โรงงานพลุบึ้ม! สลดดับ23ศพ สั่งเร่งเยียวยา

สลด! โรงงานพลุสุพรรณฯ ระเบิด ดับแล้ว 23 ศพ นายกฯ  ยกหูสายด่วนสั่งการ "ผบช.ภ.7-ผู้ว่าฯ"  เร่งคลี่คลายสถานการณ์ "อนุทิน" กำชับจังหวัดดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมสอบสวนหาต้นตอ พบขออนุญาตถูกต้อง หลังเคยเกิดเหตุบึ้มปี 65 "ชาติไทยพัฒนา" แสดงความเสียใจ ระดม สส. ลงพื้นที่่ช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17  ม.ค. เวลา 15.30 น. เกิดเหตุโรงงานพลุระเบิดในพื้นที่หมู่ 3 ต.ศาลาขาว อ.เมืองฯ จ.สุพรรณบุรี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยพื้นที่่ดังกล่าวตั้งอยู่กลางทุ่งนา อยู่ห่างไกลชุมชน ไม่มี​บ้านพักอาศัย​ใกล้เคียง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ที่สมาพันธรัฐสวิส หลังทราบเหตุการณ์โรงงานพลุระเบิด ได้โทรศัพท์พูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) เพื่อติดตามสถานการณ์ดังกล่าว โดย พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 รายงานว่า ที่เกิดเหตุมีคนทำงานอยู่ประมาณ 20-30 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าวเพื่อรอให้สถานการณ์นิ่ง จากนั้นจะให้ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่ จากนั้นจะมีการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล โดยขณะนี้มีผู้ชีวิตประมาณ 20 คน แต่ยังยืนยันชัดเจนไม่ได้

ทั้งนี้ นายกฯ สอบถามกลับว่า “เยอะเลย แล้วคนบาดเจ็บทำอย่างไร ผมไม่ได้โฟกัสเรื่องกฎหมาย ผมโฟกัสเรื่องคนบาดเจ็บก่อน คุณต้องช่วยเอาคนเจ็บออกจากพื้นที่ก่อน และเรื่องคนเจ็บพื้นที่โรงพยาบาลรองรับพอหรือไม่ ขอให้เน้นย้ำเรื่องการช่วยเหลือชีวิตผู้ได้รับบาดเจ็บก่อน หากมีอะไรที่จะให้สำนักนายกรัฐมนตรีช่วยก็ขอให้บอกและรีบติดต่อมา ขอให้รายงานเข้ามาด่วนทุกชั่วโมง" จากนั้น พล.ต.ท.นัยวัฒน์กล่าวย้ำว่า มีเพียงพอ

ส่วนโรงงานจะผิดกฎหมายหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ค่อยดำเนินการตามขั้นตอนภายหลัง นอกจากนั้น นายกฯ ยังได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี โดยโพสต์ข้อความว่า  “ฝากท่านผู้ว่าฯ สุพรรณบุรีช่วยเหลือทันที และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวและญาติผู้เสียชีวิตด้วยครับ”

ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล  เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้รับรายงานจากผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี ถึงเหตุโรงงานพลุระเบิดแล้ว ซึ่งสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบพบว่าผู้ประกอบการโรงงานพลุแห่งนี้ได้รับใบอนุญาตให้ทำและค้าซึ่งดอกไม้เพลิง (แบบ ป.5) เลขที่ 2/2566 ออกโดยนายทะเบียนท้องที่อำเภอเมืองสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 66 สิ้นอายุ 23 ส.ค.67 ซึ่งหลังจากนี้จะได้มีการเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการสอบสวนถึงสาเหตุ และดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ รมว.มหาดไทยมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นกำชับให้เจ้าหน้าที่อีโอดีเข้าเคลียร์พื้นที่เก็บกู้วัตถุระเบิดหรือสิ่งอันตรายให้ปลอดภัยก่อน ขอให้ทางจังหวัดดูแลการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ครอบครัวผู้เสียชีวิตและให้เร่งตรวจสอบถึงสาเหตุของการระเบิดซึ่งนำไปสู่ความสูญเสียในครั้งนี้ ว่ามาจากสาเหตุใด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

นอกจากพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีแล้ว ขอให้ทุกจังหวัดทุกพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดในการกวดขัน ทั้งการออกใบอนุญาต การตรวจสอบสถานประกอบการซึ่งได้รับอนุญาตในการผลิตหรือขายพลุ ดอกไม้ไฟ ให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของประชาชน เนื่องจากเหตุลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งก็สร้างความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า เสียใจมากกับเหตุโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นจากโรงงานผลิตพลุระเบิดดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ขณะนี้นายสรชัด สุจิตต์ สส.สุพรรณบุรี เขต 1 พรรคชาติไทยพัฒนา กำลังเร่งลงพื้นที่  รวมทั้งนายเสมอกัน เที่ยงธรรม สส. สุพรรณบุรี เขต 4 พรรคชาติไทยพัฒนา และนายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.), นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัด พม. รวมทั้งเจ้าหน้าที่กระทรวง พม.ด้วย ที่กำลังลงพื้นที่เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสีย

"รู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และต้องขออภัยด้วยที่รัฐมนตรีวราวุธลาราชการและกำลังเดินทางอยู่บนเครื่องบิน เมื่อลงเครื่องบินแล้วคงจะได้ทราบเหตุการณ์ที่น่าสลดใจนี้ และคงได้มีการพูดคุยประสานงานเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือต่อไป" น.ส.กัญจนาระบุ

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า จากเหตุดังกล่าว ตรวจสอบเบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 20 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก  ซึ่งนายกฯ ได้สั่งให้เร่งคลี่คลายสถานการณ์ ช่วยเหลือประชาชนในบริเวณเกิดเหตุและโดยรอบ ขณะเดียวกัน นายกฯ สั่งการให้ตรวจสอบโรงงานดังกล่าวว่าดำเนินการถูกกฎหมายหรือไม่ และเหตุระเบิดเกิดจากความประมาทหรือไม่ ต้องดำเนินการตามกฎหมายถึงที่สุด

ทั้งนี้ ผบ.ตร.ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมสั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรีและตำรวจพื้นที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ พร้อมกับเร่งตรวจสอบกรณีดังกล่าวโดยด่วนในทุกมิติ เพราะทราบว่าโรงงานแห่งนี้เมื่อเดือน พ.ย.2565 เคยเกิดระเบิดไฟลุกไหม้แล้วครั้งหนึ่ง มีคนงานถูกไฟคลอกเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 3 ราย ก่อนจะกลับมาเปิดทำการผลิตพลุอีกและเกิดเหตุระเบิดขึ้นในครั้งนี้ ซึ่งหากพบมีการกระทำผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย

ขณะที่ พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี  ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่อีโอดี เพื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุ โดยยืนยันว่าขณะนี้พบผู้เสียชีวิตที่ยืนยันได้ 23 ราย รวมเจ้าของโรงงาน ลูกและเมียด้วย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตั้งโต๊ะให้ญาติเข้ามาแจ้งรายชื่อของผู้สูญหายหรือเสียชีวิตที่ทำงานอยู่ในโรงงานดังกล่าวเพื่อยืนยันตัวตน และในเหตุการณ์นี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตเบื้องต้น ได้แก่ 1.น.ส.น้ำฝน เกิดนอก 2.นางพะเยาว์ บุญกล่อม 3.นางบุญเกื้อ ทองสัมฤทธิ์ 4.นายทวีศักดิ์ ทองสัมฤทธิ์ 5.นางรัชนี พันธ์ต้น 6.นายรุ่งโรจน์ อุ่มน้อย 7.นางสมนึก บุญกลอง 8.นางมานพ วาดพันธ์อินทร์ 9.น.ส.พรทิพย์ พันธ์แตง 10.นายเก่ง (ยังไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) 11.น.ส.เตือนใจ ยิ้มแย้ม 12.นายสำราญ สายทอง 13.นายสมควร แจ้งวิถี 14.นางสุชาดา (ยังไม่ทราบนามสกุล) 15.นางภัสสร (ยังไม่ทราบนามสกุล) 16.นางรำไพ เคนมา 17.นายโสพล สอยค้าข้าว 18.นางแสงเดือน ปรางจันทร์ 19.นายตั้ม ปรางจันทร์ 20.นางแหม่ม ขวัญอ่อน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จ่อผุด13อรหันต์นิรโทษ

กรมคุกร่อนแถลงการณ์ ยันทัณฑสถานราชทัณฑ์ช่วยชีวิต ‘บุ้ง ทะลุวัง‘ ตามมาตรฐานวิชาชีพอย่างเต็มกำลัง