ต้านกาสิโนกระหึ่ม! ‘หมอ-พระ-เทคโนแครต’พาเหรดยี้/พท.บีบพรรคร่วมลุยไฟ

เลขาฯ พท.มั่นใจพรรคร่วมรัฐบาลโหวตหนุนร่าง กม.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์  ฝ่ากระแสต้าน ลั่นร่วมรัฐบาลกันแล้วต้องไปด้วยกัน "ประธานวิปฯ" ขู่ฝ่ายค้านหากตีรวนจะใช้มติที่ประชุมแก้ปัญหา เหน็บฝ่ายต่อต้านเป็นคนหน้าเดิมๆ "หัวหน้าเท้ง" เตรียม "สส.ปชน." ชำแหละไว้แล้ว ยันไม่อยากให้ซ้่ำรอยอดีต แต่ รบ.ไม่ฟังเสียง  ปชช. ทำให้อารมณ์โกรธยิ่งสูงขึ้น กลุ่มนักวิชาการ-องค์กรทางสังคมประสานเสียง ร่อนแถลงการณ์ต้านเปิดบ่อนกาสิโน เรียกร้องทำประชามติ อดีต ส.ส.ร.50 ชี้ขัด รธน. "หมอตุลย์" ปลุกมวลชนแสดงพลังหน้ารัฐสภา 9 เม.ย.

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะยังคงพิจารณาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 9 เม.ย.นี้อยู่หรือไม่    ท่ามกลางเสียงค้านในสังคม ว่าขอทำความเข้าใจก่อนว่าร่าง พ.ร.บ.นี้อย่าเรียกว่ากฎหมายกาสิโน  เลิกทำให้ประชาชนรู้สึกเป็นลบเสียที ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีเวลาทำความเข้าใจ และสิ่งที่เราทำอยู่ตอนนี้คือช่วงเวลาของการศึกษา ดังนั้นการที่จะศึกษาได้กฎหมายต้องเอื้อด้วย เราจึงยังไม่ฟันว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเกิดขึ้นหรือไม่ การจะทำอะไรก็แล้วแต่ มั่นใจว่าทุกภาคส่วนหวังดีกับประเทศทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่สนับสนุนหรือต่อต้าน แต่ต้องเปิดโอกาสให้พวกเราได้ชี้แจงหรือพูดคุยกันบ้าง

เมื่อถามว่า ในชั้นรับหลักการ พรรคร่วมรัฐบาลเห็นไปในทางเดียวกันหรือไม่ เลขาธิการพรรค พท.กล่าวว่า เท่าที่คุยก็โอเค เพราะเราทำความเข้าใจกันแล้วว่าตรงนี้เป็นช่วงของการศึกษาจริงๆ ในเรื่องของกฎหมายหรืออะไรต่างๆ ที่จะมารองรับ เพราะเราคุยกันบนพื้นฐานของเหตุผล

เมื่อถามย้ำว่า พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคจะโหวตเห็นด้วยกับร่างกฎหมายนี้หรือไม่ นายสรวงศ์ระบุว่า ในเมื่อร่วมรัฐบาลแล้วเราคุยกันว่าก็ต้องไปด้วยกัน ความคิดเห็นต้องไปด้วยกัน คิดว่าพรรคมีจุดยืน แต่ในเมื่อมาร่วมรัฐบาลกันแล้วและทำนโยบายร่วมกันแล้ว คิดว่าทุกพรรคการเมืองต้องไปด้วยกัน หัวหน้าทุกพรรคคุยกันอยู่

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวว่า ทุกอย่างดำเนินไปตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างถูกต้อง โปร่งใส และรอบคอบ ไม่ได้มีการเร่งรัดหรือผลักดันโดยข้ามขั้นตอนตามที่บางฝ่ายพยายามสร้างความเข้าใจผิด การตรากฎหมายจำเป็นต้องผ่าน 3 วาระ ตั้ง กมธ. และผ่านการพิจารณาของวุฒิสภา โดยคาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6-8 เดือน รัฐบาลยึดหลักการมีส่วนร่วม เปิดกว้างรับฟังทุกความเห็น ร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภา อยู่บนพื้นฐานของประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก ไม่ใช่เพื่อเอื้อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่ใช่เพียงการจัดตั้งกาสิโนอย่างที่บางกลุ่มลดทอนให้เข้าใจผิด แต่เป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจใหม่ ไม่ใช่แค่ตั้งกาสิโนอย่างที่บางพรรคพยายามชี้นำ

นายอนุสรณ์กล่าวว่า ที่ฝ่ายค้านมองว่า พท.จะใช้ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่จะพิจารณาต่อจาก พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มาบีบพรรคประชาชน (ปชน.) นั้น ไม่เป็นความจริง ไม่มีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้น ร่างกฎหมายทุกฉบับที่ประเทศชาติและประชาชนได้ประโยชน์มีความสำคัญ รัฐบาลต้องการผลักดันให้สำเร็จโดยชอบในทุกกฎหมาย

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ในวันที่ 9 เม.ย. เราจะเดินหน้าพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวแน่นอน แต่ยืนยันว่าไม่ได้เร่งรีบ ซึ่งจะต้องมีการนำเหตุผลมาคุยกันในสภา เป็นที่ตัดสินปัญหา แต่จะพิจารณาจบภายในวันเดียวหรือไม่ยังไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่อยากให้พิจารณาจบภายในวันเดียว เพราะหากมีการอภิปรายยืดเยื้อวนเวียนไปมา ก็ต้องใช้มติที่ประชุมแก้ปัญหา

ขู่ฝ่ายค้านอย่าตีรวน

เมื่อถามว่า คาดว่าการประชุมวันที่ 9 เม.ย. จะมีเหตุวุ่นวายในห้องประชุมเหมือนสัปดาห์ก่อนที่มีการถกเถียงกันระหว่างการเสนอญัตติด่วนเรื่องแผ่นดินไหวและการเสนอเลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรอีกหรือไม่  นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าจะมีการตีรวน และไม่อยากให้เกิดเหตุวุ่นวายเหมือนรอบที่แล้ว ฉะนั้นต้องใช้เวทีสภาแก้ปัญหา ฝ่ายค้านอาจอภิปรายด้วยเหตุผลก็ได้

ส่วนกระแสต่อต้านร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่ดูเหมือนจะมีมากขึ้น นายวิสุทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมรับฟังความเห็นทุกกลุ่ม ซึ่งก็อยากให้ใช้เวทีสภาแก้ปัญหา และกรณีม็อบต่อต้านก็เป็นคนหน้าเดิมๆ ต่อให้รัฐบาลไม่ได้ทำอะไรก็ไล่รัฐบาลยู่แล้ว        

นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พท. และรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า วิปรัฐบาลนัดประชุมกันในช่วงเช้าวันพุธที่ 9 เม.ย. เพื่อคุยกันเรื่องการโหวตร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร กับร่าง พ.ร.บ.นิโทษกรรม ที่เสนอเข้าสภามา 4 ฉบับ ยืนยันว่าวันที่ 9 เม.ย.นี้ จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับแน่นอน

เมื่อถามว่า หากในวันที่ 9 เม.ย. มีกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านการเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรจำนวนมากจะทำอย่างไร รองประธานวิปรัฐบาลกล่าวว่า “ก็ขอดูหน้างานวันนั้นก่อน”

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษก พท. กล่าวว่า นักเคลื่อนไหวที่ออกมาคัดค้านล้วนเป็นกลุ่มคนหน้าเดิม บางกลุ่มเคยมีส่วนร่วมในการสนับสนุนม็อบ เคลื่อนไหวโจมตีมาตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน มีความคิดต่อต้านรัฐบาลเพื่อไทย ขณะที่รัฐสภากำลังจะมีการพิจารณากฎหมายการประกอบสถานบันเทิงครบวงจรวาระแรกวันที่ 9 เมษายน เชื่อว่าจะได้รับเสียงส่วนใหญ่จากรัฐสภาสนับสนุนกฎหมายฉบับนี้แน่นอน

ด้านนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เลขาธิการพรรคกล้าธรรม (กธ.) ในฐานะอดีตรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) กล่าวว่า สส.ในสภาทุกคนไม่มีใครอยากจะให้เปิดบ่อนมามอมเมาคนไทย แต่ทุกคนพูดว่าอยากให้นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศ ตนไม่ได้ว่าคนต่อต้านหรือคนที่เห็นด้วย ทุกคนมีสิทธิ์กังวลใจ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือเราต้องทำกฎหมายให้ชัดเจนและครอบคลุมก่อนที่จะมีการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร ไม่ใช่เปิดก่อนแล้วค่อยมาออกกฎหมาย ขอวิงวอนทุกภาคส่วนที่วันนี้ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน อย่าเพิ่งกดดันกัน ขอให้เรื่องนี้ถูกพิจารณาในที่ประชุมสภาก่อน เพราะเรายังมีเวลาพูดคุยกันอีกมาก

ขณะที่ นายปรีดา บุญเพลิง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม กล่าวว่า พรรค กธ.จะมีการประชุม สส.พรรคในวันที่ 9 เม.ย. เวลา 15.00 น. หารือเรื่องการประชุมสภาที่จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรและร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ตนกับ สส.หลายคนได้ร่วมกันลงชื่อเสนอเข้าสภาสมัยที่ยังอยู่พรรครูไทยฯ ก่อนมาอยู่กับพรรคกล้าธรรม ส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วยกับการเสนอร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่จะให้มีการเปิดกาสิโน เพราะเคยเป็นครูมาก่อน เคยสอนเด็กว่าการพนันเป็นสิ่งไม่ดี และก็ยังเป็นเรื่องของหลักศาสนา ตอนนี้ก็มีม็อบ มีกระแสไม่เห็นด้วยเข้ามามาก แต่ก็คงต้องหารือกันในพรรคกล้าธรรมอังคารนี้ว่าจะเอาอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับมติพรรค ไม่ใช่ว่าร่วมรัฐบาลแล้วต้องโหวตตลอด มันเป็นเอกสิทธิ์ สส.ในการตัดสินใจ

ปชน.เตรียมขุนพลชำแหละ

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การประชุมสภาวันที่ 9 เม.ย. พรรค ปชน.ได้มีการจัดเตรียม สส.ไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลมีความรีบเร่งเกินความจำเป็น ทั้งที่เรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบในวงกว้างต่อสังคม จึงอยากให้รัฐบาลเปิดโอกาสในการพูดคุยให้มากขึ้น ในฐานะฝ่ายค้านที่ถือเสียงข้างน้อย หากรัฐบาลจะผลักดันให้ร่างกฎหมายผ่านวาระแรกโดยเสียงข้างมาก ก็สามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว และพรรค ปชน.ไม่ได้ขัดขวางกระบวนการดังกล่าว เพียงแต่เห็นว่าการเลื่อนระเบียบวาระร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของรัฐบาลเพื่อให้แซงหน้ากฎหมายฉบับอื่นๆ ที่มีความสำคัญไม่แพ้กันนั้น สะท้อนได้ชัดว่ารัฐบาลมีเหตุผลเบื้องหลังในการเร่งรับผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้

