หึ่ง!กกต.เชือด‘พิธา’ ชงศาลรธน.ปมถือหุ้นITV แดดดี้ทิมฟุ้งไม่กินแห้วแน่

"ก้าวไกล" เดินสายปลุกด้อมส้ม "สุพรรณบุรี-เซ็นทรัลเวิลด์" "พิธา"  โวไม่ขอกินแห้ว อ้างฉันทามติ 14 ล้านเสียงบวก พท.อีกเป็น 25 ล้าน คืนความปกติให้สังคมไทย ลั่นอีก 4 วันถึงเส้นชัยเป็นเวลาประวัติศาสตร์ ชื่นชม ส.ว.ไม่โหวตสวนมติ ปชช. ขณะที่ 8 พรรคร่วมเล็งจี้ถาม ก.ก.จะให้โหวต “พิธา” กี่ครั้ง  ก.ก.เฮ! ได้แล้ว ส.ว. 2 เสียง “ดิเรกฤทธิ์-หมออำพล” พร้อมโหวตให้ "ส.ว.สมชาย" ยืนกรานหากนำประเทศสู่วิกฤตไม่เอาแน่   "ประพันธ์" หยามม็อบกดดันไร้ราคา ซัดอนาธิปไตยไม่เคารพ รธน. เตือนเท่ากับฆ่าตัวตายไม่มีทางชนะ จับตา กกต.จ่อถกส่งศาล รธน.ปม "พิธา" ถือหุ้นไอทีวี 10 ก.ค. ก่อนวันโหวตนายกฯ 

เมื่อวันอาทิตย์ พรรคก้าวไกล (ก.ก.)  นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ก.ก. มีกำหนดการพบปะมวลชนอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงเช้านายพิธาลงพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เพื่อขอบคุณประชาชน ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างเนืองแน่น ระหว่างที่ขึ้นเวทีปราศรัย นายพิธาได้กล่าวแนะนำตนเองเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30  พร้อมกล่าวถึงเหตุผลที่มาในวันนี้ เพื่อมายืนยันกับพี่น้องชาวสุพรรณฯ และพี่น้องชาวภาคกลาง ว่าพร้อมจะเป็นนายกฯ ของทุกคนและของประเทศไทย ถึงแม้ว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลจะไม่ได้ ส.ส.เขตแม้แต่คนเดียว แต่คะแนนปาร์ตี้ลิสต์พรรคก้าวไกลมาเป็นอันดับหนึ่ง

"มาสุพรรณฯ บ่อยครั้ง รู้ว่าของดีที่นี่ต้องกินอะไร กินข้าวที่ไหน กินปลาสลิดที่ไหน แต่ไม่กินอยู่อย่างเดียว แห้วสุพรรณฯ  ขอไม่กิน เพราะเหลือเวลาอีกเพียง 4-5 วันเท่านั้นที่รัฐสภาจะมีการเลือกนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย คราวนี้ไม่แห้วแน่นอน เราอยู่ในระบบที่ไม่ปกติมาเป็นสิบปี ทั้งการทำรัฐประหาร นิติสงคราม การยุบพรรค ขอสื่อสารถึงนักการเมืองทุกคน วันนี้เมื่อพี่น้องประชาชนให้ฉันทามติกับพรรคการเมือง 8 พรรคแล้ว ท่านมีโอกาสจะทำให้ความอปกตินั้นกลับมาเป็นความปกติได้ ถ้าเพื่อน ส.ส.ทุกคนบอกว่าพอกันทีกับความอปกติ ท่านไม่ต้องเลือกพิธา แต่ท่านต้องเลือกรัฐบาลที่มาจากพี่น้องประชาชนใช่หรือไม่"

นายพิธากล่าวต่อว่า ส.ว.หลายคนบอกว่าอยากโหวตเพื่อหลักการ อยากจะโหวตให้รัฐบาลเสียงข้างมากที่มาจากประชาชน เพราะฉะนั้นเราต้องให้กำลังใจกับ ส.ว.ที่มีความกล้าหาญ ขณะเดียวกัน นายพิธายังกล่าวแสดงความเคารพต่อ ส.ว. ที่ยืนอยู่ข้างอนาคตและความถูกต้อง ขอให้ช่วยกันแก้ไขปัญหาให้ประชาชน

