‘สทร.’สั่งดันกาสิโน ขู่พรรคร่วมฯไม่โหวตถูกเขี่ยทิ้ง/‘พ่อ2สส.ภท.’แนะถอนตัว

สะพัด! พ่อนายกฯ ขู่พรรคร่วมรัฐบาล หากไม่โหวตกาสิโนถูกเขี่ยทิ้ง “สรวงศ์” เต้นบอกไม่มี อย่าโยง “ทักษิณ” เดือดพูดลอยๆ ไร้หลักฐาน แต่กรรมมาตกที่ พท. ลั่นคุยพรรคร่วมเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะประชาชาติ "สว." เตรียมผ่าทางตัน ชงที่ประชุมวุฒิสภาเสนอทำประชามติดับไฟ อึ้ง! โต้งฟอกขาวกาสิโน บอกพวกต้านเพราะอยากคุ้มครองบ่อนเถื่อน “พิชิต” ดีดปากสมองสิ้นคิด หลายภาคส่วนขยับคัดค้านต่อเนื่อง ทั้ง "อดีต สปช.-หมอ-อดีตนักศึกษา-สถาบันเครือจุฬาราชมนตรี" เตือนหากไม่หยุดระวังเป็นทรราช ซ้ำรอยนิรโทษกรรมสุดซอย

เมื่อวันจันทร์ที่ 7 เมษายน 2568 ยังคงมีความต่อเนื่องในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่จะเกิดขึ้นในวันพุธที่ 9 เม.ย.นี้ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

โดยล่าสุด มีรายงานว่าเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กำชับไปที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลให้โหวตรับหลักการในวาระแรกร่างกฎหมายดังกล่าว หากพรรคไหนแตกแถวจะพิจารณาขับออกจากรัฐบาลทันที     

ทั้งนี้ หลังมีคำสั่งดังกล่าวต้องจับตาไปที่พรรคร่วมรัฐบาลจะโหวตอย่างพร้อมเพรียงหรือไม่ โดยเฉพาะพรรคประชาชาติ (ปช.) ที่มี สส. 9 คน ซึ่ง 8 คนเป็นชาวมุสลิม มีเพียง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคที่เป็นชาวพุทธ โดยการพนันนั้นขัดต่อหลักศาสนา และเมื่อวันที่ 27 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ พ.ต.อ.ทวีก็ไม่ได้เข้าร่วม โดยระบุว่าติดภารกิจล่วงหน้า และ พ.ต.อ.ทวียังไม่นำเรื่องกฎหมายดังกล่าวมาพูดคุยกับ สส.ทั้ง 8 คนแต่อย่างใด ขณะที่เมื่อวันที่ 5 เม.ย. นายซูการ์โน มะทา สส.ยะลา พรรค ปช. ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงการแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยของ พ.ต.อ.ทวีต่อ ครม. พร้อมโพสต์หนังสือของ พ.ต.อ.ทวีที่แจ้งต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 ม.ค.เกี่ยวกับข้อสังเกตต่างๆ ทั้งอาชญากรรม, ผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน, การทุจริต และความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจจริงหรือไม่ โดยเห็นควรให้ไปศึกษาเพิ่มเติมว่าจะไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ

และเมื่อวันที่ 1 เม.ย. พ.ต.อ.ทวีได้ทำหนังสือถึงนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เรื่องความเห็นร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... เช่นกัน โดยเฉพาะหลักการที่ต้องห้ามอย่างชัดเจนในด้านศาสนาและวัฒนธรรม

ขณะที่นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรค พท. กล่าวถึงคำสั่งนายทักษิณให้โหวตเห็นชอบเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์  หากพรรคไหนแตกแถวจะพิจารณาให้ออกจากการร่วมรัฐบาลว่า เดี๋ยวนี้ใครก็บอกได้ว่าเป็นแหล่งข่าว การพูดเช่นนี้ใครก็พูดลอยๆ ได้ และความเสียหายก็เกิดขึ้นกับพรรค พท. ซึ่งถามว่ามีหลักฐานอะไร และไม่มีความเป็นธรรมให้พวกตนเลยในฐานะพรรคการเมือง เมื่อมีข่าวออกมาก็ต้องมานั่งแก้ข่าวกัน ซึ่งไม่โอเค

