ผวา‘บิ๊กตู่’รอส้มหล่น! ก.ก.ข้องใจไม่ยอมพ่ายแพ้ ‘อนุชา’แจงอยู่ถึงมีรบ.ใหม่

"พิธา" พลิ้วคุย ขรก.มีหลายรูปแบบ "ก้าวไกล" มั่นใจกลาง มิ.ย.เก้าอี้ "ปธ.สภาฯ" จบ เผยฟอร์มทีม "พิธา 1" หลังโหวตนายกฯ "โรม" มั่นใจปมหุ้นสื่อ "หน.พรรค" ไร้ปัญหา ข้องใจ "บิ๊กตู่" ไม่โชว์สปิริตแสดงความยินดี "ก.ก." ชนะเลือกตั้ง เหน็บหรือรอส้มหล่น ไล่เก็บของเตรียมตัวออกจากทำเนียบฯ  ซัด "วิษณุ" เปิดประเด็นเลือกตั้งใหม่หวังชี้นำสังคม-ส.ว. "อนุชา" แจงไทม์ไลน์รัฐบาลลุงตู่ต้องอยู่ถึงมี ครม.ใหม่ "พท." พับแผนดิจิทัล 1 หมื่น "3 นิ้ว" ขู่! ลงถนน หากมีการฝืนมติประชาชน

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี​ของพรรค กล่าวถึงการเดินสายหารือกับข้าราชการและเอกชนว่า มีหลายรูปแบบ ทั้งที่ไม่เป็นทางการหรือแบบที่เราเชิญมาหรือเขาเชิญมา เพราะฉะนั้นมีตั้ง 6 รูปแบบ ไม่ใช่แค่รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง

ส่วนนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลและการแบ่งโควตารัฐมนตรีว่า การฟอร์ม​ ครม.ได้ชี้แจงสื่อมวลชน​ไปแล้ว​หลาย​ครั้งว่า ภายใต้กระบวนการที่จะทำการบ้านล่วงหน้าในการตั้งคณะทำงาน​และส่งมอบนโยบาย​เรื่องอะไร ก็จะเข้าสู่กระบวนการแบ่งงานกันทำ โดยกระบวนการ​นี้จะเป็นหน้าที่สำคัญในการทำงานของแต่ละพรรค ​ก็จะมีส่วนในการรับผิดชอบ​ บริหารหน่วยงานและกระทรวง​ไหนบ้าง  ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงใกล้ๆที่จะโหวต​นายกฯ ในสภา ส่วนแต่ละพรรคจะมีบทบาทอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรค โดยธรรมชาติ​แล้วแต่ละพรรคจะมีความชัดเจนในเรื่องนี้หลังมีการโหวตนายกฯ

ถามถึงตำแหน่งประธานสภาฯ นายชัยธวัชกล่าวว่า ยังไม่ได้ข้อยุติ​ ซึ่งคาดการณ์​ว่ากลางเดือน มิ.ย.จะได้ข้อยุติ​และมีความชัดเจน​มากขึ้น ซึ่งเป็นไปได้ที่ กกต.จะประกาศรับรอง ส.ส. กรณีที่กระแสข่าวก่อนหน้านี้ในเรื่องประธานสภาฯ นั้น ไม่เป็นความจริง ซึ่งการเสนอรายชื่อประธานสภาฯ ทั้งพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยต่างก็มีเหตุผล​ โดยเฉพาะการพูด​คุยกันที่จะสามารถหาข้อยุติดังกล่าวได้ คาดว่าภายใน 2 สัปดาห์​จะได้ข้อสรุป

ซักถึงกรณีที่นายวิษณุ​ เครือ​งาม​ รองนายกรัฐมนตรี​ฝ่ายกฎหมาย​ ให้ความเห็นกรณีนายพิธา​ถือหุ้นสื่อไอทีวี จะส่งผลให้จะต้องเลือกตั้งใหม่ เลขาฯ พรรค ก.ก.กล่าวว่า ไม่น่าจะไปไกลถึงขนาดนั้น จนถึงตอนนี้ก็มีความมั่นใจว่าจะต่อสู้คดีนี้ได้

ด้านนายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค ก.ก. และโฆษกพรรค   แถลงข่าวเรียกร้องขั้วอำนาจเก่าแสดงสปิริตแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกล โดยระบุว่า จากที่ติดตามข่าวตั้งแต่จบการเลือกตั้งจนมาถึงวันนี้ ยังไม่เห็นบุคคลในขั้วอำนาจเก่า เช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี,   นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงความยินดีกับรัฐบาลใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก ที่เวลาผ่านมานานขนาดนี้เรายังไม่เคยได้ยินคำพูดแสดงความยินดีกับผู้ชนะการเลือกตั้งจากปาก พล.อ.ประยุทธ์แม้แต่น้อย  รวมถึงการเตรียมความพร้อมของรัฐบาลชุดที่แล้ว ที่จะต้องมีการเก็บข้าวของออกจากที่ทำงานและส่งมอบงานเพื่อให้รัฐบาลใหม่ทำงาน ทั้งที่ผลการเลือกตั้งชี้ให้เห็นชัดว่ารัฐบาลชุดที่แล้วไม่ได้เป็นรัฐบาลต่อไป

"พรรค ก.ก.ได้มีการเตรียมความพร้อมในการตั้งรัฐบาลใหม่ โดยมีการตั้งคณะทำงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน เรามีการเตรียมความพร้อม แต่กลับไม่เห็นความพร้อมของรัฐบาลชุดที่แล้ว หากมองประเทศที่เป็นประชาธิปไตยหลายประเทศ สปิริตที่สำคัญคือการแสดงความยินดี ที่สำคัญมากกว่านั้นเรายังเห็นท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ผมคิดว่ามองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากการหวังส้มหล่นจากรัฐบาลก้าวไกล และหวังว่าตัวเองจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ดังนั้นคิดว่ายังไม่สายจนเกินไป เราอยากจะได้ยินจากปากของ พล.อ.ประยุทธ์ว่ายอมรับความพ่ายแพ้การเลือกตั้ง เพื่อให้รัฐบาลเป็นไปได้ตามที่ควรจะเป็น เรายังหวังเห็นสปิริตของ พล.อ.ประยุทธ์เพื่อให้การทำงานราบรื่นต่อไป" นายรังสิมันต์กล่าว

'โรม' มั่นใจปมหุ้นพิธา

ถามว่า กรณีนายวิษณุระบุคดีนายพิธา หากผิดอาจต้องเลือกตั้งใหม่ โฆษกพรรค ก.ก.กล่าวว่า การที่นายวิษณุยกกรณีคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มาเปรียบเทียบกัน ตนไม่ขอพูดถึงข้อวิจารณ์ เพราะเป็นคนละกรณีกัน ไม่น่าจะเอามาเทียบกันได้ และยืนยันอีกหลายครั้งว่าเรื่องหุ้นไอทีวี พรรค ก.ก.ได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องกลั่นแกล้งทางการเมือง หากดูเรื่องของช่วงเวลาที่มีการปล่อยข่าวออกมาในช่วงใกล้เลือกตั้ง น่าจะมีการหวังผลทางการเมือง

"ผมเข้าใจว่าจุดประสงค์ของอาจารย์วิษณุคือพยายามชี้นำ ส.ว.ใช่หรือไม่ เป็นการชี้นำสังคม ที่จะทำให้ ส.ว.เกิดความลังเลใจ และนำไปสู่การหวังส้มหล่น ทั้งที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย คำถามคือทำแบบนี้บ้านเมืองจะวุ่นวายหรือไม่ เท่ากับไม่เคารพเจตจำนงของประชาชนที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง" โฆษกพรรค ก.ก.ระบุ

นายรังสิมันต์กล่าวว่า อย่าไปให้ความสำคัญกับความเห็นทางการเมืองของนายวิษณุ ในอดีตนายวิษณุอาจเป็นปรมาจารย์ด้านกฎหมาย แต่นายวิษณุไม่ได้ถูกทุกเรื่อง แทนที่จะให้สัมภาษณ์ในลักษณะนี้ ควรจะไปบอกให้ พล.อ.ประยุทธ์มีสปิริต เก็บข้าวของออกจากทำเนียบฯ ดีกว่า

ขณะที่นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบโต้นายรังสิมันต์ทันทีว่า นายกฯ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจกับพี่น้องประชาชนไปตั้งแต่สัปดาห์แรกหลังการเลือกตั้งแล้ว  โดยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกหลังเลือกตั้ง นายกฯ ก็ได้กล่าวแสดงความยินดีไปแล้ว ฉะนั้นตรงนี้อยากให้เข้าใจตรงกัน

"ที่พูดถึงเรื่องสปิริตนายกฯ หรือรัฐบาลชุดปัจจุบัน ทำไมถึงไม่ดำเนินการในลักษณะที่จะให้ความร่วมมือในการที่จะมีการเปลี่ยนผ่านหลังเลือกตั้งมาแล้ว และทราบว่าพรรคการเมืองใดกำลังจัดตั้งรัฐบาลกันอยู่ ซึ่งตรงนี้ผมได้เคยชี้แจงไปหลายรอบแล้ว ในเรื่องไทม์ไลน์ต่างๆ ว่าหลังจากการเลือกตั้งจะมีกำหนดระยะเวลาอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ กกต.จะมีการรับรองภายใน 60 วันหลังการเลือกตั้ง และหลังจากที่มีการรับรองแล้วจะมีการเปิดสมัยประชุมสภาฯ เพื่อเลือกประธานสภาฯ  และเลือกนายกรัฐมนตรี จากนั้นนายกฯจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) และถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว รัฐบาลชุดนี้ก็จะหยุดปฏิบัติหน้าที่ และพร้อมให้ทางรัฐบาลใหม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ต่อ คาดว่าประมาณต้นเดือน ส.ค." นายอนุชากล่าว

ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ไทม์ไลน์ต่างๆ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างยังเป็นลักษณะนี้อยู่ และปัจจุบันหากพรรคการเมืองที่กำลังรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล ทางรัฐบาลเองไม่ได้ลักษณะห้ามปรามหากจะเดินสายไปพบกับหน่วยงานภาคเอกชนต่างๆ ซึ่งเราก็เห็นอยู่ ทั้งสภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้าไทยต่างๆ        อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาคราชการ ก็มีเสียงสะท้อนกลับมาทางรัฐบาลเหมือนกันว่าในลักษณะเช่นนี้อาจจะเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร  เพราะปัจจุบันรัฐบาลที่กำลังดำเนินงาน ยังคงทำหน้าที่อย่างเต็มที่อยู่แล้ว โดยมีการประชุมกับหน่วยงานราชการและคณะรัฐมนตรีต่างๆ จึงอยากให้ประชาชนและพรรคการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคการเมืองที่กำลังฟอร์มจัดตั้งรัฐบาลอยู่ได้เข้าใจบทบาทหน้าที่

ถามว่า การที่พูดว่านายกฯ ไม่เก็บข้าวเก็บของ ตรงนี้ถือว่าเกินเลยไปหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า การที่ออกมาพูดว่ารัฐบาลไม่โชว์สปิริตและไม่มีการมอบหมาย หรือไม่มีการดำเนินการในลักษณะเหมือนเตรียมเก็บของเพื่อที่จะออกจากทำเนียบรัฐบาลอะไรต่างๆ คิดว่าเป็นการพูดที่เกินกว่าเหตุ

รบ.ตู่อยู่จนมี ครม.ใหม่

"รัฐบาลชุดนี้ยังไงจะทำหน้าที่จนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ และอยากให้เข้าใจไทม์ไลน์ตรงกัน ไม่ใช่วันที่มีการเลือกนายกฯ แล้ว ตรงนั้นก็ถือว่ายังไม่เสร็จสิ้น ต้องให้มีการฟอร์มคณะรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน นั่นถึงจะเรียกว่าเป็นการยุติของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ฉะนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องเก็บข้าวเก็บของโชว์สปิริตในการที่จะไม่มาทำงาน เวลานี้เราต้องเข้ามาทำหน้าที่ แม้กระทั่งตามกระทรวงต่างๆ รัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ยังต้องเข้ามาทำงานทำเนียบรัฐบาลตามปกติ" นายอนุชากล่าว

นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่นายพิธาเดินสายพบหน่วยงานต่างๆ ถ้าเป็นภาคเอกชนก็สามารถทำได้  แต่ถ้าเป็นส่วนราชการก็ต้องดูว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะวันนี้รัฐบาลยังอยู่ ข้าราชการก็อาจจะอึดอัด และที่นายพิธาบอกว่าข้าราชการขอไปพบเองนั้น มันก็ไม่ใช่ เพราะนายกฯ สอบถามกับข้าราชการแล้ว ก็ไม่มีใครไปขอพบเลย

"ผมไม่อยากที่จะไปก้าวล่วงนายพิธา  แต่บางครั้งเราก็ต้องพูดตรงไปตรงมา เพราะประชาชนจับตาดูอยู่ และนายพิธาเองก็เป็นว่าที่นายกฯ เพราะฉะนั้นการพูดหรือการกระทำ มันจะหมายถึงตัวตนของนายพิธาด้วย ซึ่งความจริงเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร หรือเสียหายอะไร แต่ควรพูดให้ตรงไปตรงมาและเหมาะสม ดูท่านนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์เป็นหลัก ว่าการที่เป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีได้นั้นเป็นอย่างไร ที่ผ่านมานายกฯ ให้เกียรติทุกคนอยู่แล้ว ผมเอง เอาใจช่วยอยู่แล้ว อยากให้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล ลองบริหารประเทศดูว่านโยบายต่างๆ ของพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะนโยบาย 100 วัน ทำได้หรือไม่ อย่างไร" นายธนกรระบุ

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการจัดตั้งรัฐบาล ถือว่าเป็นสถานการณ์ปกติ เพียงแต่มีประเด็นที่ดูเหมือนพรรคที่ไปร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลยังมีความไม่ลงตัวในบางเรื่อง สังคมก็เลยให้ความสนใจ เช่นเรื่องของประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นต้น เพราะผลจากการแถลงล่าสุดสะท้อนว่าก็ยังไม่มีข้อยุติ ถ้ามีข้อยุติก็คงแถลงไปแล้ว

"การรับรอง ส.ส.คือสิ่งที่จะทำให้ทุกอย่างอาจชัดเจนและนิ่งขึ้น ถ้า กกต.ประกาศผลการเลือกตั้ง ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงที่ยังไม่มีการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ" นายจุรินทร์กล่าว

ถามว่า เหตุใดในการเลือกตั้งครั้งนี้ตำแหน่งประธานสภาฯ ถูกโฟกัสมากกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อนๆ นายจุรินทร์กล่าวว่า อาจเป็นประเด็นที่ 2 พรรค ออกมาแสดงความเห็นในลักษณะที่ขัดแย้งกันก็ได้ แต่ประธานสภาฯ ก็ต้องเลือกกันในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ส่วนที่กังวลว่าจะต้องเป็นของพรรคโน้นพรรคนี้ ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายพรรคได้ คิดว่าอาจเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะประธานสภาฯ ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลาง จะไปช่วยขับเคลื่อนนโยบายพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งนั้นทำไม่ได้อยู่แล้ว และรัฐธรรมนูญก็จำกัดขอบเขตอำนาจหน้าที่ประธานสภาฯ ไว้ชัดเจน ข้อบังคับการประชุมก็กำหนดไว้ชัดเจน การที่จะปฏิบัติหน้าที่ การทำหน้าที่ในการบรรจุระเบียบวาระการประชุม ทุกอย่างมีกฎเกณฑ์ มีระบบระเบียบทั้งหมดอยู่แล้ว ดังนั้นก็ไม่ต้องไปกังวลว่าจะสามารถที่จะทำอะไรนอกเหนือกฎเกณฑ์ได้

นายจุรินทร์กล่าวว่า คนที่จะมาเป็นประธานสภาฯ ตนไม่มีเงื่อนไขอะไรพิเศษ เพราะมีระบบระเบียบได้กำหนดบังคับไว้ชัดอยู่แล้ว ถ้าปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นกลางเมื่อไหร่ สมาชิกก็ทักท้วง แล้วสังคมก็จะกดดันเองว่าประธานสภาฯ คนนี้ทำไมถึงไม่ทำหน้าที่เป็นกลาง แล้วอาจจะมีการร้องต่อไปในอนาคตได้ด้วย เพราะประเทศเราการตรวจสอบก็เข้มข้นขึ้น

แกนนำ 3 นิ้วขู่ลงถนน

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท. กล่าวถึงการประชุมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในวันที่ 6 มิ.ย. จะพูดคุยถึงตำแหน่งประธานสภาฯ และโควตารัฐมนตรีหรือไม่ว่า  การประชุมวันที่ 6 มิ.ย. เป็นการประชุมที่เป็นวาระกำหนดทิศทางในการทำงานร่วมกันเพื่อหาทางออกให้ประชาชน จะพูดถึงการนำนโยบายของพรรคต่างๆ มาร่วมกันแก้ปัญหาให้ประชาชนได้อย่างไร เราเอาความคาดหวังของประชาชนเป็นที่ตั้งเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนก่อน ส่วนเรื่องตำแหน่งนั้นเป็นเรื่องที่จะพูดกันภายหลังวาระของประชาชนเสร็จสิ้นแล้ว

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค พท. ในฐานะกรรมการเลขานุการและโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรค พท. กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการประสานงานช่วงเปลี่ยนผ่านที่มีนายพิธาเป็นประธาน วันที่ 6 มิ.ย. พรรคจะเสนอนโยบายเพื่อพูดคุยกับทางพรรคร่วม เช่น เรื่องค่าแรง เขตธุรกิจใหม่ เพื่อหาจุดลงตัวและทำงานร่วมกันได้ เชื่อว่าจะเป็นนโยบายที่สอดคล้องกัน

"นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทของพรรค พท. เรายังเห็นถึงความจำเป็นในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในภาวะที่ประเทศอ่อนแอ แต่นโยบายดังกล่าวต้องใช้งบประมาณกว่า 5.6 แสนล้านบาท ขณะที่พรรคแกนหลักต้องใช้เงินในปริมาณที่ใกล้เคียงกันสำหรับนโยบายด้านสวัสดิการ เราจึงต้องพับโครงการนี้ไปก่อน" รองเลขาธิการพรรค พท.กล่าว

ส่วนนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล แกนนำพรรค พท. และว่าที่ ส.ส.แพร่ กล่าวถึงการประกาศรับรอง ส.ส.ของ กกต.ว่า  ขณะนี้การเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว และส่วนใหญ่ก็น่าจะไม่มีปัญหา อาจจะมีปัญหาแค่บางพื้นที่ ในส่วนนี้ตนคิดว่า  กกต.ควรรีบรับรอง ส.ส.ได้แล้ว เพราะเวลาก็ผ่านมาเนิ่นนาน ในพื้นที่ใดที่ไม่มีการร้องเรียนและไม่มีปัญหาก็น่าจะทำการรับรองไปก่อน

ที่สำนักงาน กกต. นายสมชาย ชอบชาย ตัวแทนกลุ่ม Love Democracy- เรารักประชาธิปไตย พร้อมนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบรท์ ราษฎร​นนทบุรี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เดินทางมายื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานอย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะการพิจารณาคำร้องตรวจสอบคุณสมบัตินายพิธากรณีการถือครองหุ้นสื่อไอทีวีว่า คำร้องดังกล่าวมีผลต่อความสงบสุขและความเรียบร้อยของสังคม อีกทั้งยังมีผลต่อความศักดิ์สิทธิ์ ของกระบวนการทางกฎหมาย รวมไปถึงความเชื่อมั่นของ กกต. เราจึงขอให้กำลังใจ กกต.ใช้ดุลยพินิจและความรอบคอบ เพื่อให้ประเทศชาติสามารถเดินหน้าต่อไปได้ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขโดยเร็วที่สุด

ถามว่า มีการชี้คดีนายพิธาผิดจะชุมนุมบนท้องถนนหรือไม่ นายชินวัตร กล่าวว่า อยากให้ทุกคนยอมรับความเป็นจริง ผิดก็ว่าไปตามผิด ส่วนจะลงถนนหรือไม่ มันเป็นเรื่องของความคิดของประชาชน แต่ตัวเองพอแล้วกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้น

วันเดียวกัน นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน และแกนนำม็อบ 3 นิ้ว ผู้ต้องหาคดี 112 โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เวลาชุมนุมทางการเมืองที่มีแกนนำ รัฐจัดการง่าย เพราะจับแกนนำก็จบ แต่การชุมนุมขนาดใหญ่ที่ทุกคนเป็นแกนนำ รัฐจัดการไม่ได้ และทุกคนรู้หน้าที่ของตนเองในขบวน ถ้าการชุมนุมจะเกิดเพื่อปกป้องประชาธิปไตย จะเกิดอย่างหลังคือ การชุมนุมแบบออร์แกนิก แบบช่วงตุลาปี 63

"อย่าลืมการชุมนุมเป็นเสรีภาพตามกฎหมายระหว่างประเทศ และตามรัฐธรรมนูญไทย เป็นการแสดงออกทางตรงตามระบอบประชาธิปไตย ถึงเวลาเราจะเจอกันแน่นอน" นายอานนท์ระบุ

ก่อนหน้านี้ นายอานนท์ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า "ครั้งนี้พวกกูไม่ยอม!", “เลือกตั้ง” ไม่ใช่พิธีกรรม แต่เป็น “มติประชาชน” ถ้าฝืนมติประชาชน ก็เตรียมรับมือการลุกฮือของประชาชนได้เลย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง