ลุยถกกาสิโน9เม.ย.ม็อบขยายวง

"อิ๊งค์" ยันไม่รีบดันร่าง “พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” แต่ส่งลูกพรรคชงญัตติเลื่อนวาระถกเรื่องแรก 9 เม.ย. ทำสภาเดือด! "วันนอร์" เท้าสะเอว-ลุกขึ้นยืน หลัง พท.-ปชน.เถียงกันวุ่น ก่อนโหวตสนองรัฐบาล ม็อบมาตามนัด เตือนระวังซ้ำรอยนิรโทษสุดซอย ไม่มีแผ่นดินอยู่ "พปชร." ลั่นพร้อมลงถนนกับ ปชช. ขณะที่อดีต สว.บิ๊กเนมสภาสูง 191 คน รวมถึงเครือข่ายการแพทย์ องค์กรการศึกษาหลายแห่ง ร่อนแถลงการณ์ไม่เอากาสิโน

เมื่อวันที่ 3 เมษายน เวลา 08.10 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ที่กำลังเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องมีการนัดหารือในเรื่องนี้อีกหรือไม่ว่า เรื่องนี้ไม่รีบ ให้เป็นกระบวนการของสภาฯ ไป แต่ว่าในพรรคร่วมรัฐบาลที่คุยกันนั้น คุยกันอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว ถ้ามีในส่วนที่อยากจะปรับหรืออะไรนั้น คุยในรายละเอียดกัน ไม่มีหายไป อัปเดตกันเรื่อยๆ

เมื่อถามว่า ยืนยันจะต้องผ่านสภาฯ ก่อนปิดสมัยประชุมนี้เลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เดี๋ยวให้เขาไปคุยกันก่อนว่าจะอย่างไรได้บ้าง เพราะตอนนี้ยังไม่ได้คุยแบบลงรายละเอียด แต่ได้คุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลในภาพรวม

ส่วนท่าทีของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่ดูเหมือนไม่เห็นด้วยกับร่างนี้ จะเป็นอุปสรรคที่สำคัญหรือไม่นั้น น.ส.แพทองธารถามกลับว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนของ สว.หรือไม่ ผู้สื่อข่าวจึงตอบว่ายัง แต่ สว.มีท่าทีตั้งกำแพงชัดเจน นายกฯ จึงกล่าวว่า ถ้ามีเวลาต้องพูดคุยกัน เพื่ออธิบายในเรื่องที่ยังไม่มีความเข้าใจ ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของ สส.ก่อน

เมื่อถามถึงข้อเสนอให้ไปรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อน นายกฯ กล่าวว่า เรามีรับฟังไปแล้ว 4 ครั้ง ผลออกมาโอเค เดี๋ยวลองดูว่าทำอะไรเพิ่มได้บ้าง

สำหรับการนัดหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลหารือ และได้ยกเลิกไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้มีการนัดหมายใหม่แล้วหรือไม่นั้น น.ส.แพทองธารตอบว่า วันนั้นจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจยกเลิกแบบนั้น แต่เรารีบนัดในคณะรัฐมนตรีว่าหลังจบประชุม ครม.จะประชุมเลย แต่เผอิญเวลาไม่ได้ จึงยกเลิกไป ไม่ได้เกิดประเด็นใหม่อะไร เดี๋ยวจะนัดใหม่อีกครั้งหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า เปิดเผยได้หรือไม่ว่าจะคุยกันเรื่องอะไรนั้น นายกฯ กล่าวว่า ตอนแรกจะคุยเรื่องของเวลาว่าอะไรเป็นอย่างไร แต่ว่าเราไม่ได้รีบ เอาความแม่นยำและเหมาะสมดีกว่า และพยายามจะบริหารทุกทางเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง

ภท.แย้มพร้อมเลื่อนกาสิโน

ด้าน นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า จุดยืนของพรรคภูมิใจไทยต่อร่างกฎหมายดังกล่าวที่เลื่อนเร็วขึ้น เรื่องนี้มีโอกาสได้พูดคุยกับนายกฯ ซึ่งความคิดเห็นเราตรงกัน ถ้าจากวันนี้ถึงวันที่ 9 เม.ย. หากมีสถานการณ์ก่อให้เกิดความกังวล หรือสิ่งที่ต้องการความสนใจจากรัฐบาลมากกว่า นายกฯ สัญญากับตนจะเลื่อนไปอีก อย่างเช่นเรื่องนี้ภัยพิบัติเห็นตรงกันว่าเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า จึงเป็นเหตุให้ ภท. ที่จะโหวตให้ร่างกฎหมายดังกล่าวขึ้นมา ภายใต้ข้อแม้เดียวขึ้นมาคือ ถ้ามีเรื่องอื่นเกิดขึ้น ต้องเลื่อนการพิจารณาร่างกฎหมายออกไปก่อน เพราะเราเห็นตรงกัน เอาเรื่องความปลอดภัยของประชาชนมาก่อน ซึ่งพรรคภูมิใจไทยไม่มีปัญหาเรื่องนี้

ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 31 มี.ค. ถึงวันที่ 2 เม.ย. ตนลาราชการ เนื่องจากไปร่วมเทศกาลออกฮารีรายออีดิลฟิตรีของพี่น้องชาวมุสลิม ทำให้ไม่ทราบว่าร่างกฎหมายดังกล่าวส่งมาที่สภาฯ เมื่อไหร่ แต่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนหนึ่ง ทำหน้าที่อยู่ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวถูกบรรจุในลำดับที่ 15 แต่เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วน จึงทราบว่าคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) อาจจะขยับร่างกฎหมายดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาเป็นลำดับที่ 1 จะได้พิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวได้เร็วที่สุดในวันที่ 9 เม.ย. ทั้งนี้ เข้าใจเจตนารมณ์ของรัฐบาลและวิปว่า อยากจะให้กฎหมายได้เข้าสู่การพิจารณาในวาระแรกก่อนปิดสมัยประชุม และจะได้ใช้เวลาในช่วงปิดสมัยประชุม 1 เดือน ในการพิจารณาศึกษาในชั้นของคณะกรรมาธิการ

เมื่อถามว่าในการพิจารณาวันที่ 9 เม.ย. อาจมีผู้ไม่เห็นด้วยมาชุมนุมจะมีมาตรการรองรับอย่างไร นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ญัตติหรือกฎหมายต่างๆ จะมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย สภาฯ ต้องเปิดโอกาสให้สมาชิกให้อภิปรายเต็มที่ แต่เรื่องความสงบเรียบร้อย ทางสภาฯ ต้องดูแล คือไม่ให้เกิดความไม่เรียบร้อยเกิดขึ้น และต้องเปิดโอกาสให้สมาชิกได้อภิปรายทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอย่างอิสรเสรี ไม่มีอะไรมากดดัน เพื่อให้สมาชิกเกิดความไม่สบายใจว่าไม่ปลอดภัย ก็คงไม่ดี ดังนั้นบรรยากาศภายในสภาฯ ต้องเหมือนปกติ แต่หากข้างนอกจะมีการมาแสดงออกว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ขอให้แสดงออกอย่างสงบ

สภาฯ อ้าแขนรับม็อบ

 “ทางสภาฯ ยินดีอำนวยความสะดวกให้ ทั้งเรื่องน้ำเรื่องท่า และเรื่องอื่นๆ รวมถึงหากต้องการจะให้ถ่ายทอดเสียงผ่านจอโทรทัศน์ก็ยินดีอำนวยความสะดวกให้ เพื่อคนที่มาอยากจะแสดงความเห็น เราก็เปิดเสรี แต่บรรยากาศภายในห้องประชุมรอบๆ สภาฯ ต้องให้ สส.ได้แสดงความเห็นโดยอิสรเสรี โดยไม่มีการกดดัน” ประธานสภาฯ ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพิจารณาไม่ทันในวันที่ 9 เม.ย. จะมีการขอเปิดสมัยประชุมวิสามัญเพื่อพิจารณาหรือไม่ ประธานสภาฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับรัฐบาล หากเห็นว่ามีความจำเป็นอาจขอเปิดสมัยประชุมสภาวิสามัญ

จากนั้นเวลา 13.40 น. ในการประชุมสภาฯ ที่มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯ คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน ได้ลุกขึ้นเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องขอให้สภาฯ พิจารณามาตรการในการจัดการผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวอย่างเป็นระบบ โดยมีผู้รับรองถูกต้อง

ก่อนที่ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นเสนอญัตติเปลี่ยนระเบียบวาระการประชุม โดยขอนำเรื่องร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ที่ ครม.เป็นผู้เสนอ ตามระเบียบวาระการประชุม เรื่องด่วนที่ 15 และร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข รวมถึงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง โดยให้มีผลในการประชุมครั้งถัดไป จากนั้น นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคประชาชน ลุกขึ้นประท้วงที่พรรคเพื่อไทยเสนอญัตติแทรกเข้ามา

