ฟุตบอลประเพณี “ธรรมศาสตร์-จุฬาฯ” ครั้งที่ 75 ล้อการเมืองจัดเต็มหลังอัดอั้นมา 5 ปี เหน็บ “รักวัวให้ผูก รักลูกให้เป็นรัฐมนตรี” หุ่น “พิธา-ทักษิณ” วิวาห์ล่ม ปล่อยประชาชนลอยแพ จำลอง “แก้รัฐธรรมนูญ” ถามแก้ชาติไหน บอกกูที ขณะขบวนล้อสังคม ขึ้นป้ายใหญ่ “เวลคัมทูมณฑลไท่กั๋ว”
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 14.00 น. ที่สนามศุภชลาศัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯ ครั้งที่ 75 ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งปีนี้จัดขึ้นหลังจากห่างหายไปนาน 5 ปี มีเป้าหมายเพื่อปลุกจิตวิญญาณการแข่งขัน รวมถึงสร้างความสามัคคี โดยมีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นเจ้าภาพ
โดยเมื่อพิธีเปิดเริ่มขึ้น ได้มีขบวนพาเหรดของทั้ง 2 มหาวิทยาลัย ในช่วงต้นเป็นวงดุริยางค์ ขบวนเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัว ขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวและธรรมจักร ป้ายมหาวิทยาลัย คทากร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อขบวนคัลเลอร์การ์ดของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเข้าสู่สนาม ได้เป็นที่ฮือฮาของสื่อมวลชนและผู้ร่วมงาน เนื่องจากบนธงของคัลเลอร์การ์ดแต่ละคนปรากฏภาพศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงทุกคน อาทิ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม., นางนวลพรรณ ล่ำซำ หรือมาดามแป้ง ยกเว้น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
ขณะที่ขบวนสะท้อนสังคมในปีนี้เน้นไปที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม ที่เพิ่งมีการบังคับใช้เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา รวมถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 และวิจารณ์เสียดสีนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล โดยเขียนป้ายว่า “ชาวบ้านดีใจได้ตั้งหมื่น ฝันหวานชื่นสร้างตัวได้ใช้หนี้ เทคโนโลยีดิจิทัลปลอดภัยดี ความสุขขีส่งตรงสู่ประชา” นอกจากนี้ ยังมีป้ายเขียนว่า "welcome to มณฑลไท่กั๋ว"
ส่วนขบวนพาเหรดล้อการเมือง ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ของงานในทุกปี แบ่งเป็นทั้งหมด 3 คอนเซปต์ ประกอบด้วย 1.หุ่นนิติฯ: พานรัฐธรรมนูญ เป็นพานรัฐธรรมนูญจำลอง ที่ถูกเทปสีเหลืองล้อมรอบคุ้มกันไว้ แม้จะมีคนพยายามรื้อผ้าคลุมออก ก็ถูกห้ามเอาไว้ คอนเซปต์คือ นักการเมืองไม่ฟังเสียงประชาชนในการเรียกร้องให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ ร่างรัฐธรรมนูญจากเสียงประชาชน ถูกปัดตกโดยนักการเมือง ทั้งที่ตอนหาเสียงพูดอีกแบบ
พร้อมด้วยป้ายข้อความกลอน ได้แก่ “ฉีกอยู่นั่น ฉีกหาพ่อมึงหรอ ครั้นจะแก้ ก็จัดกันยกใหญ่ แก้หมวดนี้ เว้นหมวดนั้น ปั่นกันไป จะได้แก้ ชาติไหน บอกกูที", "รัฐธรรมนูญใหม่ใกล้ฉัน เพื่อ (ภูมิใจ) ไทย", "อุ๊งอิ๊ง ช็อกมิ้น พิธา กาแฟส้ม สนธิ?", "ประชามติ อย่าให้มีครั้งที่ 3"
2.หุ่นบริหาร: วิวาห์ข้ามขั้ว โดยเป็นหุ่นจำลองคนที่มีลักณะคล้ายนายทักษิณ ชินวัตร และคล้ายกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คอนเซปต์คือ ล้อข่าวนักการเมืองพรรคเพื่อไทยสมรสกับนักการเมืองจากพรรคประชาชน ซึ่งนายทักษิณและนายพิธามีการจับมือกันในงานมงคลดังกล่าว
พร้อมป้ายข้อความ “มาละเหวย ขบวนขันหมาก เพื่อไทยขอจาก ไปจับมือใหม่ ประชาชนปล่อย ลอยแพทิ้งไป ธิปไตยเป็นหม้าย ไร้ซึ่งอุดมการณ์”, "รักวัวให้ผูก รักลูกให้เป็นรัฐมนตรี พนันเสรี แทงบอลประเพณี 9-0”, "ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ now showing comming soon", "รัฐบาลนี้ ดี (กากบาททับ) ชิบหาย"
3.หุ่นตุลาการ: โกโกวา โดยจำลองฉากจากซีรีส์ชื่อดัง คอนเซปต์คือ นิ่งไว้ ผมเคยผ่านเกมนี้มาก่อน สะท้อนภาพกระบวนการยุติธรรมกับพรรคการเมือง พร้อมป้ายข้อความ "โกโกวา ตุลาการที่อยากได้ ถูกชักใยจองจําให้ชํ้าหมอง ประชาชนคาดหวังเงยหน้ามอง ใครเจ้าของอำนาจยุติธรรม", "จริยธรรมตัดสิทธิ์ ประหารความคิด", "ประเทศนี้ ทุกทั่วทั้งแดนไทย เป็นใหญ่ด้วยอธิปไตยจากใครเล่า ของที่มันหลอกลวงให้มัวเมา ราษฎรอย่าเชื่อเขา จงตื่นเถิด"
ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีร่วมงาน ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนสั้นๆ ว่า ดีใจที่ได้มา และตนจะรีบไปทำกิจกรรมกับลูก
ทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางกลับ พิธีกรได้บรรยายบรรยากาศระหว่างการแข่งขันฟุตบอลที่จังหวะการเล่นล้ำหน้าว่า มองมาจากชั้น 14 ของโรงแรมก็ยังเห็นชัดเลย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทลายบุหรี่ไฟฟ้า เจ้าใหญ่สุดปท. มูลค่า130ล้าน
"นายกฯ อิ๊งค์" โชว์ทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุด ส่งขาย 100 เครือข่ายทั่วประเทศ ยึดของกลาง 2.6 แสนชิ้น
นายกฯปัด‘พ่อ’ครอบงำ คลังสนองไอเดียซื้อหนี้
"อิ๊งค์" รีบแก้เกี้ยว "พ่อ" หวังดีกับประเทศผุดไอเดียซื้อหนี้ประชาชน ปัดครอบงำ
จีนประณามUSข่มเหงไทย โชว์อุยกูร์อยู่บ้านดีกว่าคุก
"จีน" ออกโรงประณาม "สหรัฐ" ข่มเหงรังแกไทย ทำตัวสองมาตรฐาน
ห้ามป่วย-ตายช่วยอิ๊งค์
"นายกฯ อิ๊งค์" รับตื่นเต้นศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรก 24-26 มี.ค.
น้ำเงินคว่ำกระดาน! ถล่ม112‘สิริพรรณ’ไม่เห็นชอบ‘ชาตรี’หึ่งเปิดทางสายมท.
สภาน้ำเงินคว่ำกระดานเลือกตุลาการศาล รธน.ร่วงทั้งคู่! โหวตไม่เห็นชอบ “สิริพรรณ” 136 เสียงต่อ 43 เสียง
อิ๊งค์ฟุ้งผลงาน ทลายแก๊งคอล บิ๊กอ้วนจ่อแจง
นายกฯ ฟุ้งผลงานปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลั่นมาถูกทาง มาตรการ “ตัดน้ำ-ไฟ-อินเทอร์เน็ต”