สยบร้าวพปชร.-ปชป. ‘บิ๊กตู่’มั่นใจพรรคร่วมไร้ปัญหา-‘จุรินทร์’ไม่รับประกัน

“กกต.ชุมพร-สงขลา” เผยผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งเกิน 72%  อึ้งพรรคกล้าได้คะแนนมากกว่าก้าวไกล 2 เท่าที่ชุมพร “บิ๊กตู่” เชื่อพรรคร่วมไม่บาดหมางเพราะทุกคนทำเพื่อประชาชน “อนุทิน” บอกเหมือนเด็กทะเลาะกันแต่สุดท้ายเป็นเพื่อนซี้ “สุชาติ” รับ “ธรรมนัส”  ไฮด์ปาร์กที่สงขลาทำ พปชร.หัวทิ่ม "จุรินทร์" ไม่รับประกันการทำงานในอนาคต ชี้เตือนไปแล้วได้ไม่คุ้มเสีย “นิพนธ์” อัดบิ๊กนัสขี้แพ้ชวนตี  เตรียมจัดหนัก “ปารีณา”

เมื่อวันจันทร์ที่ 17 มกราคม ยังคงมีความต่อเนื่องจากการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 1 จังหวัดชุมพร และเขต 6  จังหวัดสงขลา โดย น.ส.จันทิมา พันธมนต์ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดชุมพร รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงาน กกต.จ.ชุมพร ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการว่า มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 97,425 คน หรือ  72.44% จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวน 134,490 คน แบ่งเป็นบัตรดี 92,876 บัตร หรือ 95.33% ส่วนบัตรเสีย 1,721 บัตร  หรือ 1.77% และบัตรไม่เลือกผู้ใด 2,828 บัตร หรือ 2.90%

“คะแนนที่ผู้สมัครแต่ละคนได้รับมีดังนี้ หมายเลข 1 นายอิสรพงษ์  มากอำไพ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้คะแนนรวม  49,014 คะแนน หมายเลข 2 ร.ต.ท.สมชาย แพ่งยงยุทธ จากพรรคไทยศรีวิไลย์ 507 คะแนน หมายเลข 3 นายวรพล อนันตศักดิ์  จากพรรคก้าวไกล (ก.ก.) 3,582 คะแนน หมายเลข 4 นายชวลิต  อาจหาญ หรือทนายแดง จากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 32,281  คะแนน และหมายเลข 5 พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์ หรือผู้กำกับหนุ่ย จากพรรคกล้า 7,492 คะแนน”

ทั้งนี้ ในเวลา 10.00 น. นายอิสรพงษ์พร้อมทีมงานได้ขึ้นรถแห่ขอบคุณชาวชุมพรไปรอบๆ เมืองและบริเวณเขตใกล้เคียงตามหมู่บ้านชุมชน พร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณชาวชุมพรที่มอบคะแนนให้อย่างท่วมท้นถึง 49,014 คะแนน และได้กล่าวขอบคุณชาวชุมพรทุกๆ คนที่คืนความเป็นธรรมให้นายชุมพล จุลใส หรือลูกหมี อดีต ส.ส.ชุมพรและแกนนำ กปปส.คนสำคัญ ที่นำมวลมหาประชาชนกอบกู้ช่วยประเทศชาติให้พ้นจากการทุจริตคอร์รัปชันจากระบอบทักษิณ

ขณะเดียวกัน กกต.จ.สงขลาได้รายงานผลคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการว่า หมายเลข 1 น.ส.สุภาพร กำเนิดผล พรรค ปชป.ได้  45,576 คะแนน หมายเลข 2 นายธิวัชร์ คำแก้ว พรรค ก.ก.ได้  5,427 คะแนน  หมายเลข 3 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ พรรค พปชร.ได้ 40,531 คะแนน หมายเลข 4 นายพงษธร สุวรรณรักษา  พรรคกล้าได้ 1,350 คะแนน และหมายเลข 5 นางภัทรวดี ศรีศักดา  พรรคพลังสังคมได้ 123 คะแนน”

นางพะเยีย ศิริโชติ  ผู้อำนวยการ กกต.จ.สงขลา กล่าวว่า มีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ 75.41% พบบัตรเสีย 2% และบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 2% โดย อ.คลองหอยโข่งมีผู้มาใช้สิทธิ์มากที่สุด  79.90% ตามมาด้วย อ.สะเดา 75.58% และ อ.หาดใหญ่ (ต.บ้านพรุ ต.พะตง) 72.52% และไม่พบการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง มีแค่ร้องเรียนขณะเปิดเวทีปราศรัยเพียง 1 เรื่องเท่านั้น ซึ่งเมื่อตรวจสอบทุกอย่างเรียบร้อยจะส่งรายชื่อและคะแนนของผู้สมัคร ส.ส.ไปยัง กกต.ในวันนี้ 

'บิ๊กตู่' เชื่อไร้ปัญหาทำงาน

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ภายหลังที่การเลือกตั้ง 2 จังหวัดมีการหาเสียงโดยโจมตีกันอย่างหนัก ว่า วันนี้การทำงานมีการร่วมมือกันดีอยู่แล้ว จึงไม่มีปัญหาอะไร ส่วนการเลือกตั้งก็คือการเลือกตั้ง เป็นลักษณะอย่างนี้มาตลอด พอถึงเวลาเลือกตั้งก็เหมือนเกิดความขัดแย้งอะไรต่างๆ แต่การทำงานทุกคนก็ทำงานเพื่อประชาชนมิใช่หรือ พรรคร่วมรัฐบาลท้ายที่สุดก็ต้องทำเพื่อประชาชน และต้องช่วยรัฐบาลในการทำงาน เพราะเราคือรัฐบาลในฐานะพรรคร่วม ในการหาเสียงก็เห็นว่าดุเดือดกันมาแบบนี้ ใครจะชนะหรือแพ้ ก็ยินดีด้วยกับผู้ชนะเท่านั้นเอง

เมื่อถามย้ำว่า แต่ดูเหมือนการหาเสียงครั้งนี้จะปะทะคารมและใช้คำพูดที่เชือดเฉือนกัน พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า แต่ก่อนมากกว่านี้หรือไม่ให้ไปดู แต่ก่อนแรงกว่านี้ก็มี และคิดว่าไม่เป็นปัญหาอะไร การหาเสียงต่างๆ เขาก็ตอบกันมาแล้ว ก็เห็นพูดคุยกันดี สองสามวันที่ผ่านมาในการประชุมคณะรัฐมนตรีก็คุยกับทุกพรรคดีอยู่ และก็พูดเย้าแหย่ไปว่าขอให้กำลังใจทุกพรรคก็แล้วกัน ก็เป็นเรื่องของเขา รัฐบาลมีหน้าที่ทำงานตรงนี้ งานเยอะแยะเต็มไปหมดไม่เห็นหรือ จะเอาแต่เรื่องความขัดแย้งมามันไม่ได้อะไรทั้งสิ้น ไม่ได้อะไรขึ้นมา อยู่เฉยๆ ทำงานดีกว่า

ทั้งนี้ ก่อนขึ้นรถกลับนายกฯ ได้หันมากล่าวกับสื่อมวลชนด้วยว่า  "สนใจเรื่องสร้างสรรค์ข่าวการศึกษา เรื่องทำประโยชน์บ้าง ไม่ใช่มีแต่ข่าวเรื่องไม่เป็นเรื่อง"

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข กล่าวประเด็นนี้ว่า เวลาแข่งขันกันทุกคนก็เห็นด้วย แต่น่าจะเข้าใจกันได้ เพราะจบไปแล้ว ก็คงไม่มีผลกระทบอะไร คนทำงานก็ทำงานไป คนแข่งขันก็แข่งกันไป คนละทีสองที คนละผลักสองผลัก ตอนเด็กๆ เวลาเราทะเลาะกับเพื่อนคนละผลักสองผลัก สุดท้ายก็กลับมาเป็นเพื่อนรักกันเยอะแยะไป

ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 6 สงขลา​ พรรค พปชร.กล่าวว่า คะแนนที่ได้ถือเป็นไปตามเป้าหมาย 4 หมื่นคะแนน แต่การเลือกตั้งก็เหมือนแข่งขันกีฬา เพราะเราซ้อมแล้วทำลายสถิติโลก แต่มีคู่แข่งที่ทำลายได้มากกว่า  เราต้องยอมรับความพ่ายแพ้อย่างพื้นที่ อ.สะเดา ที่เราประเมินจะชนะ  7-8 พันคะแนน แต่สามารถชนะเพียง 1,500 คะแนน ส่วนบางพื้นที่ว่าจะแพ้น้อยก็แพ้เยอะกว่า จึงสวนทางกันไปหมด

รับ 'ธรรมนัส' ไฮด์ปาร์กส่งผล

เมื่อถามว่า มีการมองกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา​ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ไปปราศรัยประเด็นคนรวยกับคนจนอาจเป็นจุดพลิกผันให้พรรค พปชร.แพ้การเลือกตั้งครั้งนี้ นายสุชาติยอมรับว่า เป็นประเด็นหนึ่งที่มีผลให้ฝั่งตรงข้ามหยิบมาเป็นวาทกรรมคนรวยคนจนในโซเชียล ส่วนจะมองว่าวาทกรรมดังกล่าวเป็นจุดพลาดหรือไม่  คงพูดอย่างนั้นไม่ได้ แต่ยืนยันเราทำดีที่สุดแล้ว เหมือนเวลาที่ได้รับมอบหมายให้ไปออกรบ เราต้องแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าและเปลี่ยนแผนสู้ให้ได้ แต่เวลาที่น้อยทำให้แก้ไม่ทัน เมื่อออกรบแพ้ก็เป็นเรื่องปกติ

ถามอีกว่า ผลเลือกตั้งซ่อมจะไม่มีการโบ้ยกันไปมาจนเป็นศึกภายในพรรค พปชร.ใช่หรือไม่ นายสุชาติตอบว่า “ผมเป็นลูกผู้ชาย จบแล้วก็จบ คงไม่โทษใครว่าผิด ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าเป็นปัญหา”

นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ ในฐานะรองเลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวถึงรอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาลจากการเลือกตั้งซ่อม ว่า คิดว่าไม่มี เพราะผู้ใหญ่ของพรรค ปชป.ก็ออกมาแถลงข่าวว่าเป็นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ ถือเป็นการแข่งขัน และที่พรรค พปชร.ส่งผู้สมัคร เนื่องจากมีสมาชิกพรรคในภาคใต้จำนวนมาก ถ้าไม่ส่งเลยพรรคก็จะขาดเอฟซี และในอนาคตการแข่งขันสนามใหญ่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ยิ่งใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบก็ต้องเข้าใจตรงจุดนี้ เมื่อการเลือกตั้งเสร็จใครชนะก็จบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อสังเกตว่าจุดที่พรรค พปชร.เพลี่ยงพล้ำช่วงโค้งสุดท้าย อาจเป็นผลมาจากการปราศรัยของ ร.อ.ธรรมนัสที่ จ.สงขลา นายนิโรธกล่าวว่า ไม่หรอก การปราศรัยเป็นไปตามสถานการณ์ขณะนั้น และที่จริงพรรคถือว่าบุกไปรังของเขา ซึ่งเป็นพื้นที่ฐานเสียงของ ปชป. ถ้าจะไม่ส่งผู้สมัครก็จะถูกเอฟซีต่อว่า ไม่ใช่ผิดมารยาททางการเมือง และผู้ใหญ่ในพรรค ปชป.ก็มีสปิริตในเรื่องนี้ คิดว่าไม่มีอะไร  เด็กๆ จะทำอะไรบ้างก็อย่าไปถือสา แต่ยังไม่ได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.ถึงเรื่องนี้ แต่เชื่อว่าหัวหน้าพรรคสปิริตสูงอยู่แล้ว จบก็คือจบ และได้บอกแล้วว่ายินดีกับผู้ที่ได้รับเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า มั่นใจจะรักษาเก้าอี้ในสนามเลือกตั้งซ่อม กทม.ไว้ได้หรือไม่ นายนิโรธกล่าวว่า ไม่ถนัดพื้นที่ กทม. แต่พรรค พปชร.ต้องเต็มที่

ส่วนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวถึงชัยชนะใน 2 เขตเลือกตั้งว่า ขอขอบคุณประชาชนทั้งสองจังหวัด รวมถึงผู้สนับสนุนจากหลายพื้นที่ทั่วประเทศที่เป็นกำลังใจให้พรรค ส่วนปัจจัยที่ทำให้พรรคประสบความสำเร็จในครั้งนี้ ก็เพราะเสียงสวรรค์ของประชาชน เห็นชัดเจนเป็นรูปธรรมที่สุด ตนเองและพรรคขอบคุณด้วยความซาบซึ้งใจ จากนี้ต้องทำงานหนักขึ้นต่อไป

 เมื่อถามว่า ร.อ.ธรรมนัสระบุอาจมีการเลือกตั้งซ่อมอีกรอบ นายจุรินทร์กล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์ แต่ขอเรียนเลยว่าพรรค ปชป.ไม่โกง มั่นใจทุกคะแนนได้มาอย่างบริสุทธิ์ และมาจากเสียงสวรรค์ที่แท้จริง

 ถามถึงการทำงานร่วมกันกับพรรค พปชร.ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล นายจุรินทร์กล่าวว่า ตอบไม่ได้ ขอให้เป็นเรื่องอนาคต ความจริงเคยเตือนไปแล้วว่าพรรคร่วมแข่งกันเองได้ไม่คุ้มเสีย แต่ทั้งหมดตบมือข้างเดียวไม่ดัง ถ้า ปชป.ถือหลักการนี้เพียงพรรคเดียว แต่พรรคการเมืองอื่นไม่เอาด้วย ก็ไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าในอนาคต ถ้าพรรคมีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เราจะไม่ส่งคนแข่งกันเอง เพราะวันนี้ก็ปรากฏผลตามที่เคยพูดไว้ว่าได้ไม่คุ้มเสีย ไม่ขอตำหนิพรรคอื่น เพราะแต่ละพรรคมีหลักคิดต่างกัน แต่เรามีประสบการณ์ เป็นสถาบันทางการเมือง พรรคผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนาน เข้าใจและคาดการณ์ได้ ว่าถ้าเป็นแบบนี้ ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร

เตรียมจัดหนัก 'ปารีณา'

 “การทำงานในรัฐบาลผสมไม่เหมือนการเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ทำงานรัฐบาลผสมต้องยึดถือการทำงานร่วมกัน ไม่มีใครได้อะไรทุกอย่าง  เราต้องเข้าใจเบื้องต้น เหมือนการทำงานเป็นหมู่คณะ เพราะฉะนั้นต้องมีวัฒนธรรมร่วมกันในรัฐบาลผสม อะไรควรเป็นอย่างไร นั่นคือสิ่งที่เราต้องตระหนัก” นายจุรินทร์กล่าว

นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรค  ปชป. กล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัสให้สัมภาษณ์ทำนองว่าไม่เคยเห็นการโกงการเลือกตั้งอย่างนี้มาก่อน ว่าวันนี้การแข่งขันถือว่ายุติลงแล้ว การที่  ร.อ.ธรรมนัสซึ่งเป็นเลขาธิการพรรค พปชร.ถือว่าเป็นผู้ใหญ่ของพรรค กล่าวอย่างนี้เสมือนแพ้แล้วชวนตี ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะหากทำให้พรรคเสียหาย พรรคก็สามารถดำเนินการใดๆ ตามกฎหมายได้ ฉะนั้นจึงถือโอกาสนี้ฝากเตือนสติว่าจะทำอะไรต้องให้เกียรติคนอื่นบ้าง

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป.กล่าวถึงการโพสต์ข้อความเฟซบุ๊กของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรค พปชร.ในเรื่องการเลือกตั้งว่า เป็นการกล่าวหาใส่ร้ายพรรคด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญมากถึงขนาดกล่าวหาว่าพรรคซื้อเสียง ซึ่งในฐานะเป็นหัวหน้าทีมทนายความจะได้เสนอฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุดต่อไป

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค ปชป.โพสต์เฟซบุ๊กถึง 7 เหตุผลที่ ปชป.เอาชนะ พปชร.ทั้ง 2 เขต ว่า 1.ปชป.ได้สรุปบทเรียนในการเลือกซ่อมเขต 3 จ.นครศรีธรรมราช 2.ปชป.มีการเตรียมพร้อม ปักหลักสู้มาตั้งแต่เนิ่นๆ 3.คำปราศรัยบนเวทีหาเสียงของ ร.อ.ธรรมนัสที่มีการขยายผล 4.การปลุกคนใต้ให้เกิดความรู้สึกหวงแหน และเป็นเจ้าของพรรค 5.กระแสข่าวเรื่องการไร้มารยาทของ พปชร.ที่ส่งผู้สมัครซ่อม 6.เป็นการสั่งสอน และให้บทเรียนกับ พปชร.ที่ลุแก่อำนาจ และ 7.กลุ่มฐานคะแนนเสียงที่เป็นกลาง และกลุ่มที่ไม่เอาเผด็จการระบอบ คสช.ได้เทคะแนนเลือกพรรค

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า พรรคขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่สงขลาและชุมพร และพร้อมสู้ต่อไปเพื่อการเมืองที่ดีขึ้นในชุมพรและสงขลา ส่วนการเลือกตั้งซ่อม 30 ม.ค.นี้ที่กรุงเทพฯ เขตจตุจักร-หลักสี่ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ลงพื้นที่ทำงานมา 17 ปี มีความพร้อมที่สุด ทั้งงานพื้นที่และงานสภาลงมือทำได้ทันที มั่นใจว่าเราจะได้ ส.ส.พรรคคนแรกจากการเลือกตั้งครั้งนี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง