
กรมควบคุมโรคเผย ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ที่รัฐลุยเซียนา กลายเป็นผู้ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงรายแรกที่พบในสหรัฐ จากการสัมผัสกับสัตว์ปีกที่ป่วยและตายในฝูงนกที่เลี้ยงไว้ในสวนหลังบ้าน
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2567 นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โรคไข้หวัดนกในต่างประเทศว่า “เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) ประกาศพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N1รุนแรงรายแรกในรัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา ถือเป็นผู้ป่วยสะสมรายที่ 61 ผู้ป่วยเป็นชายสูงอายุ 65 ปี และมีโรคประจำตัว ซึ่งขณะนี้กำลังรักษาตัวในห้องไอซียูด้วยภาวะระบบทางเดินหายใจรุนแรงจากการติดเชื้อไข้หวัดนก มีประวัติสัมผัสกับนกป่วยและนกตายภายในฝูงนกหลังบ้าน ถือเป็นกรณีแรกที่มีความเชื่อมโยงกับการได้รับเชื้อจากฝูงสัตว์ปีกในบ้าน จากการตรวจสารพันธุกรรมเบื้องต้นชี้ว่า ไวรัส H5N1 ที่ตรวจพบในผู้ป่วยอยู่ในกลุ่มพันธุกรรม D1.1 ซึ่งเกี่ยวข้องกับไวรัสในนกป่าและสัตว์ปีกในสหรัฐ รวมถึงกรณีพบผู้ป่วยไข้หวัดนกในประเทศแคนาดาและรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
ไข้หวัดนกเป็นโรคจากสัตว์มาสู่คน เดิมเราจะพบเชื้อไข้หวัดนกติดในสัตว์ปีก แต่ระยะหลังพบในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม คือในฟาร์มโคนม ฟาร์มหมู ล่าสุดพบในสหรัฐ แต่ยังไม่แพร่จากคนสู่คน
นพ.ภาณุมาศกล่าวต่อว่า “สำหรับประเทศไทย มีการเตรียมความพร้อมรับมือในการป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดนกของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยกรมปศุสัตว์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ภายใต้แนวคิดสุขภาพหนึ่งเดียว (One health) ดำเนินการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกันอย่างต่อเนื่อง จัดการฝึกซ้อมแผนร่วมกันแบบบูรณาการทั้งหน่วยงานที่ดูแลด้านสุขภาพคนและสัตว์ จัดทำคู่มือการปฏิบัติงานป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดนกสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและกักกันโรคดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก สำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และมีการสำรองวัสดุ อุปกรณ์ ในการป้องกัน ควบคุมและรักษาโรคไข้หวัดนก พร้อมทั้งเตรียมห้องปฏิบัติการเครือข่ายตรวจหาเชื้อไข้หวัดนก (H5) ที่ก่อโรคในคนอีกด้วย ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่พบรายงานผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกรายใหม่ในประเทศ นับตั้งแต่พบผู้ป่วยรายสุดท้ายในคนในปี 2549” นพ.ภาณุมาศกล่าว
ทั้งนี้ แนะนำท่านที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคไข้หวัดนก และมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้ ไอ น้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ หรือตาแดงอักเสบ ภายใน 14 วัน ให้รีบไปพบแพทย์ พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง สำหรับประชาชนควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ปีก ไข่ และผลิตภัณฑ์จากโคนม หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ปีก สุกร หรือโคนมที่ป่วยหรือตาย ในระยะนี้ หากต้องสัมผัสกับสัตว์ปีก สุกร หรือโคนม ควรสวมหน้ากากอนามัย สวมถุงมือ และล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัส เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีก สุกร และโคนม หากพบสัตว์ปีกป่วยตายจำนวนมาก ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ ไม่ควรนำซากสัตว์ปีกหรือสัตว์ที่ป่วยตายโดยไม่ทราบสาเหตุไปประกอบอาหาร
ทั้งนี้ กลุ่มเสี่ยงได้แก่ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสัตว์ปีก บุคลากรทางการแพทย์ ควรเข้ารับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ถึงแม้วัคซีนจะไม่สามารถป้องกันโรคไข้หวัดนกได้ แต่วัคซีนช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ที่มีอาการรุนแรง อาจป้องกันการติดเชื้อซ้ำซ้อน (coinfection) และลดการเกิดไวรัสลูกผสมระหว่างไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดนกที่รุนแรง และแพร่ระบาดง่ายขึ้น ทั้งนี้ ประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ใช้ภายประเทศ หากได้รับการสนับสนุนจะสามารถลดการพึ่งพาการนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศ เพื่อความมั่นคงด้านวัคซีนและเป็นการเพิ่มความพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินหากเกิดการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ที่เกิดจากเชื้อไข้หวัดนก หากท่านมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.