อย่าโยงนายใหญ่

 “เอาตามที่สบายใจ เพราะพวกผมทำอะไรไม่ได้ หลังจากที่มีข่าวออกมาแล้ว พวกเราก็ต้องมานั่งแก้ข่าวว่าไม่ใช่ความจริง ส่วนคนจะเชื่อหรือไม่เชื่อในส่วนนี้พวกผมก็ไปห้ามไม่ได้ ฉะนั้นเวลาที่มีการบอกว่าแหล่งข่าวรายงานว่า  ถามว่าแหล่งข่าวไหน แบบนี้พวกผมก็บอกว่าแหล่งข่าวรายงานว่าพวกผมคุยกับฝ่ายค้านเรียบร้อยแล้วได้ แต่ความจริงเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ จึงบอกว่าการทำการเมืองเช่นนี้มันย้อนกลับไป อยู่ดีๆ คิดจะพูดอะไรก็พูดได้ มันไม่ถูก แหล่งข่าวที่ว่าหาตัวให้ผมหน่อย ผมจะได้เอามายืนยัน เพราะมั่นใจว่าท่านทักษิณไม่ได้ไปให้สัมภาษณ์ที่ไหน แต่เมื่อข่าวออกมาเช่นนี้คนที่เจ็บก็คือพวกผม” นายสรวงศ์กล่าว

เมื่อถามว่า ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาลจะต้องมีการพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจกับพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นหรือไม่ เพราะเหมือนพรรค ปช.ก็กังวลเรื่องดังกล่าว นายสรวงศ์ กล่าวว่า เรื่องที่พรรค ปช.มีความกังวลเราทราบอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องปกติเพราะเขาเป็นพรรคที่มีฐานอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสมาชิกในพรรคส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมเป็นอิสลาม แต่ทั้งหมดก็คือกฎหมาย ทุกอย่างสามารถทำความเข้าใจกันได้

 “วิปรัฐบาลได้พูดคุยกันแล้ว อย่าเอานายทักษิณเข้ามาเกี่ยว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ก็ได้เชิญพรรคร่วมรัฐบาลเข้ามาพูดคุยกันแล้ว เมื่อมีข่าวออกมาว่านายทักษิณประกาศว่า หากใครไม่เห็นด้วยจะขับออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ถามว่าหลักฐานอยู่ไหน ไม่มีใครมาพูดเช่นนี้อยู่แล้ว”นายสรวงศ์ระบุ

ด้าน น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. กล่าวว่า ในการประชุม สว.วันที่ 8 เม.ย.จะยื่นญัตติด่วนด้วยวาจาต่อที่ประชุม เพื่อขอให้วุฒิสภาพิจารณาการทำประชามติต่อประเด็นสถานบันเทิงครบวงจรที่รวมถึงมีกาสิโน เพื่อลดความขัดแย้งในสังคม ถือเป็นทางออกของสังคมได้ดีที่สุด เพราะเรื่องนี้ฝ่ายรัฐบาลไม่ได้เสนอเป็นนโยบายและใช้หาเสียงกับประชาชน ขณะเดียวกันรัฐบาลยืนยันถึงความเป็นประโยชน์ ดังนั้นต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน ทำไมไม่ให้ประชาชนทั่วประเทศได้ตัดสิน

 “หากรัฐบาลดึงดันจะเกิดความสุ่มเสี่ยง หากใช้เสียงข้างมากในสภาอาจนำไปสู่วิกฤตทางการเมืองจากม็อบ และคล้ายกับเหตุการณ์เกิดม็อบ กปปส.ที่มาจากการต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยได้” น.ส.นันทนากล่าว

นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. กล่าวว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอทำประชามติ ซึ่งเชื่อว่ามี สว.จำนวนมากไม่เห็นด้วย ขอให้รอดูจำนวนในวันพรุ่งนี้

ด้านนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 กล่าวถึงการเลื่อนพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... ว่าเป็นเรื่องที่น่าละอายอย่างยิ่ง เพราะผู้เสนอเลื่อนการพิจารณาเป็น สส.พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาล ทั้งที่มีเสียงทักท้วงมาตลอดว่าร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการส่งเสริมอบายมุข มอมเมาประชาชน มีผลกระทบทางสังคมมากมาย 

หวั่นซ้ำรอยนิรโทษกรรมสุดซอย

 “ที่อ้างว่ารับฟังความเห็นแล้วก็เป็นเพียงการจัดฉากลวงโลก ขณะที่ทุกภาคส่วนของสังคม ทุกศาสนา ออกแถลงการณ์ล่าชื่อคัดค้าน เสียงดังกึกก้องไปทั่วประเทศ แต่รัฐบาลกลับไม่ฟัง มีการเสนอให้ทำประชามติก็ไม่เอา เหมือนกับอาการร้อนรน มีวาระซ่อนเร้นที่แอบแฝงด้วยผลประโยชน์ของบางกลุ่ม จึงขอเตือนว่าจะซ้ำรอยร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ที่มีการลักหลับผ่านกฎหมายตอนตี 4 จะเกิดความขัดแย้งลุกลามไปทั่วประเทศ นำไปสู่ความรุนแรงและนองเลือดอีก” นายอดุลย์กล่าว

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ปราศรัยบนเวที คปท.ที่สะพานชมัยมรุเชฐ ระบุว่า เสียงคัดค้านการทำบ่อนกาสิโนและการพนันออนไลน์เริ่มดังขึ้นทั่วประเทศแล้ว สิ่งสำคัญมีองค์กรทุกศาสนาออกแถลงการณ์คัดค้านอย่างพร้อมเพรียง รวมทั้งกลุ่มพลังทางสังคมเริ่มส่งเสียงมากขึ้นว่าไม่เอาบ่อนกาสิโน

 “วันนี้เรื่องกาสิโนกับการพนันออนไลน์มันมาพร้อมกับใคร ประเทศไทยพยายามคิดทำก็ล้มเลิกไป แต่บ่อนกาสิโนและพนันออนไลน์รอบนี้มันมาพร้อมกับทักษิณ ลำพังน้ำหน้าอย่างนายกฯ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐา ทวีสิน หรืออุ๊งอิ๊งก็ตาม คงคิดทำได้ยาก”

นายจตุพรกล่าวว่า ถ้ากฎหมายบ่อนกาสิโนผ่านวาระหนึ่ง ใช้เสียงข้างมากลากจนผ่านในวันที่ 9 เม.ย. เท่ากับนายทักษิณและอุ๊งอิ๊งกำลังจุดพลังประชาชนออกมาต้านครั้งใหญ เรียกว่าจุดติด แม้วันนี้มีการขู่จากฝ่ายรัฐบาลพรรคเพื่อไทยว่า ถ้าสภามีปัญหาก็จะเจอรัฐประหาร แต่คนที่จะเรียกการรัฐประหารตัวจริงก็คือพวกทำบ่อนกาสิโนและการพนันออนไลน์

ด้านความเคลื่อนไหวในโลกโซเชียลนั้น นายกิตติรัตน์  ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ และอดีต รมว.การคลัง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "ไม่เห็นใครเดินขบวนต้านบ่อนเถื่อนทั่วกรุงเลย แต่พอรัฐจะสร้างกาสิโน นำรายได้มาพัฒนา กลับดิ้นค้านกันใหญ่เลย คุณปกป้องบ่อนเถื่อนรึ"

นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่ชุมนุมต่อต้านบ่อนกาสิโน ได้โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้นายกิตติรัตน์ว่า "ผู้ชุมนุมออกมาเพื่อปกป้องบ่อนเถื่อน คิดได้แค่นี้จริงหรือ ผู้นำศาสนาทุกศาสนา คณะแพทย์ ประชาชนที่เขาแสดงจุดยืน  คนเหล่านี้คงมาปกป้องบ่อนเถื่อนสินะ คุณเอาอะไรคิด หรือถ้าคุณรู้ว่าบ่อนเถื่อนเสียประโยชน์ แสดงว่าคุณรู้ว่าบ่อนเถื่อนอยู่ที่ไหน แล้วทำไมคุณไม่บอกนายกฯ ที่คุณใกล้ชิดหรือบอกนายทักษิณ ลูกพี่คุณไปจัดการเลย ลูกพี่ยิ่งขี้โม้จะปราบโน่นปราบนี่อยู่ ถ้ารู้ก็รีบจัดการ หรือถ้ามีข้อมูลว่าผู้ชุมนุมรับเงินบ่อนเถื่อนก็รีบจัดการ อย่ามัวแต่คิด เดี๋ยวมันจะกลายเป็นคนสิ้นคิด"

ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "ขอตั้งคำถามต่อพรรคประชาธิปัตย์และพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่าในวันที่ 9 เม.ย.นี้จะพิจารณา พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรอย่างไร ได้ตัดสินใจเลือกจุดยืนทางการเมืองว่า จะยืนหยัดเคียงข้างประชาชนหรือยืนหยัดเคียงข้างกับรัฐบาลในระบอบทักษิณ"

เตือนเจอรัฐประหาร

ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีต สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า "นายทักษิณเป็นพ่อที่ใจร้ายและเห็นแก่ความสุขสบายของตัวเองเป็นที่ตั้ง ชอบอวดอหังการ แต่ละวันมีแต่ทำลายคุณค่าลูกสาว ลำพังลูกจะประคองตัวเองก็จะไม่ไหวอยู่แล้ว ได้พ่อมาเสริมเพิ่มความเอือมระอาเกลียดชังไม่แผ่วเช่นนี้ สุดท้ายจะเหลืออะไร" ขณะที่นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีต รมว.การอุดมศึกษาฯ โพสต์ว่า "การเมืองไทยน่าจะได้รับบทเรียนจากความพยายามในการผลักดันนิรโทษกรรมสุดซอยในห้วงทศวรรษที่ผ่านมา ขออย่าได้ย่ามใจที่จะดื้อด้านผลักดันกาสิโนให้เกิดขึ้นกับประเทศนี้แผ่นดินนี้ ระวังวงจรอุบาทว์ 3 ป.ของการมีประชาธิปไตยเทียม ที่ก่อให้เกิดการประท้วงต่อต้านจนเกิดการก่อการปฏิวัติรัฐประหาร เกิดเป็นวงจรอุบาทว์ซ้ำซาก อาจเกิดขึ้นอีกครั้งในเร็ววันนี้ อย่าให้เกิดประวัติศาสตร์เลย"

นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "รุกฆาตการเมืองไทย วัดใจดีลลับ ประโยชน์แลกบ่อน แดงได้กาสิโน น้ำเงินได้ออนไลน์ เหลืองแดงส้มได้นิรโทษกรรมชุมนุม+ม.112 ประเทศชาติได้อะไร?"

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กถึง 5 เหตุผลที่ทำไมการคัดค้านกาสิโน จึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ได้แก่ "1.การเสนอ กม.ขาดความโปร่งใส 2.เร่งรีบจนเกินงาม 3.มีพฤติกรรมเจ้าเล่ห์เพทุบาย 4.ไม่เชื่อถือในนักการเมืองว่าจะทำโดยเห็นประโยชน์แก่ประเทศหรือจะเพื่อประโยชน์ของตนเอง และ 5. การจัดความสำคัญบ้าบอเกินเหตุ"

วันเดียวกัน ยังคงมีองค์กรและภาคส่วนต่างๆ ออกแถลงการณ์คัดค้านกาสิโนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) นำโดย ศ.กิตติคุณ เทียนฉาย กีระนันทน์ อดีตประธาน สปช. พร้อมอดีต สปช. 102 คน ได้ทำหนังสือเปิดผนึกถึงประธานรัฐสภา หัวหน้าพรรคการเมือง และสมาชิกรัฐสภาเพื่อคัดค้านเรื่องดังกล่าว โดยยก 5 เหตุผลก่อนทิ้งท้ายว่า "ในท่ามกลางความเร่งร้อนของรัฐบาลและรัฐสภาที่ร่วมกันผลักดันร่างกฎหมายกาสิโนและการพนันออนไลน์เข้าสู่การพิจารณาของสภานั้น มีประชาชนจากหลายภาคส่วนของสังคมออกมาคัดค้านร่างกฎหมายฉบับนี้ให้เห็นเป็นประจักษ์แล้วว่า ประชาชนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับกาสิโนและการพนันออนไลน์ และจะเพิ่มความเข้มข้นในการต่อต้านยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ สมควรที่รัฐบาลและรัฐสภาจะต้องรับฟัง มิเช่นนั้นแล้วท่านจะกลายผู้นำทรราชที่ไม่รับฟังเสียงคัดค้านของประชาชนที่เลือกพวกท่านขึ้นมาเป็นผู้แทนของประชาชน และจะหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศต่อไป"

พี่ชายชัชชาติก็ค้าน

ด้านศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่น 35 จำนวน 62 ราย ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร โดยระบุว่า "จะนำมาซึ่งความเสื่อมทางศีลธรรมของสังคมไทยอย่างมาก ประเทศไทยยังไม่พร้อมที่จะมีการพนัน แม้จะทำให้ถูกกฎหมายในช่วงเวลานี้ อีกทั้งกระบวนการบังคับใช้กฎหมาย หรือความโปร่งใสในการบริหารจัดการยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ และยังไม่มีความชัดเจนในหลายส่วน"

ส่วนศิษย์เก่า คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ฯ รุ่น 39 จำนวน 42 ราย ก็ได้ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อการเร่งดำเนินการของรัฐบาล นักการเมือง และผู้เกี่ยวข้อง ในการผลักดันให้มีการเปิดบ่อนการพนันหรือกาสิโนถูกกฎหมาย โดยมิได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนอย่างรอบด้าน ซึ่งหนึ่งในผู้ที่ลงนามคัดค้านกาสิโนนั้นมีชื่อของ นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ พี่ชายฝาแฝดของนายชัชชาติ  สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ด้วย

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "แถลงการณ์นักเรียนเก่าอำนวยศิลป์รุ่น 42 เรียวทองและรุ่นข้อสอบรั่ว" จำนวน 49 คน ก็ออกแถลงการณ์การออกกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรที่ซ่อนเร้นบ่อนกาสิโนเอาไว้ โดยระบุว่า "บ่อนกาสิโนและการพนันออนไลน์เป็นอบายมุขและจะก่อผลร้ายต่อชาติและประชาชนอย่างมาก อบายมุขนี้มีแต่จะสร้างปัญหาและนำพาวิกฤตการณ์มาสู่บ้านเมืองอย่างสาหัสสากรรจ์ ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาโสเภณี การค้ามนุษย์  การฉ้อฉลคดโกง การคอร์รัปชันและประพฤติมิชอบในวงราชการ ฯลฯ ก็จะเกิดขึ้นมากมายตามมาอย่างแน่นอน ขอให้รัฐบาลนี้และสภาผู้แทนราษฎร ได้เพิกถอนหรือยกเลิกการออกกฎหมายที่จะก่อผลร้ายต่อชาติและประชาชนที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมสภาในวันที่ 9 เม.ย.นี้ ก่อนที่จะสายเกินกาล และจะก่อปัญหาความวุ่นวายบ้านเมืองตามมา"

รวมไปถึงสถาบันวะสะฏียะฮ์เพื่อสันติภาพและการพัฒนา สำนักจุฬาราชมนตรี ก็ได้ออกแถลงการณ์เรื่องขอคัดค้าน (ร่าง) พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... โดยระบุว่า "แม้รัฐบาลได้ชี้ให้เห็นถึงผลตอบแทนทางตัวเลขในเชิงเศรษฐกิจ แต่ความเสียหายทั้งในเชิงมูลค่าและคุณค่าอันดีงามที่ตามมาต่อสังคมไทยอันเกิดจาก พ.ร.บ.ดังกล่าวนั้นใหญ่หลวงกว้างขวางกว่า โดยรัฐบาลควรต้องพัฒนาเศรษฐกิจเชิงนวัตกรรม ยกระดับคุณภาพการศึกษา และมุ่งสถาปนาให้เกิดธรรมาภิบาลในการบริหารภาครัฐและเอกชน รวมทั้งผลักดันเศรษฐกิจที่ยึดโยงอยู่กับมาตรฐานทางศีลธรรม คุณธรรม และจรรยาบรรณ ทั้งในทางศาสนาและทางสากล อันจะเป็นทางออกของสังคมไทย โดยมิต้องพึ่งพิงเศรษฐกิจจากการพนันและบ่อนกาสิโน"

ส่วนกลุ่มชาวร้อยเอ็ด นำโดยนักกฎหมายและผู้มีชื่อเสียง ได้แสดงพลังคัดค้านโครงการก่อสร้างกาสิโนในพื้นที่จังหวัดตนเอง โดยเตรียมยื่นแถลงการณ์พร้อมรายชื่อผู้ร่วมลงนามคัดค้านต่อผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดในวันพุธที่ 9 เมษายนนี้ เวลา 10.00 น. ณ ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด

โดยการรวมตัวครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากหลากหลายภาคส่วนในจังหวัด รวมถึงผู้มีชื่อเสียงในแวดวงต่างๆ อาทิ ทนายเอกณรงค์ นาทองคำ นักกฎหมายชื่อดังในพื้นที่,  ทนายนภาพร พวงช้อย ผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในด้านการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย, พ.ต.อ.ปิติพัฒน์ ธวัชวิเชียร  นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และนางมยุรี โอวาทกานนท์ นักธุรกิจและบุคคลที่มีบทบาทในสังคมร้อยเอ็ด ซึ่งทั้งหมดได้ร่วมลงชื่อคัดค้านและแสดงเจตจำนงที่จะเข้าร่วมยื่นแถลงการณ์ในวันดังกล่าว โดยกลุ่มผู้คัดค้านยังได้เชิญชวนประชาชนชาวร้อยเอ็ดที่เห็นด้วยกับจุดยืนดังกล่าว ร่วมลงชื่อสนับสนุนเพิ่มเติมและเดินทางไปยื่นแถลงการณ์ต่อ ผวจ.เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังและความต้องการของคนในพื้นที่ ที่ไม่ต้องการให้มีกาสิโนเกิดขึ้นใน จ.ร้อยเอ็ด โดยเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต สังคมและวัฒนธรรมอันดีงามของจังหวัด.