บี้ผวจ.ใช้อำนาจปราบฝุ่น สว.ถามวาระแห่งชาติไหน

“นายกฯ อิ๊งค์” ลั่นยังไม่เรียกประชุม ผวจ.ทั่วไทยเรื่อง PM2.5 บอก “อนุทิน” ทำไปหมดแล้ว “จิรายุ" สวมบทนายกฯ เงาอีกราย ร่ายยิบประชุม ครม.อังคารนี้ “อุ๊งอิ๊ง” จะกำชับ รวมถึงการประชุม บกปภ.ช.ในวันพุธ “สุริยะ” ยกตัวเลขยัน ขึ้นรถไฟฟ้าทำใช้รถส่วนตัวลดลง “สภาสูง” ออกโรงบี้รัฐบาลแก้ปัญหาฝุ่นพิษ ยกคำหาเสียง “แพทองธาร” เตือนความจำ ถามวาระแห่งชาตินั้นชาติไหน “นันทนา” ซัดมาตรการซื้อเวลาไม่มืออาชีพ

เมื่อวันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีการเรียกประชุมหารือผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทยได้เรียกประชุมไปหมดแล้ว

เมื่อถามว่า ในส่วนของนายกฯ ยังไม่เรียกประชุมเพิ่มเติมใช่หรือไม่ นายกฯ ตอบว่ายัง

ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษก มท. กล่าวว่า นายอนุทินในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ได้เป็นประธานการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM2.5

โดยนายอนุทินกล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องใช้ความกล้าหาญและอำนาจที่มีอยู่ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง และทราบว่า ผวจ. 17 จังหวัดภาคเหนือได้ประกาศให้พื้นที่เป็นเขตห้ามเผาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ขอให้ได้ใช้บังคับกติกาตามประกาศอย่างจริงจังเข้มข้นและต่อเนื่อง

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัด มท. กล่าวว่า สิ่งที่ท้าทายที่สุดคือ ต้องทำอย่างไรให้ปัญหาฝุ่นละอองหมอกควันและไฟป่าลดลงมากที่สุด ซึ่งแนวทางบังคับใช้กฎหมายที่ต้องทำอย่างจริงจัง สามารถใช้ระเบียบข้อบังคับขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเอาผิดกับผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิด ขอให้ทุกจังหวัดมุ่งมั่นทำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง  ใช้กฎหมายทุกฉบับบังคับใช้อย่างจริงจังเพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยรวม

ในขณะที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งที่ 4/2568 ที่จะมีขึ้นในวันอังคารที่ 28 ม.ค.นี้ น.ส.แพทองธารจะมีข้อสั่งการในที่ประชุมเรื่องการแก้ไขปัญหาฝุ่น หมอกควัน และ PM2.5 เพิ่มเติมในแต่ละกระทรวง และจะหารือกับรัฐมนตรีเพื่อรับทราบรายงานและข้อสรุป รวมทั้งแนวทางปฏิบัติของทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับปัญหาดังกล่าวในช่วงต้นของการประชุม ครม.

นายจิรายุกล่าวว่า ในวันพุธที่ 29 ม.ค. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายอนุทิน ในฐานะผู้บัญชาการ บกปภ.ช.ได้เชิญคณะกรรมการชุดใหญ่เข้าร่วมประชุม เพื่อกำหนดแนวทางเพิ่มเติมในการลดความเสี่ยงจากฝุ่นควัน  และรับฟังการเตรียมความพร้อมรับมือในสถานการณ์อื่นๆ  ที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงานที่ผ่านมา โดยในการประชุมจะเน้นประเมินข้อสั่งการที่ดำเนินการมาตั้งแต่เดือน ต.ค. 2567 จนถึงปัจจุบัน และการกำหนดแนวทาง ส่วนการจัดการฝุ่นละอองในเขตเมืองกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะมอบหมายให้ กทม.และหน่วยงานต่างๆ รายงานการดำเนินการและผลของการปฏิบัติ รวมไปถึงการยกระดับปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กด้วย

 “ส่วนภูมิภาค คณะกรรมการ ปภ.ช.จะพิจารณาและดำเนินการแก้ปัญหาไฟป่าในจังหวัดที่มีการเผาป่าและหมอกควันสูง อาทิ ลพบุรี, ชัยภูมิ, กาญจนบุรี, นครสวรรค์ และนครราชสีมา รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ส่วนจังหวัดที่มีผลสำเร็จในการแก้ปัญหา อาทิ เชียงใหม่ จะให้รายงานผลการปฏิบัติเพื่อเป็นต้นแบบในการแก้ไขต่อไป”

