ใกล้เคาะ‘ผบ.ตร.’ บิ๊กต่อแจงคดีส่วย ตั้มเชื่อซ้ำรอยโจ๊ก

“นายกฯ” รับยังไม่ลงนามแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร ส่วน “บิ๊กอ้วน” แจงเก้าอี้ ผบ.ตร.ยังต้องคุยกัน แต่เชื่อทันตามเดดไลน์ รวมถึงเก้าอี้เลขาธิการ สมช. “บิ๊กต่อ” มั่นใจข้อต่อสู้พันเว็บพนัน “ทนายษิทรา” ฟันธงเดินตามรอย “โจ๊ก”   อุ๊งอิ๊งอ้อนเวที วปอ.ขอความร่วมมือทุกฝ่ายสร้างอนาคตประเทศ

เมื่อวันอังคารที่ 17 ก.ย.2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการลงนามแต่งตั้งนายทหารระดับชั้นนายพลแล้วหรือยัง โดยนายกฯ   หัวเราะและหันไปทางนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ยืนอยู่ด้านหลัง ก่อนกล่าวว่า กลาโหมยังนะ และชี้นิ้วไปที่นายภูมิธรรมอีกครั้ง และระบุให้ รมว.กลาโหมเป็นผู้ตอบ

ส่วนนายภูมิธรรมกล่าวถึงการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่ว่า อยู่ในกระบวนการ กำลังเร่งและเรียกเรื่องมาดูทั้งหมด  ซึ่งคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นายกฯ เป็นผู้ดูแล แต่เดี๋ยวจะพูดคุยกัน

เมื่อถามว่า จะตั้งได้ทันเกษียณราชการได้เลยหรือไม่ จะได้ไม่มีรอยต่อ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ต้องพยายามให้เป็นอย่างนั้นเท่าที่ทำได้ แต่หากมีข้อจำกัดอะไรก็ต้องไปดูข้อเท็จจริง

ถามถึงการแต่งตั้งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมาจากพลเรือนหรือทหาร  มีนโยบายอย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่มีนโยบายที่ต้องเป็นใคร ดูคนที่เหมาะสม มีศักยภาพและทำได้ ถ้าถามความชัดเจนว่าเป็นหน่วยไหน มันตอบยาก เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน แต่ทุกหน่วยก็ต้องพยายามทำให้เสร็จให้ทันเดือน ก.ย.-ต.ค. แต่หากถ้าไม่ทันก็มีคนดูแลตามกระบวนการอยู่แล้ว ถ้าไม่ทันคนที่เกษียณก็เกษียณไป คนที่อยู่ก็มีขั้นตอน มีบุคคลที่รับผิดชอบรักษาการไปอยู่แล้ว ส่วนการคัดสรรก็ให้เป็นไปตามกระบวนการ

 “ข้าราชการเหล่าทัพเขาก็มีวินัย คิดว่าถ้าเราใช้กระบวนการที่โปร่งใส ถ้าอธิบายได้ชัดเจนว่าทำไมตัดสินใจเลือกอย่างนั้นอย่างนี้ ปัญหาอื่นๆ ก็จะหมดไป เพราะหลายเรื่องที่เป็นปัญหาเกิดขึ้น เพราะความไม่เข้าใจหรือไปคิดวิเคราะห์จากข้อมูลที่ได้รับมา ซึ่งก็ไม่ตรง อย่างโผทหารที่มีการพูดกันไปเยอะมีไม่รู้กี่โผ ผมเข้าไปก็ยังเห็นโผเดิมอยู่ ซึ่งอยู่ระหว่างคุยกันด้วยบรรยากาศที่ดี ไม่มีปัญหาอะไร ทุกส่วนก็เป็นแบบนี้”

เมื่อถามว่า ตำแหน่งเลขาธิการ สมช.ต้องรอการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ให้ลงตัวก่อน เพื่อที่ว่าคนที่ไม่ได้จะได้มานั่งเลขาธิการ สมช. นายภูมิธรรมกล่าวว่า  พูดอย่างนี้เหมือนกับว่า สมช.เป็นหน่วยงานรองบ่อน ที่ไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น ที่ผ่านมาก็ว่าไปเพราะไม่ทราบว่าเงื่อนไข แต่ปัจจุบันต้องดูความเหมาะสมของหน่วยงาน และเลือกบุคคลที่หน่วยงาน ไม่ใช่เลือกตรงไหนไม่ได้แล้วเอามาใส่ตรงนี้ ไม่ได้เป็นอย่างนั้น

ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) กรณีเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกับ 18 ธุรกิจสีเทา และเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งนายษิทรา  เบี้ยบังเกิด ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไว้ก่อนหน้านี้

นายษิทราเผยว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายที่ ก.ร.ตร.มีความกล้า ไม่เกรงกลัวอิทธิพล ด้วยการเรียกตัว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์มาให้ข้อมูล และมั่นใจว่าผลการตรวจสอบของ ผบ.ตร. น่าจะไม่แตกต่างกับกรณีของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ที่มีความผิดลักษณะเดียวกัน และถูกให้ออกจากราชการไปก่อนหน้านี้  ซึ่งหลังจากนี้ก็จะไปสอบถาม ก.ร.ตร.ว่าได้เรียกภรรยาของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์, รองฟาง และดาบยาว นายตำรวจคนสนิทของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เข้าให้ข้อมูลด้วยหรือไม่ หรือจะเรียกมาเมื่อใด ซึ่งเป็นไปตามสิทธิ์ที่รับรู้ได้ในฐานะผู้ร้อง

ภายหลัง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์เข้าให้ข้อมูลกับ ก.ร.ตร. นานกว่า 3 ชั่วโมง ก็ได้เดินทางกลับ โดยระบุว่ามั่นใจในพยานหลักฐานที่นำมาชี้แจง เชื่อว่าจะได้รับความยุติธรรม ส่วนรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้

ขณะที่ พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ประธาน ก.ร.ตร. กล่าวว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ได้นำหลักฐานเอกสารและถ้อยคำมาชี้แจงต่อ ก.ร.ตร.ทุกประเด็น ซึ่ง ก.ร.ตร.ต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ คาดว่าจะใช้เวลานาน มีกรอบเวลา 180 วัน ที่ต้องสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้แล้วเสร็จ แต่หากไม่แล้วเสร็จ ก็ขยายเวลาได้อีก 60 วัน ตามความจำเป็น ส่วนที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์จะเกษียณอายุราชการนั้น หากพบมูลความผิด ก็ส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการย้อนหลังได้ทั้งโทษทางวินัยและอาญา 

วันเดียวกัน ที่สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (สปท.) น.ส.แพทองธารเข้าร่วมรับฟังการแถลงผลการศึกษาของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 66, วิทยาลัยเสนาธิการทหาร (วสท.) รุ่นที่ 65, วิทยาลัยการทัพบก (วทบ.) รุ่นที่ 69, วิทยาลัยการทัพเรือ (วทร.) รุ่นที่ 56 และวิทยาลัยการทัพอากาศ (วทอ.) รุ่นที่ 58 เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ภายใต้แนวคิด THAI NEXT : เปลี่ยนใหญ่ประเทศไทย

โดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ในฐานะรุ่นน้องหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วอป.บอ.) รุ่นที่ 1 รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสมารับฟังผลการศึกษาของนักศึกษาในวันนี้ เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศไทยที่ยิ่งใหญ่  สิ่งที่รับฟังมาจากทุกท่านที่ได้รายงานมา นับได้ว่าเป็นสิ่งที่ตรงกับนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา

 “วันนี้ดิฉันในฐานะนายกรัฐมนตรี ก็อยากจะขอโอกาสกับทุกท่านในที่นี้ ประสานกับทุกท่านทั้งข้าราชการ ภาคเอกชน นักการเมือง และอีกหลายภาคส่วน ที่มีความสำคัญอย่างมากในการช่วยกันพัฒนาประเทศ เราทุกคนมาร่วมมือกันทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด มีข้อแนะนำซึ่งกันและกัน  อย่างวันนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีมากที่รัฐบาลจะรับฟังและนำไปปรับใช้ และมาร่วมทำให้ประเทศไทยของเราเป็นประเทศที่มีโอกาสและเป็นประเทศที่คนไทยทุกคนกล้ามีความหวัง เป็นประเทศแห่งโอกาสที่ทำให้ทุกคนภูมิใจในประเทศไทย และทำให้ประเทศไทยมีอนาคตที่ดีกว่า เริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึงในอนาคตข้างหน้า” นายกฯ กล่าว.