รัฐบาลอุ๊งอิ๊งทุบโต๊ะทำคลอด “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” เลขาฯ กฤษฎีกายันไม่ได้ขวาง แค่ตั้งข้อสังเกตควรปรับปรุงเนื้อหาสอดรับคำแถลงนโยบาย “นายกฯ” หวังดันให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ยันกาสิโนมีแค่ 10% พร้อมยก “สิงคโปร์” เป็นข้ออ้างทำรายได้พุ่งกระฉูด ยันชงเข้าสภาได้เลย แต่ “อนุทิน” ชี้ต้องเข้า ครม.อีกครั้งเพราะพันกฎหมายหลายตัว อึ้ง! แทบทุกหน่วยงานหนุนให้มี แต่ขอมีส่วนแบ่งเค้ก “มท.-ตร.” ขอเก้าอี้คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร
เมื่อวันจันทร์ที่ 13 มกราคม 2568 มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... (เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ว่า เดี๋ยวรอสัมภาษณ์หลังประชุม ครม.
ขณะที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.การคลัง กล่าวก่อนประชุม ครม.เช่นกันว่า จะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ไม่มีการถอน เพื่อการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ที่เขาทำอยู่ เพราะวันนี้ทั้งโลกรายได้ที่มาจากเอนเตอร์เทนและเรื่องอื่นๆ จะเยอะมาก ไม่มีใครไม่เห็นด้วย ในเชิงหลักการทุกคนเกือบ 90% เห็นด้วยหมด อาจมีขัดข้องสัก 1-2 ราย มีข้อสังเกตตรงกับหน่วยงานที่ดูแลอยู่ เอาตรงๆ คือห่วงเรื่องกาสิโน กลัวคนไทยหรือเด็กจะเข้าไปเล่น อายุได้หรือไม่ ทั้งนี้เราไม่ได้สนับสนุน แต่สิ่งที่ตั้งใจคือให้ต่างประเทศเข้ามาใช้เงินมากกว่า
เมื่อถามว่า ทำไมไม่ออกกฎหมายกาสิโนโดยตรง แบบนี้เหมือนเอาการท่องเที่ยวมาบังหน้า นายพิชัยกล่าวว่า ไม่ใช่ เรื่องของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ลองตั้งข้อสังเกตดูว่า ในห้างสรรพสินค้ามีใครเข้าไปซื้อสินค้าจริงๆ บ้าง ทุกคนปรับตัวหมด แม้แต่ในห้างใหญ่เดี๋ยวนี้ก็ออกแนวหลากหลาย เป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ในตัวเอง ทั้งศูนย์อาหาร การแสดงให้เด็กดู นอกเหนือจากการช็อปปิ้ง เพียงแต่อันนี้เป็นขนาดใหญ่
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงความคืบหน้าแนวทางการออกกฎหมายแก้ปัญหาการพนันออนไลน์ว่า ยังไม่ได้สรุปว่าจะแก้กฎหมายหรือไม่อย่างไร อยู่ในขั้นตอนที่ดีอีทำข้อเสนอส่งไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกฎหมายนี้ก็ไม่เกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงความเห็นของ มท.ต่อร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรว่า มท.ทำความเห็นไปแล้ว โดยหลักการเราไม่มีปัญหา แต่ให้ดูเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ ว่าจะบริหารจัดการอย่างไร ส่วนจะมีข้อเสนอแก้ไข พ.ร.บ.การพนัน 2478 ด้วยหรือไม่ก็ต้องมีคละเคล้ากันไป และยังมีหลาย พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งได้แนะนำไปแล้ว
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า สธ.ไม่ได้ขัดข้องอะไร เพราะในสถานที่เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ค่อยมีการสูบบุหรี่หรือดื่มสุรา ถ้ามีเขาก็จัดเป็นสัดส่วน ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งทุกอย่างที่ทำในประเทศเราไม่มีใครเห็นด้วยทั้งหมด 100% แต่ถ้าสามารถทำความเข้าใจ หรือทำให้เห็นคุณค่าว่าเป็นประโยชน์ต่อสังคมได้ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะไม่ได้เกิดความเสียหายอะไร คิดว่าหากควบคุมให้ดีก็จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรที่ขัดกับหลักศาสนาอิสลามว่า รัฐบาลก็ส่วนรัฐบาล ซึ่งเรื่องของกฎหมายต้องเข้าสภาผู้แทนราษฎร และเป็นดุลยพินิจอิสระของ สส.หรือของพรรคอยู่แล้ว ซึ่งพรรคได้เรียนต่อผู้ร่วมรัฐบาลว่า สส.ของพรรคขอไม่เห็นด้วย เพราะว่าเป็นพื้นที่ของพี่น้องมุสลิมและผิดหลักการของศาสนา
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า จุดยืนของพรรคสอดคล้องกับจุดยืนของ พม.ที่เป็นห่วงกลุ่มเปราะบางในสังคม โดย พม.ได้เขียนข้อห่วงใยต่างๆ ไว้
ด้านนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงกระแสข่าวกฤษฎีกาทักท้วง ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรว่า ไม่ได้ไม่เห็นด้วย แต่หลักในการทำกฎหมายของรัฐบาลต้องยึดนโยบายของรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งต้องไปดูคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยไปดู Man-made Destination หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น จะมีตั้งแต่สวนสนุกอื่นๆ และเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แต่กฎหมายที่กระทรวงการคลังร่างขึ้นใช้ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการในสภาเป็นหลัก ซึ่งพูดถึงเฉพาะเรื่องของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และการแก้ไขปัญหาการพนัน ฉะนั้นจึงแคบกว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องการ คณะกรรมการกฤษฎีกาจึงเห็นว่านโยบายของรัฐบาลกว้างกว่า ดังนั้นถ้าจะเป็น Man-made Destination ควรเขียนให้กว้างขึ้นเพื่อความครอบคลุม รวมถึงมีข้อสังเกตเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่ในรายงานศึกษาของสภามุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาการพนัน แต่กฤษฎีกามองว่าการสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ได้แก้ไขปัญหาการพนันโดยตรง ถ้าอยากโดยตรงต้องไปแก้ไขที่อื่น เช่น นิสัยของคน พฤติกรรมคนที่ชอบเล่นการพนัน ซึ่งมีกฎหมายการพนันอยู่แล้ว
“ต้องเอาให้ชัดว่าร่างกฎหมายนี้ต้องการบรรลุวัตถุประสงค์อะไรค่อยเสนอ ครม.ให้พิจารณา ว่าจะเน้น Man-made Destination หรือเน้นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่อย่างนั้นก็ร่างไม่ถูก เพราะกระบวนการกลไกต่างกัน จึงเสนอไปยัง ครม.ขอให้เอาให้ชัดก่อน และยืนยันว่าไม่ได้กระโดดขวาง” นายปกรณ์ระบุ
ภายหลังการประชุม น.ส.แพทองธารแถลงว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ แล้วให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยมีสาระกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เช่น กำหนดให้มีคณะกรรมการกำหนดนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร และคณะกรรมการบริหารจัดตั้งสำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร และมีการกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนเรื่องการอนุญาตให้ประกอบสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มเรื่องการท่องเที่ยวและส่งเสริมการลงทุนในประเทศ ตลอดจนการแก้ปัญหาพนันผิดกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อให้ส่งผลดีต่อภาพรวม เป็นหนึ่งในการสนับสนุนการท่องเที่ยวยั่งยืนให้แก่ประเทศตามที่เคยแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไป
อิ๊งค์ยันกาสิโนมีพื้นที่แค่ 10%
เมื่อถามว่า เมื่อกฤษฎีกายกร่างแล้วต้องนำเข้า ครม.อีกรอบ หรือส่งไปยังสภา น.ส.แพทองธารตอบว่า เราให้กฤษฎีกามีความเห็นเฉยๆ ในที่ประชุมเลขาธิการกฤษฎีกาก็พูดว่าไม่ได้ขวางอะไร เพียงแต่ต้องการปรับเนื้อหาข้างใน ซึ่งท่านพูดว่าได้อ่านข่าวแล้วขึ้นหัวข้อว่ากฤษฎีกาขวาง ท่านก็พูดเลยว่าไม่ได้ขวาง เพียงแต่อยากปรับเนื้อหาให้ตรงกับที่ตนเองได้แถลงต่อรัฐสภา ว่าเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยจะปรับคำให้มันเข้ากันเท่านั้น
ถามย้ำว่า แสดงว่าส่งให้สภาได้เลยไม่ต้องเข้า ครม.อีกรอบ นายกฯ ตอบว่า "ใช่ค่ะ ส่งเข้าสภาได้เลย"
เมื่อถามอีกว่า เป้าหมายผลักดันให้ได้ภายในปีนี้หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า จริงๆ พยายามผลักดัน แต่ต้องรอกระบวนการต่างๆ ว่าจะผ่านอะไรแค่ไหนอย่างไร แต่เกิดขึ้นเร็วก็ดี เราดูอย่างสิงคโปร์ที่มีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีกาสิโนแค่ 10% นอกนั้นเป็นเรื่องการท่องเที่ยว เมื่อก่อนอาจมีคนบอกว่าสิงคโปร์มีสถานที่ท่องเที่ยวน้อย แต่พอมีกาสิโนเข้ามาก็ทำให้การท่องเที่ยวเขาเจริญเติบโตอย่างมาก และจีดีพีก็สูงขึ้นอย่างมากเช่นกัน ฉะนั้นจะเกิดผลดีแก่ประเทศในอนาคต ถ้าหากผลักดันให้เกิดขึ้นเร็วได้ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดี
เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวอาจทำให้มีการมองว่าจะมีเรื่องกลุ่มทุนปัญหามาเฟียตามมา แล้วทำให้ภาพลักษณ์ประเทศเสียไปหรือไม่ จะป้องกันหรือทำอย่างไร น.ส.แพทองธารตอบว่า เราต้องอยู่บนความจริงว่าทุกวันนี้มีการพนันที่ไม่ถูกกฎหมายเต็มไปหมด ฉะนั้นเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยว มันเป็นเรื่องของการแก้ปัญหาเรื่องการโดนผู้มีอิทธิพลทำอะไรนอกกฎหมาย สิ่งที่เอามาอยู่ในกฎหมายให้กฎหมายระบุชัดเจนครอบคลุม จะทำให้ชีวิตประชาชนปลอดภัย แถมภาษีที่ได้จะเป็นเงินเข้าประเทศ วันนี้เราต้องมองภาพว่าโลกยุคปัจจุบัน ถ้าเราเอาทุกอย่างมาทำให้โปร่งใสได้ก็จะเป็นสิ่งที่บวกให้ประเทศ ความจริงเป็นเรื่องใหม่ในประเทศเราก็ไม่เป็นไร เราต้องสื่อสารอธิบายบ่อยหน่อย
นายอนุทินกล่าวว่า ได้หารือกับเลขาธิการกฤษฎีกา ซึ่งระบุว่าหากปรับปรุงร่างกฎหมายเสร็จสิ้นแล้วต้องนำเสนอ ครม.อีกครั้ง เพราะมีข้อกฎหมายเกี่ยวข้องมากมายและหลายหน่วยงาน โดยได้เรียนให้นายกฯ รับทราบแล้ว
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวว่า เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ใช่เป็นการทำกาสิโนอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวครอบครัว ซึ่งโมเดลนี้ประสบความสำเร็จหลายแห่งทั่วโลก เช่น ญี่ปุ่น (โอซากา), ยูเออี, เนวาดา สหรัฐอเมริกา หรือมาเก๊า และสิงคโปร์ ที่สามารถสร้างเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศ สร้างรายได้ให้รัฐ กระทั่ง 20 ปีต่อมาได้เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว และสร้างการจัดเก็บรายได้ให้รัฐอย่างมีนัยสำคัญ
รมช.คลังยกตัวเลขอวด
“คาดว่าจะมีการลงทุนไม่ต่ำกว่าแห่งละ 1 แสนล้านบาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับสิงคโปร์ที่ลงทุนไป 2 แสนล้านบาทในเฟสที่ 2 ซึ่งเพิ่งทำสัญญาการลงทุนไป สามารถดึงดูดการเพิ่มลงทุนได้ 3 แสนล้านบาท และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 1.2-1.4 แสนล้านบาท ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น และสร้างการเติบโตของนักท่องเที่ยว 20% ส่วนไทยคาดว่าจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ 5-10% และกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว หรือโลว์ซีซันไม่น้อยกว่า 13% เกิดการจ้างงานไม่น้อยกว่า 9,000-15,000 ตำแหน่ง สร้างรายได้ให้รัฐไม่น้อยกว่า 12,000-40,000 ล้านบาท”
นายจุลพันธ์กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะส่งไปยังกฤษฎีกาเพื่อตรวจร่างกฎหมาย เพื่อปรับแก้ให้เป็นไปตามแนวนโยบายแห่งรัฐตามที่ได้แถลงไว้ โดยเชื่อว่าจะใช้ระยะ 1-2 เดือนจึงจะกลับไปสู่สภา สุดท้ายอำนาจก็จะไปอยู่ที่รัฐสภาในการวินิจฉัยปรับเพิ่มปรับแก้ เพื่อให้บังคับใช้กฎหมายอย่างมีคุณภาพ ส่วนของการกำหนดพื้นที่ หรือกิจการจำนวนของผู้ที่จะเข้ามาลงทุนนั้น กระทรวงการคลังไม่ได้มีอำนาจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะการพิจารณารายละเอียดต่างๆ จะเป็นอำนาจของสำนักงาน และกรรมการบริหารเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งจะจัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายฉบับนี้ จะเป็นผู้พิจารณาทั้งหมด
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรว่า คาดว่าจะนำกลับมาพิจารณาในสภาได้ทันในสมัยประชุมนี้ โดยอาจเป็นสัปดาห์สุดท้าย เพราะต้องเป็นไปตามขั้นตอน
'มท.-ตร.' ขอเก้าอี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุม ครม.ในร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ...นั้น มีหลายหน่วยงานได้แสดงความเห็นและตั้งข้อสังเกต อาทิ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) มีความเห็นว่า การกำหนดสถานะและรูปแบบของหน่วยงาน ควรพิจารณาปรับปรุงบทบาท ภารกิจและโครงสร้างหน่วยงานที่มีอยู่ ซึ่งรับผิดชอบกฎหมายที่สัมพันธ์กัน รวมถึงบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่สำนักงบประมาณเห็นว่า เห็นควรให้ความเห็นชอบในหลักการของร่าง พ.ร.บ.เพื่อให้การกำกับธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรได้มาตรฐาน และเห็นควรให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และกำหนดมาตรการป้องกันผลกระทบในมิติต่างๆ
ส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติเห็นว่า โครงสร้างคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นกรรมการ ส่วนในคณะกรรมการบริหารมีผู้บัญชาการตรวจคนเข้าเมืองเป็นกรรมการ และเพื่อความสมบูรณ์ในองค์ประกอบมากขึ้น จึงเสนอให้มีผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวที่เป็นผู้ดูแลความปลอดภัยในสถานที่ท่องเที่ยวร่วมเป็นกรรมการด้วย
ขณะที่กระทรวงมหาดไทยเห็นว่า ไม่ขัดข้องในหลักการของร่าง พ.ร.บ. แต่สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้กระทบต่อภารกิจของ มท.ค่อนข้างมาก จึงอาจพิจารณาให้ รมว.มหาดไทยทำหน้าที่รักษาการร่วมในร่าง พ.ร.บ.นี้ และคงไว้ซึ่งหน้าที่และอำนาจของเจ้าพนักงานตามกฎหมายอาญา สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่สถานบันเทิงครบวงจร
ในส่วนกระทรวงยุติธรรมไม่ขัดข้อง แต่มีข้อสังเกตเพิ่มเติมคือ 1.การเดินทางเข้าประเทศของคนต่างด้าวที่คาดว่าจะมีมากขึ้น อาจนำมาซึ่งปัญหาอาชญากรรม จึงควรกำหนดแนวทางการจัดการและมาตรการควบคุมให้ชัดเจน 2.อายุของผู้ใช้บริการที่กำหนดให้มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี ไม่ครอบคลุมช่วงวัยของนิสิตและนักศึกษา จึงควรมีมาตรการป้องกันเยาวชนและบุคคลกลุ่มดังกล่าว และ 3.ควรแสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่าที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะมิติการลดความเสี่ยงทางผลกระทบที่จะส่งผลต่อครอบครัว
จี้บังคับออก กม.เคร่งครัด
ด้านกระทรวงวัฒนธรรมไม่ขัดข้อง แต่มีข้อสังเกตต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อศาสนา วัฒนธรรม จริยธรรม วัฒนธรรมและจารีตประเพณี โดยเห็นว่าสถานบันเทิงครบวงจรควรตั้งอยู่ห่างจากสถานที่สำคัญทางศาสนาและเขตชุมชน เช่นเดียวกับกระทรวงสาธารณสุขที่ไม่ขัดข้องต่อกฎหมายฉบับนี้ แต่มีข้อห่วงใยต่อการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และผลิตภัณฑ์ยาสูบ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เห็นว่า การเปิดสถานบันเทิงครบวงจรตามกิจกรรมที่กำหนดในบัญชีแนบท้ายร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ จะมีบทบาทในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย แต่มีความเห็นเพิ่มเติม 4 ข้อ ดังนี้ 1.การดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ควรมุ่งเน้นการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อสันทนาการสำหรับครอบครัวที่ประชาชนสามารถได้ประโยชน์เป็นสำคัญ โดยธุรกิจที่สุ่มเสี่ยง อาทิ กาสิโนต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง และให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด 2.เงินจากการพนันมีลักษณะเป็นเงินโอน จะไม่ถูกนำมาคำนวณเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ
3.การดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ควรเน้นการพัฒนาพื้นที่ส่วนใหญ่ในกิจกรรมตามบัญชีแนบท้ายร่างพ.ร.บ.นี้เป็นลำดับแรก หากมีธุรกิจกาสิโนร่วมอยู่ด้วยจะต้องเป็นพื้นที่ส่วนน้อยของการพัฒนาทั้งโครงการ 4.ธุรกิจกาสิโนเป็นธุรกิจที่มีนัยต่อการพัฒนาประเทศในหลายมิติ โดยเฉพาะผลกระทบด้านลบต่อสังคม กระทรวงการคลัง จึงควรศึกษาผลประโยชน์และผลกระทบให้มีความชัดเจน และระดมความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ รวมทั้งศึกษาทางเลือกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่อาจมีผลกระทบทางสังคมน้อยกว่า เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศในภาพรวมต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พท.ขอลดเวลาซักฟอกแค่2วัน
“รังสิมันต์” ยังอุบไต๋เชือดรัฐมนตรีกี่ราย แต่มั่นใจเป็นเรื่องของกรรม บอก 5 วันไม่มากไป
‘กาสิโน’ต้องฟังปชช. กฤษฎีกาคลอดร่างกม.ให้ทำได้ยากขึ้น/ม็อบขู่จัดทัพลงถนน
เร่งเดินหน้าเปิด "กาสิโน" กฤษฎีการับลูกติดสปีดทำคลอดร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ
อภิปรายไม่ไว้วางใจสาวไส้‘นายใหญ่’ หรือทิ้งทวนเวทีสุดท้าย‘25สส.ปชน.’
ภายหลังเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีการรวบรวมญัตติของ พรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่าแต่ละพรรคจะอภิปรายรัฐมนตรีคนไหน และมีข้อกล่าวหาเป็นอย่างไร เพื่อนำมาเรียบเรียงเขียนเป็นญัตติเดียว
โจ๊กลุ้นกก.วินัย 20ก.พ.ชี้ชะตา! บี้‘สุชาติ’ไขก๊อก
"บิ๊กหวาน" เตรียมนัดประชุมสรุปผลสอบวินัยร้ายแรง "บิ๊กโจ๊ก" หลังครบกำหนด 270
ครม.ทุ่มงบหนุนภาคใต้ NGOห้ามเอื้อทุนผูกขาด
นายกฯ ร่อนภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ชาวบ้านต้อนรับมาให้กำลังใจลูกสาวทักษิณ
กห.ยันทำงานร่วม3ปท. เตือนไทยสูญเสียอิสระ
"หลิว จงอี้" เข้าพื้นที่เมียวดีพบเหยื่อชาวจีนและต่างชาติที่ศูนย์บัญชาการ BGF กว่า 900 คน