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม กล่าวถึงเสียงวิจารณ์นโยบายขึ้นรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรีใช้งบประมาณแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุดว่า ตัวเลขชัดเจน สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรมีกล้องวงจรปิดของ กทม. สามารถไปเช็กได้ว่ามีการใช้รถยนต์ลดลงหรือไม่ ซึ่งตัวเลขชัดเจนว่าใช้ลดลง แสดงให้เห็นว่าการใช้มาตรการดังกล่าวทำให้ประชาชนใช้รถยนต์ส่วนตัวน้อยลง

ไม่ฟันธงขยายเวลา

เมื่อถามว่า มีการวิจารณ์ว่าการใช้งบ 140 ล้านบาทเป็นเสมือนการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เหตุใดจึงไม่แก้ไขปัญหาให้ตรงกับสาเหตุ นายสุริยะกล่าวว่า ต้องทำมาตรการควบคู่กันไป ทั้งการบังคับใช้กฎหมาย แต่เมื่อเกิดเหตุเฉพาะหน้าเช่นนี้ก็สามารถช่วยลดฝุ่น PM2.5 ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนจะขยายมาตรการรถไฟฟ้าฟรีต่อไปอีกหรือไม่นั้น ขอเวลาให้ครบ 7 วันก่อนเพื่อประเมินตัวเลข แต่ยืนยันว่านโยบายนี้ทำให้ผู้ที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวลดลง

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ระบุว่า เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ซึ่งเป็นวันที่สองที่มีมาตรการส่งเสริมให้ใช้บริการขนส่งสาธารณะเพื่อช่วยลดฝุ่น PM2.5 พบว่ามีผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 1,549,622 คน-เที่ยว ลดลงจากวันเสาร์ที่ 25 ม.ค. จำนวน 84,824 คน-เที่ยว หรือลดลง 5.19% แต่ยังพบว่ามีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นถึง 60.90% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันอาทิตย์ใน 3 สัปดาห์ของเดือน ม.ค. 2568

น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีให้ สส.และรัฐมนตรีร่วมกันใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ว่า หากสามารถทำได้ก็อยากให้ทุกคนเป็นส่วนหนึ่ง และพยายามที่จะรณรงค์ให้เห็นว่าประเทศไทยมีมาตรฐานเป็นสากล รวมทั้งมีไอเดียใหม่คือ ป้ายรถเมล์ปลอดฝุ่น หลังจากไปศึกษาดูงานจากต่างประเทศ จะเห็นว่ามีห้องเป็นแบบปิดและมีเครื่องปรับอากาศภายใน ให้คนสามารถไปยืนรอรถประจำทางอยู่ภายในห้องนั้นได้ ซึ่งเรื่องนี้อาจจะมาประยุกต์ใช้ในประเทศไทย ซึ่งจะสามารถใช้ได้ทั้งในฤดูร้อนและช่วงที่มีปัญหาฝุ่น

ด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวถึงมาตรการรับซื้ออ้อยของโรงงานต่างๆ ว่า ได้มีการทำข้อตกลงสร้างกติกาให้โรงงานรับอ้อยเผาในแต่ละวันไม่เกิน 25% ซึ่งข้อมูลปัจจุบันไม่มีโรงงานใดใน 58 โรงงานรับอ้อยเผาต่อวันเกินกว่าที่กำหนด เฉลี่ยสุดท้ายอยู่ที่ 10-11% ถือว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์

ส่วน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้เป็นที่ปรึกษาในระดับกองทัพภาค โดยนายภูมิธรรมย้ำให้ทำหน้าที่คอยให้คำปรึกษาแนะนำ ในฐานะเคยผ่านการบริหารสถานการณ์ต่างๆ มาแล้ว

“สาเหตุของฝุ่นมาจาก 4 แหล่ง คือ จราจร, โรงงานอุตสาหกรรม, พื้นที่ป่า พื้นที่เกษตรฯ และประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ได้มาจากที่ใดที่หนึ่ง จึงต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เร่งแก้ไขพื้นที่วิกฤตก่อน ยอมรับว่าเป็นปัญหาที่ยาก แต่ก็พยายามแก้ไข ถ้าถามว่าตรงจุดหรือไม่ก็ต้องตอบว่าจุดกำเนิดเยอะมาก และก็มีหน่วยงาน กระทรวง ทบวง กรม ร่วมกันหลายหน่วยงาน” พล.อ.ณัฐพลระบุ

ส่วนนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ขอเสนอให้รัฐบาลพิจารณาใช้มาตรการด้านการเงินเพื่อเสริมมาตรการด้านการกำกับ ดังเช่นที่สิงคโปร์เคยทำสำเร็จมาแล้ว คือ 1.กษ.กำหนดมาตรฐานและขึ้นบัญชีบริษัทเซอร์เวเยอร์เอกชน เพื่อให้ทำการตรวจสอบการเผาทั้งในประเทศไทยและในประเทศเพื่อนบ้าน 2.กค.กำหนดภาษีพิเศษเพื่อป้องปรามฝุ่นพิษ และ 3.กษ.จัดงบประมาณซื้อรถตัดอ้อยประจำชุมชน ซึ่งนายกฯ ต้องเป็นหลักในการขับเคลื่อนเรื่องนี้เพราะเกี่ยวข้องกับหลายส่วนราชการ

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงนโยบายขึ้นรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรีแก้ PM2.5  ว่า ให้ลองขึ้นรถไฟฟรีดูว่าทำให้ฝุ่นหายไปหรือไม่ หรือทำให้หายคัดจมูกหรือไม่ คนที่ใช้รถส่วนตัวอยู่แล้วคงใช้เหมือนเดิม เพราะคนที่เดินทางโดยรถไฟฟ้าได้เพราะอยู่ใกล้รถไฟฟ้า ส่วนคนใช้รถยนต์เพราะเขามาขึ้นรถไฟฟ้าไม่สะดวก เป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุดและไม่ใช่ประเด็น

ขณะเดียวกันในการประชุมวุฒิสภา มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้พิจารณากระทู้ถามสดของนายสุนทร พฤกษพิพัฒน์ สว. ที่สอบถามนายกฯ ถึงแนวทางแก้ปัญหาวิกฤตฝุ่น PM2.5  โดยนายกฯ มอบหมายให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ตอบแทน

สว.จวกรัฐบาลเละ

นายสุนทรกล่าวว่า น.ส.แพทองธารพูดไว้ตั้งแต่ตอนหาเสียงเลือกตั้งยังไม่ได้เป็นนายกฯ โดยบอกว่า "เพราะอากาศสะอาดคือพื้นฐานของชีวิตคนไทย ดิฉันกล้าที่จะตัดสินใจ เข้าไปปุ๊บจะทำทันที" แล้วมันก็ออกมาเป็นอย่างนี้ ทั้งที่เรื่องฝุ่นเป็นวาระแห่งชาติมาตั้งแต่ปี 2562 มีแผนยุทธศาสตร์ต่างๆ ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2567 แต่ดูเหมือนปี 2568 จะยังไม่มีแผนอะไรออกมา ไม่เข้าใจว่าวาระแห่งชาติมันเป็นชาติไหน

 “แน่นอนว่าการแก้ปัญหาฝุ่นไม่ใช่ดีดนิ้วแล้วจะแก้ได้ แต่ท่านจะทำอย่างไร ถ้าบุตรหลานของท่านมีเลือดกำเดาไหล แต่ผมก็รู้ว่าไม่มีทางเกิดขึ้นจริง เพราะลูกหลานของผู้มีอำนาจก็อยู่สุขสบาย เรียนในห้องปลอดฝุ่น แต่มันเกิดกับประชาชนจริงๆ ดังนั้นขอถามว่ารัฐบาลมีแนวทางแก้ปัญหาระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวอย่างไรบ้าง การแก้ปัญหาโดยวิธีให้ขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้าฟรี ใช้เงิน 140 ล้านบาท แก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ และเป็นไปได้หรือไม่ว่าคณะทำงานที่ตั้งขึ้นขอให้นายกฯ เป็นประธาน และขอให้เพิ่มตัวแทนจากประชาชนได้หรือไม่ รวมถึง สส.ฝ่ายค้าน ถ้าเป็นไปได้ขอให้ สว.เข้าไปร่วมด้วยได้หรือไม่” นายสุนทรกล่าว

นายเฉลิมชัยชี้แจงว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจแก้ปัญหาฝุ่น มีการตั้งคณะกรรมการอำนวยการแก้มลพิษทางอากาศมาแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม มอบหมายงานให้แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบอย่างชัดเจน ปัจจัยที่ทำให้เกิดฝุ่นคือ  1.ยานพาหนะ 2.การก่อสร้าง 3.โรงงานอุตสาหกรรม และ 4.การเผาของภาคการเกษตร ปัจจัยเหล่านี้ยังพอควบคุมได้ แต่ยังมีปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้คือ ฝุ่นควันจากประเทศเพื่อนบ้าน และทิศทางลมที่พัดเข้าสู่กรุงเทพฯ ประกอบกับสภาพอากาศปิด ส่วนการลดปัญหาฝุ่นโดยให้ขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้าฟรีนั้น ไม่ใช่การสร้างภาพ  แต่เป็นมาตรการที่เสนอมาตั้งแต่ต้น การแก้ปัญหาฝุ่นต้องเอาทุกปัจจัยมาแก้ไปพร้อมกัน ทั้งเรื่องยานพาหนะ เวิร์กฟรอมโฮม แม้จะมีผลแค่ 3-5% ก็ต้องทำไปพร้อมกัน ทำแค่อย่างใดอย่างหนึ่งแก้ไขไม่ได้ การทำให้ฝุ่นหมดไปเป็นเรื่องยาก แต่จะทำอย่างไรให้อยู่ในระดับไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชน 

 “รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจทำเต็มที่ รัฐบาลพยายามหามาตรการเพื่อลดผลกระทบ เวลาคนเกิดอุบัติเหตุต้องได้รับการรักษาทางวิทยาศาสตร์ แต่ถึงอย่างนั้นเขายังต้องไปบนบานด้วยไสยศาสตร์เลย ดังนั้นการแก้ไขปัญหามลพิษ มันมีหลายส่วน มันไม่สามารถลดได้ 100% แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของมลพิษ น้ำแก้วหนึ่งที่ออกไป 1 หยด มันก็ไม่เต็มแก้วแล้ว เพราะฉะนั้นปัญหาทุกอย่างผมเห็นว่ารัฐบาลรับฟัง และเราพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น สิ่งที่ท่านได้เสนอมาตอนนี้รัฐบาลก็ฟังทั้งหมด เราดำเนินการอย่างเต็มที่ เราไม่ต้องการเห็นพี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบ” นายเฉลิมชัยกล่าว

ในช่วงบ่ายการประชุม สว.ได้มีการพิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ของ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. โดยระบุว่า เราปล่อยให้รัฐบาลแสดงฝีมือในการบริหารประเทศแบบนี้มาเกือบ 2 ปี นายกฯ ทั้ง 2 ท่านไม่มีแผนแม่บทในการจัดการสภาพอากาศอย่างชัดเจน ไม่มีมาตรการที่เป็นรูปธรรม ไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด มีแต่ออกมาพูดว่าเรื่องฝุ่นเป็นวาระแห่งชาติ ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นวาระของชาตินี้หรือชาติหน้า

 “มาตรการแก้ปัญหาของรัฐบาลดูจะตื้นเขิน ฉาบฉวยและปลายเหตุ ทั้งมาตรการเวิร์กฟรอมโฮม ขึ้นรถสาธารณะฟรี ย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดถ้าจังหวัดไหนมีการเผา เป็นเพียงมาตรการชะลอเวลา รอให้พ้นฤดูฝุ่นเท่านั้น  เหมือนคนที่เป็นมะเร็ง ให้นั่งสวดมนต์ เพ่งพินิจไปที่บทสวดจะได้ลืมความเจ็บปวด สุดท้ายตาย นี่ไม่ใช่การแก้ปัญหาแบบมืออาชีพ” น.ส.นันทนากล่าว

จากนั้นได้เปิดให้ สว.อภิปรายแสดงความคิดเห็น ซึ่ง สว.ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับญัตตินี้ และต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาโดยด่วน เพราะถือว่ามีผลกระทบต่อประชาชนอย่างมาก ภายหลังการอภิปรายเสร็จสิ้น ที่ประชุมเห็นชอบให้เสนอญัตติและนำความเห็นของสมาชิกส่งให้รัฐบาลดำเนินการ รวมทั้งมอบหมายให้คณะ กมธ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา รับเรื่องนี้ไปพิจารณาด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทบ.เดือดจัด ซัด‘เฮงรัตนา’ จอมลวงโลก

โฆษก ทบ.จี้นานาชาติจับตา “เฮง รัตนา” ผอ. CMAC กัมพูชา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บ่อนทำลายความไว้วางใจและสันติภาพในภูมิภาค ใช้จินตนาการปั้นแต่งเรื่องราวเพื่อหลอกลวงสังคมโลก

‘ราชินี’แรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่

ในหลวงพระราชทานถ้วยรางวัลนักกีฬาเรือใบ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 พระราชินีทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เรือวายุมีคะแนนดีที่สุดในการแข่งขัน

‘อนุทิน’ล่องลงใต้ ขออภัยผมผิดเอง

"อนุทิน" นำคณะ ครม.ลงใต้อีกรอบ เตรียมตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12

พท.ขึงขังซักฟอก อ้างเหตุเพราะมีคนตายปากกล้าขาสั่นท้าไม่กลัวยุบสภา

พรรคเพื่อไทยจะเอาทุกอย่าง ซักฟอกดิสเครดิตรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง บีบพรรคส้มตัดสินใจ เชื่อ "อนุทิน" ไม่ยุบสภา ไม่กระทบรัฐธรรมนูญ "สรวงศ์" ลั่น

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี