‘เอ้’ลั่นเปลี่ยนกรุงเทพ หย่อนบัตรกลางปี65

ปชป.เคาะส่ง “ดร.เอ้” เป็นทางการชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. การันตีเลือดใหม่มีคุณภาพ เปิดตัว "สุชัชวีร์" โชว์วิสัยทัศน์กรุงเทพฯ เมืองสวัสดิการต้นแบบอาเซียน ทำแก้มลิงใต้ดิน แก้ปัญหาน้ำท่วม จัดการฝุ่นพิษ ทำโรงเรียนสาธิต 50 แห่ง 50 เขต เผยเตรียมตัวมา 30 ปี มั่นใจเปลี่ยนกรุงเทพฯ ได้ ด้าน "เพื่่อไทย" ส่งแน่ส.ก. 50 เขต “บิ๊กตู่” ยันไม่ยื้อเลือกตั้ง คาดหย่อนบัตรไม่เกินกลางปี 65 พร้อม ส.ก.-ส.ข. ระบุสเปกต้องทำงานเพื่อ ปชช.ตาม กม.ไม่ทุจริต

ที่พรรคประชาธิปัตย์ เวลา 10.40 น.วันที่ 13 ธันวาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ปชป. และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. ดูแลพื้นที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกันแถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) โดยนายจุรินทร์แถลงว่า ที่ประชุมคณะ กก.บห.มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบให้นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ขณะที่ทีมงานรองผู้ว่าฯ กทม. ได้เตรียมบุคคลไว้แล้ว ซึ่งมีทั้งคนในพรรคและคนเลือดใหม่ที่เข้ามาร่วมงานกับพรรค โดยจะมีการเปิดตัวต่อไป ทั้งนี้ ที่ประชุมยังรับรองให้นายสุชัชวีร์เป็นสมาชิกพรรคตลอดชีพด้วย

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะ กก.บห.ยังให้ความเห็นชอบบุคคลที่จะเป็นสมาชิกกรุงเทพ (ส.ก.) ทั้ง 50 เขต แบ่งเป็นอดีตส.ก.เดิม 13 คน และคนรุ่นใหม่ 37 คน รวมเป็น 50 คน โดยจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ เวลา 09.30 น. ที่ที่ทำการพรรค

“พรรคภูมิใจที่ได้ต้อนรับเลือดใหม่ คุณภาพอย่าง ดร.เอ้ มาเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นับจากนี้พรรคได้เสนอทางเลือกที่ดีที่สุดให้ชาว กทม. และหวังว่า ดร.เอ้จะนำชัยชนะสู่พรรคและกทม. ถ้าได้รับโอกาส ผมมั่นใจ ดร.เอ้และทีมงานสามารถเปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้อย่างแน่นอน” หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าว

ช่วงบ่าย ที่ตึกสามย่านมิตรทาวน์ ในงานเปิดตัวนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรค ปชป. มีผู้บริหารพรรคคนสำคัญร่วมงาน อาทิ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ในฐานะหัวหน้าพรรค, นายชวน หลีกภัย, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นต้น รวมทั้งนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม. ว่าที่ ส.ก.และประชาชน ร่วมงานอย่างคึกคัก

จากนั้นเวลา 16.00 น. มีการเปิดตัวนายสุชัชวีร์พร้อมกับบิดามารดาและภรรยา โดยนายสุชัชวีร์ประกาศวิสัยทัศน์ หากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ว่า ที่ผ่านมากรุงเทพฯ เผชิญกับปัญหาฝนตก น้ำท่วม ฝุ่นพิษ เผชิญกับปัญหาการศึกษาที่ย่ำแย่ เราจะไม่รออีกต่อไป ฉะนั้นปัญหาน้ำท่วมไม่ใช่แค่เรื่องที่ชี้ชะตาคนกรุงเทพฯ แต่เป็นการชี้ชะตาการเปลี่ยนแปลงไปสู่ลูกหลาน ให้มันรู้ไปถ้าคนกรุงเทพฯ ให้ความไว้วางใจตนเป็นผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งเป็นวิศวกรทางลอด ให้มันรู้ไปจะเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้มันรอดจากน้ำท่วมไม่ได้ เราขออาสา เราทำได้ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การเลือกผู้ว่าฯ แต่เลือกอนาคตคนกรุงและลูกหลาน

นายสุชัชวีร์ยังระบุว่า จะพัฒนารถเมล์ให้ดีขึ้น จะแก้ปัญหาฝุ่นพิษ โดยเปลี่ยนจากฝุ่นพิษเป็นอากาศบริสุทธิ์ เพื่อส่งต่อให้ลูกหลาน รู้ทันรู้มาจากไซต์งานก่อสร้าง รถบรรทุกรถสิบล้อ ก็ต้องจัดการปัญหา อีกทั้งจะพัฒนาโรงเรียนในสังกัด กทม. ให้มีคนแย่งเข้าเรียน รวมทั้งจะทำโรงเรียนสาธิต 50 เขต 50 โรงเรียน ดูแลให้เหมือนลูกตัวเอง จะประกาศแข่งกับประเทศสิงคโปร์ ฝันจะเป็นผู้ว่าฯ การศึกษา กทม.คนแรก

นายสุชัชวีร์กล่าวด้วยว่า กรุงเทพฯ ต้องเป็นเมืองสวัสดิการที่ทันสมัย ต้นแบบของอาเซียน เมืองต้องใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น เท่าเทียม จะทำแก้มลิงใต้ดินเหมือนกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมใน กทม. มีระบบเตือนภัย ฝนตก น้ำท่วม ไม่ให้ซ้ำรอยเหตุการณ์น้ำท่วมที่สะพานซังฮี้ และจะนำเกาะกลางถนนออกเพื่อเพิ่มพื้นที่การจราจร และอยากให้ประเทศไทยเสนอตัวจัดงานโอลิมปิกในปี 2036

"ผมเตรียมมา 30 ปี เพื่อวันนี้ สร้างอนาคตให้ลูกหลาน คืนรอยยิ้มให้คนกรุงเทพฯ ผมเชื่อมั่นปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้" นายสุชัชวีร์กล่าว

หลังจากนั้น นายสุชัชวีร์ให้สัมภาษณ์กรณีที่ตัดสินใจลงสมัครในนามพรรคปชป.ว่า เป็นเพราะเห็นกระแสพลังการเปลี่ยนแปลงของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เลือดใหม่ได้เสนอตัวเข้ามาทำงาน อีกทั้งผู้ว่าฯ กทม.ไม่สามารถทำงานคนเดียวตามลำพังได้ ต้องทำงานเป็นทีม ส่วนการลงพื้นที่หาเสียงจะเป็นในลักษณะลุย โชคดีที่พรรคประชาธิปัตย์มีคนในพื้นที่มาอย่างยาวนาน ส.ก. 50 เขตเตรียมพร้อมแล้ว เนื้อที่กรุงเทพฯ มีประมาณ 1.6 ล้านตารางเมตร จะเดินให้ได้ 1.6 ล้านก้าวพร้อมกับตัวแทนทุกเขต มั่นใจคนกรุงเทพฯ จะให้โอกาสตน และกระแสตอบรับดีมาก

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายพชร นริพทะพันธุ์ กรรมการบริหารพรรค และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรค พท. กล่าวว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะส่งผู้สมัครลงแข่งขันชิงผู้ว่าฯ กทม. หรือจะสนับสนุนผู้สมัครอิสระท่านใดท่านหนึ่งเพื่อให้ชนะการเลือกตั้ง แต่พรรคเพื่อไทยจะส่งผู้สมัคร ส.ก.ครบทั้ง 50 เขต ที่ได้ลงพื้นที่และทำงานกันอย่างหนักมาโดยตลอด เชื่อว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนชาว กทม.ให้เป็นตัวแทนในการเข้าไปพัฒนา กทม.ให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยขอเสนอ 7 นโยบายเพื่อให้ชาว กทม.ได้เลือกผู้แทนของพรรคเพื่อไทยเข้าไปช่วยพัฒนา กทม. อยากเห็น กทม.เป็นเมืองในอนาคตในรูปแบบต่างๆ ดังนี้ 1. “กทม. เมืองแห่งโอกาส” 2.“กทม. มหานครดิจิทัล” 3.“กทม. ระบบขนส่งของคนกทม.” 4.“กทม. คอนเน็ค” 5.“กทม. เมืองฟ้าใส ไร้ฝุ่น” 6.“กทม. เมืองของประชาชน” 7. “กทม. ดุ จับ ปรับ สะอาด”

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสเปกผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ในใจว่า ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตามก็ต้องทำเพื่อประชาชน และทำให้ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ในสิ่งที่จะต้องกระทำตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ เพราะ กทม.เป็นอิสระ เราไปยุ่งเกี่ยวเขามากไม่ได้อยู่แล้ว เขามีกฎหมายของเขา และยืนยันว่าไม่ได้ยื้อการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ใดๆ จนกว่าจะพร้อม อาจจะเร็วหรือช้าคงต้องดูอีกที มันไม่เกี่ยวอะไรกับตนทั้งสิ้นอะไรที่ทำได้ก็ทำ

เมื่อถามว่า นายกฯ เคยบอกว่ารอให้เกิดความสงบจึงจะให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. นายกฯ กล่าวว่า นั่นแหละก็ประมาณไม่เกินกลางปี 2565 ซึ่งความพร้อมก็จะมีการเลือกตั้ง ส.ก.และสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) ด้วย ที่ต้องเลือกไปพร้อมกัน ตนไม่ต้องการจะดึงอะไรไว้ทั้งสิ้น อะไรที่ปล่อยได้ตนก็ปล่อยหมด สำคัญคือทำอย่างไรจะแก้ปัญหาต่างๆ ที่ค้างคาอยู่ได้ ฉะนั้นผู้ว่าฯ ท่านใหม่ก็ต้องแก้ปัญหาตรงนี้ด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ละพรรคได้มีการเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. นายกฯ ได้มองคุณสมบัติอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คุณสมบัติเขากำหนดไว้ตามระเบียบอยู่แล้ว ตามกฎหมาย ของตนมีอย่างเดียวคือทำงานตอบสนองประชาชนให้ได้ดี ระมัดระวังการทุจริต เรื่องการทุจริตตนก็พยายามจะแก้ตั้งนานแล้ว

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีเตรียมการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. จะนำเข้าให้ ครม.เพื่อกำหนดวันเลือกตั้งได้เมื่อใดว่า ในขั้นนี้จะหารือกับ กกต.ก่อนว่าจะดำเนินการและ มีความพร้อมอย่างไร แต่ในขณะนี้ กกต.ต้องใช้เวลาในเรื่อง อบต.อีก 30 วันเกี่ยวกับการรับรองผลเลือกตั้ง ทางกระทรวงมหาดไทยจะหารือกับ กกต. ว่าสมควรจะเสนอ ครม.อย่างไร ทำเหมือนคราวที่แล้ว คนที่ตัดสินใจคือ ครม. ส่วนเราจะให้ข้อมูลไป เข้าใจว่าทั้ง กทม.และพัทยาไม่เกี่ยวข้องกัน แต่สามารถทำพร้อมกันก็ได้ มันเหลือการเลือกตั้งสองรูปแบบเท่านั้น ฉะนั้นขึ้นอยู่ว่าจะเหมาะสมทำเมื่อไหร่อย่างไร ถ้ากระทรวงมหาดไทยและ กกต.เห็นว่าสมควรพร้อมแล้วก็เสนอเข้าครม.

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงความชัดเจนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.อีกครั้งหรือไม่ว่า "เรื่องนี้ถึงเวลาแล้วจะบอก".

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง