พิธามั่นใจดีลตั้งรบ. ปัดปมเทขาย‘หุ้นไอทีวี’ ‘อิ๊งค์’ปลื้มเตรียมรับพ่อ

“พิธา” ฟุ้งจัดตั้่งรัฐบาลมีความคืบหน้าเรื่อยๆ เชื่อจบลงด้วยดี ปัดตอบข่าวเทขายหุ้นไอทีวี เลขาฯ ก.ก.แย้มเจรจา ส.ว.เป็นไปในทิศทางที่ดี ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยเป็นความเห็นส่วนตัว “ชลน่าน” เผยคณะทำงานพรรคร่วมเตรียมโชว์วิสัยทัศน์แก้ปัญหาพลังงาน  "ประเสริฐ" เชื่อ กกต.จ่อฟัน 20 ว่าที่ ส.ส.ไม่กระทบพรรคร่วม "สาธิต" โพสต์คลิปตั้งคำถามบรรดา ส.ส.ย้ายพรรคเคยโหวตหนุน "ประยุทธ์" แล้วจะมายกมือให้ "พิธา" แนะอย่าสุดโต่ง "ดร.อนุสรณ์" เตือนตั้ง รบ.เสียงข้างน้อย-แห่งชาติ เจอม็อบใหญ่แน่ "อุ๊งอิ๊ง" ตื่นเต้นจะได้รับพ่อกลับบ้านเดือน ก.ค.พร้อมกัน

เมื่อวันอาทิตย์ ที่ลานกิจกรรมสยามดิสคัฟเวอรี่ มีการจัดกิจกรรมบางกอกไพรด์ 2023 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า มีความคืบหน้าเรื่อยๆ โดยในวันอังคารที่ 6 มิ.ย.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการประสานงานว่าจะมีทางออกอย่างไรกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยจะเป็นเรื่องพลังงานเป็นหลัก และจะได้เคาะคณะทำงานเพิ่ม จากนั้นในวันที่ 7 มิ.ย. จะเป็นการประชุมหัวหน้าพรรค  ส่วนการเจรจาก็เป็นไปตามที่ได้แถลงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เข้าใจว่ามีความคืบหน้าพอสมควร และบริบทก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซึ่งต้องใช้เวลาในการพูดคุยกันอย่างมีวุฒิภาวะ และคิดว่าสักวันหนึ่งจะจบลงด้วยดีไม่มีปัญหาอะไร ไม่ทำให้เราเสียสมาธิในการแก้ปัญหาของประชาชน

เมื่อถามถึงการเตรียมชี้แจงกรณีหุ้นสื่อ นายพิธากล่าวว่า คงจะชี้แจงได้ว่าพร้อมที่จะชี้แจงทั้งในเรื่องของหลักฐานและหลักกฎหมาย อย่างที่ตนบอกว่ายังไม่มีการติดต่อมาจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้วยซ้ำ ไม่รู้กันด้วยซ้ำว่าเขาสงสัยกันประเด็นใด รอให้มีเอกสารมาก็จะทำเอกสารชี้แจงกลับ ให้ความร่วมมือที่จะทำให้เขาเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่บริสุทธิ์ และคงไม่มีอะไรที่จะทำให้การตั้งรัฐบาลสะดุดลงได้ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่านายพิธาเทขายหุ้นไปแล้ว นายพิธากล่าวว่า ต้องรอดูเอกสาร

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก.ก. ในฐานะผู้ประสานงานจัดตั้งรัฐบาล กล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจากับ ส.ว.เพื่อขอเสียงสนับสนุนโหวตนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ว่า  สถานการณ์ขณะนี้ยังเป็นไปในทิศทางที่ดี โดย ส.ว.หลายท่านก็เข้าใจเจตนาของเรา คลายความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีข่าวว่า ส.ว.แสดงความคิดเห็นในทิศทางไม่เห็นด้วยกับพรรค ก.ก. แต่นั่นเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล ไม่ได้เป็นการสะท้อนความคิดเห็นของทั้ง ส.ว.ส่วนใหญ่ ดังนั้นอย่าเพิ่งเหมารวมหรือสรุปว่าเป็นความคิดเห็นของ ส.ว. เพราะส่วนใหญ่กำลังพิจารณาอยู่ ยังไม่ได้สรุปว่าจะมีท่าทีอย่างไร

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เดินทางมาร่วมงานที่ลานกิจกรรมห้างสยามดิสคัฟเวอรี่ ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้ว่า ในวันที่ 6 มิ.ย. คณะกรรมการประสานงานชุดเปลี่ยนผ่านจะประชุมร่วมกันที่พรรคเพื่อไทย เวลา 10.30 น. เพื่อหารือลงรายละเอียดเรื่องต่างๆ ส่วนวันที่ 7 มิ.ย. จะมีการประชุมระดับหัวหน้าพรรค เพื่อติดตามวาระงานต่างๆ ว่ามีความคืบหน้ามากน้อยแค่ไหน เพราะพรรคก้าวไกลได้วางกฎเกณฑ์เอาไว้ว่าจะใช้วาระงานเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งการประชุมวันที่ 6 มิ.ย. ก็จะเป็นความคืบหน้าในวันที่ 7 มิ.ย.ด้วย ทั้งนี้ คณะกรรมการเปลี่ยนผ่านเบื้องต้นจะมี 7 คณะ แต่ในการประชุมวันที่ 6 มิ.ย. อาจจะมีการเพิ่มภารกิจต่างๆ มากขึ้น

"เบื้องต้นใน 7 ภารกิจหลัก แต่ละพรรคจะส่งตัวแทนเข้ามาหารือ ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็เตรียมความพร้อมจะส่งไปร่วมด้วย มีหลายเรื่องที่เป็นเรื่องเร่งด่วนจำเป็น โดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดขึ้นจากราคาพลังงาน ซึ่งจะมีข้อเสนอเชิงวิสัยทัศน์ออกมาในวันดังกล่าว แต่ไม่ได้เป็นการบีบบังคับรัฐบาลรักษาการชุดปัจจุบันให้ปฏิบัติตาม หากเขาเห็นว่าสิ่งที่เรานำเสนอเป็นประโยชน์ ก็เป็นแนวทางที่ดีที่ควรนำไปปรับใช้"

ฟัน 20 ส.ส.ไม่กระทบพรรคร่วม

ส่วนความคืบหน้าเรื่องการรับรองส.ส.ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นั้น นพ.ชลน่านกล่าวว่า กกต.มีกรอบเวลาการรับรอง ส.ส.ถึงวันที่ 13 กรกฎาคม ฉะนั้นจะต้องรับรองโดยเร็วภายในกรอบระยะเวลา 60 วัน ซึ่งเลขาธิการ กกต.ระบุว่าจะรับรอง ส.ส.ให้แล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย. ส่วนตัวเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้เร็ว คาดว่าภายในกลางเดือนนี้จะสามารถเห็นผลได้ชัดเจน

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่ กกต.เตรียมประกาศรับรอง ส.ส. และมีกระแสข่าวว่ามีว่าที่ ส.ส. 20 รายที่อาจจะถูกฟัน หากเป็นว่าที่ ส.ส.ของพรรค พท.และพรรค ก.ก. จะกระทบกับการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ว่ายังไม่อยากคิดไปถึงขั้นนั้น แต่ถามว่ากระทบหรือไม่  จริงๆ ก็ไม่กระทบ และไม่เป็นอุปสรรคอะไรในการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ อย่างน้อย กกต.ต้องรับรองให้ได้ 95% ก่อน เท่ากับ 475 คน หากขาดไป 20 ก็อาจจะทำให้อะไรเปลี่ยนไปบ้างนิดหน่อย ส่วนในกรณีที่มีการเลือกตั้งใหม่ กกต.คงจะจัดให้มีการเลือกตั้งเร็ว และมั่นใจว่าประชาชนจะเลือกฝั่งเราอยู่

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.)  ที่เข้าร่วมกิจกรรมบางกอกไพรด์ 2023  ด้วย กล่าวถึงกรณีจัดตั้งรัฐบาลได้พูดคุยกับนายพิธาเพิ่มเติมนอกจากวันประกาศผลเลือกตั้งแล้วหรือไม่ว่า ยังไม่ได้คุย เพราะคิดว่านายพิธาน่าจะยุ่งมาก ส่วนตัวที่ผ่านมาก็ไปเลี้ยงลูก ก็ยุ่งเช่นกัน แต่ก็ติดตามข่าวตลอด มีความเคลื่อนไหวอย่างไรก็เอาใจช่วยอยู่

เมื่อถามว่า ในงานนี้เหมือนจะเป็นงานแรกที่ได้มาเจอกัน น.ส.แพทองธาร ตอบว่า จริงๆ อยากมาร่วมตั้งนานแล้ว งานนี้เผอิญโอกาสเหมาะพอดีในการจัดเวลาของตัวเองด้วย วันเวลาที่เกิดขึ้นพอดีมากๆ ก็เลยขอทางพรรคมาร่วมด้วย วันนี้เจอกันก็คงจะทักทายก่อน แต่ในเรื่องของรายละเอียดการทำงานคงจะคุยกันผ่านทางพรรคคงจะดีกว่า จะได้เป็นมืออาชีพ แต่ส่วนตัวก็รู้จักกับนายพิธามานานแล้ว เจอก็ทักทายแน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องที่นายพิธาบอกจะชวนให้ร้องเพลง "ขอให้เหมือนเดิม"   น.ส.แพทองธารยิ้มพร้อมหัวเราะ และตอบว่า ปราศรัยจะง่ายกว่า ตัวเองเสียงไม่ค่อยจะดี แต่หากจะให้ร้องด้วยก็ยินดี

ส่วนกรณีของ มดดำ คชาภา พิธีกรชื่อดัง ที่ได้สัมภาษณ์นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถึงเรื่องที่จะกลับประเทศไทย โดยนายทักษิณได้โยนให้ถามกับอุ๊งอิ๊งเองนั้น น.ส.แพทองธาร ตอบว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าวันไหน หากทราบแล้วนักข่าวจะไม่พลาดแน่นอน ตนก็จะมาบอก

เมื่อถามย้ำว่า จะเป็นภายในเดือนกรกฎาคมหรือไม่ น.ส.แพทองธารระบุว่า เห็นว่าอย่างนั้น ว่าจะเป็นกรกฎาคมแต่วันที่ยังไม่ได้ระบุ ส่วนตัวยังไม่คอนเฟิร์ม ส่วนวิธีการกลับมาอย่างไรนั้น ตนในฐานะลูกก็อยากจะไปรับ ไม่ได้อยากรอรับที่นี่ จะได้กลับบ้านพร้อมกัน คิดแล้วก็ตื่นเต้น ถ้าทราบอะไรแล้วจะบอก ส่วนตัวเคารพการตัดสินใจของคุณพ่อจะเป็นยังไงก็ได้

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณี กกต.ประกาศว่า 25 เขตมีปัญหาเรื่องการถูกร้องเรียน จะส่งผลกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ว่า ต้องรอข้อเท็จจริงว่าในจำนวนกว่า 20 เขตตามที่ประธาน กกต.ระบุนั้นเป็นเขตใดบ้าง และจะส่งผลถึงขั้นที่จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ และทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งที่จะตามมาด้วยว่าจะมีผลกระทบกับตัวเลข ส.ส.ของพรรคการเมืองไหน แค่ไหน แล้วต้องดูต่อไปอีกว่าจะมีผลกระทบเพิ่มเติมไปถึงลำดับที่จำนวน ส.ส.ของพรรคการเมืองที่มาเรียงลำดับกันทั้งประเทศหรือไม่ ว่าพรรคไหนอยู่ลำดับที่ 1 2 3 4 5 6 เป็นต้น

เมื่อถามว่า จะมีผลต่อการตั้งรัฐบาลชุดใหม่หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า หากตัวเลขอยู่ที่กว่า 20 เขต แม้จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ทั้งหมด ถ้าพรรคที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคขณะนี้ยังแน่นเหนียว ก็ยังไม่น่าจะมีผลกระทบอะไร จนกลายเป็นการเปลี่ยนขั้วจัดตั้งรัฐบาลได้

ย้ำ ครม.ทำงานจนมี รบ.ใหม่

ส่วนกรณีพรรคก้าวไกลต้องการให้นายกฯ และคณะรัฐมนตรีขนของกลับบ้านไปนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า นายกฯ ท่านยังคงต้องทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลต่อ ยังกลับบ้านไม่ได้ เพราะตามรัฐธรรมนูญท่านจะต้องทำหน้าที่นายกฯ  ไปจนกระทั่งรัฐบาลชุดใหม่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ เช่นเดียวกับรัฐมนตรีทุกคน ทุกกระทรวง ก็ยังจะต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเข้าถวายสัตย์ฯ จึงถือว่าพ้นจากภารกิจ ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้   เพราะกฎเกณฑ์กติกาเป็นอย่างนั้น แล้วทุกคนก็ต้องเคารพกติกา คารพความเป็นจริง เคารพรัฐธรรมนูญ แล้วที่สำคัญ รัฐบาลชุดใหม่ก็ยังไม่เกิดด้วย ยังไม่ได้มีการจัดตั้งถึงขั้นโปรดเกล้าฯ แล้วก็เข้าถวายสัตย์ฯ

นายอลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรองหัวหน้าพรรค ปชป. โพสต์เฟซบุ๊กว่า ประชาธิปไตยเป็นระบอบการเมืองการปกครองที่เรียบง่ายและมีสปิริต ประชาชนเลือกตั้งเสร็จ ใครชนะก็เป็นรัฐบาล ใครแพ้ก็เป็นฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกลชนะได้เสียงอันดับ 1 มีสิทธิ์และความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล โดยต้องรวมเสียงให้ได้เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร แต่ถ้าทำไม่ได้ก็เป็นสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทย อันดับ 2 และพรรคภูมิใจไทย อันดับ 3 ในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป หวังว่าวุฒิสมาชิก (ส.ว.) จะสนับสนุนแนวทางนี้ของสภาในการโหวตเลือกนายกฯ แล้วตัดสินด้วยคะแนนเสียงของประชาชนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

"ที่น่าวิตกคือมีการปล่อยข่าวเฟกนิวส์ข่าวดีลลับข่าวฐานทัพอเมริกัน ปลุกระดมสร้างความเกลียดชัง มุ่งดิสเครดิตฝ่ายตรงข้ามออกมาทั้งในสื่อหลัก สื่อโซเชียล เหมือนการปลุกผีคอมมิวนิสต์ในเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 สร้างความแตกแยกในบ้านเมือง ไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ประเทศกำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ อย่าซ้ำเติมด้วยวิกฤตการเมือง" นายอลงกรณ์ระบุ

นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และรักษาการรองหัวหน้าพรรค ปชป. โพสต์เฟซบุ๊ก เป็นคลิปที่บรรดา ส.ส.ซึ่งย้ายพรรคจากพรรคพลังประชารัฐไปอยู่พรรคเพื่อไทย และเคยขานชื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ พร้อมระบุว่า แค่ถามนะครับ แล้วไงครับ ส.ส.หลายท่านร่วมรัฐบาลนี้ที่จะยกมือสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เป็น ส.ส.ที่ลุกขึ้นยืนสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว แล้วพวกคุณทั้งด่า ทั้งด้อยค่า ไม่ให้ประชาชนเลือก ส.ส.เหล่านั้น แต่ตอนนี้จะเอาไงดี ไม่เอาเสียงเขาสนับสนุนพิธาไหม? หรือไม่เป็นไรแล้ว เขาไม่ผิดแล้ว เพราะพวกเขากำลังมาสนับสนุนฝ่ายคุณ เพื่อเป็นนายกฯ เป็นรัฐบาลแล้ว

"กล้าไหม ไม่เอาเสียงพวกเขายกมือสนับสนุนให้เป็นนายกฯ หรือรัฐบาล เหมือนกับที่ไม่เอาคุณกรณ์ พรรคชาติพัฒนากล้าไหมครับ ที่ผมตั้งคำถามไม่ได้จะต่อว่าอะไร เพียงแต่จะบอกด้วยความหวังดีว่า อย่าสุดโต่งจนเกินไป อย่าด้อยค่าคนอื่นจนเขาไม่เป็นธรรม ให้กำลังใจ แต่อย่าสุดโต่ง ถอยบ้าง ให้เกียรติคนอื่นบ้าง"

นายสาธิตยังกล่าวตอบกลับคอมเมนต์ที่เมนต์ด้วยว่า อยากให้นายพิธาเป็นนายกฯ และพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลที่สุด ด้วยความสัตย์จริง ผมเคารพเสียงประชาชน การด้อยค่า ดูถูก ด่าทอคนอื่นไปหมดไม่มีประโยชน์ เพราะที่สุดเมื่อเป็นรัฐบาลก็ต้องมีหน้าที่ทำให้ทุกฝ่าย ไม่ใช่เป็นรัฐบาลของฝ่ายที่เลือกมาฝ่ายเดียว

ด้านนายพิธา กล่าวถึงกรณีนายสาธิตโพสต์เรื่องดังกล่าวว่า คงคอมเมนต์ไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ดูรายละเอียด ให้เห็นคอมเมนต์แล้วค่อยคอมเมนต์อีกทีดีกว่า ไม่เช่นนั้นจะเข้าใจกันผิดพลาด เป็นเรื่องเป็นราวกันใหญ่   คนจะเป็นผู้นำของประเทศได้ต้องรอดูก่อนว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร ไม่อย่างนั้นคอมเมนต์ผิดจะเป็นเรื่องใหญ่                   

นายสุระ เตชะทัต เลขาธิการพรรคพลังบูรพา กล่าวว่า หลังจบการเลือกตั้ง 14 พ.ค. กว่า 2 สัปดาห์ ผู้คนในสังคม นักการเมืองต่างส่งเสียงเรียกร้อง กกต. ประกาศรับรอง ส.ส. แม้ กกต.อยู่ระหว่างรับรอง ส.ส. เข้าใจว่าตามกระบวนการทำงานของ กกต.มีขั้นตอนต่างๆ อยู่พอสมควร แต่ในบางเขตเลือกตั้งที่ไม่มีเรื่องร้องเรียน และเพื่อให้คลายความกังวลของสังคม ขอให้ กกต.เร่งดำเนินการรับรอง ส.ส. เพื่อนำไปสู่การเปิดประชุมสภาเลือกประธานสภาฯ  รองประธานสภาฯ ได้ หรือดำเนินการเรื่องอื่นๆ ตามกระบวนการกฎหมายต่อไป

ฝืนเสียง ปชช.เจอม็อบใหญ่

"ข่าวลือ ดีลลับ การจับขั้วใหม่ตั้งรัฐบาล การสกัดขัดขวางบางพรรค บางคนไม่ให้ไปทำหน้าที่ ประกอบกับบางคนออกมาเสนอแนวคิดรัฐบาลแห่งชาติ ซึ่งดูแล้วได้รับเสียงต่อต้านมากกว่าเห็นด้วย ทั้งนี้ เมื่อผลการเลือกตั้งที่ออกมา เป็นการสะท้อนความต้องการของประชาชน อยากให้พรรคใดเข้าไปทำหน้าที่บริหารประเทศ ตอนนี้กำลังมีการเจรจาประสานงานดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล ควรปล่อยให้มีการดำเนินการไปตามกระบวนการทางประชาธิปไตย ไม่ต้องการเห็นการบิดเบือน การเบี่ยงเบน เจตนารมณ์ของประชาชน" นายสุระกล่าว

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "ปริศนาธรรมการเมืองเรื่องหุ้น itv" ข้อที่ 4 ถ้าถือหุ้นสื่อ itv เป็นความผิดจะถูกตัดสิทธิ ส.ส.และแคนดิเดตนายกฯ ด้วยหรือไม่ ในเรื่องนี้มีรัฐธรรมนูญ 4 มาตราที่เกี่ยวข้องคือ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การถือหุ้น itv 42,000 หุ้นนั้นผิดและเป็นลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร ส.ส.นั้น นายพิธาจะขาดคุณสมบัติทั้ง ส.ส.และแคนดิเดตนายกฯแม้ว่าอาจจะขายหรือโอนหุ้นออกวันใด ย่อมไม่มีผลเปลี่ยนแปลงต่อการพิจารณาคดีแล้ว เพราะ 1.การเสนอชื่อแคนดิเดจนายกฯ ตาม รธน.มาตรา 88 นั้น ดำเนินการก่อนปิดรับสมัคร ส.ส. 2.มาตรา 89 (2) ผู้ได้รับการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามเป็นรัฐมนตรีตามมาตรา 160 3.มาตรา 160 (6) ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98 และ 4.มาตรา 98 (3) ห้ามผู้สมัคร ส.ส.เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ

"ดังนั้น ถ้าตีความตามนี้ ก็น่าจะถือว่าขาดคุณสมบัติตั้งแต่วันปิดรับสมัครตามมาตรา 88 ในวันที่ 4-7 เม.ย.2566 แล้ว แต่หนทางที่ถูกต้องชอบธรรมที่สุดคือ กกต.มีหน้าที่สรุปส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยให้เป็นที่ยุติ" นายสมชาย ระบุ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "เตรียมรับมือ" ย้ำว่า มีทางเดียวพรรคเพื่อไทยต้องหักหลังเพื่อนไปจับมือ 188 เสียงจึงจะได้ ส.ว. 376 เสียงมาหนุนผ่านนายกฯ และได้ตั้งรัฐบาล แต่หนทางนี้กลับมีราคาต้องจ่ายด้วยความวุ่นวาย รุนแรงของประเทศ เชื่อว่าแม้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ถูกร้องเรียนถือหุ้นสื่อก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถรวบรวมเสียงได้ถึง 376 จาก 750 เสียงของที่ประชุมสองสภาอยู่ดี จึงไม่ได้เป็นนายกฯ

รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักนายกรัฐมนตรี และ อดีตกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ สาขาเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า ความพยายามจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยก็ดี รัฐบาลแห่งชาติก็ดี การบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่เป็นธรรมผ่าน กกต. ศาลรัฐธรรมนูญก็ดี ขอเตือนว่า อย่าคิดที่จะทำเช่นนั้นเป็นอันขาด เพราะพวกท่านจะต้องเผชิญหน้ากับพลังการประท้วงของมวลชนขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย แล้วอาจนำไปสู่อนาคตที่ไม่อาจคาดเดาได้ของเครือข่ายปรปักษ์ประชาธิปไตย และกรุณาอย่าสร้างเงื่อนไขให้เกิดการรัฐประหารแบบปี พ.ศ.2557 อีก เพราะคราวนี้ประชาชนจะไม่ยอม 

"ควรเคารพเสียงของประเทศส่วนใหญ่มากกว่า 70% ในการเลือกพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และเดินตามเจตนารมณ์ของประชาชน หยุดปั่นกระแสสร้างความเกลียดชังด้วยการบิดเบือนความจริง ใช้ปฏิบัติการข่าวสารหรือ IO ในการสร้างข่าวเท็จเรื่อง ฐานทัพสหรัฐอเมริกาในประเทศไทยก็ดี กล่าวอ้างสถาบันกษัตริย์เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองก็ดี จะทำให้เกิดวิกฤตประชาธิปไตย นำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงได้ หากพวกเครือข่ายปรปักษ์ประชาธิปไตย กลัวอย่างไร้เหตุผลว่า รัฐบาลใหม่ฝ่ายประชาธิปไตยจะก่อปัญหาในการบริหารประเทศ พวกท่านก็ยังมีสมาชิกวุฒิสภา และองค์กรอิสระทั้งหลายที่พวกท่านแต่งตั้ง ตรวจสอบถ่วงดุล และกำกับการทำงานของรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยได้ นอกจากนี้ ยังมี ส.ส.ฝ่ายค้านทำหน้าที่ได้ในรัฐสภา และสามารถเสนอตัวแข่งขันในการเลือกตั้งในอีก 4 ปีข้างหน้าได้" รศ.ดร. อนุสรณ์กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชงไทยบี้เมียนมา งดขายน้ำมันให้ เจรจาสันติภาพ

"โรม" เสนอให้ไทยงดขายน้ำมันให้ "เมียนมา" ปูดใช้ไทยฟอกเงินเครือข่ายซื้ออาวุธที่ใช้ปฏิบัติการ เตือนถูกดึงไปเอี่ยวร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์