ ว่า การสำรวจความคิดเห็นถือเป็นวิทยาศาสตร์ ก็ต้องรับฟังในลักษณะฟังหูไว้หู ยอมรับว่าในระยะหลังการทำโพลมีข้อจำกัด แต่ละสำนักก็มีวิธีการที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งมีหลายๆปัจจัยที่อาจทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนได้ สิ่งที่เห็นและสัมผัสได้ชัดเจนคงเป็นบรรยากาศการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ในช่วงที่ผ่านมา ที่ประชาชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ที่ขณะนี้มีการปลุกกระแสเลือก พล.อ.ประยุทธ์และพรรครวมไทยสร้างชาติทั้ง 2 ใบ เพื่อสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อไป

 “จากเดิมคาดการณ์ที่เราว่าจะได้ ส.ส.ครึ่งหนึ่งจาก 60 เขต แต่ขณะนี้กระแสลุงตู่ทำให้เรามีโอกาสได้ ส.ส.เขตถึง 40 ที่นั่ง และเชื่อว่าความนิยมของลุงตู่ในพื้นที่ภาคใต้ที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะเป็นฐานสำคัญที่ทำให้ รทสช.มีโอกาสคว้าที่นั่ง ส.ส.ทั้งเขตและบัญชีรายชื่อเพิ่มมากขึ้นแบบก้าวกระโดดในช่วงโค้งสุดท้าย ขณะเดียวกันกระแสลุงตู่กระจายไปทุกภาคทั่วประเทศ ทำให้มั่นใจว่า รทสช.จะได้ ส.ส.อย่างเป็นกอบเป็นกำ จะทำให้ รทสช.มีเสียงมากพอที่จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล"

หวังพลังเงียบหนุนลุงตู่

นายเอกณัฏกล่าวด้วยว่า ทุกๆ การเลือกตั้ง จะมีปรากฏการณ์ที่มีนัยสำคัญ คือกลุ่มประชาชนที่เป็นพลังเงียบ ที่โดยปกติจะไม่ได้แสดงออกทางการเมือง แต่ถึงเวลาตัดสินใจก็จะยึดประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมืองเป็นหลัก ครั้งนี้ก็เช่นกัน เชื่อว่ากลุ่มพลังเงียบที่มีอยู่เป็นจำนวนมากจะออกมาสนับสนุนลุงตู่ให้ได้ไปต่อ

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ โฆษกคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค มีความตั้งใจที่จะประกาศสงครามกับความยากจน ลดช่องว่างทางรายได้ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ พปชร.เริ่มทันที จากการปฏิรูปโครงสร้างราคาพลังงาน จะปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ จะจัดตั้งกองทุนประชารัฐ วงเงิน 3 แสนล้านบาท เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน และมีนโยบายที่จะเพิ่มรายได้ให้ประชาชนและประเทศ ผ่านนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มีนโยบายเร่งพัฒนาพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์ ผ่านนโยบายอีสานประชารัฐและนโยบายเขตพัฒนาพิเศษชายแดนใต้ ซึ่งจะเป็นการลงทุนเมกะโปรเจกต์ เพื่อต่อยอดความสำเร็จของ EEC

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงความมั่นใจในการหาเสียงโค้งสุดท้าย ว่า มั่นใจว่าเสียงตอบรับจากพี่น้องประชาชนดีขึ้น และได้รับกำลังใจมากขึ้น ซึ่งรวมทั้งพลังเงียบที่เราได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง และจากสมาชิกพรรคทั่วประเทศด้วย ล้วนแล้วแต่ให้กำลังใจว่ายังคงยืนหยัดมั่นคงอยู่กับพรรค

ส่วนโพลก็คือโพล แต่ละพรรคก็มีทั้งดีและไม่ดี ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่โพลจะสำรวจเวลาไหนอย่างไร แต่ของจริงก็คือวันที่ 14 พ.ค.ที่จะถึง นั่นคือเสียงจากประชาชนที่แท้จริง สำหรับในภาคใต้ มั่นใจว่าเสียงตอบรับดีมากในทุกจังหวัด