เวลา 16.30 น. ที่ลานหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พรรคก้าวไกลจัดกิจกรรม "ขอบคุณประชาชน ฟังเสียงทุกคนก่อนโหวตนายก" ยืนยันเจตนารมณ์ของพรรค โดยตั้งแต่เวลา 15.00 น. ด้อมส้มได้ทยอยเข้าพื้นที่จับจองที่นั่งเพื่อรับฟังการอภิปรายของนายพิธา อย่างไรก็ตามก่อนถึงกำหนดการกิจกรรมของพรรคก้าวไกล เวลา 16.00 น. ฝนได้ตกลงมาทำให้ด้อมส้มต้องหลบเข้าห้าง บางส่วนที่เตรียมอุปกรณ์กันฝนมาอย่างร่มและเสื้อกันฝนไม่ยอมขยับเพราะเกรงจะไม่มีที่นั่ง

ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้ อีกนัยเพื่อปลุกมวลชนกดดัน ส.ว.ให้โหวตให้นายพิธาก้าวถึงเก้าอี้นายกฯ ในวันที่ 13 ก.ค.ที่จะถึงนี้

ต่อมาเวลา 18.00 น. นายพิธากล่าวทักทาย ขอบคุณ และให้ประชาชนมีส่วนร่วมพูดคุยในหัวข้อ “ความหวังและความฝันต่อนายกรัฐมนตรีคนที่ 30” ตอนหนึ่งว่า ถึงฟ้าจะร้อง ประชาชนก็ไม่ทิ้งผม ผมก็ไม่ทิ้งประชาชนเช่นเดียวกัน เรามาไกลเกินกว่าจะแพ้แล้ว เหลืออีกนิดเดียวพวกเราจะถึงเส้นชัยไปด้วยกัน เหลือเวลาอีกเพียง 4 วันเท่านั้นที่จะเป็นเวลาประวัติศาสตร์ที่ทั่วโลกกำลังจับตาดูว่าสังคมไทยคุณค่าความเป็นไทยแบบไหน

"ถ้าเราเลือกผิด ฝืนมติประชาชน ทำให้ความไม่ปกติของการเมืองไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมายังไม่ปกติต่อ ไม่รู้ว่าโอกาสทองแบบวันที่ 13 ก.ค. จะมาอีกเมื่อไหร่ การคืนความปกติให้กับการเมือง เริ่มต้นมาไกลแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. ที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ทั่วประเทศ ให้คะแนนผมมา 14 ล้านเสียง ให้พรรคเพื่อไทยมาอีก 10 ล้านเสียง รวมทั้งหมดได้เสียงข้างมากกว่า 25 ล้านเสียง แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยต้องไม่เหมือนเดิม"

นายพิธากล่าวว่า ถ้าพวกคุณไม่ถอย  ผมก็ไม่ถอยเช่นกัน เราพิสูจน์แล้วว่ามันไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าพวกเราร่วมมือกัน และวันที่ 13 ก.ค.นี้ ตนพร้อมจะเป็นนายกฯ ของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ท่านสามารถให้โอกาสประเทศไทย และคืนความเป็นปกติให้กับการเมืองไทย อย่าให้ประชาชนผิดหวัง

อ้อน ส.ว.ไม่สวนมติ ปชช.

"ถึงเพื่อนๆ พี่ๆ สมาชิกวุฒิสภา แม้ว่าที่มาของพวกเราจะแตกต่างกัน แต่เราคือนักการเมืองของประชาชนเหมือนกัน ขอแสดงความชื่นชมในความกล้าหาญของท่าน ที่บอกว่าจะเป็นวุฒิสภาของพี่น้องประชาชน และลงมติตามรัฐบาลเสียงข้างมาก ผมขอชื่นชม และขอบคุณวุฒิสภาที่ต้องบันทึกไว้ในโลกาว่า ไม่ว่าจะเรื่องนโยบาย ไม่ใช่เรื่องของ ส.ว. ดังนั้นเขาจะไม่โหวตสวนมติของประชาชนแน่นอน" นายพิธากล่าว และว่า หลังจากตนเป็นนายกฯ ขออนุญาตปรึกษาและทำงานกับ ส.ว.เพื่อประชาชน ไม่มีดีลลับ มีแต่ดีลรัก

 “ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ ฝนมันตกมานานมากพอแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาฟ้าเปิด อย่าฝืนธรรมชาติ เพราะฝนมันตกทั่วฟ้า พอกันทีที่ปล่อยให้ฝนตกขึ้นฟ้า ให้ระบบเป็นระบบ" นายพิธากล่าว

