"ป.ป.ช." รับลูก กสม. ตรวจสอบข้อเท็จจริง จนท.เรือนจำ-รพ.ตำรวจ เอื้อประโยชน์ "น.ช.ทักษิณ" ยันจำเป็นต้องขอภาพกล้องวงจรปิดชั้น 14 ที่ใช้รักษาตัว เผยอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารพยานหลักฐาน
ที่ จ.ร้อยเอ็ด วันที่ 15 สิงหาคม นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) มีการส่งผลสอบการกระทำของเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และโรงพยาบาลตำรวจ เข้าข่ายเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการรักษาตัวให้ ป.ป.ช.ว่า ตอนนี้ได้รับเรื่องแล้ว กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำวินิจฉัยของ กสม.มีรายละเอียดและข้อเท็จจริงทางพยานหลักฐานว่าอย่างไร ซึ่งคำวินิจฉัย กสม. เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการตรวจสอบของเรา โดยในระหว่างการตรวจสอบเราก็จะฟังข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐาน แล้วนำเข้ามาประกอบสำนวน
ผู้สื่อข่าวถามว่า คำวินิจฉัยของ กสม.จะทำให้การตรวจสอบในกรณีนี้เร็วขึ้นหรือไม่ นายนิวัติไชยกล่าวว่า จะต้องไปดูข้อเท็จจริงก่อน รวมทั้งเอกสารรายละเอียดทางหลักฐาน ตนยังไม่เห็นเรื่องของรายละเอียดคำวินิจฉัยของ กสม. ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเข้าข่ายเรื่องละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จึงต้องไปดูเจตนาในทางคดีอาญา และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ ป.ป.ช.ได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบอยู่แล้ว เราเพียงแค่นำความเห็นของ กสม.มาประกอบการพิจารณา ส่วนการวินิจฉัยเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทำหน้าที่พิจารณา
เมื่อถามถึงเรื่องของการพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าเจ้าหน้าที่มีการเอื้อให้นายทักษิณ นายนิวัติไชยกล่าวว่า จะต้องไปดูหลักฐานข้อเท็จจริง โดยในกระบวนการการตรวจสอบก็จะมีขั้นตอนในการทำงาน ซึ่งยืนยันว่าเรื่องนี้สามารถวินิจฉัยได้ แล้วจะต้องดูกรอบกฎหมายว่ามีกฎกติกาไว้อย่างไร และเกิดการฝ่าฝืนกติกาหรือไม่อย่างไร
เมื่อถามว่า การพิสูจน์ข้อเท็จจริงจะต้องมีการไปขอกล้องวงจรปิดจากโรงพยาบาลตำรวจหรือไม่ นายนิวัติไชยหัวเราะและกล่าวว่า "จำเป็นต้องขอ"
เมื่อถามว่า ในช่วงที่ผ่านมาโรงพยาบาลตำรวจมีการอ้างเรื่องของสิทธิผู้ป่วยในการไม่เปิดเผยรายละเอียด นายนิวัติไชยกล่าวว่า ก็จะต้องไปดูระเบียบวิธีปฏิบัติของโรงพยาบาลว่าข้อกล่าวอ้างมีเหตุผลและฟังได้หรือไม่ เรายังไม่อยากไปบอกว่าโรงพยาบาลปฏิเสธให้ความร่วมมือและเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
"แต่จะต้องดูข้อปฏิบัติของโรงพยาบาลเอง และการรักษาพยาบาลของนายทักษิณที่จะต้องดูว่าได้รับการคุ้มครองหรือไม่ และ ป.ป.ช.สามารถที่จะเรียกข้อมูลดังกล่าวมาได้หรือไม่ ให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย" เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.


