ภท.ไม่แทงข้างหลัง เสี่ยหนูประกาศกฎเหล็ก/พรรคเพื่ออนาคตไทยจ่อเปิดตัว

ภูมิใจไทยคึก ประชุมใหญ่โคราช ชู "เสี่ยหนู" แคนดิเดตนายกฯคนต่อไป "อนุทิน" ออกลีลา ไม่ผูกมัดต้องจับขั้วพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน ถ้าไม่ดีต่อกันก็อยู่กันเป็นรอบๆ "เพื่ออนาคตไทย" พรรคใหม่สี่กุมารใกล้คลอดแล้ว สภาล่มฝ่ายค้านไล่ทุบบิ๊กตู่

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่อินดอร์สเตเดียม (ชาติชาย ฮอลล์) จังหวัดนครราชสีมา มีการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ของพรรคภูมิใจไทย บรรยากาศการจัดงานเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 1,500 คน โดยการประชุมมีวาระสำคัญ เช่น การเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคเพิ่มขึ้นอีก 1 ตำแหน่ง, การเลือกคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของภูมิใจไทย

ในการประชุมครั้งนี้ มีทายาทการเมืองของพรรคพลังประชารัฐ ได้แก่ นายพิทักษ์ชน ช่างเหลา บุตรชายนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ คนสนิทธรรมนัส พรหมเผ่า และ น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ บุตรสาวนายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ พลังประชารัฐ, นายนัจมุดดีน อูมา อดีต ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ, นายธวัชชัย อนามพงษ์ อดีต ส.ส.จันทบุรี พรรคประชาธิปัตย์, นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล มาร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย

โดยนายพิทักษ์ชนให้สัมภาษณ์ว่า เป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยมาสักระยะแล้ว ซึ่งการมาสมัครเพราะมีอุดมการณ์เดียวกันกับพรรค ส่วนอนาคตของพ่อ และพี่ชายที่ตอนนี้อยู่พลังประชารัฐ จะมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น ต้องไปสอบถามเอง การที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย พ่อและพี่ชายก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะให้อิสระตัดสินใจงานการเมืองเอง

เมื่อเริ่มการประชุม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวปราศรัยต่อสมาชิกพรรคว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงครึ่งหลังของสภา จึงต้องมีการเตรียมการเลือกตั้ง ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาใดก็ได้ พรรคภูมิใจไทยพูดเสมอว่าพรรคพร้อมเลือกตั้งทุกวัน จากนี้ไม่เกิน 15 เดือนต้องมีความพร้อม ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั้งหมดต้องนำนโยบายของพรรคไปทำความเข้าใจ สร้างความเชื่อถือศรัทธากับประชาชน เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคที่นำนโยบายที่ประกาศไว้ไปปฏิบัติ สมกับคำพูดที่ว่าพรรคภูมิใจไทย “พูดแล้วทำ” เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศ โดยจุดเด่นของพรรคคือการเป็นเอกภาพมากที่สุด เป็นภาคีสมาชิกเคารพกติกา รัฐธรรมนูญ และความคิดเห็นซึ่งกันและกัน มีความสามัคคีจนทำให้รัฐบาลชุดนี้มีความมั่นคง เป็นเสาค้ำระบบรัฐสภาให้มีความแข็งแกร่ง และมั่นใจว่าพรรคการเมืองในสารบบ ที่มีความเป็นเอกภาพ เป็นปึกแผ่น จงรักภักดี ซื่อสัตย์สุจริตต่อประชาชนที่สุด ทุกโพลจะต้องมีพรรคภูมิใจไทย เพราะเราพูดแล้วทำสิ่งที่ได้สัญญาไว้กับประชาชน ที่เราหาเสียงไว้ว่าทำได้เร็ว และทำได้เลยไม่ทำนโยบายที่เพ้อฝันเอาใจประชาชน เราไม่พูดไปเรื่อยหรือดีแต่พูด เรารับผิดชอบคำพูดทุกเรื่อง และทำทุกเรื่องที่พูดให้เป็นจริง จับต้องได้ เช่น นโยบายกัญชาที่ถูกถอดออกจากบัญชียาเสพติด การผลักดันกัญชง สิ่งเหล่านี้มุ่งหวังเพื่อให้ประชาชนมีรายได้

“ใครร่วมงานกับเราไม่ต้องเหลียวหลัง ไม่มีแทงข้างหลัง ถ้าอยู่กันดีก็อยู่กันไปเรื่อยๆ ใครไม่ดีก็อยู่เป็นรอบๆ จะให้พวกมากลากไปไม่ได้ พรรคมีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่มีใครมาสั่งได้นอกจากประชาชน นายของพรรคภูมิใจไทยคือประชาชน พรรครักษาคำพูดเสมอ เชื่อว่านักการเมืองและพรรคได้รับการยอมรับ และได้ความเชื่อถือจากประชาชน” นายอนุทินกล่าว

ต่อมาภายหลังการประชุมใหญ่พรรคภูมิใจไทยเสร็จสิ้น นายภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า พรรคมีมติเลือกกรรมการบริหารพรรค เพิ่ม 1 คน คือ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นรองหัวหน้าพรรค จากนั้นมีการเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง จำนวน 11 คน ประกอบด้วย 1.นายอนุทิน 2.นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ 3.นายทรงศักดิ์ ทองศรี 4.นายชาดา ไทยเศรษฐ์ 5.นายพิพัฒน์ เป็นต้น

ต่อมาในช่วงเย็น นายอนุทินแถลงภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า พรรคแสดงความพร้อมว่าจะเข้าสู่สนามเลือกตั้งได้ตลอดเวลา การประชุมครั้งนี้นอกจากเราจะมี ส.ส.มาร่วมประชุมแล้ว ยังมีผู้สมัครหน้าใหม่มาสังกัดพรรคด้วย โดยในส่วนของจังหวัดนครราชสีมามี ส.ส.มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากกรุงเทพฯ เมื่อเรามีโมเดลที่บุรีรัมย์แล้วก็อยากนำมาใช้ที่โคราชต่อไป หวังว่าประชาชนชาวโคราชจะให้ ส.ส.แก่พรรคภูมิใจไทยยกจังหวัด

เมื่อถามถึงกรณีทายาท ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และอดีต ส.ส.จากพรรคการเมืองอื่นมาร่วมเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย คาดว่ามาจากสาเหตุอะไร นายอนุทินกล่าวว่า เป็นเพราะนโยบายที่มุ่งทำประโยชน์เพื่อประชาชน ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต จึงทำให้คนรุ่นใหม่อยากมาขับเคลื่อนนโยบายกับเรา ซึ่งถือว่าเป็นความสวยงามของประชาธิปไตย เพราะคนในครอบครัวเดียวกันไม่จำเป็นต้องอยู่พรรคเดียวกัน เชื่อว่าในอนาคตจะมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถมาร่วมงานกับเราอีก

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคจะกวาดเก้าอี้ ส.ส.ได้จำนวนเท่าไหร่ นายอนุทินกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน ถามย้ำว่าพรรคตั้งเป้าจะเป็นแชมป์ในพื้นที่อีสานใต้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าไปวางเป้าอะไรเลย เพราะตั้งแต่ตั้งพรรคมา ก็มาได้วางเป้าหมาย แต่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยทำงานหนักทุกวัน และมั่นใจในศักยภาพ จึงเชื่อว่าประชาชนจะให้โอกาสเราต่อไป ชี้ไปคนไหนคนนั้นก็คือเป้าหมาย

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยจำเป็นต้องจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้ ภายหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า หากทุกฝ่ายให้เกียรติและเคารพซึ่งกันและกัน ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ในองค์ประกอบนี้ เราก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกันต่อไป

"ถ้าดีต่อกันก็อยู่ด้วยกันได้เรื่อยๆ ถ้าไม่ดีต่อกันก็อยู่กันเป็นรอบๆ แต่ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้พื้นฐานการทำดีต่อบ้านเมืองและทำประโยชน์ต่อประชาชน" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยระบุ

เมื่อถามว่าความสัมพันธ์กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหมเป็นอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า “ผม นายศักดิ์สยาม และนายกฯ ไลน์หากันทุกวัน” และกล่าวต่อว่า เราเป็นพรรคที่เคารพกติกา ในรัฐบาลเราเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของท่าน และในสภาเราก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยมี ส.ส.ที่มีความเป็นอิสระ มีเอกสิทธิ์ ทำทุกเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง เป็นแนวทางที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

เมื่อถามว่า หากหลังการเลือกตั้งมีการสลับขั้วทางการเมือง พรรคภูมิใจไทยมีจุดยืนอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน พรรคภูมิใจไทยไม่ได้เป็นขั้วอะไรกับใคร เรามั่นใจว่าเป็นพรรคที่ประคับประคองบ้านเมืองไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด และจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย พร้อมทั้งยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นผู้เลือกที่จะร่วมรัฐบาลกับใคร ไม่ใช่ว่าเราจะไปจะไปร่วมกับใคร

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยพร้อมชูนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค ยืนยันว่าพรรคพร้อมเสนอนายอนุทินเป็นนายกฯ แน่นอน และเชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคจะมีนโยบายเพิ่มมากขึ้น

เพื่ออนาคตไทยจ่อเปิดตัว

ด้านความเคลื่อนไหวกลุ่มสี่กุมาร อดีตแกนนำพลังประชารัฐในการตั้งพรรคการเมืองใหม่ ที่จะข่าวว่าได้ให้คนไปยื่นจดทะเบียนต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งที่มีข่าวว่าจะใช้ชื่อพรรค "เพื่ออนาคตไทย" นั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. นายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.การคลัง และอดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน และอดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ในทีมสี่กุมาร ที่ทั้งคู่ยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง หลังปล่อยภาพนิ่งนั่งจิบกาแฟร่วมกันผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมโพสต์ข้อความคุยเรื่องอนาคตประเทศไทย หลังปีใหม่มีเรื่องมาแลกเปลี่ยน ท่ามกลางกระแสข่าวตั้งพรรคใหม่และเตรียมเปิดตัวปลายเดือนม.ค.65

ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 19 ธ.ค. นายอุตตมและนายสนธิรัตน์ พร้อมใจกันโพสต์คลิปวิดีโอความยาว 31 วินาที โดยเป็นคลิปที่เชื่อมโยงภาพนิ่งที่ปล่อยก่อนหน้านี้ พร้อมโพสต์ข้อความ โดยนายอุตตมโพสต์ว่า "ชวนทุกท่านร่วมมองหาโอกาสใหม่ๆ บนเส้นทางใหม่ๆ เพื่ออนาคตประเทศไทย กับผมและคุณสนธิรัตน์ครับ" ขณะที่นายสนธิรัตน์โพสต์ข้อความว่า "Thailand Future Focus อนาคตประเทศไทยกับ ดร.อุตตม และผม เร็วๆ นี้ครับ #สนธิรัตน์

ด้านท่าทีทางการเมืองจากฝ่ายค้าน ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่สภาล่มบ่อยครั้งว่า ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสภาผ่านการตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจา ตามที่ ส.ส.ยื่นถาม การประชุมสภาตั้งแต่ปี 2562 พบการประชุมล่มแล้ว 12 ครั้ง และการประชุมสภาสมัยปัจจุบันที่เริ่มตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2564 พบประชุมล่มแล้วถึง 4 ครั้ง โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีการประชุม 3 วันต่อสัปดาห์ พบการประชุมล่มถึง 2 วัน สาเหตุที่สภาล่มเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ทำให้ไม่มีความรับผิดชอบต่องานสภา โดยเฉพาะการหนีตอบกระทู้ถามสดที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชน ขอเสนอวิธีแก้สภาล่ม ให้นายกฯ มาสภาเพื่อตอบกระทู้ถามสดด้วยตัวเอง เหมือนกับสมัยที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ ที่พบว่ามาตอบกระทู้ในสภาด้วยตัวเอง นอกจากนั้นเมื่อตรวจสอบองค์ประชุมก็พบว่า มี ส.ส.ของพรรคไม่เข้าร่วม 19 คน สะท้อนให้เห็นว่ามีปัญหาจากพรรคแกนนำรัฐบาล

"องค์ประชุมเป็นความรับผิดชอบของส.ส.ร่วมรัฐบาล สิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องการเสนอคือ พรรคฝ่ายค้านพร้อมให้ความร่วมมือทำงาน แต่รัฐบาลต้องให้เกียรติกันด้วย เช่น การพิจารณาร่างกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน สัปดาห์ที่ผ่านมาได้พิจารณาร่างกฎหมายเพื่อยกเลิกประกาศ คสช.และคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ประชาชนกว่าหมื่นคนเข้าชื่อเสนอ ในการอภิปรายไม่พบว่า ส.ส.รัฐบาลคัดค้าน แต่เมื่อถึงการลงมติพบว่าถูกโหวตคว่ำ” นายยุทธพงศ์กล่าว

ปชป.ป้องบิ๊กตู่เต็มเหนี่ยว

ส่วนนายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ มีใจความว่า เหตุการณ์สภาล่มที่ผ่านๆ มานั้น เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีสำนึกเรื่องการเมืองในระบบฯ ว่าต้องถามกลับไปยังนายณัฐวุฒิ ว่านายณัฐวุฒิมีความสำนึกเรื่องการเมืองในระบบฯ ตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ เพราะถ้ามีความสำนึกในเรื่องของการเมืองในระบบจริงๆ นายณัฐวุฒิคงไม่ออกมาเป็นแกนนำมวลชน เพื่อหาแสงให้ตัวเองโดยไม่สนใจถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศ ทั้งนี้ เหตุการณ์สภาล่มที่ผ่านๆ มา ดูเหมือนว่าจะเป็นความจงใจของพรรคฝ่ายค้าน ที่อ้างว่าการไม่มาประชุมเพื่อเรียกร้องให้ ส.ส.รัฐบาลมาทำหน้าที่ และเป็นการกดดันให้ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนนั้น ถือเป็นการไม่เคารพกฎเกณฑ์กติกาของระบบฯ ถือเป็นการไม่เคารพกฎเกณฑ์กติกาของระบบและที่ร้ายที่สุดคือ ไม่เคารพประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริงตามหลักการของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งข้อเท็จจริงแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ให้เกียรติกับสภาผู้แทนฯ ในวาระสำคัญๆ เช่น การชี้แจงงบประมาณรายจ่ายประจำปี การตอบคำถามชี้แจงข้อกล่าวหาของฝ่ายค้าน ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นต้น ซึ่งหากนายณัฐวุฒิไม่เชื่อก็ลองไปเช็กดูตามคลิปในยูทูบว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ใช้เวลาอยู่ในสภามากน้อยขนาดไหน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง