ครม.เคาะโยก10บิ๊กมท. ปลัดเก่งโต้สกัดชัยวัฒน์

ครม.เคาะโยก 10 บิ๊กมหาดไทยและ 5 ข้าราชการ ก.แรงงาน  ตามคาด “ชัยวัฒน์” จากอธิบดีกรมพัฒนาชุมชนไปเป็นพ่อเมืองโคราช ส่วน “พรพจน์” ผงาดจากรองปลัดนั่งอธิบดีกรมที่ดิน “อนุทิน” ลั่นซี 10 เหมือนกันไม่ได้ลดชั้น ปลัด มท.แจงยิบบอกเจ้าตัวขอเป็นผู้ว่าฯ เองเพราะเป็นบ้านเกิดภรรยา

เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี  (ครม.) ว่าได้ลงนามแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการไปแล้ว เป็นไปตามกระบวนการ  โดยจะเสนอเข้าที่ประชุม ครม. ซึ่งจะโยกย้าย 7-8 ตำแหน่ง

ถามถึงกระแสข่าวว่าจะโยกย้ายนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นการลดชั้นหรือไม่นั้น นายอนุทินกล่าวว่า ซี 10 กับซี 10 เหมือนกัน ลดชั้นตรงไหน ผู้ว่าฯ ใหญ่หรือไม่ บางทีก็แล้วแต่คนจะคิด บางทีเป็นกัปตันเรือเล็กดีกว่าเป็นนายท้ายเรือใหญ่

หลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น นายอนุทินได้เดินโอบหลังนายชัยวัฒน์ขึ้นตึกบัญชาการ 1 ด้วย

    ต่อมา นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงผลประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงแรงงาน  ดังนี้  1.กระทรวงมหาดไทย แต่งตั้งโยกย้าย 10 ราย ประกอบด้วย 1.นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน เป็นรองปลัดกระทรวง 2.นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าฯ  หนองคาย เป็นรองปลัดกระทรวง 3.นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 4.นายวัชรเดช  เกียรติชานน ที่ปรึกษาด้านการปกครอง  เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 5.นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าฯ นครราชสีมา เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน 6.นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวง เป็นอธิบดีกรมที่ดิน 7.นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ นครราชสีมา 8.นายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวง เป็นผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์  9.นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน และ 10.นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าฯ หนองคาย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

2.กระทรวงแรงงาน ครม.มีการแต่งตั้งโยกย้าย 5 ราย ประกอบด้วย 1.ร.อ.สาโรจน์ คมคาย ที่ปรึกษากฎหมาย เป็นรองปลัดกระทรวง 2.นายสมพจน์ กวางแก้ว รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 3.น.ส.บุณยวีร์ ไขว้พันธุ์ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 4.นายสันติ นันตสุวรรณ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง และ 5.นางมารศรี ใจรังษี รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

ด้านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง 10  ตำแหน่งว่า ในส่วนการโยกย้ายผู้ว่าฯ หนองคาย และผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน มาดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง มท. เป็นการตัดสินใจเลือกของตน เพื่อได้จัดทีมบริหารส่วนกลางทดแทนตำแหน่งที่ว่าง สำหรับตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน ซึ่งมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้อธิบดีเก่าพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากลาออกจากราชการ จึงได้โยกย้ายนายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัด มท.ไปดำรงตำแหน่ง เพราะมีความรู้ความสามารถ สำเร็จการศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญงานด้านวิศวกรรม ที่จะไปพัฒนากระบวนงานของกรมที่ดิน ทั้งในด้านการสำรวจออกโฉนดที่ดินให้กับพี่น้องประชาชน และการพัฒนางานในมิติต่างๆ เพื่อยกระดับการให้บริการพี่น้องประชาชน

นายสุทธิพงษ์ยังได้กล่าวถึงประเด็นข่าวการโยกย้ายนายชัยวัฒน์ว่า ได้พูดคุยกับนายชัยวัฒน์ ซึ่งท่านได้ตัดสินใจเลือกไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ นครราชสีมา เพื่อทำหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นจังหวัดภูมิลำเนาของภรรยา ดังนั้นข่าวที่บอกว่าเตะตัดขา ไม่ใช่เรื่องจริง เรามีการพูดคุยกันก่อนแล้ว มีการสอบถามกันก่อนที่จะเสนอเรื่องผ่าน รมว.มหาดไทย

 “เรื่องทำนองนี้ไม่ใช่ไม่เคยเกิดขึ้น เคยมีปลัดกระทรวงมหาดไทย คนที่ 32 คือ ท่านพงศ์โพยม วาศภูติ ซึ่งเคยเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แล้วไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ นครราชสีมา และกลับมาเป็นผู้ตรวจราชการ รองปลัด และก้าวสู่ตำแหน่งปลัดกระทรวง ดังนั้น ขอยืนยันว่าการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย เราพิจารณาจากความเหมาะสม โดยยึดระบบคุณธรรม ความรู้ความสามารถ และที่สำคัญได้มีการพูดคุยสอบถามก่อนเสนอ”  นายสุทธิพงษ์กล่าว และว่า การย้ายนายสยามมาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนแทน เพราะมีความรู้ความสามารถมาขับเคลื่อนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนภาพรวม

ปลัด มท.ยังกล่าวถึงการโยกย้ายนายสมคิดว่า นายสมคิดมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่นายชูชีพ ซึ่งยังหนุ่มยังแน่น ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน เพื่อขับเคลื่อนงานให้พี่น้องประชาชน ส่วนนายสมภพ ซึ่งมีอาวุโสเป็นลำดับ 2 ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ หนองคายนั้น เนื่องจากหัวหน้าผู้ตรวจราชการได้ตัดสินใจดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการต่อเนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ

นายอนุทินยังกล่าวถึงการแต่งตั้งนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีต รมช.มหาดไทย เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ซึ่ง ครม.มีมติเมื่อวันที่ 13 ก.พ. ว่าด้วยประสบการณ์  บารมี และความรู้ความสามารถด้านกฎหมาย ประกอบกับเคยเป็น รมช.มหาดไทย สมัยที่บิดาเป็น รมว.มหาดไทย ซึ่งนายบุญจงมีผลงานเยอะมาก ส่วนงานที่จะมาทำคือการเข้ามาช่วยเหลือตนทุกอย่าง เพราะมีภารกิจเยอะมาก เช่น ไปทำงานแทนตัวเอง ถ้าหากเราให้ผู้ใหญ่อย่างนายบุญจงไป ก็เท่ากับว่าเราให้เกียรติงาน เพราะเป็นคนที่มีวุฒิภาวะและมีความสามารถ.