ส่วนกรณีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ปธ.วิปรัฐบาล เตือนฝ่ายค้านอย่าเล่นการเมืองในสภามาก เพราะประชาชนจะเบื่อและทหารจะออกมา นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ตนก็ไม่อยากให้รัฐบาลมองฝ่ายค้านเล่นเกมการเมือง ฝ่ายค้านก็ย้ำมาตลอดว่าต้องการให้กระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายตรงไปตรงมาตามระเบียบวาระ ตามลำดับ และไม่ได้บิดเบือนหรือโจมตีทางการเมือง มีเพียงฝ่ายรัฐบาลมากกว่า ที่พยายามโยนกลับมาฝ่ายค้านว่าเล่นเกมการเมือง เพราะประชาชนกำลังจับตาอยู่ และคิดว่าประชาชนจะสามารถตัดสินได้ดีที่สุด

ส่วนมองร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเป็นจุดจบของรัฐบาลซ้ำรอยร่างกฎหมายนิรโทษกรรมเหมือนในอดีตหรือไม่ นายณัฐพงษ์มองว่า จะต้องรอดูต่อไป เพราะหากรัฐบาลขาดความชอบธรรมมากๆ หรือดำเนินการสิ่งใดโดยไม่ฟังเสียงประชาชน อารมณ์ความโกรธของสังคมก็น่าจะยิ่งสูงขึ้น ดังนั้นรัฐบาลจะดำเนินการใดต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง เพราะตนก็ไม่อยากให้ภาพการเมืองไทยกลับไปซ้ำรอยอดีต  

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช  กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลได้ฟังเสียงสะท้อนของประชาชนด้วย ถ้าจะวัดกันด้วยจำนวนมือใน สส.ก็จะไม่เป็นธรรมกับกฎหมายฉบับนี้ ถ้าหากรัฐบาลต้องการรู้ว่าเสียงส่วนใหญ่ของคนไทยทั้งประเทศคิดอย่างไร ก็ควรทำประชามติ จะได้ข้อยุติอย่างเบ็ดเสร็จ ไม่ต้องมีการถกเถียงกันอีกต่อไป

วันเดียวกัน นักวิชาการและกลุ่มองค์กรต่างๆ  ทางสังคม ออกแถลงการณ์คัดค้านอย่างกว้างขวาง โดยกลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ที่เคยเคลื่อนไหวล่ารายชื่อนักวิชาการ-นักเศรษฐศาสตร์ คัดค้านการที่ฝ่ายการเมืองส่งชื่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ และอดีตทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ไปเป็นประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย มีนายวิชาญ ฤทธิ์วิชัย เป็นตัวแทน ได้ทำจดหมายเปิดผนึกคัดค้านร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ถึงประธานสภาฯ และหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค เนื่องจากเป็นการละเมิดหลักสัญญาประชาคมด้วยเหตุว่า พรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลไม่มีพรรคใดหาเสียงต่อประชาชนในการเลือกตั้งที่ผ่านมา รัฐบาลสมควรจัดทำประชามติเพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ

อดีต สส.เตือนขัด รธน.

อาจารย์และนักวิชาการคณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ จำนวน 30 คน อาทิ รศ.ดร.สุกัญญา นิธังกร, รศ.วันรักษ์ มิ่งมณีนาคิน, รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง, ศ.ดร.ปราณี ทินกร ออกแถลงการณ์ระบุว่า ผลได้ทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลกล่าวอ้างอย่างเลื่อนลอยไม่อาจหักล้างผลเสียที่จะเกิดกับสังคมในวงกว้างและยาวนานอย่างแน่นอน และจะเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจที่ไม่ยั่งยืน หากรัฐบาลยังดื้อดึงผลักดันให้มีบ่อนกาสิโนพนันออนไลน์ จะถือว่ารัฐบาลนี้มุ่งมั่นทำลายประเทศและสังคมไทย ซึ่งไม่ควรให้เป็นผู้ปกครองประเทศอีกต่อไป

ชมรมสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) 2550 นำโดย ศ.พิเศษจรัญ ภักดีธนากุล ทำหนังสือถึงประธานรัฐสภาและสมาชิกรัฐสภา เรียกร้องสมาชิกรัฐสภาไม่รับหลักการของร่าง พ.ร.บ.การประกอบการธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร โดยระบุว่า ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะเร่งรีบพิจารณา เพราะไม่ปรากฏในนโยบายการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 65 พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ของชาติ พ.ศ.2560 และประกาศพระบรมราชโองการเรื่อง ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ลงวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ.2561 ในส่วนสำคัญคือ วิสัยทัศน์ของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ระบุว่า “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง”

"จะส่งผลให้บรรดาผู้กระทำต้องตกเป็นผู้กระทำการใช้อำนาจอธิปไตยอันไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และอาจต้องรับผลจากการกระทำของตนด้วยบทบัญญัติอันเกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญ"

กลุ่มแพทย์จุฬาอาวุโสรุ่น 27 จำนวน 37 คน นำโดย พล.อ.ต.นพ.ธนา ปุกหุต (ประธานรุ่น) ร่วมกันลงชื่อออกแถลงการณ์คัดค้านการเปิดบ่อนกาสิโนเสรีและการพนันออนไลน์ในประเทศไทยอย่างถึงที่สุด

ศิษย์เก่าแพทย์จุฬาฯ รุ่น 34 จำนวน 27 คน นำโดย ผศ.พญ.สุวิรากร โอภาสวงศ์ ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนไม่สนับสนุนการดำเนินการทางกฎหมายเพื่อให้มีการเปิดบ่อนการพนันหรือกาสิโนในประเทศไทย

เสียงจากแพทย์เชียงใหม่รุ่น 15  (พศ.2515-2521)  27 คน อาทิ นพ.พิษณุ ขันติพงษ์, นพ.สกล ภูมิรัตนประพิณ ออกแถลงการณ์ขอคัดค้านนโยบายการมี entertainment complex อย่างที่สุด         

นายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยฯ นำโดยนางศุลีมาศ สุทธิสัมพัทน์ นายกพุทธสมาคมฯ ออกแถลงการณ์คัดค้านฯ ระบุว่า การมี Entertainment Complex (EC) จะเป็นการให้วิสัยทัศน์ที่เบี่ยงเบนต่อลูกหลานของท่านนายกรัฐมนตรีให้เข้าใจผิดว่า ปัจจัย 4 ไม่สําคัญ และเห็นว่ากิจการ EC ซึ่งขัดต่อศีลธรรม และมีผลเสียต่อคุณธรรมนั้น เป็นเรื่องดี แต่ในหลักพระพุทธธรรม EC คือหนทางแห่งความเสื่อม คือ อบายมุข ไม่ควรจะเกิดในแผ่นดิน ไทยที่มีพระพุทธธรรม 

นิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่น 22 นำโดยนายปรีชา บุตรศรี และนายนันทิวัฒน์  สามารถ ออกแถลงการณ์ขอให้ได้เพิกถอนหรือยกเลิกการออกกฎหมายที่จะก่อผลร้ายต่อชาติและประชาชนที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมสภาในเร็ววันนี้ ก่อนที่จะสายเกินกาล และจะก่อปัญหาความวุ่นวายบ้านเมืองตามมา

นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เผยแพร่บทความ ระบุว่า... #Save ประเทศไทย อย่าให้ประเทศไทยล่มสลายในรุ่นเรา ประกาศเชิญชวนทุกคน ทุกองค์กร ที่มีเจตจำนงแรงกล้าที่ #Save ประเทศไทย มาร่วมกันแสดงตนคัดค้าน พ.ร.บ.จัดตั้งกาสิโนที่หน้าสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 9 เมษายน 2568 เวลา 09.00 น. เพื่อให้การคัดค้านครั้งนี้สัมฤทธิผล เราคงต้องสละเวลา และแรงกาย แรงใจ ฝ่าเปลวร้อน มาที่หน้าสภาฯ ให้มืดฟ้ามัวดิน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.