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย  (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการ ก.ก. นัดหารือ 8 พรรคร่วมรัฐบาลเพื่อเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการโหวตนายกฯ ว่า มีการนัดประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 11 ก.ค. เวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา โดยมีวาระที่จะคุยกันคือเรื่องการโหวตนายกฯ  การสรุปสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งเข้าใจว่าไม่มีการพูดคุยกันถึงกรณีที่หากไม่สามารถโหวตนายพิธาได้ในครั้งแรกนั้น จะโหวตอีกกี่ครั้ง เนื่องจากทางพรรค ก.ก. มีความมั่นใจว่าเขาโหวตครั้งเดียวผ่าน อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าฝั่งพรรคร่วมทั้ง 8 พรรค เราจะเสนอชื่อนายพิธาเพียงชื่อเดียว ทั้งนี้ ทาง ก.ก.ไม่ได้แจ้งมาว่าขณะนี้มีเสียง ส.ว.สนับสนุนนายพิธากี่เสียง

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท. เปิดเผยว่า พรรค พท.เตรียมเรียกประชุม ส.ส.พรรคในวันที่ 12 ก.ค.เวลาประมาณ 14.00 น. ที่พรรค พท. หลังเสร็จการประชุมสภาในช่วงเช้า เพื่อกำหนดแนวทางการโหวตเลือกนายกฯ ในวันที่ 13 ก.ค. โดย พท.ยังคงยืนยันหลักการและเจตจำนงที่จะผลักดันนายพิธา ให้เป็นนายกฯ คนที่ 30 อย่างเต็มความสามารถ รวมทั้งสนับสนุนให้ ก.ก.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ ส.ส.ของ พท.จะโหวตไปในทิศทางเดียวกัน คือโหวตให้นายพิธาเป็นนายกฯ ส่วนจะต้องโหวตกี่ครั้ง คงต้องขึ้นกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ  พรรค พท. ให้สัมภาษณ์ถึงความสัมพันธ์ระหว่าง พท.และ ก.ก.ว่า พรรคการเมืองที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ซึ่งเรียกว่าฝ่ายประชาธิปไตยมัดกันเป็นข้าวต้มมัด โดยเฉพาะพรรค พท.กับพรรค ก.ก. มีประชาชนเหมือนตอกไม้ไผ่ ซึ่งทั้งสองพรรคจะต้องเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  จะต้องเป็นนายกฯ ทั้งสองพรรคทำ MOU กันได้ 312 เสียง ยืนยันว่าจะไม่มีการแตกเสียงกัน ตนมีการพูดคุยกับ ส.ว.บางคน ตนยกมือไหว้พร้อมบอกว่า ส.ว.เป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะ ควรไม่ต้องตั้งข้อสงสัยอะไรมากมาย เพราะประชาชนตัดสินไปแล้ว อย่าไปสวนทาง เพราะผู้พิพากษาที่ตัดสินไปก็คือประชาชน หากทำตัวใหญ่กว่าประชาชน เชื่อได้เลยว่า ส.ว.จะไม่มีที่อยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก 8 พรรคร่วมรัฐบาลถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลว่า หลังจากที่นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการ ก.ก. นัดหารือ 8 พรรคร่วมรัฐบาลเพื่อเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการโหวตนายกฯ ในวันที่ 11 ก.ค. เวลา 09.30 น.ที่รัฐสภานั้น ทางพรรคร่วมรัฐบาลเตรียมสอบถามถึงความชัดเจนจากทาง ก.ก. ถึงแนวทางการโหวตนายพิธาในวันที่ 13 ก.ค. ว่าจะต้องโหวตเลือกกันกี่ครั้ง ในกรณีที่โหวตนายพิธารอบแรกไม่ผ่าน โดยถ้า ส.ว.ไม่ยกมือโหวตให้ หรือยกมือโหวตให้เพียงบางส่วน ก.ก.จะดำเนินการอย่างไรต่อ นอกจากนี้จะได้มีการสอบถามถึงข้อเสนอที่ว่าจะให้โหวตนายพิธาไปเรื่อยๆ จนกว่า ส.ว.จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งช่วงเดือน พ.ค.67 นั้นเป็นความจริงหรือไม่

2 ส.ว.หนุน 'พิธา'

ส่วนท่าทีของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ด้านนายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ส.ว.  ซึ่งก่อนหน้านี้เคยประกาศว่าพร้อมจะโหวตเลือกนายกฯ ที่ได้เสียงสนับสนุนจากส.ส.เกิน 250 ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ยืนยันตามหลักการเดิมคือต้องประคองระบบรัฐสภา สภาเลือกนายกฯ และนายกฯ ก็ไปตั้งคณะรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯ ต้องได้รับความไว้วางใจจากสภา เพราะฉะนั้นต้องให้เกียรติสภา ที่เขามีหน้าที่ไว้วางใจและไม่ไว้วางใจรัฐบาล ดังนั้นฝ่ายไหนจัดตั้งแล้วมีเสียงข้างมากในสภาได้  ตนก็เลือกคนนั้น นี้คือหลักการ โดยไม่ต้องดูว่าเป็นใคร ก็ยืนยันตามหลักการเดิม

นพ.อำพล จินดาวัฒนะ ส.ว. โพสต์เฟซบุ๊กระบุจุดยืนการโหวตนายกฯ มี เนื้อหาสรุปว่า ตนพร้อมโหวตให้คนที่พรรคการเมืองรวมเสียงเกินกึ่งหนึ่งในสภาผู้แทนฯ เสนอชื่อ เพื่อให้เข้าไปเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากบริหารประเทศต่อไปใช้เหตุผลเดียวกันกับที่เคยใช้ตอนโหวตเลือก นรม. (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) เมื่อปี 62 จะกลับกลิ้งเป็นอย่างอื่นไม่ได้ประวัติศาสตร์จะจารึกและบันทึกไว้ จะทำหน้าที่แบบ “ไม่ตั้งตนเป็นใหญ่” ไม่หาเหตุผลใดๆ มาอ้างเพื่อขวางเสียงประชาชน ส.ว.ไม่ควรมีหน้าที่และอำนาจเลือกนรม. เพราะไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตยที่แท้จริง ควรเป็นหน้าที่และอำนาจของ ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงเท่านั้น         

ขณะที่ พล.อ.ต.นพ.เฉลิมชัย เครืองาม ส.ว. กล่าวถึงการโหวตให้ความเห็นชอบบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ว่า มีแนวคำตอบอยู่แล้ว โดยใช้หลักยืนยันมั่นคงว่าใช้ดุลยพินิจโดยอิสระเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ส่วนรวม สถาบันหลักทั้งหมดของชาติเป็นสำคัญ คำนึงถึงความมั่นคงของชาติและสถาบันหลักทั้งหมดของชาติเป็นหลัก ไม่ยอมรับในสิ่งที่จะมาบั่นทอนหรือทำลายเสถียรภาพสถาบันหลักของชาติทั้งหมด  รวมถึงความสามัคคีของคนในชาติ ไม่ต้องการในสิ่งที่ได้มาแล้วจะเกิดความไม่มีเสถียรภาพของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และความสามัคคี ก็จะเป็นสิ่งที่สามารถลงมติได้

ด้านนายสมชาย แสวงการ ส.ว. ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีการโหวตนายกฯ ของส.ว.ว่า ขอให้รอดูวันที่ 13 กรกฎาคม ซึ่งขณะนี้ ส.ว.ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน แต่ทุกคนมีวิจารณญาณอยู่แล้วว่าการทำหน้าที่ของ ส.ว.นั้น ทุกคนได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็น ส.ว.มา โดยท่านที่มาจาก ผบ.เหล่าทัพ เจตนาชัดเจนว่าไม่ประสงค์ออกเสียงใดๆ ไม่ว่าจะเป็นกรณีของใครก็ตาม ต้องดูว่าบุคคลนั้นมีคุณสมบัติเป็นเช่นไรรวมถึงต้องดูเรื่องของการรวมเสียงและนโยบายพรรคการเมืองที่จะร่วมกันเป็นรัฐบาล ว่าจะสามารถนำพาประเทศเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ จะนำไปสู่ความขัดแย้งหรืออะไรที่สุดโต่งหรือไม่ หากประเทศเดินหน้าไปสู่วิกฤตหลายเรื่องเราก็ไม่ยินดี

เมื่อถามว่า หากทาง ก.ก.ลดเพดานเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ทาง ส.ว.จะมีการพูดคุยกันใหม่ถึงทิศทางการโหวตหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ไม่ต้องพูดคุย แต่ต้องแสดงมา เอาให้ชัดเจนว่าเรื่องนี้ไม่มีเลย ไม่ต้องแก้ไขเรื่อง ม.112, ไม่ต้องยุ่งกับนิรโทษกรรมได้หรือไม่ รวมถึงเรื่องรัฐธรรมนูญ หากลดเพดานจริง ตนสนับสนุนแต่ต้องชัดเจน พรรค ก.ก.ยังเดินเหมือนเดิม หรือบอกว่าประชาชนเข้าชื่อ เขามีสิทธิ์ แล้วจะช่วยสนับสนุน แบบนี้ไม่ได้ เขาเรียกว่าถอยแบบไม่ถอย ถอยแบบศรีธนญชัย ตนเห็นว่าอันตราย ที่สับสนมากคือเรียกร้องมาตลอด 4 ปีว่าให้ ส.ว.ปิดสวิตช์ แต่วันนี้บอกให้เปิดสวิตช์ แล้วเปิดสวิตช์เลือกเฉพาะคุณห้ามเลือกคนอื่น  ตกลงจะเอาอย่างไรแน่

ไม่ให้ราคาม็อบด้อมส้ม

นายประพันธ์ คูณมี ส.ว. ที่ประกาศชัดเจนว่าจะไม่โหวตให้นายพิธา กล่าวถึงกรณีที่จะมีการเคลื่อนไหวของม็อบที่อาจจะออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมกันวันโหวตนายกฯ ที่หน้ารัฐสภาวันโหวตนายกฯ   รวมถึงอาจมีการเคลื่อนไหวนัดรวมตัวหากนายพิธาไม่ได้เป็นนายกฯ ว่า ก็เป็นปัญหาหนึ่งของพรรคก้าวไกล เพราะเป็นพรรคการเมืองที่มีวัฒนธรรม ไม่เป็นประชาธิปไตยชัดแจ้ง พฤติกรรมของพรรคเขาเป็นอนาธิปไตย ไม่เคารพความคิดเห็นคนอื่น ไม่เคารพกฎหมาย ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ มีวัฒนธรรมเดียวกันคือวัฒนธรรมถ่อยสถุล สามานย์ทางการเมือง มีการด่าด้วยถ้อยคำก้าวร้าวแบบไม่มีเหตุผล

 “ยิ่งคนของก้าวไกลไปใช้วิธีปลุกระดมมวลชน และใช้มวลชนเหล่านี้มาแสดงออกมากเท่าไหร่ เท่ากับเป็นการขุดหลุมฝังศพตัวเอง คือเป็นการฆ่าตัวตาย หากเขาไม่โหวตเลือกหัวหน้าพรรคคุณเป็นนายกฯ เขาทำผิดกฎหมายตรงไหน ในเมื่อเป็นการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ แสดงว่าคุณยังไม่ดีพอ คุณยังไม่สามารถโน้มน้าวให้เกิดการยอมรับจากผู้อื่นได้ เท่าที่ ส.ว.พูดคุยกัน ไม่มีใครให้ราคากับพฤติกรรมของสาวกด้อมส้มและผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลแม้แต่น้อย หากใช้พฤติกรรมแบบมาเย้วๆ ด่าทอ ไร้สาระ ไม่มีเหตุผล มากดดัน ไม่มีทางจะชนะหรือมาโน้มน้าวให้คนอื่นเขาเห็นด้วย และก็ไม่มีใครเขากลัว จะชุมนุมกี่ปีก็ไม่มีทางชนะ ตอนนี้ตำรวจก็เตรียมเรือนจำไว้รับพวกคุณแล้ว" นายประพันธ์กล่าว

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์พิเศษรายการ “ชั่วโมงข่าวเสาร์อาทิตย์” ทางไทยพีบีเอส ถึงการโหวตเลือกนายกฯ ว่า ตามหลักการ ต้องให้พรรคที่ได้เสียง ส.ส.อันดับ 1 เสนอชื่อก่อน หากไม่ผ่านก็เป็นสิทธิ์ของพรรคอันดับ 2 แต่หากแคนดิเดตของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยไม่ผ่าน คงต้องมีการพูดคุยกันว่าจะมีพรรคการเมืองอื่นเข้ามาช่วย หรือสมการการเมืองจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร หากมีการพลิกขั้ว โดยพรรคเพื่อไทยจับมือกับขั้วรัฐบาลเก่า ก็จะต้องมีการเจรจากันว่าแคนดิเดตของพรรคใดเหมาะสมจะเป็นนายกฯ

"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพปชร.เหมาะสมที่สุด สุดท้ายต้องยอมรับความจริงว่ารัฐบาลต้องเป็นรัฐบาลผสม ใครจะเป็นนายกฯ อยู่ที่การเจรจา แต่สุดท้ายต้องอยู่ที่รัฐสภา พล.อ.ประวิตร พร้อมมานานแล้ว และเชื่อว่าทุกฝ่ายยอมรับว่า พล.อ.ประวิตรไม่ขัดแย้งกับใคร สามารถประสานงานและเป็นที่เคารพของเกือบทุกกลุ่ม ทุกพรรค" นายชัยวุฒิกล่าว

กกต.จ่อส่งศาลก่อนโหวต

นายวราวุธ  ศิลปอาชา ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณีที่นายพิธาเดินทางมาจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อเดินสายขอบคุณคะแนนเสียง พร้อมระบุมาเหยียบถิ่นมังกรว่า คงไม่ใช่ถิ่นมังกรหรอก จ.สุพรรณบุรีก็ถือเป็น 1 ใน 76 จังหวัดของประเทศไทย เป็นเรื่องปกติ ส่วนทิศทางการโหวตของพรรค ชทพ.ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ ขอหารือถึงความชัดเจนภายในพรรคก่อนว่าจะมีใครเสนอแข่งอย่างไร แต่สิ่งที่เราพูดไว้คือ แนวทางของ ชทพ.เกี่ยวกับการไม่วุ่นวายเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เรายืนหยัดอยู่

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการนัดประชุมเลือกนายกฯ ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ว่า  เบื้องต้นได้มีการเตรียมกำลังจากตำรวจ คฝ.จำนวน 8 กองร้อย (1,360 นาย) คอยรักษาความปลอดภัยกลุ่มผู้มาให้กำลังใจ หรือกลุ่มผู้ชุมนุมหน้ารัฐสภา โดยจะป้องกันไม่ให้มีการชุมนุมกีดขวางหน้าสภา โดยจะให้ผู้มาชุมนุมนั้นอยู่บริเวณแยกเกียกกาย เบื้องต้นได้รับทราบว่าจะมีมวลชน 2 กลุ่มคือ จากกลุ่มของนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน และกลุ่มของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข โดยคาดว่าจะมีคนรวมกันประมาณกว่า 1,000 คน ซึ่งจากการประเมินในวันที่ 13 ก.ค.นี้ จะยังไม่มีความวุ่นวาย แต่หากมีการโหวตนายกฯ ไม่ผ่าน ก็จะประเมินวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ ที่คาดว่าจะมีการชุมนุมเข้มข้นมากกว่าวันที่ 13 ก.ค.

มีรายงานข่าวจากสำนักงาน กกต. แจ้งว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของสำนักงาน กกต. กรณีมีผู้ยื่นร้องต่อ กกต.ขอให้พิจารณาและส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าการที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล มีชื่อถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น เข้าลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) และเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) หรือไม่

รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการตรวจสอบฯ ได้มีการรวบรวมข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย พยานหลักฐานต่างๆ และมีการประสานข้อมูลกับคณะกรรมการไต่สวนกรณีกล่าวหานายพิธา ประเด็นรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งแต่ยังคงลงสมัคร ตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. โดยคณะกรรมการฯ ได้สรุปข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน ข้อกฎหมายเสร็จสิ้นแล้ว เตรียมเสนอต่อที่ประชุม กกต.พิจารณาต้นสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ ปกติ กกต.จะมีประชุมทุกวันจันทร์และอังคารของสัปดาห์ แต่คาดว่าจะมีการเสนอเรื่องดังกล่าวในการประชุมวันที่ 10 ก.ค. และคาดว่าที่ประชุม กกต.จะมีมติส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ โดยให้สำนักงานดำเนินการทันที หาก กกต.มีมติและเสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ที่ปกติจะมีการประชุมประจำสัปดาห์ในวันพุธ ซึ่งสัปดาห์นี้จะตรงกับวันที่ 12 ก.ค.หากศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัย และมีคำสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติ ส.ส.ไว้จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ย่อมมีผลต่อการโหวตสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ ตามที่ประธานสภาฯ นัดประชุมรัฐสภาในวันที่ 13 ก.ค.นี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โยนรบ.ปลดล็อกม.112 กมธ.นิรโทษฯชง3ข้อเสนอทะลุฟ้า/ก.ก.ย้ำสิทธิประกันตัว

"กลุ่มทะลุฟ้า" บุกทำเนียบฯ-รัฐสภา ร้องรัฐบาลตรวจสาเหตุ  "บุ้ง" เสียชีวิตให้โปร่งใส จี้คืนสิทธิประกันตัวผู้ต้องหาคดีการเมือง