คปท.ต้อนรับแม้ว ชุมนุมรพ.ตำรวจ

อุ๊งอิ๊ง” ถก “เศรษฐา” บนตึกไทยฯ ปัดคุยเรื่องพ่อ “สมศักดิ์” ใจชื้นไม่ปรับ ครม. “ก้าวไกล” ซัดพักโทษ  “ทักษิณ” เป็นเรื่องความเท่าเทียม จี้ถาม มีผู้สูงอายุกี่คนได้รับสิทธิแบบนี้ “คปท.”   นัดชุมนุม รพ.ตำรวจวัน “แม้ว” ออก  พร้อมทวงถามอัยการปมผิด ม.112 ตอนปี 58

เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 16 ก.พ. ภายหลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง ปาฐกถาที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เสร็จสิ้น ได้เดินทางกลับเข้าทำเนียบฯ โดยทันทีที่ลงรถยนต์เป็นที่น่าสังเกตว่านายเศรษฐามีสีหน้าไม่ดี และเรียกทีมงานเข้าพูดคุยอย่างเคร่งเครียด

ขณะที่เวลา 13.30 น. น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้เดินทางเข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า โดยใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่ น.ส.แพทองธารจะเดินทางกลับออกไป โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าคุยเรื่องซอฟต์พาวเวอร์กับนายกฯ เป็นอย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธารตอบว่า “คุยค่ะ เรื่องการจัดงานสงกรานต์” ผู้สื่อข่าวจึงถามอีกว่า ได้คุยเรื่องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับการพักโทษหรือไม่ ซึ่ง น.ส.แพทองธารปฏิเสธว่า “ไม่มีค่ะ มีแต่คุยเรื่องซอฟต์พาวเวอร์” 

ส่วน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ซึ่งเดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้าก่อน น.ส.แพทองธาร ได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่าได้มีการพูดคุยในเรื่องที่จะมีการพักโทษนายทักษิณหรือไม่ โดยระบุเพียงว่า มาคุยเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณซอฟต์พาวเวอร์ และขณะที่ตนเดินออกมานั้น น.ส.แพทองธารยังพูดคุยส่วนตัวกับนายกฯ อยู่ เป็นการคุยเรื่องงบประมาณซอฟต์พาวเวอร์ที่จะจัดงานมหาสงกรานต์ในช่วงเดือน เม.ย.ที่จะถึงนี้ ซึ่งนายกฯ ขอให้เร่งรัดในเรื่องการทำงบให้เร็วที่สุด

อย่างไรก็ดี ระหว่างที่ น.ส.แพทองธาร หารือกับนายกฯ บนตึกไทยคู่ฟ้านั้น  ปรากฏว่า ในเวลา 13.20 น. ยังพบว่า พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ขึ้นไปบนตึกไทยคู่ฟ้าด้วย โดย พล.ต.ท.อาชยนเปิดเผยว่า มารายงานเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบและยาเสพติด

 นอกจากนี้ นายเศรษฐาได้มอบหมายนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ครั้งที่ 1/2567 แทน รวมถึงยกเลิกเข้าเยี่ยมคารวะจุฬาราชมนตรี ในโอกาสได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งจุฬาราชมนตรี ที่สำนักจุฬาราชมนตรี เขตหนองจอก กทม. ในเวลา 15.00 น.ด้วย โดยตลอดช่วงบ่ายนายเศรษฐาปฏิบัติภารกิจอยู่ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ตลอด ก่อนจะเดินทางออกไปในเวลา 16.45 น.

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์การเมือง หลังจากนายทักษิณจะได้รับการพักโทษ ว่า ไม่ได้ประเมินอะไรเป็นพิเศษ มองว่าเป็นเรื่องปกติเกี่ยวกับการเมือง ไม่น่ามีอะไรต้องห่วง

เมื่อถามถึงความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นหลังจากนี้ เนื่องจากมีกลุ่มต่อต้าน นายสมศักดิ์ตอบว่า ถ้าจะมีต้องเป็นกลุ่มใหญ่ ถ้ากลุ่มปกติคงไม่มีอะไรแตกต่างจากที่เป็นอยู่ จึงคิดว่าไม่น่ามีอะไร อย่างไรก็ดี การพักโทษถือเป็นเรื่องปกติ แต่ละเดือนก็มีการพักโทษจำนวนหนึ่ง ครั้งนี้มีการอนุมัติพักโทษ 930 คน เป็นลักษณะทั่วไปของการพักโทษตามกฎระเบียบราชทัณฑ์

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายทักษิณจะมาที่ปรึกษารัฐบาลหรือหัวหน้าพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายสมศักดิ์ยืนยันว่า ขณะนี้รัฐบาลทำทุกอย่างเหมือนเดิมไม่มีอะไรพิเศษ เมื่อถามว่า ด้วยบารมีของนายทักษิณ เมื่อได้รับการพักโทษออกมาแล้ว จะทำให้คนเข้าไปหาเยอะหรือไม่ นายสมศักดิ์ระบุว่า ไม่ทราบเงื่อนไขการพักโทษ การที่คนจะไปพบปะเยี่ยมเยียนอย่างไรนั้น คงต้องดูเงื่อนไขการพักโทษ

‘สมศักดิ์’ ใจชื้นไม่ปรับ ครม.

ถามว่า พรรคก้าวไกลระบุว่าหลังจากนี้จะมีนายกฯ สองคน นายสมศักดิ์ ปฏิเสธว่า ไม่จริง เขาพูดให้เป็นผลทางการเมือง เป็นวาทกรรม ก็ว่ากันไป จะพูดว่ามีนายกฯ สอง สาม สี่ ห้าคน ก็ไม่เป็นไร ต่อข้อถามว่าบารมีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง จะน้อยลงหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่ เพราะนายกฯ มีกฎหมายเป็นเครื่องมือในการทำงานอยู่แล้ว ท่านใช้สิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ทำงาน ซึ่งท่านทำเต็มที่อยู่แล้ว

ซักว่านายทักษิณได้รับการพักโทษออกมา จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า “ขึ้นอยู่กับนายกฯ ท่านบอกว่าไม่ปรับ ผมก็ยังใจชื้นอยู่”

วันเดียวกัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงกระแสข่าวนายทักษิณจะได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 18 ก.พ.ว่า การจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยโดยรอบโรงพยาบาลตำรวจในขณะนี้ ยังคงใช้กำลังตำรวจท้องที่ตามปกติ ไม่ได้มีการเพิ่มกำลัง แต่หากกลุ่มกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดยนายวิชิต ไชยมงคล หรือนายนัสเซอร์ ยีหมะ จะเคลื่อนขบวนมาทำกิจกรรมที่หน้าโรงพยาบาลตำรวจ และเฝ้าสังเกตการณ์การพักโทษและปล่อยตัวนายทักษิณ ตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.เป็นต้นไปนั้น ก็มีกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนและกำลังท้องที่เตรียมแผนรองรับไว้อยู่แล้ว เพื่อรักษาความสงบและป้องกันไม่ให้มีกลุ่มมือที่ 3 เข้ามาก่อความวุ่นวาย โดยจำนวนมวลชนคาดการณ์ว่ามีประมาณ 100 คน ตำรวจจะพิจารณาตามสถานการณ์ แต่ในขณะนี้ยังไม่ได้มีการกำชับมาตรการประเด็นใดเป็นพิเศษ และยังไม่มีความจำเป็นต้องจัดโซนนิงให้ผู้ชุมนุม เพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้ากับรถปล่อยตัวนายทักษิณ

รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ส่วนหากนายทักษิณพักโทษและไปพักที่บ้านจันทร์ส่องหล้า การรักษาความปลอดภัยที่บ้านจันทร์ส่องหล้านั้นจะใช้กำลังตำรวจพื้นที่รักษาความปลอดภัยตามปกติของมาตรการอารักขาบุคคลสำคัญในฐานะที่นายทักษิณเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีตามปกติอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม รอง ผบ.ตร.ระบุว่า จากการพูดคุยกับแกนนำ คปท.เมื่อวันที่มาทำกิจกรรม ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี มีการชี้แจงพูดคุยประเด็นต่างๆ แล้วว่า สามารถแสดงความคิดเห็นหรือแสดงออกภายใต้กรอบของประชาธิปไตยได้ แต่จะต้องไม่ผิดหลักกฎหมาย นอกจากนี้ ยังทราบว่ากลุ่ม คปท.กำลังล่ารายชื่อ 20,000 รายชื่อ เพื่อยื่นเสนอต่อประธานสภาฯ เพื่อให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของทีมแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ และอาการของนายทักษิณ ก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่สามารถกระทำได้ แต่ตนเองได้ชี้แจงไปแล้วว่าที่ผ่านมามีหน่วยงานต่างๆ  เข้ามาตรวจสอบทีมแพทย์แล้วหลายหน่วยงาน ยืนยันว่าทีมแพทย์ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต ซื่อสัตย์ และโปร่งใส

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีนี้จะมีผลต่อแรงเสียดทานทางการเมืองมากน้อยเพียงใดว่า เราไม่ได้พูดคุยกันเป็นกิจจะลักษณะ แต่คงต้องรอดูว่าเมื่อถึงวันนั้นจริงๆ จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น แล้วจึงจะประเมินท่าทีและการสื่อสารต่อสังคมอีกครั้ง ส่วนจะส่งผลถึงการต่อต้านของกลุ่มการเมืองภายนอกสภาหรือไม่นั้น  มองแค่ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องความเท่าเทียมกันในหมู่ประชาชน ซึ่งหากมีใครคนหนึ่งได้รับสิทธิพิเศษบางอย่างมาโดยตลอด และเกิดการตั้งคำถามว่า ที่ผ่านมามีอาการเจ็บป่วยจริงหรือไม่ เมื่อถึงวันนั้นก็อาจจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้เลย แล้วตกลงที่ผ่านมาที่บอกว่าป่วยอยู่เรือนจำไม่ได้ หมายความว่าอย่างไร ซึ่งก็ทำให้สังคมตั้งคำถามอยู่แล้ว

“ผมคิดว่าการให้ความสำคัญกับหลักการ คงเป็นการปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน ว่าตกลงแล้วมีนักโทษกี่คนที่ควรจะได้รับการพักโทษ ซึ่งคงมีนักโทษหลายคนที่เป็นผู้สูงอายุ และมีอาการเจ็บป่วยอยู่ในเรือนจำ ที่ควรได้รับสิทธิ์นี้เช่นกัน อาจต้องขอให้เปิดเผยว่ามีนักโทษผู้สูงอายุคนอื่นๆ ได้รับสิทธิ์นี้กี่คน” นายปกรณ์วุฒิย้ำ

คปท.นัดชุมนุม รพ.ตำรวจ

ช่วงสายวันเดียวกัน กลุ่ม คปท. นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล และนายนัสเซอร์ ยีหมะ ร่วมกับกลุ่ม ศปปส. และกลุ่มกองทัพธรรม มายื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด  เพื่อสอบถามความคืบหน้าในคดีนายทักษิณโดนดำเนินคดีข้อหาหมิ่นเบื้องสูงมาตรา 112 และความผิดตาม พ.รบ.คอมพิวเตอร์ กรณีให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ กรณีเมื่อวันที่ 21 พ.ค.58 พาดพิงสถาบันฯ ซึ่งเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร ที่อยู่ในความรับผิดชอบของอัยการสูงสุด

นายพิชิตกล่าวว่า คปท.มีความเห็นใน 3 ประเด็นคือ การที่นายทักษิณร้องขอความเป็นธรรมในคดีนี้ เราเห็นว่าการที่กองทัพบกมาร้องทุกข์ให้อัยการสูงสุดแจ้งข้อหานั้น เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะผู้ต้องหาไม่มาชี้แจง ต่อสู้คดีเองในเวลาที่ผ่านมา เนื่องจากหลบหนีออกนอกประเทศ ดังนั้น การยื่นขอความเป็นธรรมจึงไม่ใช่เหตุที่อัยการจะต้องมาพิจารณา และต้องการให้อัยการสูงสุดชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการหลังนายทักษิณได้รับการพักโทษให้ชัดเจนว่าจะมีมาตรการกับผู้ต้องหาอย่างไร จะมีการอายัดตัว หรือจะให้ประกันตัว หรือจะถ่วงเวลาไปให้พ้นโทษ ต้องชี้แจงให้ชัดเจนด้วย

นายพิชิตกล่าวอีกว่า รวมถึงจากการที่ตัวแทนกลุ่มได้ไปสอบถามแพทย์ที่โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อวันที่ 14 ก.พ.67 ก็พบว่ามีข้อขัดแย้งกัน เพราะทางแพทย์ชี้แจงว่าที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานไหนขึ้นไปห้องที่นายทักษิณรักษาตัวอยู่บนชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจเลย นอกจากผู้ตรวจการแผ่นดิน แล้วที่อัยการสูงสุดแถลงว่ามีการไปแจ้งข้อกล่าวหานั้น เกิดขึ้นที่ไหน อย่างไร เพราะการแจ้งข้อกล่าวหาจะต้องแจ้งต่อหน้าผู้ต้องหา หากหลังวันที่ 18 ก.พ. หรือวันที่นายทักษิณได้รับการพักโทษแล้วยังไม่ได้รับความชัดเจนในเรื่องนี้ จะกลับมาทวงถามอีกครั้ง

“ยืนยันว่าในช่วงวันที่คาดว่านายทักษิณจะได้รับการพักโทษนั้น ทางกลุ่มจะมีการทำกิจกรรม แต่ยังอยู่ระหว่างการหารือกัน โดยจะไปต้อนรับที่หน้าโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อไปพิสูจน์ข้อเท็จจริง เพราะได้ทวงถามเรื่องนี้มาตลอดหลายสัปดาห์ว่านายทักษิณจะออกจากโรงพยาบาลตำรวจมาในลักษณะไหน จะแข็งแรงหายป่วยทันทีหลังจากป่วยหนักมา 180 วัน หรือจะออกมาแบบเป็นผู้ป่วยติดเตียง โดยจะเป็นการทำกิจกรรมเพื่อไปพิสูจน์ข้อเท็จจริง” แกนนำ คปท.ระบุ

นายพิชิตเปิดเผยด้วยว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจะยังคงปักหลักชุมนุมที่สะพานชมัยมรุเชฐต่อไป แม้นายทักษิณจะได้รับการพักโทษ เพื่อติดตามกรณีที่ก่อนหน้านี้ได้ยื่นให้ ป.ป.ช.สอบข้อเท็จจริงกับข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้นายทักษิณออกมารักษาตัวนอกเรือนจำ จนกว่าจะได้รับความชัดเจนจาก ป.ป.ช.

 ด้านนายณรงค์ ศรีระสันต์ ชี้แจงว่า การสั่งสำนวนนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นคดีนอกราชอาณาจักร เมื่อสั่งคดีอย่างไรแล้ว ทางโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดจะมีการแถลงข่าวอีกครั้ง ขณะเดียวกันจะเสนอหนังสือของทางกลุ่มมวลชนที่ยื่นวันนี้ให้กับท่านอัยการสูงสุดด้วย ส่วนที่มีข่าวว่าอัยการและพนักงานสอบสวนได้เข้าไปแจ้งข้อกล่าวหากับนายทักษิณที่โรงพยาบาลตำรวจนั้น ทางโฆษกฯ ไม่ได้มีข้อมูลในส่วนนั้น และยืนยันไม่ได้ เพราะไม่ใช่พนักงานสอบสวน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ เชื่อมั่นผลักดันภูเก็ต ส่งเสริมให้เศรษฐกิจสะพัดมหาศาลกว่า 3 แสนล้านบาท

นายกฯ เชื่อมั่นผลักดันภูเก็ต ส่งเสริมให้เศรษฐกิจสะพัดมหาศาลมากกว่า 3 แสนล้านบาท จากปี 2566 ล่าสุดเว็บไซต์ Bounce ยกให้ “ภูเก็ต” เป็นอันดับ 1 ของเกาะน่าท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2567

จับตา 22 สิงหา! 'ทักษิณ' พักโทษยังทำได้ขนาดนี้ พ้นโทษจะขนาดไหน

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อยู่ระหว่างการพักโทษ ยังทำได้ขนาดนี้ พ้นโทษแล้วจะขนาดไหน