นายภราดรจึงชี้แจงว่า ตามข้อบังคับข้อที่ 54 ญัตติแบบนี้ไม่ต้องเสนอล่วงหน้า ทั้งนายณัฐพงษ์และนายอนุสรณ์ได้ทำตามข้อบังคับ เมื่อมี 2 ญัตติขอให้พูดคุยหารือกันก่อนได้หรือไม่ นายชุติพงศ์จึงลุกขึ้นหารือว่า ญัตติที่ 1 และ 2 เป็นคนละลักษณะกัน ซึ่งญัตติเรื่องแผ่นดินไหวทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านให้ความสนใจ คำถามคือ ทำไมต้องมีความพยายามเร่งรัดเอาเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ขึ้นมา ฉะนั้น จะเป็นการเสนอญัตติซ้อนญัตติหรือไม่ ประธานอาจจะต้องวินิจฉัย หากวินิจฉัยว่าเป็นการเสนอญัตติโดยชอบแล้วจะพิจารณาอย่างไร 

ระหว่างนี้ สส.จากฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลต่างลุกขึ้นมาถกเถียงเรื่องญัตติทั้ง 2 โดยฝ่ายค้านยืนยันว่าจะให้มีการพิจารณาญัตติเรื่องแผ่นดินไหวก่อน ขณะที่ฝ่ายรัฐบาล เช่น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมที่จะเสนอญัตติเกี่ยวกับความเสียหายจากแผ่นดินไหวเช่นกัน และอาจจะต้องมีการพิจารณากันยาวนาน แต่ญัตติที่นายอนุสรณ์เสนอ เป็นการเสนอเพื่อพิจารณาครั้งถัดไป ไม่ใช่เลื่อนขึ้นมาพิจารณาวันนี้ ฉะนั้น จึงอยากให้ความเห็นชอบญัตติเลื่อนระเบียบวาระก่อน

ต่อมานายภราดรสรุปว่า ตอนนี้มี 2 ทางเลือก คือลงมติระหว่าง 2 ญัตติหรือพิจารณาตามญัตติก่อนหลัง คือของนายณัฐพงษ์ก่อน และค่อยพิจารณาญัตติของนายอนุสรณ์ ฉะนั้น ขอพักการประชุม 10 นาที เพื่อให้สมาชิกพูดคุยกัน

ประธานวันนอร์เดือด

จากนั้นเวลา 14.45 น. เปิดการประชุมอีกครั้ง หลังพักการประชุมประมาณ 30 นาที โดยนายวันมูหะมัดนอร์ทำหน้าที่ประธานการประชุม ซึ่งยังมีการถกเถียงกันต่อ จนนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ลุกขึ้นพยายามที่จะเสนอทางเลือก และนายวันมูหะมัดนอร์ปิดไมค์ของนายพริษฐ์ แต่นายพริษฐ์พยายามที่จะพูดต่อ ทำให้มีเสียงโห่ดังกึกก้องทั่วห้องประชุม นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวด้วยเสียงดุดันว่า "ไม่เอาแล้วครับ คุณพริษฐ์นั่งลงครับ ผมจะขอมติ" 

ทำให้ฝ่ายค้านลุกขึ้นประท้วงไม่พอใจการทำหน้าที่ของนายวันมูหะมัดนอร์ โดยประธานสภาฯ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดุดันและอารมณ์ฉุนเฉียว พร้อมกับเท้าสะเอวว่า "คุณประท้วงผมเรื่องอะไร ผมทำผิดข้อบังคับข้อไหน เอาเลยๆ มาบอกเลย ขอฟังคุณปกรณ์วุฒิหน่อย" ทำให้นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า หากสังเกตท่านประธานจะให้สิทธิ์สมาชิกฝั่งรัฐบาล 2-3 คน ก่อนที่จะให้ฝ่ายค้านแค่ 1 คน และไม่ให้สิทธิ์นายพริษฐ์ชี้แจงทั้งที่ถูกกล่าวหา 

นายวันมูหะมัดนอร์จึงกล่าวว่า หากจะบอกว่าตนผิดขออภัย แต่ สส.ของพรรคประชาชนยังคงประท้วงการทำหน้าที่ของประธานอย่างต่อเนื่อง จนทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ต้องลุกขึ้นยืนเพื่อสงบความขัดแย้งในห้องประชุม พร้อมกับเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาเข้ามาควบคุมความสงบ 

 จากนั้นเวลา 15.21 น. ที่ประชุมลงมติเห็นด้วยกับการนำญัตติแผ่นดินไหวมาพิจารณาก่อนหรือไม่ เห็นด้วย 144 เสียง ไม่เห็นด้วย 252 เสียง งด 2 เสียง ไม่ลงคะแนน 3 เสียง ถือว่าควรจะนำญัตติของนายอนุสรณ์​ คือเลื่อนวาระขึ้นมาพิจารณาก่อน แล้วจะนำญัตติแผ่นดินไหวของนายณัฐพงษ์ขึ้นมาพิจารณาต่อ แต่ปรากฏว่าฝ่ายค้านไม่ยอม ที่ประชุมยังคงถกเถียงในการเลื่อนลำดับวาระอย่างต่อเนื่อง ก่อนประธานสภาฯ จะใช้การโหวตเพื่อตัดสิน โดยมติเสียงข้างมาก 249 เสียง ไม่เห็นด้วย 137 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ถือว่ามติที่ประชุมเห็นชอบให้เลื่อนระเบียบวาระตามที่นายอนุสรณ์เสนอ โดยในการประชุมครั้งถัดไป เลื่อนร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ....เป็นลำดับแรก

ผู้สื่อข่าวรายงานตั้งแต่ช่วงเช้าว่า เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.), ศปปส., กองทัพธรรม นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี เดินทางมาชุมนุมบริเวณข้างรัฐสภาฝั่งวัดแก้วฟ้า เพื่อคัดค้านร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีการชูป้ายคัดค้านร่างดังกล่าวมากมาย

จากนั้น สส.พรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายชัยมงคล ไชยรบ รองหัวหน้าพรรค เดินทางมาให้กำลังใจกลุ่มมวลชนที่ชุมนุม พร้อมยืนยันว่าจะต่อสู้คัดค้านอย่างเต็มที่ทั้งในและนอกสภาฯ เพราะจุดยืนพลังประชารัฐจะยืนอยู่เคียงข้างประชาชนเราไม่เอากาสิโน

ระวังซ้ำรอยนิรโทษสุดซอย

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ปราศรัยว่า "อยากบอกนายวันมูหะมัดนอร์ นายกฯ อุ๊งอิ๊ง พูดจากหัวใจเลยว่า ประชาชนไม่ต้องการจัดม็อบ ประชาชนเหนื่อย ประชาชนเบื่อ แต่เพราะพวกคุณบังคับให้ประชาชนต้องออกมา หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวตึกถล่ม ยังเสนอกฎหมายที่ทำร้ายจิตใจประชาชนนั้น ผมอยากจะบอกว่า ประวัติศาสตร์ปรารภคุณไว้แล้ว อย่าง พ.ร.บ.นิรโทษสุดซอย จุดจบคือหนี และไม่มีแผ่นดินอยู่ จึงเชื่อว่าจุดจบจะไม่ต่างจากเดิม นั่นคือหนี และไม่มีแผ่นดินอยู่ เรื่องนี้คุ้มค่าที่ไหนกับความสูญเสียของประเทศชาติ” ต่อมานายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ เป็นตัวแทนไปรับหนังสือจากกลุ่มผู้ชุมนุม

ทั้งนี้ นายพิชิตได้แจ้งกับผู้ชุมนุมว่า ในวันที่มีการประชุมร่างกฏหมายดังกล่าว เราต้องมาจับตามองกันอีก โดยวันที่ 8 เม.ย.มีการประชุม ครม.จะไปส่งเสียงให้ ครม. และวันที่ 9 เม.ย. ที่มีการประชุมสภาฯ จะมาชุมนุมกันอีก และประกาศยุติการชุมนุมในประเวลาประมาณ 13.00 น.

วันเดียวกันนี้มีการออกคำแถลงของอดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 191 คน ที่ร่วมกันลงชื่อทำหนังสือเปิดผนึกคัดค้านการเดินหน้าออกร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งมีอดีตประธานวุฒิสภา 3 คน ร่วมลงชื่อด้วย ได้แก่ พลตรีมนูญกฤต รูปขจร อดีตประธานวุฒิสภา ชุดปี 2543 พลเอกธีรเดช มีเพียร อดีตประธานวุฒิสภา ชุด 2554 และ ศ.พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย อดีตประธานวุฒิสภาชุด 2562

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มนักวิชาการหลายกลุ่มออกแถลงการณ์คัดค้าน อาทิ กลุ่มเพื่อนมหิดลเพื่อสังคม จำนวน 156 คน อันประกอบด้วยสมาชิกหลากวิชาชีพด้านการแพทย์และสาธาธารณสุขที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดลหรือเกี่ยวข้อง, ชมรมแพทย์อาวุโสและบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งร่วมลงชื่อมากกว่า 60 คน อาทิ ศ.พญ.สุวรรณา เรือนกาญจนเศรษฐ์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี, สภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย.