เรื่องถึงศาล "ณฐพร" ฟ้องกราวรูด "บิ๊ก ขรก.มหาดไทย" เซ่นที่ดินเขากระโดง ตั้งแต่ปลัด มท.-อธิบดีกรมที่ดิน รวม 9 ราย ฐานความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต ศาลนัดตรวจฟ้องและพยานหลักฐาน 9 ธ.ค. เวลา 09.30 น.
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า เมื่อ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปยื่นฟ้องคดีที่ดินเขากระโดง ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซึ่งศาลได้นัดตรวจฟ้องและพยานหลักฐานวันที่ 9 ธันวาคม เวลา 09.30 น.
โดยการฟ้องครั้งนี้ นายณฐพรได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท.178/2567 โดยนายณฐพร โตประยูร เป็นโจทก์ กับนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย จำเลยที่ 1, นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน จำเลยที่ 2
ส่วนจำเลยคนอื่นๆ อีก 7 คน เป็นคณะกรรมการสอบสวนของกรมที่ดินที่ตั้งตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 จำนวน 2 ชุด ที่กรมที่ดินตั้งขึ้น ประกอบด้วย นายทวีศักดิ์ ทรงอยู่ จำเลยที่ 3, นายคำเคลื่อน พณะชัย จำเลยที่ 4, นายธนกร นวลพริ้ง จำเลยที่ 5, นายนนท์ธวัช นาคนวล จำเลยที่ 6, ว่าที่ร้อยตรีสมศักดิ์ สันประเสริฐ จำเลยที่ 7, นายสุพจน์ สวัสดิ์พุทรา จำเลยที่ 8, นางวรพิชชา นาควัชระ จำเลยที่ 9
ในข้อหาหรือฐานความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต
ก่อนหน้านี้ นายณฐพรเผยแพร่ข้อความหัวข้อ "ยุคนักการเมืองชั่ว" ระบุว่า ผมไม่อยากใช้คำพูดนี้ แต่จำเป็นครับ สำหรับนักการเมืองที่ดี ท่านคงเข้าใจ เรื่องที่ดินเขากระโดง ที่ต้องใช้เวลาดำเนินคดีมายาวนาน ก็เกิดจากกลุ่มนักการเมืองชั่ว ร่วมมือกับข้าราชการชั่ว สรุปว่าเอกสารพยานหลักชัดแจ้ง นับตั้งแต่ศาลฎีกามีคำพิพากษา แทนที่การรถไฟฯ จะไปขอบังคับคดีตามคำพิพากษา แต่ด้วยในขณะนั้น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีคมนาคม การรถไฟฯ จึงยื่นฟ้องศาลปกครองกลาง ต้องใช้เวลา 2 ปี กว่าจะมีคำพิพากษาและคำพิพากษา ให้ตั้งคณะกรรมการ ทำการตรวจสอบแนวเขตตามคำพิพากษาศาลฎีกาและของคณะกรรมการกฤษฎีกา มิใช่ไปหาพยานหลักฐานมาคัดค้านคำพิพากษา
การที่กรมที่ดินมีมติไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดิน และแจ้งว่า หากการรถไฟฯ มีสิทธิในที่ดินก็ไปฟ้องศาล ทั้งที่กรมที่ดินมีภาระหน้าที่ในการคุ้มครองคอยดูแลรักษาที่ดินของรัฐทุกประเภท นี่คือการถ่วงเวลา และทำให้เห็นความชั่วร้ายของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐหรือยังครับ
เรื่องมิได้ยุติแค่นี้นะครับ หากเรื่องจะต้องส่ง ป.ป.ช. หรือส่งศาลรัฐธรรมนูญ ผมก็ไม่แน่ใจว่าคดีนี้จะยุติลง เพราะนับตั้งแต่นี้ กรรมการ ป.ป.ช.และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะต้องได้รับความเห็นชอบจาก สว.ชุดนี้ ที่ขนาดรองประธานวุฒิฯ ยังไปแจวเรือให้รัฐมนตรีนั่ง นี่คือ “ยุควงจรอุบาทว์” ทางการเมืองครับ
แต่ถึงอย่างไรผมก็จะใช้ความรู้ทางกฎหมาย และพยานหลักฐาน ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลพวกนี้จนถึงที่สุด “เพื่อแก้ไขในสิ่งผิด” และ “ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน”
ทั้งนี้ กรมที่ดินทำหนังสือที่ มท 0516.2(2)/22162 เรื่อง การเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกทับซ้อนกับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 ต.ค.2567 ถึงผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงนามโดยนายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ถึงเหตุผลไม่เพิกถอนที่ดินเขากระโดง ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยอ้างว่า เนื่องจาก รฟท.ไม่มีหลักฐานเป็นที่ข้อยุติว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของ รฟท. โดยอ้างว่า รฟท.นำแผนที่ไปใช้ในการต่อสู้คดีตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842-876/2560 และที่ 8027/2561 ไม่ใช่แผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกา ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า เป็นการไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาหรือไม่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท


