‘บิ๊กตู่’ท้าไล่ออกจากบ้านหลวง

"บิ๊กตู่" ท้า "พท." ไล่ออกจากบ้านหลวงภายใน ร.1 ทม.รอ. ลั่นที่อยู่คำนึงถึงความปลอดภัย อ้างทุกประเทศสากลดูแลแบบนี้ไม่มีไล่ ถ้าแก้กฎ-ระเบียบกองทัพก็พร้อมออก ไม่หวั่นถูกเช็กบิลย้อนหลัง บอกรัฐประหารจบไปแล้ว เผยให้เหล่าทัพทำ "โผทหาร" แล้ว ไม่กังวลช่วงเปลี่ยนผ่านมี กก.คุมอยู่ ส่วนการปฏิรูปกองทัพไม่สะดุด แม้รัฐบาลใหม่มาจากพลเรือน ย้ำทหารเป็นกลไกหนึ่งของรัฐบาล

ที่ศาลาว่าการกลาโหม วันที่ 22  มิถุนายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีเมื่อพ้นจากอำนาจนายกฯ จะย้ายออกจากบ้านพักภายใน ร.1 ทม.รอ. หรือไม่ ว่าเป็นเรื่องของกติกาเดิมอยู่แล้ว ถ้าจะแก้ไขก็ต้องไปแก้กฎกระทรวง  มันเป็นระเบียบของกองทัพบกอยู่แล้ว ฉะนั้นการที่เขาจะดูแลผู้บังคับบัญชา มันเป็นกติกาเหมือนเดิม ถ้าอยากเปลี่ยนก็เปลี่ยนไป ตนก็พร้อมออก

เมื่อถามต่อว่า นายกฯ อยู่ได้ในฐานะอดีต ผบ.ทบ.ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตั้งแต่อดีต ผบ.ทบ. จนวันนี้มาเป็นนายกฯ   หลายประเทศเขาก็ดูแลแบบนี้ มีทหารประเทศไหนเขาไล่คนเก่าไหม เขาก็มีรปภ.ดูแลต่อ ประเทศไทยไม่ได้หรือต้องเท่าเทียมก็แล้วแต่ ตนเคารพกติกา

ถามอีกว่า พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้ออกจากบ้านพัก นายกฯ กล่าวว่า  ระเบียบว่าอย่างไรก็ไปแก้ระเบียบ “วันนี้ผมอยู่ ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยผมด้วย เข้าใจไหม บ้านผมก็มี ไม่ใช่ไม่มี แต่มันไม่ปลอดภัย”

เมื่อถามย้ำว่า เหมือนเขาไม่เข้าใจในเรื่องนี้ นายกฯ กล่าวว่า “ก็ไม่รู้ ก็เรื่องของเขา” ถามอีกว่านายกฯ ห่วงว่าใครจะมาทำอะไร นายกฯ กล่าวว่า “ไม่ใช่ห่วง โธ่!”

ถามว่า หมายถึงสิ่งที่นายกฯ พูดว่าห่วงความไม่ปลอดภัยของตัวเอง นายกฯ กล่าวว่า “เขาเรียกว่ามันเป็นสากล เข้าใจหรือไม่ ผมก็มีแรงป้องกันตัวเองอยู่เหมือนกัน แล้วจะต้องไปอะไรกับคนอื่นเขา”

เมื่อถามย้ำว่า ทำไมนายกฯ คิดว่าตัวเองถึงไม่ปลอดภัย นายกฯ กล่าวว่า เป็นการพูดถึงหลักการเรื่องผู้นำ อดีตผู้นำ วันนี้ถ้าทุกคนเท่าเทียม การมาในวันนี้ก็ไม่ต้องมีอะไรกับตน มาคนเดียวแล้วมันทำได้หรือไม่ จะไปเดินอยู่คนเดียวทำได้หรือไม่ เขาก็ต้องให้เกียรติ คุ้มครองและดูแล ถือเป็นหน้าที่ของเขา เดี๋ยวรัฐบาลหน้ามาก็ต้องได้รับการดูแลเหมือนกัน แต่เขาไม่ใช่ทหารอย่างตน แค่นั้นเอง

เมื่อถามอีกว่า นายกฯ กลัวโดนเช็กบิล ย้อนหลังหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จะกลัวอะไร ตนกลัวอะไร ส่วนมีการประกาศว่าจะเช็กบิลทางกฎหมายย้อนหลัง นายกฯ กล่าวว่า ก็เรื่องของเขา ก็ไปสู้ตามกฎหมายเอา กฎหมายมันย้อนหลังได้ไหม  ส่วนเขาจะแจ้งความเรื่องการทำรัฐประหาร นายกฯ กล่าวว่า เขาจะแจ้งความก็แจ้งไป มันจบไปตั้งนานแล้ว แล้วมันย้อนหลังได้ไหม

ถามย้ำว่า เขาพยายามผลักดันโดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ทำได้ นายกฯ กล่าวว่า ก็เขาพยายาม ก็มันทำได้ไหม  มันผิดหลักการทางกฎหมายหรือไม่ และรัฐธรรมนูญมีผลย้อนหลังหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่านายกฯ มั่นใจว่าจะไม่โดนเช็กบิลย้อนหลังใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่รู้ ไม่ทราบ

เมื่อถามถึงการหารือเรื่องโผทหารและการแต่งตั้ง ผบ.เหล่าทัพในที่ประชุมสภากลาโหมวันนี้ รมว.กลาโหมกล่าวว่า ยังไม่ได้คุย ทุกอย่างเป็นธรรมเนียม เป็นระเบียบอยู่แล้ว เมื่อถึงเวลาสมควรก็จะมีการพูดคุยเรื่องนี้ พร้อมระบุช่วงนี้เหล่าทัพก็ต้องเตรียมดำเนินการปรับย้ายภายในขึ้นมา และนำมาเสนอในคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารของกระทรวงกลาโหม ซึ่งเห็นว่ายังมีเวลาอยู่ และแม้เป็นรัฐบาลรักษาการก็สามารถดำเนินการได้ เพราะเป็นไปตามกฎหมาย

เมื่อถามว่า การเปลี่ยน ผบ.เหล่าทัพ ในระหว่างที่จะมีการปรับเปลี่ยนรัฐบาลด้วย จะทำอย่างไรให้เกิดความราบรื่น พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถาม แต่ย้อนถามว่า “เกี่ยวกันตรงไหน”

ผู้สื่อข่าวจึงอธิบายว่า เพราะ ผบ.เหล่าทัพและรัฐบาลใหม่ต้องทำงานไปด้วยกันพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ต้องไปด้วยกันอยู่แล้ว ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็แล้วแต่ รัฐบาลเป็นผู้บริหารทั้งหมด ไม่ว่าจะฝ่ายความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม ดังนั้นกองทัพก็อยู่ภายใต้รัฐบาลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลของตน หรือจะเป็นใครมา

 “ก็ขอให้มั่นใจว่ากระทรวงกลาโหมก็เป็นกระทรวงหนึ่งในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล รัฐบาลจะเป็นผมหรือเป็นใครก็เหมือนกันนั่นแหละ ไม่ใช่ทหารมาปกครอง และทหารเป็นเครื่องมือของรัฐบาลมาโดยตลอดทุกรัฐบาลที่ผ่านมา  คนบริหารก็คือนายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับการจัดทำโผทหาร ต้องรับฟังเหล่าทัพต่างๆ และดำเนินการเป็นรูปคณะกรรมการ ไม่ใช่ตนเป็นคนชี้ตรงนั้นตรงนี้ โดยหลักเกณฑ์จะมีทั้งเรื่องการประเมินอาวุโสและความสามารถ โดยเตรียมคัดกรองมาเป็นปีๆ รวมถึงดูผลงานที่ผ่านมาว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่ เหมาะเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดหรือไม่

