คปท.ลงใต้ปลุกเช็กบิลชั้น14

"เศรษฐา" พับแผนนอนทำเนียบฯ เจอไข้หวัดเล่นงานอ่วม ต้องเลื่อนค้างคืนแบบไม่มีกำหนด ควันหลงดาวอส พบนักธุรกิจโลก ตีปี๊บทุนต่างชาติอินเดีย-ดูไบ จ่อดูพื้นที่จริงแลนด์บริดจ์ ยกสุวรรณภูมิเทียบไม่กล้าทำประเทศเสียโอกาสมหาศาล อ้างไทยมีเมกะโปรเจกต์ทุกประเทศก็อยากเข้ามา ขณะที่ สส.ใหม่ ปฏิญาณตนแล้ว สภาหารือประชุมนัดพิเศษหลังญัตติค้างอื้อ คปท.เดินสายระดมพลตรวจสอบชั้น 14  รพ.ตำรวจ

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่โรงแรมพูลแมน  คิง เพาเวอร์ ถนนรางน้ำ เขตราชเทวี  กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการเลื่อนกำหนดการนอนค้างที่ทำเนียบรัฐบาลว่า เนื่องจากตนติดภารกิจ และมีอาการไม่สบาย ไม่ไหว จึงขอเลื่อนไปก่อน ส่วนอาการนั้นเป็นหวัดและมีไข้เล็กน้อย แต่ไม่เป็นอะไร ได้รับการตรวจแล้ว ไม่ได้เป็นโควิด

เมื่อถามว่า มีกำหนดจะเข้าพักที่ทำเนียบฯ อีกเมื่อไหร่ นายเศรษฐากล่าวว่า ยัง ตอนนี้เอาเรื่องงานก่อนดีกว่า ต้องดูภารกิจงานในเดือนมกราคมนี้ก่อน ตนยังไม่สามารถตอบได้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตามกำหนดการเดิม นายกรัฐมนตรีจะนอนค้างคืนที่ทำเนียบรัฐบาลคืนแรกในวันที่ 24 มกราคม 

วันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา "Thailand 2024 The Great Challenge เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส" ว่า วันนี้จะขอเน้นที่การขยายโอกาสให้กับคนไทยทุกคนว่าอีก 4 ปีข้างหน้าจะเห็นอะไรบ้าง อย่างน้อยได้เริ่มต้นโครงการเพื่อที่จะสานต่อ ส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าของลูกหลาน ซึ่งการสร้างโอกาสคือการลงทุน ไม่อยากให้อีก 20-30 ปีข้างหน้ามาพูดคำว่ารู้งี้เราน่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ อยากให้เอาคำนี้ออกไปจากพจนานุกรม ถ้าเราจะต้องคอยให้ทุกอย่างครบหมดหรือรอบรู้หมด ก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายและต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประเด็นที่ทำให้เราเสียโอกาส

นายเศรษฐากล่าวว่า สำหรับเรื่องปากท้องเศรษฐกิจ ตนไม่อยากพูดซ้ำว่าตลอด 4 เดือนกว่าที่ผ่านมารัฐบาลได้ทำอะไรไปบ้าง แต่ขอพูดถึงการไป World Economic Forum หรือ WEF ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นการรวมตัวของผู้นำประเทศทั่วโลกและนักธุรกิจชั้นนำในทุกภาคส่วน ซึ่งประเทศไทยไม่เคยมีผู้นำรัฐบาลไปมาในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้พบปะผู้นำ ภาคธุรกิจต่างๆ  ผู้นำองค์กรที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยประเด็นสำคัญหนีไม่พ้นโครงการแลนด์บริจด์ มีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ยืนยันว่ารัฐบาลนี้จะรับฟังทุกข้อท้วงติง และต้องมีการทำการศึกษาอย่างเป็นธรรม ซึ่งจากการพูดคุยมีนักลงทุนทั้งจากอินเดียหรือดูไบ สนใจและพร้อมมาพูดคุย มาดูสถานที่จริง

นายเศรษฐาได้กล่าวหยิบยกสนามบินหนองงูเห่า หรือสนามบินสุวรรณภูมิ มาเปรียบเทียบกับโครงการแลนด์บริจด์ ถ้าไม่กล้าสร้างกล้าลงทุนเมื่อกว่า 20 ปี ทุกวันนี้ถ้าต้องพึ่งสนามบินดอนเมืองสนามบินเดียว จะเป็นอย่างไร ทั้งนี้เราไม่ใช่แค่เห็นอย่างเดียว หรือฝันอย่างเดียว แต่ต้องลงมือทำด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ในวันนั้นลองฟังเสียงคัดค้านดูว่ามีจำนวนมากขนาดไหน ซึ่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่เช่นนี้ ก็ต้องมีการพูดคุยกันในทุกมิติให้ดี แต่เรื่องของโอกาสเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่อยากให้เรามาเสียโอกาสกันอีก เรื่องของสนามบินที่ได้ทำมาซึ่งในวันนี้ทุกคนก็ได้อานิสงส์กันไป

“โครงการแลนด์บริดจ์เราพอรู้รายละเอียดคร่าวๆ แต่การจะใช้งบลงทุนให้น้อยที่สุด ให้คนอื่นมาลงทุนด้วย เราไม่ใช่แค่ฟังความเห็นของประชาชน แต่ต้องฟังผู้ลงทุนด้วยว่าอยากได้อะไร เป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องกลั่นกรอง ว่าสิ่งที่เขาขอมาเป็นบวกหรือลบมากกว่ากับประชาชน เพราะยังไม่รู้ว่าต้องมีส่งท่อน้ำมันหรือไม่ แต่เราก็เปิดกว้างว่าอาจเป็นหนึ่งในธุรกิจที่อยากให้เขามาลงทุน ตั้งแต่ต้นน้ำไปถึงปลายน้ำ มีการสร้างโรงงานต่างๆ จะได้ดีไซน์ให้ถูก แต่เรื่องนี้ยังต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 กว่าปีคงจะเสร็จหมด จึงอยากให้มองไปข้างหน้าเหมือนกับสนามบินสุวรรณภูมิ” นายกรัฐมนตรีระบุ

นายกฯ กล่าวย้ำจุดยืนการต่างประเทศของไทย ว่าเป็นกลางตลอด ไม่ขัดแย้งกับประเทศใด ไม่ว่าจะมหาอำนาจระหว่างสหรัฐกับจีน หรืออินเดีย ที่กำลังขยับมาเป็นมหาอำนาจอีกประเทศ เชื่อว่าโครงการเมกะโปรเจกต์ต่างๆ ที่จะทำขึ้นมา ต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่าเป็นมิตรกับทุกประเทศ และยินดีร่วมทำธุรกรรมกับหลายประเทศ การที่เรามีโครงสร้างพื้นฐานใหญ่ ก็สามารถสร้างอำนาจการต่อรองให้กับทุกประเทศ ตราบใดที่เรายังเป็นคนคอนโทรลโครงการนี้ ทุกประเทศก็อยากเข้ามา

ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ตั้งแต่ช่วงเช้า ทหารกองเกียรติยศจาก 3 เหล่าทัพ ได้ทำการซ้อมเพื่อเตรียมให้การต้อนรับ ดร.ฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ที่จะเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 24-26 ม.ค.67 ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี

โดยเมื่อเวลา 10.15 น. นายเศรษฐา ได้ลงจากรถไปตรวจดูการซักซ้อมของทหารกองเกียรติยศด้วยตัวเองทุกจุด พร้อมกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีเจ้าหน้าที่จากกองพิธีการรายงานถึงขั้นตอนต่างๆ ให้นายกฯ รับทราบ

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา เตรียมต้อนรับ ดร.ฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และภริยา ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) ในวันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคม 2567 เวลา 10.00 น. ณ ทำเนียบรัฐบาล

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากนั้น เวลา 10.15 น. นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีเยอรมนี พร้อมบุคลลสำคัญฝ่ายไทย ได้แก่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์, นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การต่างประเทศ, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม และนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี

รวมทั้งบุคลลสำคัญฝ่ายเยอรมนี ได้แก่ นาย Hubertus Heil รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและกิจการสังคม  และนาย Michael Kellner รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการปฏิบัติการด้านสภาพภูมิอากาศ จะร่วมหารือข้อราชการ ณ ห้องสีงาช้าง ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะหารือร่วมกับภาคเอกชน ในเวลา 10.45 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจ และแนวทางส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกัน

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม หลังเปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนแล้ว ได้แจ้งถึงการเลื่อนลำดับ สส.บัญชีรายชื่อ จำนวน 2 คน ให้แทนตำแหน่งที่ว่าง หลังจากที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้เลื่อนนางนันทนา สงฆ์ประชา ขึ้นเป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทยแทน และกรณีที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้เลื่อนนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ขึ้นมาแทน ทั้งนี้ได้ให้ 2 สส.ใหม่กล่าวปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ ทำให้มี สส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 499 คน ดังนั้นต้องใช้องค์ประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง หรือ 250 คน

จากนั้น นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หารือว่าการเพิ่มวันประชุมสภาฯ เป็นพิเศษในวันที่ 26 ม.ค.นี้ พรรคก้าวไกลสนับสนุนในการเพิ่มวันประชุม เนื่องจากขณะนี้มีญัตติที่ค้างในวาระ 40 เรื่อง และมีร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รอการพิจารณาวาระแรก จำนวน 23 เรื่อง จากปฏิทินการทำงานพบว่า สภาสามารถจัดการประชุมได้อีก 6 สัปดาห์เท่านั้น เพราะที่เหลือจะมีการพิจารณาหรือการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการเปิดอภิปรายทั่วไปของวุฒิสภาเพื่อให้รัฐบาลชี้แจง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ดังนั้นตนขอให้เร่งดำเนินการตั้งคณะกรรมการประสานงานร่วมกันของพรรคฝ่ายค้านและพรรคฝ่ายรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ได้ส่งรายชื่อแล้ว และรอการลงนาม

ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ชี้แจงว่า มอบหมายให้นายพิเชษฐ์​ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่สอง เรียกประชุมคณะกรรมมการประสานงานในสัปดาห์นี้ เพื่อตกลงว่าจะนัดประชุมสภาฯ เพิ่มเติมในช่วงเวลาใดบ้าง

วันเดียวกัน นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุช่วงหนึ่งว่า หมอมิ้ง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ขอถามในฐานะคนเดือนตุลา ที่เคยสู้เพื่อความเป็นธรรม ว่ากรณี น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ที่สำนึกผิดและรับผิดว่าทุจริต คอร์รัปชัน แต่ไม่เคยติดคุกมีความถูกต้องชอบธรรมไหมครับ

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ โฟสต์เฟซบุ๊ก ระบุชวนเชิญประชาชน จ.พัทลุง ที่ต้องการตรวจสอบชั้น 14 รพ.ตำรวจ ว่า ในวันที่ 25 ม.ค.2567 ตั้งแต่เวลา 13.00 น.คปท.จะไปพบปะกับประชาชาชน จ.พัทลุง ที่ร้านตำนานคาเฟ่ อ.เมืองพัทลุง ขอให้ท่านที่ต้องการให้มีตรวจสอบชั้น 14 รพ.ตำรวจ ไปพบปะ พูดคุยกันที่นั่น ถ้าคิดว่าประเทศนี้ก็เป็นของเราเหมือนกัน ก็ไปคุยกันครับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ เยือนโรงงานผลิตผ้าแบรนด์ชั้นนำอิตาลี ต่อยอดภูมิปัญญาผ้าย้อมครามไทยสู่สากล

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานของห้องเสื้อ Zegna เมืองวาลดิลานา (Valdilana) และพบหารือกับนาย Gildo Zegna ผู้บริหารของห้องเสื้อ Zegna