"บิ๊กทิน" มั่นใจ "ทักษิณ" คนมีบารมี เชื่อเคลียร์มิน อ่อง หล่าย ก่อนเจรจาชนกลุ่มน้อยเมียนมา ชี้ต้องคุยตั้งแต่ระดับหัวถึงหางจนจบ ด้านทหาร-กลุ่มชาติพันธุ์เมียนมาส่อไม่ยอมรับ “โฆษกสภาทหาร” ย้ำไม่ควรหนุนกลุ่มก่อการร้าย ขณะที่ “กลุ่มชาติพันธุ์” ชี้อดีตนายกฯ ไม่เข้าใจปัญหา ไปเชิญกลุ่มเล็กๆ มาร่วมหารือ
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลกระทรวงกลาโหม ว่าถือเป็นการจัดองค์กรบริหารตามปกติ ในอดีตทุกรัฐบาลมีรองนายกฯ ที่จะต้องแบ่งกลุ่มควบคุมดูแล กำกับงานในแต่ละกระทรวง กระทรวงกลาโหมก็ต้องอยู่ในหมวดของงานความมั่นคง ก็ต้องมีรองนายกฯ มากำกับดูแลเพื่อเสริมงาน ซึ่งส่วนตัวทำงานร่วมกับนายภูมิธรรมมาตลอดหลายมิติ ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งปัจจุบันงานด้านความมั่นคงยังต้องดำเนินการอีกมาก ในตัวองค์กรก็จะต้องมีการปรับโครงสร้างให้เกิดประสิทธิภาพเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์
เมื่อถามถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เจรจากับชนกลุ่มน้อย เพื่อแก้ไขปัญหาในประเทศเมียนมา นายสุทินกล่าวว่า ตนไม่ทราบ ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ แต่หากจริงก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ถือเป็นเรื่องดี การแก้ไขปัญหาในอดีตหลายประเทศที่มีปัญหากันบางครั้งไม่ได้จบระดับไตรภาคีหรือทวิภาคี แต่จะจบด้วยเอกชนหรือคนนอกบางคนไปเป็นตัวกลาง คนที่มีบารมีก็อาจจะไปช่วยพูดคุย ก็อาจจะจบได้ ซึ่งหากเป็นเรื่องจริง ท่านทักษิณอาจจะคิดเช่นนั้น
เมื่อถามว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย รับทราบด้วยหรือไม่ เพราะตามมารยาทการช่วยเจรจาคู่กรณีต้องเห็นพ้อง นายสุทินระบุว่า "ผมไม่ทราบ แต่ถ้าท่านทำจริงผมเชื่อว่าต้องรู้ทุกระดับ เพราะท่านเป็นคนมีบารมี ไม่ใช่คนที่ไม่มีบารมี เป็นอดีตนายกฯ หากคิดจะทำอย่างนั้นคงจะคุยตั้งแต่หัวถึงหางจนจบ" นายสุทินกล่าว
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าควรเป็นหน้าที่หลักที่รัฐบาลต้องดำเนินการ นายสุทินกล่าวว่า แน่นอนเราก็ทำอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่ทำ แต่หากจะมีใคร มาช่วยเสริมก็ไม่เสียหายอะไร
ที่รัฐสภา นายมานพ คีรีภูวดล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้าจากการติดตามผลกระทบที่เกิดจากความไม่สงบในเมียนมา โดยตั้งคำถามถึงการบริหารจัดการผู้หนีภัยในระดับพื้นที่ พร้อมเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานความมั่นคงที่อยู่หน้าด่าน ยึดปฏิบัติตามแผนงานของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในกรณีเกิดสถานการณ์สู้รบในเมืองทวาย รัฐกะเหรี่ยง เมียนมา ที่อยู่ตรงข้ามกับจังหวัดกาญจนบุรีของประเทศไทย โดยขณะนี้มีความพยายามผลักดันผู้หนีภัยสู้รบกลับไป ทั้งๆ ที่สถานการณ์การสู้รบยังคงเกิดขึ้นอยู่ ซึ่งขัดกับคำแถลงและแผนงานของรัฐบาลที่ระบุว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์สู้รบเราจะดูแลผู้หนีภัยตามหลักมนุษยชน ว่าเพราะเหตุใดจึงไม่ดำเนินการเหมือนในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน หรือ อ.แม่สอด จ.ตาก
นายมานพยังกล่าวถึงความพยายามในการหาทางเจรจาในรูปแบบต่างๆ ว่า กมธ.มีข้อเสนอที่ชัดเจนว่า ประเทศไทยจำเป็นจะต้องประกาศตัวอย่างชัดเจนที่จะเป็นตัวกลาง เพื่อทำให้เกิดการพูดคุยในพื้นที่ปลอดภัยกับทุกๆ กลุ่มที่เกี่ยวข้อง เพราะตลอดแนวชายแดนประเทศไทย เราเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้รับผลกระทบ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวอ้างอิงจากสื่อเมียนมาว่า ทั้งสภาทหารเมียนมาและกลุ่มชาติพันธุ์ที่ต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาต่างออกมาสื่อสารว่าไม่ยอมรับความพยายามของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความพยายามที่จะเข้ามาแทรกแซงกิจการทหารเมียนมา โดย พล.ต.ซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวว่า ประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ ไม่ควรที่จะสนับสนุนกลุ่มที่ต่อต้านสภาทหารเมียนมา
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา นายทักษิณและคณะได้เข้าเยี่ยมพบปะหารือกับกลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์ ประกอบด้วย ตัวแทนสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union-KNU), พรรคก้าวหน้าแห่งชาติคะเรนนี (Karenni National Progressive Party-KNPP), องค์การแห่งชาติกะฉิ่น Kachin National Organization (KNO), รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ หรือเอ็นยูจี (National Unity Government-NUG) โดยเป็นการพบกันที่ จ.เชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการมาจากทางฝ่าย NUG หรือว่าฝ่ายกองกำลังปฏิวัติเกี่ยวกับรายละเอียดการพบปะนี้
ขณะที่ทางด้านของ พล.ต.ซอ มิน ตุน กล่าวถึงข่าวนี้ว่า แม้ว่าตัวเขาจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรีไทย แต่ว่านายทักษิณก็ไม่ควรจะสนับสนุนกลุ่มที่ต่อต้านเมียนมา
“หลายประเทศสนใจกิจการเมียนมา สําหรับเรา เรามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ความเห็นของเราคือประเทศเพื่อนบ้านก็กําลังทําลายผลประโยชน์ของเมียนมาเช่นกัน ผมคิดว่าเราไม่ควรสนับสนุนกลุ่มที่สนับสนุนผู้ก่อการร้ายที่กําลังต่อสู้กับเมียนมา” พล.ต.ซอ มิน ตุน กล่าว
ขณะที่กลุ่มชาติพันธุ์กล่าวถึงความพยายามของนายทักษิณที่เสนอตัวเป็นคนกลางในการพูดคุยเพื่อสันติภาพระหว่างกลุ่มต่างๆ ในเมียนมา โดยหนึ่งในผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ หรือ EAO ออกมากล่าวว่า มีความสงสัยกันว่านายทักษิณนั้นอาจจะไม่เข้าใจความซับซ้อนของความขัดแย้งในเมียนมา ยกตัวอย่างเช่นเมื่อนายทักษิณเชิญตัวแทนจากกลุ่ม EAO เขากลับเชิญตัวแทนจากกลุ่มองค์กรแห่งชาติกะฉิ่น หรือ KNO เข้าร่วมหารือ ซึ่งดูเหมือนกับว่าจะเป็นความเข้าใจผิดว่า KNO นั้นคือกลุ่มกองทัพเอกราชกะฉิ่น (KIA) ที่ทรงอำนาจ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว KNO เป็นแค่กลุ่มเล็กๆ เท่านั้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เร่งตั้ง‘สสร.’ให้ทันปี70
รัฐสภาจัดงานวันรัฐธรรมนูญคึกคัก แต่พรรคประชาชนเมินเข้าร่วม
อาลัย‘สันติ’ นักร้องปลุกใจ เพลงรักชาติ
อาลัย "สันติ ลุนเผ่" ศิลปินแห่งชาติ ถึงแก่กรรมด้วยวัย 88 ปี
‘ในหลวง’เสด็จฯเปิดสวนเปรมประชาวนารักษ์
"ในหลวง-พระราชินี" เสด็จฯ ทางชลมารค ทรงเปิดสวนเฉลิมพระเกียรติ
พท.ถอยยึดกองทัพ ถอนกม.ผวาสุดซอยสังคมแตกแยก
"วันนอร์" อยากเห็นบทบัญญัติลงโทษผู้กระทำรัฐประหาร ชี้ทำได้จริง
90วันผลงานอื้อ โวปีทองของไทย ‘อิ๊งค์’กั๊กแจงสภา
รัฐบาลเตรียมแถลงใหญ่ผลงาน 90 วัน โว “2568 โอกาสไทย
แบะท่า‘ปู’ตามรอยแม้ว ลากไส้อบจ.ทุจริตเพียบ
คืบหน้าคดีนักโทษเทวดาชั้น 14 จ่อชงเข้าที่ประชุมใหญ่ ป.ป.ช. เลขาฯ ป.ป.ช.ยันมีอำนาจรีดเอกสารทุกหน่วยงาน