เมื่อถามว่า ในการประชุมสภากลาโหมวันนี้ มีความคืบหน้าประเด็นการปฏิรูปกองทัพหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การปฏิรูปกองทัพขณะนี้เป็นระยะที่ 2 ซึ่งมีการเน้นย้ำไปแล้วว่าต้องการลดขนาด การปรับให้มีความทันสมัยมากขึ้น แต่ปัญหาคือระบบงบประมาณไม่เพียงพอ เพราะเมื่อเราจะลดคนก็ต้องเอาเครื่องมือและเทคโนโลยีเข้ามา เอายุทโธปกรณ์ใหม่เข้ามา เพื่อลดการซ่อมอุปกรณ์เก่าๆ ที่ใช้มาหลายสิบปีแล้ว ซึ่งก็ต้องดูแลตรงนี้ด้วย จะได้เดินหน้าไปสู่การลดกำลังลงได้

เมื่อถามย้ำว่า เป็นห่วงหรือไม่ถ้ารัฐบาลใหม่เข้ามาอาจจะพูดคุยหรือไม่เข้าใจเรื่องงบประมาณของกระทรวงกลาโหม  พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตรงนี้ได้ให้สำนักงบประมาณดูแลอยู่แล้ว ถึงเวลาก็จำเป็นต้องหารือกันระหว่างกองทัพกับรัฐบาลใหม่ เพราะทุกหน่วยงานก็ต้องทำงานกับรัฐบาลใหม่ และมีข้อมูลต่างๆ ให้รัฐบาลใหม่ได้รับทราบว่าจะบริหารกันอย่างไร สิ่งใดควรทำ-ไม่ควรทำ ซึ่งก็แล้วแต่รัฐบาลใหม่ตัดสินใจ

เมื่อถามว่า วันนี้เจอ ผบ.เหล่าทัพ ได้ฝากหรือเป็นห่วงอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ต้องฝาก แต่บอกให้ทุกคนเตรียมข้อมูลให้พอเพียงเพื่อเป็นข้อมูลในการบริหารของรัฐบาลใหม่ เพราะตนไม่ได้ขัดแย้ง   

พ.อ.จิตนาถ ปุณโณทก รองโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมกระทรวงกลาโหมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพดําเนินการในการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงกลาโหม ตามแผนการปฏิรูปการบริหารจัดการและการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงกลาโหมระยะที่ 2 (พ.ศ.2566- 2570) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางาน และนําไปสู่การมีโครงสร้างอัตราการจัดหน่วยที่มีขนาด กะทัดรัดอย่างสมดุล มีจํานวนกําลังพลที่เหมาะสม รวมทั้งมียุทโธปกรณ์เทคโนโลยีที่เพียงพอและทันสมัย สามารถปฏิบัติภารกิจได้หลากหลาย รองรับภัยคุกคามได้ทุกรูปแบบ และสอดคล้องกับสภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคงที่เปลี่ยนแปลงไป ในปัจจุบัน ตลอดจนพิจารณาปรับลด ยุบเลิกหน่วยที่มีความซ้ำซ้อนหรือหมดความจําเป็น ทั้งนี้การดําเนินการดังกล่าวให้ยึดถือและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ประกอบการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขอัตราของหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ ที่กําหนดอย่างเคร่งครัด

นอกจากนั้น ยังให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพดํารงความต่อเนื่องในการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านความมั่นคงกับมิตรประเทศ และเน้นย้ำและกําชับหน่วยฝึกทหารใหม่ ให้ปฏิบัติตามระเบียบและหลักสูตรการฝึกทหารใหม่อย่างเคร่งครัด กรณีมีการลงทัณฑ์ทหารที่กระทําผิดวินัย จะต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พุทธศักราช 2476 ระเบียบข้อบังคับของทางราชการและแบบธรรมเนียมทหารเท่านั้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง