ชูนิรโทษฯย้อนถึงยุค‘แม้ว’

พรรคก้าวไกลเอาแน่ ยกเหตุครบรอบ 3 ปีวันเฉลิมสูญหาย  พร้อมโยงไปไกลตั้งแต่ยุค 2490 เตรียมเดินหน้าลุยนิรโทษกรรมคดีการเมืองตั้งแต่ 19 ก.ย.2549

เมื่อเวลา 14.34 น. วันที่ 4 มิถุนายน   เพจเฟซบุ๊กพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้โพสต์เนื้อหาในหัวข้อครบรอบ 3 ปี นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ถูกบังคับสูญหาย ถึงเวลาคืนความเป็นธรรมให้ประชาชน ระบุว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2563  เวลาประมาณ 17.00 น. คือวันสุดท้ายที่มีคนพบเห็นนายวันเฉลิม นักกิจกรรมทางการเมืองที่ต่อต้านผู้มีอำนาจในเวลานั้น บริเวณหน้าร้านขายลูกชิ้นปิ้ง หน้าโรงแรมแม่โขงการ์เดนส์คอนโดมิเนียม เมืองพนมเปญ กัมพูชา  ก่อนถูกชายต้องสงสัย 3 คน บังคับให้นายวันเฉลิมขึ้นรถเอสยูวีสีดำ พร้อมกับข้อความสุดท้ายที่พูดกับพี่สาวทางโทรศัพท์ว่า โอ๊ย หายใจไม่ออก หลังจากนั้นก็ไม่มีใครทราบชะตากรรมของวันเฉลิมอีกเลย โดยหลังจากที่นายวันเฉลิมหายตัวไปเพียงแค่ 2 วัน เว็บไซต์ข่าวประชาไทมีการเผยแพร่ข้อมูลใบหน้าของบุคคลต้องสงสัย และสี รุ่น เลขทะเบียน ของรถยนต์ต้องสงสัย แต่เวลาผ่านไปแล้วกว่า 3 ปี คดีการอุ้มหายของนายวันเฉลิมกลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ

เพจพรรค ก.ก.โพสต์อีกว่า นายวันเฉลิมไม่ใช่ผู้เห็นต่างจากรัฐคนแรกที่ถูกบังคับให้สูญหาย คณะกรรมการว่าด้วยการหายสาบสูญโดยถูกบังคับหรือโดยความไม่สมัครใจแห่งองค์การสหประชาชาติระบุว่า ระหว่างปี พ.ศ.2523-2565 ไทยมีบุคคลถูกบังคับให้สูญหายเท่าที่ได้รับรายงาน 92 กรณี และ 76 กรณียังไม่มีคำตอบใดๆ ซึ่งตัวอย่างบุคคลที่เป็นเหยื่อของการอุ้มหาย เช่น นายเตียง ศิริขันธ์ นักการเมือง อดีตเสรีไทยที่ต่อสู้กับเผด็จการทหารในทศวรรษที่ 2490, นายชาญ บุนนาค ศัตรูทางการเมืองของเผด็จการทหาร 2490, นายเล็ก บุนนาค  ศัตรูทางการเมืองของเผด็จการทหาร 2490, นายผ่อง เขียววิจิตร ศัตรูทางการเมืองของเผด็จการทหาร 2490, นายสง่า ประจักษ์วงศ์ ศัตรูทางการเมืองของเผด็จการทหาร 2490, นายหะยีสุหลง  โต๊ะมีนา ผู้นำทางความคิดที่เคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้, นายทนง โพธิ์อ่าน ผู้นำแรงงานที่ต่อต้านการรัฐประหารของคณะ รสช.,  นายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้, นายกมล เหล่าโสภาพันธ์ นักเคลื่อนไหวต่อต้านคอร์รัปชัน ที่แจ้งความการทุจริตการเช่าที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย ย่านสถานีรถไฟบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น, นายพอละจี รักจงเจริญ แกนนำกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบางกลอยบน,  นายเด่น คำแหล้ นักต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดินทำกิน ประธานโฉนดชุมชนโคกยาว ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ผู้ต่อสู้กับการไล่รื้อชุมชนจากนโยบายทวงคืนผืนป่าของ คสช., นายอิทธิพล สุขแป้น (ดีเจซุนโฮ) นักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล, นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ (โกตี๋) นักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล, นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ นักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล, นายชัชชาญ บุปผาวัลย์ (สหายภูชนะ) นักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล, นายไกรเดช ลือเลิศ (สหายกาสะลอง) นักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล, นายชูชีพ ชีวะสุทธิ์ (ลุงสนามหลวง) นักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล, นายกฤษณะ ทัพไทย (สหายยังบลัด) นักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล, นายสยาม ธีรวุฒิ (สหายข้าวเหนียวมะม่วง) นักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล และนายวันเฉลิม

“ภายหลังเหตุการณ์การอุ้มหายของนายวันเฉลิม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส. พรรคก้าวไกล ในฐานะสมาชิกกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ได้เสนอให้ที่ประชุมเร่งมีมติส่งร่าง  พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย เข้าสู่ที่ประชุมของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาออกเป็นกฎหมายต่อไป ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวเกิดจากการเริ่มต้นเสนอโดยภาคประชาสังคม และถูกนำเสนอเข้าสู่คณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ ที่มีนายปิยบุตร แสงกนกกุล  อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เป็นประธานในขณะนั้น” เพจพรรคก้าวไกลระบุ

เพจพรรคก้าวไกลระบุอีกว่า ผ่านไป 2 ปี ในที่สุดประเทศไทยก็มีกฎหมายป้องกันการอุ้มหายและซ้อมทรมานมาบังคับใช้ ด้วยเสียงสนับสนุนจากผู้แทนราษฎรหลายพรรคการเมือง ถึงแม้ว่าเนื้อหาของร่างกฎหมายฉบับนี้จะถูก ส.ว.ปัดตกในหลายประเด็น และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์พยายามออก พ.ร.ก.เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ออกไป แต่ผลสุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำวินิจฉัยว่า พ.ร.ก.เลื่อนบังคับใช้ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ทำให้ไทยมี พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ออกมาบังคับใช้โดยสมบูรณ์

“นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ในรัฐบาลของประชาชนที่มาตามระบอบประชาธิปไตย สิ่งที่เราต้องเดินหน้าต่อคือการบังคับใช้กฎหมายป้องกันการอุ้มหายฯ ให้เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย ยุติวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด คืนความเป็นธรรมให้กับบุคคลและครอบครัวของผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยอำนาจรัฐทั้งหมด และป้องกันไม่ให้มีใครต้องถูกอุ้มหายหรือซ้อมทรมานอีก นอกจากบังคับใช้ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ให้มีประสิทธิภาพแล้ว หนึ่งในนโยบายทางการเมืองที่สำคัญของพรรคก้าวไกลคือ นิรโทษกรรมคดีการเมืองโดยมุ่งเน้นไปที่ประชาชน สาระสำคัญของการนิรโทษกรรมฯ ของพรรค คือนิรโทษกรรมประชาชนทุกคนที่ถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกและแสดงความคิดเห็นทางการเมืองด้วยการบิดเบือนกฎหมายของผู้มีอำนาจ นับตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.2549”เพจพรรคก้าวไกลระบุ และว่า ในรัฐบาลของประชาชน รัฐบาลมีหน้าที่สร้างหลักนิติรัฐ รับประกันสิทธิและเสรีภาพของประชาชนทุกคน ทุกความคิดเห็นทางการเมืองต้องมีพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงออก ไม่จะเป็นการแสดงออกที่เห็นด้วยกับรัฐบาลหรือเห็นต่างจากรัฐบาลก็ตาม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง