เดิมพันสุดท้ายชินวัตร ดัน‘อุ๊งอิ๊ง’ขึ้นเป็นนายกฯคนที่31ไม่หวั่นซํ้ารอย‘พ่อ-อาปู’

มติพรรคร่วมรัฐบาลหนุนเพื่อไทยเสนอชื่อ "แพทองธาร" เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31  "อนุทิน-พีระพันธุ์-สันติ-ทวี-วราวุธ" ประสานเสียงประเทศต้องเดินหน้า "อุ๊งอิ๊ง" ลั่นจะทำทุกอย่างสุดความสามารถ บอกคุย "ทักษิณ-หญิงอ้อ" ก่อนรับตำแหน่งแล้ว ไม่หวั่นซ้ำรอยเหมือนพ่อกับอาปู  "ฝ่ายค้าน" ชัดเจนงดออกเสียง ไม่เสนอใครแข่ง "เท้ง" ขอทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านฯ

ตลอดทั้งวันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม 2567 มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง ในการคัดเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอชื่อให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นพิเศษ วันศุกร์ที่ 16 ส.ค.2567 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากประเทศคาซัคสถานว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย (พท.) มีอยู่ 2 ท่านที่เหลือคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายชัยเกษม นิติสิริ ซึ่งทั้งสองท่านเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติ มีความรู้ความสามารถเป็นที่ประจักษ์ โดยอยู่ที่พรรคเพื่อไทยจะพิจารณา ซึ่งวันนี้ (15 ส.ค.) จะมีการประชุมพรรคที่สภาผู้แทนราษฎร โดยจะใช้เวทีตรงนั้นในการหารือและรับฟังความเห็นภายในพรรค ตามกระบวนการของพรรคการเมือง เมื่อเสร็จแล้วจะนำเข้ามาคุยกันภายในคณะกรรมการบริหารพรรคอีกครั้ง

จากนั้นนายภูมิธรรมเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล และให้สัมภาษณ์อีกครั้งในเวลา 13.20 น.  ถึงกระแสข่าวล่าสุดพรรคเพื่อไทยต้องการให้เสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร เป็นว่าที่นายกฯ คนต่อไปว่า  ได้มีการประสานมาถึงตนแล้ว และทราบแล้ว ก็เป็นเรื่องที่คณะกรรมการบริหารพรรคจะต้องพิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ ในช่วงเวลา 10.00 น. ได้มีการประชุม สส.พรรคเพื่อไทยที่รัฐสภา ซึ่ง สส.ส่วนใหญ่เสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท. เป็นนายกรัฐมนตรี โดยให้เหตุผลว่า หากเป็นนายชัยเกษม กังวลในเรื่องสุขภาพ ประกอบกับในพื้นที่เรียกร้องให้เอา น.ส.แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี  เนื่องจากที่ผ่านมา น.ส.แพทองธารลงพื้นที่หาเสียงเป็นส่วนใหญ่ ฉะนั้นจึงอยากให้มาเป็นนายกรัฐมนตรี และคงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรคว่าจะเห็นตาม สส.ของพรรคหรือไม่

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  กล่าวว่า ให้ทางพรรคเพื่อไทยสนับสนุนคนที่พรรคเพื่อไทยเห็นว่าเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งนายกฯ

พอถามว่า หากเกิดส้มหล่นมาถึงนายอนุทินพร้อมรับหรือไม่ นายอนุทินถึงกับร้องในลำคอก่อนหันหน้าไปมองคนถาม จากนั้นได้อมยิ้มและส่ายหน้าพร้อมกับกล่าวว่า "ตามกติกามันไม่ถึงผมหรอกนะ ผมก็เลยสบายใจ ตามกติกาสมมุติว่านี่ยังต้องผ่านอีก 2 แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธารและนายชัยเกษม"

"โอ๊ยยังไม่ถึงผมหรอกครับ และถ้าถึงผม มันทุเรียนหล่น ไม่ใช่ส้มหล่น เจ็บตายโหง” นายอนุทินระบุ

พรรคร่วม รบ.หนุนเพื่อไทย

ต่อมา สส.พรรคภูมิใจไทยนำโดยนายอนุทิน ได้แถลงถึงมติของพรรคภูมิใจไทยต่อการสนับสนุนบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยยินดีสนับสนุนบุคคลในรายชื่อนายกรัฐมนตรี หรือแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป จะเป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทยที่จะเสนอบุคคลที่มีความเหมาะสมให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 16 ส.ค. เวลา 10.00 น. 

 “พรรคภูมิใจไทยขอให้พรรคพี่น้องประชาชนมั่นใจในจุดยืนของพรรคภูมิใจไทย ที่ไม่สนับสนุนพรรคการเมือง หรือไม่สามารถสนับสนุนบุคคลที่มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่มีนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 สิ่งเหล่านี้เป็นเจตนารมณ์ของพรรคภูมิใจไทยตามแถลงการณ์ที่ได้มีไว้เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2566 ถือว่าเป็นข้อตกลงเดิมของพรรคร่วมรัฐบาล จากรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งที่แล้ว” หัวหน้าพรรค ภท.ระบุ

เช่นเดียวกับ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช. พร้อมด้วยสมาชิกพรรค ร่วมกันแถลงข่าวและออกแถลงการณ์ยืนยันจุดยืนของพรรคขอสนับสนุนให้แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี  รวมทั้งต้องไม่มีนโยบายที่จะแก้ไขกฎหมายอาญา  มาตรา 112

ถามถึงกระแสข่าวที่จะให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี กลับมาเป็นนายกฯ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์คงไม่กลับมา เพราะเป็นองคมนตรีแล้ว อย่าเอาข่าวแบบนี้มาทำให้มีปัญหา เพราะองคมนตรีไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง อีกทั้งตามมารยาทแล้วพรรค รทสช.เป็นพรรคร่วมรัฐบาลแต่แรก ก็ต้องให้สิทธิกับพรรคแกนนำรัฐบาลก่อน

"การทำงานของรัฐบาลยังคงต่อเนื่อง เพียงแค่เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีเท่านั้น รวมทั้งโควตาของรัฐมนตรีเท่าที่ทราบมาทุกพรรคก็ทำงานต่อเหมือนเดิม" หัวหน้าพรรค รทสช.กล่าว

ส่วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า พรรค พปชร.เอาตามพรรคเพื่อไทยเสนอ ทั้งนี้ สัดส่วนโควตารัฐมนตรีของพรรค  พปชร. ยืนยันยังเป็นเหมือนเดิม และ รมต.คนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับตนก็ยังเป็นรักษาการ รมว.เกษตรฯ อยู่

นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า จุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนาในการร่วมรัฐบาล คือสนับสนุนแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย และต้องไม่ลืมว่ารัฐบาลนี้ถือกำเนิดมาจากจุดยืนเดียวกัน คือจะไม่แก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งทางพรรคเรายืนยันมาตลอด ทั้งในขั้นตอนการจัดทำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และไม่ไปเกี่ยวข้องกับหมวด 1 หมวด 2 ของรัฐธรรมนูญ และการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 14.20 น. น.ส.แพทองธารได้แชร์สตอรีในอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งโพสต์รูป น.ส.แพทองธารร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับนายเศรษฐา พร้อมระบุข้อความว่า "Lunch Time" ท่ามกลางกระแสข่าว สส.พรรคเพื่อไทยสนับสนุนชื่อ น.ส.แพทองธาร ลงชิงตำแหน่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

กระทั่งเวลา 16.00 น. ที่อาคารชินวัตร 3 มีการนัดประชุมคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคเพื่อไทย นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค, นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่และรองหัวหน้าพรรค, นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค,  นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรค รวมถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย โดยในที่ประชุมได้พิจารณาวาระการเสนอชื่อ น.ส.แพทองธารต่อสภาเพื่อโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31

มติชัด 'แพทองธาร' นายกฯ

จากนั้นเวลา 17.00 น. แกนนำพรรค พท. อาทิ น.ส.แพทองธาร, นายสรวงศ์, นายภูมิธรรม, นายสุริยะ, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รวมถึงแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ, นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา, นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา, นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคไทรวมพลัง, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ร่วมกันแถลงข่าว

นายสรวงศ์แถลงว่า พวกเราทุกคนในนามพรรคร่วมรัฐบาล มีจุดยืนเดียวกัน หลังจากที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยมีมติเสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ คนที่ 31 ของประเทศ การที่ประธานสภาฯ เชิญประชุมวันที่ 16 ส.ค. เพื่อเลือกนายกฯ ก็จะเสนอชื่อโดยพรรคเพื่อไทย และมีพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคให้ความเห็นชอบ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ

ด้านนายอนุทินกล่าวว่า วันนี้เป็นสปิริตของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค เมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น คือนายเศรษฐาต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ พวกเราทุกคนพร้อมใจกันเพื่อทำให้ไม่เกิดความชะงักของการบริหารราชการแผ่นดินและประเทศของเรา เราจึงพร้อมใจกันจะให้พรรคเพื่อไทยในฐานะที่เป็นพรรคแกนนำรัฐบาล เป็นผู้ที่จะเสนอชื่อบุคคลที่พร้อมดำรงตำแหน่งนายกฯ และให้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคได้รับทราบ คือการเสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบในวันที่ 16 ส.ค.

"พรรคภูมิใจไทยมีความยินดีอย่างยิ่ง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยได้มีการเรียกประชุม สส.และ กก.บห. ซึ่งเมื่อทราบถึงตัวบุคคลที่จะดำรงตำแหน่ง ก็เป็นไปตามที่เราคิดไว้ และเมื่อทราบว่าเป็น น.ส.แพทองธาร ก็ยิ่งมีความมั่นใจว่าภายใต้การนำของว่าที่นายกฯ น.ส.แพทองธาร เราทุกคนก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมือเต็มที่ รวมถึงพร้อมที่จะปฏิบัติตามนโยบายของว่าที่นายกฯ นับตั้งแต่วันแรกที่ดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ" หัวหน้าพรรค ภท.กล่าว

ส่วนนายสันติกล่าวว่า ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพื่อไม่ให้ระบบบริหารราชการแผ่นดินเพื่อพี่น้องประชาชนจะต้องล่าช้าและขาดตอน ดังนั้นพรรคประชารัฐซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ อยู่แล้ว เรามีความตั้งใจและมีความเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทย และสนับสนุนตัวแทนของพรรคเพื่อไทยคือ น.ส.แพทองธาร เรามีความมั่นใจในความรู้ความสามารถ เราจึงสนับสนุนให้ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ ในวันที่ 16 ส.ค. เช่นเดียวกันกับพรรคร่วมทุกพรรค

นายพีระพันธุ์กล่าวว่า เกือบ 1 ปีที่พรรครวมไทยสร้างชาติได้ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ซึ่งระยะเวลาเกือบ 1 ปีนั้น เราได้ร่วมกันทำงานด้วยความตั้งใจ และมุ่งมั่นที่จะบริหารราชการแผ่นดินเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ แต่ก็เป็นเรื่องปกติทางการเมือง ที่ไม่สามารถจัดการได้อย่างตั้งใจ แต่พวกเราทุกคนก็พยายามจะทำงานอย่างเต็มที่ และช่วงเวลาสุดท้ายก่อนจะถึงวันที่วินิจฉัยวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา อดีตนายกฯ ก็ยังมาร่วมประชุม ครม.กับพวกเรา อยู่พิจารณาวาระสำคัญของ ครม. แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้การปฏิบัติภารกิจของอดีตนายกฯ ต้องยุติลง และเป็นที่น่าเสียใจ แต่ประเทศชาติผลประโยชน์ของประชาชนต้องเดินหน้าต่อ

"วันนี้ผมและเพื่อนที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนก็พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย และผู้ที่ได้รับการคัดเลือกคือ น.ส.แพทองธาร และในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล เราได้หารือกันโดยสมาชิกพรรคและกรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็มีความเห็นตรงกันว่าสนับสนุนผู้ที่พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อเป็นนายกฯ และเมื่อทราบว่าเป็น น.ส.แพทองธาร ก็รู้สึกดีใจ และขอให้ประสบความสำเร็จในการนำรัฐบาลต่อไป" หัวหน้าพรรค รทสช.กล่าว

อิ๊งค์ลั่นปรึกษาครอบครัวแล้ว

เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า พรรคประชาชาติเข้าร่วมรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ซึ่งที่ผ่านมานายเศรษฐามีภาวะผู้นำ มีความมุ่งมั่นกับงาน เข้าใจว่าปัญหาของประเทศชาติมีความสลับซับซ้อน จึงใช้ภาวะผู้นำขับเคลื่อน ทั้งนี้ พรรคร่วมรัฐบาลทุกคนพร้อมให้กำลังใจ และรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่บ้านเมืองต้องเดินต่อ และวันนี้พรรค พท.ได้เสนอ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ พรรคประชาชาติที่ถือว่ามี สส.มากที่สุดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เราก็พร้อมที่จะขับเคลื่อน และขอยืนยันว่าเราจะแก้ปัญหาของประชาชนภายใต้การนำของนายกฯ คนใหม่ ยืนยันว่าพรรคประชาชาติทั้ง 9 เสียงยินดีสนับสนุน น.ส.แพทองธาร

นายวราวุธกล่าวว่า ในส่วนพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ตัดสินใจเข้าร่วมตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา เมื่อมาถึงวันนี้แนวทางการทำงานและคำมั่นของพรรคชาติไทยพัฒนาที่ได้ให้ไว้กับพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่เปลี่ยนแปลง เราคำไหนคำนั้น ทำงานมาถึงวันนี้ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ก็ต้องขอบคุณนายเศรษฐา ซึ่งกว่า 350 วันที่ได้ดำรงตำแหน่งนายกฯ วันนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยได้เสนอแคนดิเดตนายกฯ คือ น.ส.แพทองธาร ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาเรายืนยันในเจตนารมณ์เดิมที่จะสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยที่จะโหวตในวันที่ 16 ส.ค. ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาทั้ง 10 เสียงลงคะแนนสนับสนุน น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ คนที่ 31 และให้คำมั่นว่าการทำงานของพวกเราในฐานะรัฐมนตรี เราจะผลักดันให้รัฐนาวาลำนี้ผ่านไปได้

ขณะที่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ขอบคุณที่สื่อมารวมตัวกัน ก่อนอื่นต้องขอบคุณ กก.บห.พรรคเพื่อไทย และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่เสนอชื่อตนเป็นนายกฯ และขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลที่สนับสนุน ตนจะทำทุกอย่างให้สุดความสามารถ และขอให้รอดูผลโหวตอย่างเป็นทางการ และตลอดเวลาที่ผ่านมา เราชื่นชมการทำงานของนายเศรษฐา และเสียดายที่เกิดเรื่องแบบนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เราไม่ได้คาดฝันเอาไว้ แน่นอนว่านายเศรษฐาเป็นผู้ใหญ่ที่ตนเคารพรักนับถือตั้งแต่ก่อนเป็นนายกฯ เพราะเป็นคนมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน เสียดายโอกาสนี้ แต่ประเทศต้องไปต่อ พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล วันนี้มีความพร้อมผลักดันประเทศต่อ ตนมั่นใจในพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมทุกพรรค ที่จะนำพาประเทศให้หลุดพ้นวิฤตเศรษฐกิจ และแน่นอนการมารวมตัววันนี้ เพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่าเรามีความตั้งใจ มุ่งมั่น พร้อมเพรียงกันผลักดันให้ประเทศไปต่อ ขอบคุณทุกท่านที่มารวมตัวกัน และตกลงกันทำเพื่อประเทศชาติต่อไป

เมื่อถามว่า หวั่นว่าจะซ้ำรอยกับนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า จริงๆ ตนยังไม่คิดเรื่องนี้ เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็ว และเพิ่งทราบข่าวหลังจากคนอื่นๆ หลังจากที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ซึ่งหลังจากที่ทราบข่าวก็ได้มีการเตรียมการในพรรค และมีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล นี่เป็นเจตนามากกว่าปัจจุบันขอโฟกัสเรื่องนี้ก่อน

ถามว่า ได้ปรึกษานายทักษิณและคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ บ้างหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า จริงๆ ตนปรึกษาครอบครัวอยู่แล้วทุกเรื่อง  และวันนี้เรามาถึงจุดที่ทำให้ประเทศต้องไปต่อ ฉะนั้นก็ยินดีและตั้งใจ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าคุณหญิงพจมานเป็นห่วงตนนั้น คุณแม่ห่วงลูกก็เป็นธรรมดา ตนเป็นแม่เช่นกัน และยังไม่ทราบว่าในอนาคตจะเลิกห่วงลูกได้เมื่อไหร่ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจกัน และเราก็เคารพซึ่งกันและกันเสมอ

ซักว่า นายทักษิณได้ให้คำแนะนำอย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ให้คำแนะนำตลอดอยู่แล้ว แต่วิธีการสื่อสารภายในครอบครัวนั้นเป็นในลักษณะของการให้กำลังใจซึ่งกันและกันมากกว่า ทั้งนี้ หากต้องการคำปรึกษาคุณพ่อก็พร้อมให้คำปรึกษาตลอด

พอถามว่า จะให้นายทักษิณมีตำแหน่งอย่างเป็นทางการหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ยังคงเป็นในฐานะของคุณพ่อที่มีประสบการณ์มาก่อน ซึ่งเราก็ให้คำปรึกษากันทุกเรื่องอยู่แล้ว แต่ถามว่าจะใกล้ชิดมากกว่านี้หรือไม่ ก็คงเท่าเดิม เพราะเราใกล้ชิดกันมากอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า อ่านใจชนชั้นนำของประเทศอย่างไร เพราะที่ผ่านมาพรรค พท.เจอมาตลอด น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เชื่อว่าทุกคนเป็นประชาชน และคิดว่าประเด็นนี้ไม่น่าจะเป็นประเด็น รวมถึงที่ผ่านมาการทำงานร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล และวิธีการสื่อสารที่ทำงานที่น่าจะเป็นที่ยอมรับ ฉะนั้นขอให้รอเวลานิดหนึ่ง เชื่อว่าวิธีการทำงานของนายเศรษฐาใกล้จะออกดอกออกผลแล้ว

ซักว่า นอกจากมติ กก.บห.พรรคแล้ว มีการระบุว่า น.ส.แพทองธารอาสาตัวที่จะรับไม้ต่อจากนายเศรษฐาใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวยอมรับว่า ใช่ เมื่อถามอีกว่าได้ดูหน้าตาคณะรัฐมนตรีที่จะมาทำงานร่วมกันหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้โหวต คงต้องรบกวนพรรคร่วมด้วยในวันที่ 16 ส.ค.

ฝ่านค้านของดออกเสียง

วันเดียวกัน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อม สส.พรรคประชาชน ร่วมกันแถลงจุดยืนของพรรคในการเลือกนายกฯ ว่า ขอยืนยันอุดมการณ์ทางการเมืองและจุดยืนของพรรคประชาชน เรายังคงมั่นคงเหมือนเดิมตามที่เราได้เคยให้ไว้ต่อพ่อแม่พี่น้องประชาชน เราไม่เชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลผสมผสานของพรรคการเมืองที่มีความเชื่อทางอุดมการณ์ต่างขั้วกันจะสามารถผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้ จากการประเมินการทำงานของรัฐบาลตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ทั้งการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน และยกระดับประชาธิปไตย เรายังคงคำเดิม แม้วันนี้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจำเป็นจะต้องมีการเปลี่ยนคน แต่จากข่าวที่ปรากฏพรรคร่วมรัฐบาลชุดเดิมมีความประสงค์จะเดินหน้าเป็นรัฐบาลต่อ

"พรรคประชาชนขอยืนยันจะเดินหน้าทำหน้าที่ต่อในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้าน โดยไม่มีส่วนร่วมในการโหวตสนับสนุนนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นหน้าที่ของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะต้องร่วมกันเสนอชื่อ และคาดว่าคงมีการตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้พรรคประชาชนจะไม่สามารถเสนอชื่อบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีในนามพรรคตนเองได้ แต่ผมมีความพร้อมที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งยังต้องการผลักดันในอีกหลายเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะแค่การตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพ่อแม่พี่น้องประชาชน แต่เราจะใช้กลไกในรัฐสภาอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อจากนี้" นายณัฐพงษ์กล่าว

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะประธาน สส.พรรค ปชป. แถลงผลการประชุม สส.เกี่ยวกับการโหวตเลือกนายกฯ ในวันที่ 16 ส.ค.ว่า ในที่ประชุมได้มีการแสดงความคิดเห็นหลากหลายของ สส.ทั้ง 25 คน โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ให้งดออกเสียง ซึ่งที่ประชุมไม่ได้มีการหยิบยกว่าจะเสนอชื่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคประชาธิปัตย์ลงแข่ง   แต่ได้พูดคุยถึงสถานการณ์ต่างๆ ถึงความก้าวหน้าและความเป็นเอกภาพของพรรค รวมทั้งความร่วมมือของสมาชิกพรรคทั้งหมด จึงทำให้มติของพรรคออกมาเป็นเอกฉันท์.