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. ดูแล กทม. กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ พบว่าประชาชนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ต่างยืนยันว่าจะสนับสนุนผู้สมัครของ ปชป.ทั้ง ส.ส.เขต และแบบบัญชีรายชื่อ และพบว่าผู้สนับสนุนเลือก ปชป.มาโดยตลอด แต่ตัดสินใจไปลงคะแนนเลือกผู้สมัครจากพรรคการเมืองอื่นในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 จะกลับมาเลือกผู้สมัครของ ปชป.ในปีนี้จำนวนมาก เพื่อสนับสนุนให้ ปชป.ในกทม.กลับมาทำประโยชน์ให้กับประชาชนเหมือนที่เคยทำมาแล้ว เรามั่นใจว่า ปชป.จะคัมแบ็ก มี ส.ส.ใน กทม.อย่างแน่นอน

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวว่า ไม่มีความกังวลที่ผลโพลออกมามีคะแนนต่ำกว่าพรรคอื่น นั้น จะได้เป็นแรงกระตุ้นให้ขยันลงพื้นที่หาเสียงเพิ่มมากขึ้น               

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ, นายดนุพร ปุณณกันต์ รองประธานรณรงค์หาเสียงพื้นที่กรุงเทพฯ, น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคและรักษาการโฆษกพรรค, น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล นายพชร ธรรมมล ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และผู้สมัคร ส.ส.กทม. ลงพื้นที่ขอคะแนนประชาชนบริเวณตลาดนัดจตุจักร และตลาดสด อ.ต.ก. โดยมีประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าเข้ามาขอถ่ายรูปด้วยจำนวนมาก

ช่วงหนึ่งระหว่างที่นายเศรษฐากำลังเดินขอคะแนนอยู่นั้น พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน และนายณภัทร ทวีสิน (น็อบ) ภรรยาและลูกชายของนายเศรษฐาได้เดินทางมาให้กำลังใจอีกด้วย

จากนั้นนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหมัดเด็ดหรือยุทธศาสตร์ที่จำเป็นต้องใช้ในช่วงโค้งสุดท้ายเพื่อชนะเลือกตั้งว่า เราคงนำเสนอนโยบายต่อเนื่องไป คิดว่าประเทศชาติบอบช้ำมา 8 ปีแล้ว พท.พิสูจน์มาตลอดตั้งแต่ไทยรักไทย   พลังประชาชน ว่าเราคิดใหญ่ ทำเป็น นโยบายใหญ่ๆ ดีๆ เราทำได้มาตลอด เป็นที่ยอมรับของประชาชนตลอด ครั้งนี้ เราบอบช้ำมาเยอะ ไม่มีเวลาลองของใหม่ เราต้องกลับไปนั่งคิดว่าพรรคไหนทำให้เราได้ แล้วบุคลากรที่ยังอยู่ในพรรคก็มีอยู่เยอะมาก ตรงนี้เรามั่นใจว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน

คนไม่ตัดสินใจเหลือน้อย

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าช่วงโค้งสุดท้ายจะมีนโยบายเด็ดออกมา เพื่อให้คนกาพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา กล่าวว่า หากดูจากหลายโพล คนที่ยังไม่ตัดสินใจมีเหลืออยู่น้อยมากแล้ว แต่ก็เหลืออยู่บ้าง หน้าที่ตอนนี้คือต้องขยายความนโยบายหลักของเรา ทำความเข้าใจ และให้ความมั่นใจว่าทำได้จริง

วันเดียวกัน นายเศรษฐาโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ประเทศไทยจะต้องชนะ  ประชาธิปไตยต้องเป็นใหญ่ "ผมจะทุ่มเท คืนความหวังและอนาคตของประเทศที่ได้สูญหายไป นำประสบการณ์การปั้นธุรกิจฝ่าวิกฤตมาหลายครั้ง ร่วมกับพรรคเพื่อไทยที่เป็นมีผลงานจริงตอนเป็นรัฐบาลมากมาย วันนี้เรารอไม่ได้แล้วครับ จากหนี้สาธารณะต่อ GDP ที่สูงเกินกว่า 60% หนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 90% ประชาชนคนไทยมีรัฐบาลลองงานไม่ได้แล้วครับ เลือกเพื่อไทยให้เด็ดขาด เลือกให้แลนด์สไดล์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันทีเลย"

ทางด้านคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) และแคนดิเดตนายกฯ ทสท. ลงพื้นที่ จ.อุดรธานี เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่น และมีประชาชนร่วมฟังการปราศรัยกว่า 30,000 คน เพื่อช่วยขอคะแนนชาวเขต 4 ให้เลือกนายโชคเสมอ คำมุงคุณ ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 4 ให้ชนะขาด   โดยชาวอุดรธานีต่างยินดีที่คุณหญิงสุดารัตน์กลับมาเยี่ยมอีกครั้ง ขณะเดียวกันยังได้นำของกินของฝากมามอบให้คุณหญิงสุดารัตน์และทีมงานเพื่อเก็บไว้ใช้เก็บไว้รับประทานระหว่างที่เดินสายหาเสียงด้วย และยังร่วมกันอวยพรให้คุณหญิงสุดารัตน์ได้เป็นนายกฯ ของคนอีสาน เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน

ที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เครือข่ายประชาสังคมกัญชา กัญชง เพื่อประชาชน ร่วมแถลงแสดงจุดยืนไม่เลือกพรรคที่เอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด แต่จะเลือกพรรคที่มีจุดยืนสนับสนุน พ.ร.บ.กัญชากัญชงฯ ในรัฐบาลชุดหน้าให้แล้วเสร็จ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เข้าร่วมรับฟังด้วย

นายอนุทินกล่าวว่า วันนี้ที่ตนมาเพื่อขอรับกำลังใจจากทุกคน เพราะโดนการเมืองเล่นเสียสะบักสะบอม แต่ก็ยืนหยัดต่อสู้เพื่อพี่น้องประชาชน ถ้าวันนี้ไม่มีการเลือกตั้ง พ.ร.บ.กัญชาฯ ก็คงจะผ่านไปแล้ว ถ้าทุกคนถอดหัวโขนออก เขาก็คือพวกเรา คือคนที่เห็นด้วยกับประโยชน์ของกัญชา แต่วันนี้การเมืองมันเป็นสิ่งหอมหวาน เลยยอมที่จะกลืนอุดมการณ์ที่จะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ซึ่งตนก็จะไม่ยอมเช่นเดียวกัน

นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา ’35 กล่าวการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยว่า   เมื่อเปิดประชุมสภาได้แล้วจะเลือกประธานสภาฯ ก่อน ซึ่งมาจากเสียงข้างมากเป็นมาตรฐานอยู่แล้วจึงจะเลือกนายกฯ ซึ่งมาจากพรรคที่มีเสียงข้างมาก รัฐบาลเสียงข้างน้อยจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ต่อให้มีเสียง ส.ว.ก็ตาม แต่ต้องพึงระวัง หากมีการไปดูดหรือซื้อ ส.ส.จากพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามมาเหมือนตลาดวัวควาย เช่น สภาชุดที่แล้ว  หรือใช้แผนให้ กกต.ยุบพรรคฝ่ายตรงข้ามแล้วไปช้อนซื้อ ส.ส.มาอีก จะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง จะเกิดการลุกฮือขึ้นของประชาชนออกมาต่อต้านจนเกิดความรุนแรงนองเลือดอีก ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ หากแพ้เลือกตั้งก็ต้องรู้จักแพ้ ดังเช่นลูกผู้ชายชาติทหาร ควรลงจากเวทีอย่างสง่าผ่าเผย อย่าคิดยื้ออำนาจด้วยวิธีการไม่ถูกต้องตามครรลองชอบธรรม จะเป็นที่สาปแช่งของประชาชนสืบไป และจะทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟอีกครั้ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เริ่มฮั้วยึดเก้าอี้สว. กกต.จับตาพวกไร้คะแนน-ท็อปไฟว์/‘ทักษิณ’ส่ง‘สมชาย’ดันนั่งปธ.

ประเดิมสมัคร สว.วันแรก มีทั้งพื้นที่คึกคักและกร่อย สะพัด! กทม.เริ่มมีเรื่องฮั้ว รวมกลุ่ม “กกต.” จับตาพวกไร้คะแนนและบรรดาท็อปไฟว์