34ร่างกลับถึงไทย ยังค้นหาผู้สูญหาย จี้ทุกฝ่ายหยุดยิง

กต.เผยคนไทยสังเวยสงครามอิสราเอล-กาซา 34 ราย ร่างทั้งหมดกลับถึงไทยหมดแล้ว ระบุถูกจับเป็นตัวประกัน 25 คน ฮามาสไม่อนุญาตให้ดูความเป็นอยู่ ย้ำเดินหน้าค้นหาผู้สูญหาย "พิพัฒน์" มอบ "อารี" ร่วมพิธีรับร่าง 8 แรงงานไทย กมธ.การต่างประเทศเรียกร้องทุกฝ่ายหยุดยิงเชิงมนุษยธรรม

ที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) วันที่ 9 พฤศจิกายน นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษก กต. พร้อมกับนายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล ร่วมแถลงสถานการณ์ในอิสราเอล-กาซา โดยนางกาญจนากล่าวถึงความคืบหน้าสถานการณ์ในอิสราเอล-กาซาว่า ขณะนี้ได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. โดยทางกรมการกงสุลถือเป็นหน่วยงานที่สำคัญในการดำเนินงานในเรื่องนี้โดยตลอด พบว่า ขณะนี้คนไทยเสียชีวิต 34 ราย บาดเจ็บอยู่ระหว่างการเข้ารักษาพยาบาล 4 ราย ถูกจับกุมเป็นตัวประกัน 25 ราย ส่งร่าง

กลับมาไทย 34 ร่าง ภาครัฐอพยพ 7,470 ราย โดย 35 เที่ยวบิน คนไทยเดินทางกลับเองกว่า 800 ราย ผู้เดินทางกลับไทยแล้ว กว่า 8,500 ราย ถือได้ว่ารัฐบาลประสบความสำเร็จในภารกิจระยะแรกแล้ว ในการนำคนไทยที่มีการแสดงความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย 

นางกาญจนากล่าวว่า คนไทยที่ยังอยู่ที่อิสราเอล เขาคงพิจารณาแล้วว่าอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งคาดว่ามีคนไทยกว่า 20,000 คนที่ยังอยู่ และแม้ว่าจะปิดศูนย์ที่ตั้งในโรงแรมไปแล้ว และได้ย้ายกลับมาในสถานทูต แต่ยังมีการรับช่วยเหลือพี่น้องคนไทยอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถติดต่อมาได้เสมอ หลังปิดศูนย์ที่โรงแรมมีคนไทยขอรับการช่วยเหลือเพื่อขอเดินทางกลับประเทศไทยอีกประมาณ 32 คน มีผู้ขอติดต่อรับคำแนะนำผ่านทางเฟซบุ๊ก 86 คน  

เมื่อถามว่า ได้ประสานกับทางการประเทศอียิปต์ ผ่านพรมแดนราฟาห์ เพื่อช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันหรือไม่ นายรุจกล่าวว่า ได้ประสานงานเบื้องต้น ซึ่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร มีการประสานทางอียิปต์ เพราะจะเป็นเส้นทางบรรทุกสิ่งของเข้าไปช่วยเหลือในฉนวนกาซา โดยไทยได้มีการบริจาคอาหาร เครื่องนุ่งห่มผ่านช่องทางนี้เช่นกัน ดังนั้นในส่วนของตัวประกันอาจจะเป็นช่องทางนี้ในการปล่อยตัว โดยความร่วมมือกับนานาชาติ มิตรประเทศจากตะวันออกกลาง ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทยก็มีการหารือกับผู้นำหลายประเทศเช่นเดียวกัน 

สำหรับกลุ่มฮามาสได้มีการอนุญาตให้เข้าไปดูสถานะของตัวประกันแล้วหรือไม่ โฆษก กต.ระบุว่า เท่าที่ติดตามข่าว ยังไม่มี แต่คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศเข้าไป ซึ่งเป็นแง่ความลับทางการทหาร

เมื่อถามว่า มีคนไทยสูญหายหรือไม่ตอนนี้ นายรุจกล่าวว่า ทางสถานทูตกำลังตรวจสอบว่ามีคนไทยสูญหายหรือไม่ มีการประสานกับสำนักงานแรงงานกรุงเทลอาวีฟจะมีรายชื่ออยู่แล้ว และทราบว่าแรงงานไทยอยู่จุดไหน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุจำนวนได้ 

นางกาญจนากล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มาสู่ในช่วงของการติดตามว่ามีใครที่สูญหายหรือพลัดหลง เพื่อจะหาข้อมูลหาอัตลักษณ์จากทางประเทศไทยไปประกอบกับทางอิสราเอลเพื่อที่จะให้ชัดเจนว่ามีการสูญหายหรือไม่

วันเดียวกัน เวลา 12.15 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน มอบหมายให้นายอารี ไกรนรา เลขานุการ รมว.แรงงาน พร้อมด้วยนายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นผู้แทนกระทรวงแรงงานรับศพแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลอีกจำนวน 8 ราย พร้อมร่วมวางพวงหรีดแสดงความอาลัย ณ บริเวณอาคารคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

นายอารีกล่าวว่า กระทรวงแรงงานได้ส่งเจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัด เข้าแจ้งสิทธิประโยชน์ครอบครัวของแรงงาน ทั้งในส่วนรัฐบาลไทยเรียบร้อยแล้ว และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานที่อยู่ในจังหวัดภูมิลำเนาของแรงงานไทยได้ประสานครอบครัวผู้เสียชีวิต เพื่ออำนวยความสะดวกร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อรับร่างแรงงานทุกรายกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ภูมิลำเนาใน 6 จังหวัด ได้แก่ นครพนม เชียงราย อุดรธานี น่าน บึงกาฬ และลำปางแล้วเช่นกัน สำหรับแรงงานไทยที่เสียชีวิตทั้งหมด 34 ราย ขณะนี้สถานทูตได้ส่งร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดมาครบแล้ว

ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ นำโดยนายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ. แถลงถึงผลประชุมเรื่องสถานการณ์อิสราเอลว่า เรามีความเป็นห่วง และได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ในที่ประชุมมีการพูดคุยกันอย่างกว้างขวาง โดยเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ตอนนี้ค่อนข้างขยายวง รวมถึงมีความสูญเสียเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าตกใจ ทาง กมธ.จะมีข้อเสนอแนะ คือทุกฝ่ายจะต้องยุติการสู้รบหรือจะต้องมีการหยุดยิงในเชิงมนุษยธรรมทันทีเพื่อเป็นช่องมนุษยธรรม เพื่อเป็นการเปิดช่องให้ทางการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนไม่ว่าจะเป็นชาติ ศาสนาใด

นายนพดลกล่าวว่า เรากังวลชะตากรรมของคนไทยที่ถูกจับกุมเป็นตัวประกัน ซึ่งวันนี้ก็ถูกจับเพิ่มอีก 2 คน เราอยากเรียกร้องให้รัฐบาลได้เร่งดำเนินการเพิ่มเติม เพื่อให้มีการปล่อยคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันอย่างเร็วที่สุด ซึ่งวันนี้ทางเอกอัครราชทูตอิหร่านได้เข้ามาหารือกับทาง กมธ. เราได้ฝากความห่วงใย และขอให้ทางประเทศอิหร่านใช้ความสัมพันธ์หรือบทบาทที่มีอยู่ในภูมิภาค ได้ขอให้ช่วยในการปล่อยตัวประกันทั้งหมด และเราอยากให้ประเทศไทยเข้าพูดคุยกับอิสราเอล รวมถึงฝ่ายต่างๆ ให้ดูแลสวัสดิภาพคนไทยที่ยังไม่ได้เดินทางกลับ และติดตามครอบครับของคนไทยทั้ง 20,000 คน ว่ามีความเป็นอยู่อย่างไร เพื่อมีข้อมูลให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง