‘ด้อมส้ม’ระอา!นัดบุกก้าวไกลยื่นใบลาออก

"ด้อมส้ม" เอือมหนักพฤติกรรม สส.ก้าวไกล นัดบุกที่ทำการพรรค  ถือป้าย แสดงเชิงสัญลักษณ์ ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคระนาว ปธ.กมธ.อุตสาหกรรมเรียก "ชัยธวัช-เบญจา-วุฒิพงศ์" สอบปมรับสินบนบ่อขยะ จ.ปราจีนฯ 22 พ.ย.นี้ "ปูอัด" ร่วมเซิ้งแห่กฐินไร้ความคืบหน้าหาพรรคใหม่ซบ เพจดังไล่เรียงเหตุการณ์ถูกกระทำมาตลอด ลั่นเมื่อความอดทนสิ้นสุดทำไมจะโห่ไล่ "พิธา" ไม่ได้  

เมื่อวันอาทิตย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า     เวลา 11.00 น. วันที่ 20 พ.ย.นี้ กลุ่มประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ประมาณ 10 คน จะเดินทางไป ณ ที่ทำการพรรคก้าวไกล เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจกับพฤติกรรมต่างๆ ของ สส.ของพรรคก้าวไกลในช่วงที่ผ่านมา  โดยการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการ พร้อมถือป้ายข้อความ และจะมีการแสดงเชิงสัญลักษณ์แบบชัดเจน เพื่อสะท้อนความไม่พอใจนี้ และเป็นการขับเคลื่อนด้วยเสียงของประชาชน ที่พรรคก้าวไกลชอบพูดอ้างในการสร้างภาพอยู่เสมอ

โดยตัวแทนกลุ่มระบุว่า ตนเองเป็นเพียงประชาชนทั่วไปที่เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลอยู่แล้ว และเคยเป็นด้อมส้มมาก่อน ไม่ใช่คนมีชื่อเสียงอะไร โดยในวันที่ 20 พ.ย. ที่จะเดินทางไปที่ทำการพรรคก้าวไกลนั้น จะมีการถือป้ายและยื่นหนังสือถึงพรรคก้าวไกล แต่ยังไม่ได้มีการติดต่อกับทางพรรค และยังไม่ทราบว่าใครจะเป็นผู้ลงมารับหนังสือ

ทั้งนี้ ทางกลุ่มไม่ได้หวังผลว่าจะต้องเป็นหัวหน้าพรรคลงมารับเท่านั้น เนื่องจากในวันทำการปกติก็มีเจ้าหน้าที่ของพรรคดูแลอยู่แล้ว

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในการประชุม กมธ. วันที่ 22 พ.ย. มีประเด็นพิจารณาเกี่ยวกับกรณีปัญหาบ่อขยะที่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ตามที่นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ซึ่งถูกพรรคก้าวไกลขับให้พ้นจากสมาชิกพรรค เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่ามีข้อพิรุธเกี่ยวกับการซื้อที่ดินเพื่อสร้างบ่อขยะ โดยมีนายทุน ที่ดินเข้ามาเกี่ยวข้องและมีปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่  และมีอดีตผู้ช่วย สส.ของ น.ส.เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เข้ามาเกี่ยวข้อง

นายอัครเดชกล่าวด้วยว่า กมธ.ได้เชิญนายวุฒิพงศ์ พร้อมด้วยนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล, น.ส.เบญจา และเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมเขตพื้นที่ปราจีนบุรี เข้ามาชี้แจงในเวลา 10.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากกรณีในวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ช่วยของนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. อดีตพรรคก้าวไกล ได้แจ้งต่อสื่อมวลชนว่ายังไม่ได้รับเอกสารมติขับออกจากพรรคก้าวไกล ตั้งแต่วันที่พรรคมีมติเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนนั้น โดยผู้ช่วยนายไชยามพวานแจ้งอีกครั้งในวันเดียวกันว่า ตนเพิ่งได้รับหนังสือจากทางพรรคก้าวไกล เนื่องจากพรรคจัดส่งหนังสือแจ้งสิ้นสุดสมาชิกภาพพรรคเมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา

มีรายงานความเคลื่อนไหวของนายไชยามพวานล่าสุด โดยเมื่อช่วงเช้า นายไชยามพวานได้เดินทางไปทำกิจกรรมแห่กฐินวัดบางขุนเทียนใน วัดนาคนิมิตร  (จอมทอง) และยังได้ร่วมรำเซิ้งกับประชาชนในพื้นที่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และสนุกสนาน

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา    เพจเฟซบุ๊กวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร  โพสต์คลิปความยาว 1 นาที เป็นภาพบรรยากาศกองเชียร์ฟุตบอลจตุรมิตร นัดชิงชนะเลิศ ครั้งที่ 30 โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยพบโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย

โดยระบุว่า #ทุกคนคะ พิธา (พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล) ถูกโห่ไล่ค่ะ

เหตุการณ์เกิดช่วงพักครึ่งแรก ลุงที่เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ลุกขึ้นมาชี้ที่พิธา และโห่ไล่ กองเชียร์ที่นั่งอยู่ก็ร่วมกันโห่ค่ะ

สักพักพี่อีกคนเดินมาจากฝั่งเทพศิรินทร์ชูเสื้อที่เขียนว่า "อย่าเสือก!! เรื่องแปรอักษรของพวกกู" มาชูต่อหน้าพิธา ได้รับเสียงเชียร์เป็นอย่างมาก ส่วนพิธา  หน้าเสีย และบอกว่า ผมไม่เกี่ยว!!

ทุกคนคะ พวกพี่เขาทำช่วงพักครึ่งนะคะ ไม่ได้รบกวนคนชมเกมแต่อย่างใด

เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจาก สส.พรรคก้าวไกลแถลงเกี่ยวกับการจัดกิจกรรม “จตุรมิตรสามัคคี” ว่ามีกลุ่มศิษย์เก่าโรงเรียนเครือจตุรมิตรออกมาเรียกร้องว่ามีการบังคับนักเรียนลงชื่อและเข้าร่วมทำกิจกรรม สถานที่เสี่ยงไม่ปลอดภัย และห้ามไปเข้าห้องน้ำ คณะทำงานการศึกษาก้าวไกลจึงมีความห่วงใยเป็นอย่างยิ่งต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของเด็กนักเรียน พร้อมโพสต์รูปภาพแฮชแท็ก #เลิกบังคับแปรอักษร

ภายหลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว เพจวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร โพสต์อีกว่า ทุกคนคะ ทำไมจะโห่ใส่พิธาไม่ได้ ทำไมต้องเป็นผู้ถูกกระทำแต่ฝ่ายเดียว มันไม่ใช่การเอาคืน แต่ความอดทนสิ้นสุดลงแล้วค่ะ

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มที่สนับสนุนการแปรอักษรของ #จตุรมิตรครั้งที่ 30 ต้องเจออะไรบ้าง โดนลุงสมยศและนักเรียนเลวติดป้ายด้อยค่าและก่อกวน  โดน สส.ก้าวไกลออกมาโจมตี ถึงขนาดยกปู่ขึ้นมาอ้าง โดน สส.ก้าวไกลรับลูก ชงเรื่อง กมธ.ศึกษาเข้าสภา โดน สส. ก้าวไกลโจมตี ผอ.เทพศิรินทร์เรื่องความโปร่งใส

วันสุดท้ายของงาน ยังถูกกลุ่มนักเรียนเลวที่เคยเคลื่อนไหวกับพรรคก้าวไกลติดป้ายขนาดใหญ่เป็นไวรัลส่งสื่อปั่นขยายผล

กลุ่มที่สนับสนุนโดนกันมาขนาดนี้ พวกคุณทำอะไรอยู่คะ?

ศิษย์เก่าในสนามเขาเพียงโห่และชูเสื้อแสดงออกว่าไม่พอใจพรรคก้าวไกลต่อหน้าคุณพิธาในช่วงพักครึ่งของเกม  ทำไมจะทำไม่ได้คะ

มันร้อนมากหรือไง ต้องออกมาดิ้นเรียกร้องถามหามารยาท แล้วที่ สส.ก้าวไกลกระทำมาตลอดสัปดาห์ พวกคุณเงียบทำไมคะ?

การแสดงออกของพวกคุณมันบ่งบอกว่า พวกคุณมันประชาธิปไตยแค่ปาก แต่หัวใจเผด็จการ ไม่เคารพหลักการ ยึดติดกับตัวบุคคล ปลอมมากค่ะ

นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคนที่ 4 กรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายนิกร จำนง โฆษกคณะกรรมการเพื่อพิจารณา ศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ระบุถึงการเสนอร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประชามติ มาตรา 13 ในการรื้อ 2 ด่านสำคัญ ที่อาจจะทำให้เกิดเดดล็อกแก้รัฐธรรมนูญได้ยาก ทางพรรคเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไร ว่า ตามที่ได้หารือกับทาง กมธ.การพัฒนาการเมืองฯ ก็เห็นด้วยในการแก้ไขเรื่องนี้ เพราะการใช้เกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้น ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการทำประชามติ อาจจะผ่านได้ยาก เพราะอาจหากมีคนไม่เห็นด้วยและรณรงค์ให้ประชาชนไม่ออกไปใช้สิทธิ์เกินร้อยละ 50 ซึ่งหากทุกฝ่ายเห็นพ้องก็อาจจะแก้ไขในแนวทางว่า หากมีผู้ที่เห็นชอบมากกว่าร้อยละ 25 ก็ถือว่าผ่าน ซึ่งจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญราบรื่นมากขึ้น

เมื่อถามว่า กังวลว่าจะทำให้กระบวนการทำประชามติล่าช้าออกไปอีกหรือไม่ นายพงศธรกล่าวว่า ถ้าฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเห็นพ้อง ยื่นเรื่องเข้าสู่สภาก็จะใช้เวลาไม่นาน

ส่วนที่ทางนายนิกรมองว่าถ้ารัฐบาลเห็นด้วย และยื่นเป็นร่างของรัฐบาลก็จะง่ายขึ้น ทางพรรคมองว่าจะง่ายจริงหรือไม่นั้น นายพงศธรกล่าวว่า เห็นด้วยหากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยื่นเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ขณะที่ฝ่ายค้านก็ดำเนินการยื่นเรื่องประกบร่วมด้วย ก็จะทำให้การเดินเรื่องใช้เวลาเร็วขึ้น และไม่น่าจะเกิดปัญหาตามมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง อาจจะไม่นอนพักค้างที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว เพื่อเป็นการไม่เพิ่มภาระให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนั้น

ล่าสุดแหล่งข่าวระดับสูงเปิดเผยว่า    นายเศรษฐายืนยันเสียงหนักแน่นว่าจะนอนค้างที่ห้องพักภายในตึกไทยคู่ฟ้า เป็นที่พักชั่วคราวในระหว่างปฏิบัติราชการ ขณะนี้ในห้องพักที่จะใช้ค้างคืนยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบน้ำ ขอให้สื่อมวลชนเตรียมตัว คาดว่าหลังจากปีใหม่ไปแล้วนายกฯ จะมานอนค้างคืน  และขอให้สื่อเตรียมรองเท้าไว้สำหรับเดิน เพราะนายกฯ อาจจะใช้เวลาในช่วงค่ำลงมาเดินสำรวจสถานที่ เพราะชอบเดินออกกำลังกาย ส่วนสื่อคงไม่ต้องมานอนเฝ้า แต่ถ้าจะมาเดินออกกำลังกายด้วยก็มาได้.