วันแรก "นายกฯ อิ๊งค์" ก่อนร่วมประชุม WEF สมาพันธรัฐสวิส เดินชมเมืองดาวอสสำรวจสินค้าไทย พร้อมถกบริษัทอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ "ภูมิธรรม" ขอมองให้กว้าง เกิดขึ้นได้เหตุคนเสื้อแดงขว้างของใส่เวทีทักษิณ บอกเดินหน้าประเทศดีกว่า "พริษฐ์" จี้ กกต.สอบข้อเท็จปมมือปา แฉโดนโกงไม่ได้ 200 บาท เปิดคิว "แม้ว" ช่วยหาเสียงโค้งสุดท้ายไป "ศรีสะเกษ" ปิดท้าย "เชียงราย-เชียงใหม่" สิ้นเดือน ม.ค. "คปท." นำมวลชนบุกทำเนียบฯ จี้นายกฯ ใช้อำนาจสะสางคดีชั้น 14 "สมคิด" เชื่อเดี๋ยวม็อบแผ่ว ชี้ ปชช.ไม่ขยันชุมนุมเหมือนเดิม เหตุมีสื่อโซเชียลไว้ระบายความรู้สึกแล้ว "สนธิญา" ร้อง กกต.สอบ "พ่อนายกฯ" จ้อหาเสียงเลือก อบจ.อ้างสถาบันส่อขัด กม.
เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 เวลา 14.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ซึ่งช้ากว่ากรุงเทพมหานคร 6 ชั่วโมง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานนครซูริก สมาพันธรัฐสวิส เพื่อเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 (WEF Annual Meeting 2025: WEF AM25) ระหว่างวันที่ 20-25 ม.ค. ที่เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส โดยนายกฯ สวมชุดสูทแบรนด์สิริวรรณวรี SIRIVANNAVARI คอลเลกชัน Autumn Winter
จากนั้นเวลา 08.30 น. น.ส.แพทองธารพร้อมด้วยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ และนายจิตติพัฒน์ ทองประเสริฐ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์น สมาพันธรัฐสวิส ได้ออกมาเดินเยี่ยมชมเมืองก่อนปฏิบัติภารกิจ โดย น.ส.แพทองธารโพสต์ข้อความตอนหนึ่งว่า มีโอกาสมาเดินซูเปอร์มาร์เก็ตกับทีมไทยแลนด์ เพื่อสำรวจตลาดและมองหาโอกาสของสินค้าไทยในตลาดสวิตเซอร์แลนด์ เจอผลิตภัณฑ์ประกอบอาหารไทยสำเร็จรูป ซึ่งแปลว่าอาหารไทยได้รับความนิยมในต่างประเทศจริงๆ
เวลา 09.00 น. นายกฯ ได้พบหารือกับสุลต่าน อะห์เหม็ด บิน สุลาเย็ม ประธานกลุ่มบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท DP World (UAE) โดย DP World พร้อมร่วมมือโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ อาทิ โครงการ Landbridge, โครงการรถไฟทางคู่ และโครงการรถไฟความเร็วสูง เป็นต้น เพื่อผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค
เวลา 10.00 น. นายกฯ พบหารือกับนายเรมี เอเจล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชีย โอเชียเนีย และแอฟริกา บริษัทเนสท์เล่ โดยไทยขอให้ขยายการลงทุนในโรงงานผลิตเนสกาแฟ และสนับสนุนเกษตรกรไทยในการขยายพื้นที่เพาะปลูกกาแฟ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แทน น.ส.แพทองธาร โดยนายภูมิธรรมให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม ครม. ถึงกรณีป้าอ้วนอดีตคนเสื้อแดงเขวี้ยงสิ่งของไปบนเวทีระหว่างที่นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย ปราศรัยหาเสียงนายก อบจ.มหาสารคาม ว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ สถานการณ์อย่างนี้ใครจะสร้างก็เกิดขึ้นได้ ขอดูให้กว้างดีกว่า และอย่าเพิ่งไปบอกว่ามีผลประโยชน์อะไร
ถามว่า ผู้กระทำดังกล่าวระบุเคยเป็นคนเสื้อแดงมาก่อน นายภูมิธรรมกล่าวว่า คนเสื้อแดงเดี๋ยวนี้มีมากมายจนไม่รู้เป็นแดงกี่เฉด อย่าไปคิดในรายละเอียดเลย เอาเรื่องประเทศชาติเดินหน้าดีกว่า
ขณะที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ยังไม่แน่ใจว่าวัตถุที่ถูกขว้างนั้นเป็นอะไร ในอีกมุมก็เข้าใจ ซึ่งไม่ได้พูดถึงแค่กรณีนี้เท่านั้นว่าประชาชนย่อมมีสิทธิ์ที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย และเข้าใจว่าวัตถุไม่ได้ไปโดนนายทักษิณ ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตราย ซึ่งหากจะพูดในภาพใหญ่ที่ไม่ใช่เฉพาะกรณีนี้ แม้ประชาชนจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับฝ่ายการเมืองแต่ละฝ่าย แต่เราก็ไม่อยากเห็นอะไรที่มันบานปลายที่ไปกระทบต่อความปลอดภัย
“เข้าใจว่าประเด็นหนึ่งที่สังคมอาจจะตั้งคำถามเช่นกันในกรณีที่เกิดขึ้น คือประเด็นที่ประชาชนคนนั้นให้สัมภาษณ์ว่า ตอนแรกบอกจะได้ 200 บาท แต่มาแล้วบอกมันเกิน ซึ่งเป็นประเด็นคือควรไปสืบค้นต่อว่ามันคืออะไร และไม่ทราบว่า กกต.ได้ทราบเรื่องนี้แล้วหรือไม่ และตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือยัง” นายพริษฐ์กล่าว
ทักษิณจ่อคิวจ้อหลายเวที
ผู้สื่อข่าวรายงานกำหนดการลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครนายก อบจ.หาเสียงของนายทักษิณว่า วันที่ 24-25 ม.ค. จะลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ช่วยนายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ โดยขึ้นทั้งหมด 4 เวทีคือ สนามหน้าว่าที่การอำเภอกันทรลักษ์ เวทีที่ 2 สนามฟุตบอลที่บ้านสวนของนายธเนศ เครือรัตน์ สส.ศรีสะเกษ เขต 1 อ.เมืองฯ และวันที่ 25 ม.ค. ที่หอประชุมศรีกิจปรางค์เจริญไทย โรงเรียนปรางค์กู่ อ.ปรางค์กู่ และเวทีสุดท้ายที่ศูนย์ประสานงานพรรค พท. (สนามกีฬาผู้ใหญ่เฮง) อ.อุทุมพรพิสัย ก่อนปิดท้ายช่วยหาเสียงที่ จ.เชียงรายและ จ.เชียงใหม่ วันที่ 29-30 ม.ค.นี้
ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา มี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธาน พิจารณารายงานผลการปฏิบัติงาน กกต.ประจำปีงบประมาณ 2566 ตามมาตรา 22 (8) แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ศ.2560 โดยมีนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. และคณะ ร่วมชี้แจง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการอภิปรายของ สว.นั้น มีการท้วงติงการทำงานของ กกต.ในกระบวนการเลือก สว. ที่มีข้อครหาว่ามีกระบวนการเลือกกันเองของผู้สมัครกลุ่มต่างๆ ที่ไม่โปร่งใส จนมีประเด็นฟ้องร้องต่อศาลหลายกรณี รวมถึงความพร้อมต่อการเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. แทนวันอาทิตย์ และความพร้อมของเจ้าหน้าที่
นายนิคม มากรุ่งแจ้ง สว. อภิปรายเป็นข้อเสนอให้ กกต.สั่งการไปยังผู้อำนวยการการเลือกตั้งจังหวัด ให้จัดการอบรมผู้ปฏิบัติงานในการเลือกตั้งท้องถิ่นในวันที่ 1 ก.พ. อย่างเข้มงวดจริงจัง ทั้งนี้ ทราบว่ามีงบประมาณจัดอบรม 1 วัน แต่พบการจัดอบรมจริงแค่ครึ่งวัน ขณะที่ชุดเคลื่อนที่เร็วสำหรับการเลือกตั้ง อบจ. และ ส.อบจ.ที่จะปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 23 ม.ค.นี้ ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ควรทำได้จริง หากผู้ตรวจการเลือกตั้งเรียกใช้ บุกจับยามวิกาลต้องพร้อมตลอดเวลา ไม่ใช่แค่ตรวจตามหน่วย
นายแสวงชี้แจงว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นวันที่ 1 ก.พ. กกต.ต้องรักษากระบวนการการเลือกตั้ง เข้าใจคนที่ลงแข่งขันอยากให้ประชาชนมีส่วนร่วม แต่ กกต.ต้องรักษาระบบในการทำงานของ กกต. ยืนยันหลักความโปร่งใส การมีส่วนร่วมของประชาชน อำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ด้านนายมานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT เปิดเผยว่า องค์กรและภาคีได้ร่วมกันออกจดหมายเปิดผนึก ลงวันที่ 21 ม.ค. เรียนเชิญผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ปี 2568 ร่วมแสดงเจตนารมณ์ต่อต้านคอร์รัปชัน ผ่านเครือข่ายและสื่อมวลชนจนถึงก่อนวันที่ 1 ก.พ. ตามเสียงเรียกร้องของประชาชนจากผลโพลกว่าร้อยละ 93 ต้องการมีส่วนร่วมในการต้านโกง เพราะรับรู้ว่ามีคอร์รัปชันโกงกินงบ อบจ.จำนวนมหาศาล
วันเดียวกัน กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และเครือข่ายกองทัพธรรม นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.), นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา, นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. นัดมวลชนรวมตัวเดินทางไปที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ให้ใช้อำนาจในการสะสางคดีบริหารกระบวนการบังคับโทษของนายทักษิณ กรณีการรักษาตัวชั้น 14 และสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเวชระเบียนให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
นายพิชิตกล่าวว่า ได้ทวงถามเพื่อขอให้โรงพยาบาลตำรวจส่งเวชระเบียนให้กับ ป.ป.ช. แต่เมื่อไม่ได้จึงต้องมาพบนายกฯ เพื่อให้เร่งดำเนินการและใช้ตำแหน่งเพื่อผดุงไว้ซึ่งระบบนิติรัฐ นิติธรรมของประเทศไทย และทำให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้า
ม็อบบี้นายกฯ สางปมชั้น 14
“ท้ายที่สุดเราก็ต้องมาที่ทำเนียบฯ เพราะนายกฯ โดยตำแหน่ง ไม่ใช่ว่าคุณใช้ตำแหน่งลูกสาวของทักษิณ คุณต้องใช้ตำแหน่งในฐานะนายกฯ ตำแหน่งลูกสาวคุณไปคุยกันที่บ้าน แต่วันนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล คุณคือตำแหน่งนายกรัฐมนตรี” นายพิชิตกล่าว
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ได้ฝากถึงนายกฯ ว่า ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องร่วมรับผิดชอบเรื่องนักโทษชั้น 14 เพราะที่ผ่านมาประชาชนรอมาปีกว่า จนนายทักษิณออกจากโรงพยาบาล และกำลังอาละวาดประเทศไทย ซึ่งต้องให้ประชาชนช่วยกันต้านให้กลับไปที่คุก รวมทั้งข้อมูลที่พวกตนจะเสนอในตอนนี้ เป็นข้อมูลที่เราปรึกษาหารือกับแพทย์หลายๆ คน ที่จะสรุปว่าละครชั้น 14 ไม่เนียน
"ถ้าคุณกังวลเรื่องพ่อ แต่ไม่ดูแลเรื่องกระบวนการยุติธรรม คุณออกไปเลย นี่คือบทสรุปเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องการสื่อสารว่า สิ่งที่คุณทำมานั้นไม่เนียน และถ้าพวกคุณไม่จัดการ วันนึงคุณจะเจอเหตุการณ์ใหญ่กว่าวันนี้" นพ.วรงค์กล่าว
นายจตุพรได้ปราศรัยถึงนายทักษิณ ตั้งแต่วันที่เดินทางกลับมาประเทศไทย ไปจนถึงการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยระบุตอนหนึ่งว่า ทั้งหมดคือความไม่ตรงไปตรงมา รวมถึงการพักโทษที่บอกว่าเป็นผู้สูงอายุช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่วันนี้กลับมาเป็นผู้ช่วยหาเสียง รวมถึงนายทักษิณคงลืมไปว่าเขาเคยยื่นถวายฎีกา และถูกบันทึกไว้ในพระบรมราชโองการว่าเคารพต่อกระบวนการยุติธรรม และยอมรับว่ากระทำความผิดจริง พร้อมรับโทษตามคำพิพากษา ดังนั้นนายทักษิณจะไปกล่าวอ้างว่าถูกกลั่นแกล้งยัดคดีได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังแกนนำกลุ่มได้กล่าวปราศรัยเสร็จ ได้เคลื่อนขบวนไปที่หน้าประตูทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึงตัวแทนของรัฐบาล ซึ่งมีนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นตัวแทนออกมารับหนังสือ ก่อนที่กลุ่ม คปท.จะร่วมกันอ่านแถลงการณ์
ต่อมานายสมคิดให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมจะปักหลักชุมนุมที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา และจะมีการปราศรัยตลอดทั้งวันในวันที่ 25 ม.ค.ว่า ได้พูดคุยกับทาง คปท. ซึ่งการปราศรัยและการชุมนุมเป็นสิทธิ แต่ต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย ส่วนจะปราศรัยกี่วันหรือกี่ชั่วโมงนั้น เราไม่ได้ห้าม แต่ขอให้ขออนุญาตให้ถูกต้อง ซึ่งรัฐบาลคงไม่ต้องเตรียมการอะไร เป็นเรื่องปกติธรรมดา ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ถามว่า รัฐบาลมีการเตรียมความพร้อมอย่างไร นายสมคิดกล่าวว่า คงไม่ต้องเตรียมอะไร ซึ่งตนได้คุยกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และยังไม่มีอะไรผิดปกติ ถือเป็นการชุมนุมแสดงความคิดเห็นในระบอบประชาธิปไตย ย้ำว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร
"จากที่เราประเมินอาจจะมีการปักหลักชุมนุมสักระยะ แล้วแต่ แต่ผมเชื่อว่าวันนี้เรื่องการชุมนุมประชาชนคงไม่ขยันเหมือนเดิม เพราะสื่อต่างๆ ได้ระบายความรู้สึกของพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว และรัฐบาลไม่เคยปิดกั้น ซึ่งวันนี้ได้คุยกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน และผมก็บอกว่าหากเป็นการชุมนุมที่อยู่ในกรอบ รัฐบาลยินดีที่จะรับฟัง" นายสมคิดกล่าว
ซักว่าจะมีมือที่สามเข้ามาแทรกแซงหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า ไม่น่าจะมีมือที่สาม ก็มือพวกนี้มือแรกนี่แหละ ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้น เท่าที่อ่านและฟังดู ตนมองว่าผู้ที่เกี่ยวข้องเขาตอบและชี้แจงได้ แต่ถ้าชี้แจงแล้วจะฟังหรือไม่ ถ้าไม่ฟังก็จนปัญญา
ที่สำนักงาน กกต. นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบและวินิจฉัยเกี่ยวกับการเลือกตั้งนายกและสมาชิก อบจ. กรณีแรกการลาออกก่อนครบวาราะของนายก อบจ.นครศรีธรรมราช และกรณีการปราศรัยหาเสียงของนายทักษิณ มีการอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์ และการสัญญาว่าจะให้เงิน 20 ล้านบาท ต่อ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรี ใช้สำหรับการนำเด็กไทยไปเป็นนางแบบโลก
"นายทักษิณมีการกล่าวถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ในการหาเสียง ซึ่งไม่สามารถทำได้ โดยมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 6/2543 เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2543 หยิบยกพระราชหัตถเลขาของรัชกาลที่ 7 มาประกอบการพิจารณาวินิจฉัยยุบพรรคการเมืองหนึ่ง โดยระบุว่า พระมหากษัตริย์อยู่เหนือการเมือง นอกจากนี้ยังขัดกับระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ข้อที่ 22 ห้ามนำสถาบันเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมืองทุกประเด็น" นายสนธิญากล่าว
ขณะที่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธารแต่งตั้ง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ซึ่งถูกตัดสิทธิทางการเมืองดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี และเป็นประธานคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ซึ่งอาจหมิ่นเหม่ข้อกฎหมายว่า ไม่มีอะไรหมิ่นเหม่เลย
ด้านนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงกรณีนายกฯ แต่งตั้ง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ว่าเรื่องนี้ตนไม่ทราบรายละเอียด และเรื่องการแต่งตั้ง นพ.สุรพงษ์ไม่ได้มีการปรึกษาตน ส่วนจะเทียบเคียงกับกรณีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานคณะที่ปรึกษาของนายกฯ ที่เคยเป็นประธานคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย จนไม่สามารถดำรงตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้หรือไม่นั้น ต้องไปดูข้อเท็จจริงและวินิจฉัยในแต่ละเรื่อง
"แต่ละกรณีอยู่ที่ว่ามีการหารือมาอย่างไร พฤติกรรมรายบุคคล แต่ละคำตอบไม่เหมือนกัน ซึ่งอยู่ที่คำถาม" เลขาฯ กฤษฎีกากล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พท.ขอลดเวลาซักฟอกแค่2วัน
“รังสิมันต์” ยังอุบไต๋เชือดรัฐมนตรีกี่ราย แต่มั่นใจเป็นเรื่องของกรรม บอก 5 วันไม่มากไป
‘กาสิโน’ต้องฟังปชช. กฤษฎีกาคลอดร่างกม.ให้ทำได้ยากขึ้น/ม็อบขู่จัดทัพลงถนน
เร่งเดินหน้าเปิด "กาสิโน" กฤษฎีการับลูกติดสปีดทำคลอดร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ
อภิปรายไม่ไว้วางใจสาวไส้‘นายใหญ่’ หรือทิ้งทวนเวทีสุดท้าย‘25สส.ปชน.’
ภายหลังเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีการรวบรวมญัตติของ พรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่าแต่ละพรรคจะอภิปรายรัฐมนตรีคนไหน และมีข้อกล่าวหาเป็นอย่างไร เพื่อนำมาเรียบเรียงเขียนเป็นญัตติเดียว
โจ๊กลุ้นกก.วินัย 20ก.พ.ชี้ชะตา! บี้‘สุชาติ’ไขก๊อก
"บิ๊กหวาน" เตรียมนัดประชุมสรุปผลสอบวินัยร้ายแรง "บิ๊กโจ๊ก" หลังครบกำหนด 270
ครม.ทุ่มงบหนุนภาคใต้ NGOห้ามเอื้อทุนผูกขาด
นายกฯ ร่อนภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ชาวบ้านต้อนรับมาให้กำลังใจลูกสาวทักษิณ
กห.ยันทำงานร่วม3ปท. เตือนไทยสูญเสียอิสระ
"หลิว จงอี้" เข้าพื้นที่เมียวดีพบเหยื่อชาวจีนและต่างชาติที่ศูนย์บัญชาการ BGF กว่า 900 คน