‘ชัย’อวยเศรษฐา มุ่งมั่นสร้าง‘ฝัน’ ดันไทยผู้นำ8ฮับ

“ชัย” มั่นใจ “เศรษฐา” มุ่งมั่นทำวิสัยทัศน์ 8 ด้านให้เป็นจริง “ธนกร” บอกเป็นไปได้หากมุ่งมั่น นักวิชาการชำแหละต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี ชี้ “ฮับท่องเที่ยว-อาหาร” เป็นไปได้มากที่สุด แต่ข้องใจทำไมต้องการเป็นศูนย์กลางมากมาย

เมื่อวันที่ 25 ก.พ.2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า เชื่อมั่นในนายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่เป็นคนตั้งใจ เอาจริงเอาจัง และเชื่อว่านายเศรษฐาจะมุ่งมั่น ผลักดันตามความตั้งใจให้ประเทศไทยเป็นที่ 1 ในภูมิภาคตามเป้าหมาย ซึ่งนายกฯ ระบุว่า 3 องค์ประกอบที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทย ได้แก่ 1. รัฐบาลที่มุ่งมั่นและทุ่มเท 2.เศรษฐกิจที่พร้อมเติบโต และ 3.ประชาชนที่ร่วมใจกันเดินหน้า ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดเป็นแนวทางการทำงานในแต่ละด้านเพื่อให้บรรลุตามวิสัยทัศน์การพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมทั้ง 8 ด้านลงไปด้วย

“ผมเชื่อมั่นในการทำงานของนายกฯ  ซึ่งเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ ทันสมัย เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก เป็นผู้มุ่งมั่นสู่ความสำเร็จ จึงทำให้การประกาศวิสัยทัศน์ Thailand Vision “IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่งของนายกฯ นอกจากเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ และยังเปรียบเสมือนเป็นคำสัญญาให้ประชาชน”

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND ว่า เห็นด้วย เพราะไทยมีศักยภาพและจุดเด่นอย่างมากที่จะพัฒนาให้ทุกด้านไปสู่ความเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้ได้ รวมทั้งจะส่งผลให้สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดดและมั่นคงได้ในระยะยาว

“รัฐบาลต้องมีการบริหารจัดการและวางยุทธศาสตร์ให้ดี ทั้งในระยะสั้น  ระยะกลาง และระยะยาว อาศัยความร่วมมือทุกฝ่ายและเดินหน้าอย่างจริงจัง สามารถวัดผลสัมฤทธิ์ให้เห็นเป็นรูปธรรม โดยดำเนินตามนโยบายการเงินและการคลังอย่างเคร่งครัด สร้างเสถียรภาพทางการเงิน และเป็นไปตามกฎหมาย เชื่อว่าการโชว์วิสัยทัศน์ครั้งนี้ของนายกฯ จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนใน โครงการต่างๆ ทั้งศักยภาพ 8 ด้านของประเทศไทยเป็นไปได้ตามเป้าที่รัฐบาลวางไว้” นายธนกรกล่าว 

ด้าน รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ    มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์  มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวในเรื่องนี้ว่า เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ แต่อาจต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี สำหรับบางอุตสาหกรรม แต่บางอุตสาหกรรมไทยมีความพร้อมมาก บางอุตสาหกรรมต้องลงทุนในทักษะแรงงานอย่างจริงจัง ยกเครื่องระบบการศึกษา มีการลงทุนทางด้านการวิจัยแปรรูปสร้างมูลค่า ลงทุนและพัฒนานวัตกรรมอย่างเป็นระบบ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานตามเป้าหมาย ลำดับความสำคัญในการลงทุนตามความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบและความสามารถในการแข่งขัน พร้อมมีแผนดำเนินการอย่างชัดเจน ความต่อเนื่องของการดำเนินนโยบายจากเสถียรภาพทางการเมืองเป็นปัจจัยชี้ขาดความสำเร็จ 

รศ.ดร.อนุสรณ์กล่าวว่า ศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว และศูนย์กลางอาหาร เป็นด้านที่ประเทศมีความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ และมีความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน เพราะมีปัจจัยพื้นฐานรองรับที่เข้มแข็งสามารถพัฒนาต่อยอดได้เร็วและไม่ยากลำบากเกินไป และน่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก ส่วนการเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพ น่าจะมีความเป็นไปได้ในระดับปานกลาง ส่วนอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ขนส่งของภูมิภาค ก็มีข้อได้เปรียบโดยสภาพที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของประเทศ  แต่ยังต้องลงทุนในโครงการขนาดใหญ่เพื่อเชื่อมโยงในระดับภูมิภาคอีกมาก

“ศูนย์กลางการบิน ศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคต และศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล ไม่ได้มีพื้นฐานที่เข้มแข็งนัก ขาดทั้งทักษะในระดับผู้ประกอบการและแรงงาน ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานและระบบสนับสนุนอย่างเพียงพอ อุตสาหกรรมกลุ่มนี้ต้องอาศัยการลงทุนอย่างยาวนานต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 10 ปี จึงสามารถขึ้นมาอยู่ในระดับที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางหรือฮับในอนุภูมิภาคได้”

 รศ.ดร.อนุสรณ์กล่าวอีกว่า ส่วนการประกาศเป็นศูนย์กลางทางการเงินเป็นวอลสตรีทของอาเซียนนั้น ต้องตั้งประเด็นว่า สถาบันการเงินและสถาบันการลงทุนจะย้ายฐานออกจากสิงคโปร์ที่เป็นศูนย์กลางการเงินของโลกอยู่แล้วมายังไทยด้วยปัจจัย ด้วยเหตุผลอะไร เพราะอาเซียนไม่จำเป็นต้องมีศูนย์กลางทางการเงินสองแห่ง หากลดระดับลงมาเป็นศูนย์กลางของอนุภูมิภาคอาเซียนอาจเป็นไปได้ด้วยการเสริมบทบาทเงินบาทในอินโดจีนและเมียนมา ส่วนการพัฒนาระบบการเงินเพื่อความยั่งยืนเป็นเรื่องดี การเชิญชวนให้บริษัทไฮเทคทางด้านดิจิทัลเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นเรื่องที่ดี สำคัญคือทำอย่างไรให้เกิดการเชื่อมโยงกับบริษัทสตาร์ทอัปไทยที่มีอยู่ไม่มาก และทำอย่างไรทำให้เกิด บริษัทยูนิคอร์นขึ้นมาให้ได้ 

“การทำให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยความมุ่งมั่น ต่อเนื่อง ทำงานหนัก ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนจนนโยบายบิดเบี้ยว และสิ่งที่ต้องขบคิดต่อในเชิงยุทธศาสตร์นโยบายเศรษฐกิจและการพัฒนาอุตสาหกรรม ก็คือเราจำเป็นแค่ไหนในการเป็นศูนย์กลางหรือฮับมากมายภายใต้ข้อจำกัดของทรัพยากรและงบประมาณที่มีอยู่ในประเทศ” รศ.ดร.อนุสรณ์ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ สั่งปราบมิจฉาชีพออนไลน์ ปิดบัญชีม้าแล้ว 7 แสนบัญชี อายัดเงินเกือบ 1 พันล้าน

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ด้วยความมุ่งมั่นใส่ใจของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ส่งผลให้รัฐบาล ปิดบัญชีม้าแล้วกว่า 7 แสนบัญชี อายัดเงินเกือบ 1 พันล้าน และอยู่ระหว่าง ตรวจสอบ เพื่อคืนเงินผู้เสียหายต่อไป