ดีเอสไอจี้บ.ไชน่าฯร่วมมือ SKY-ก.อุตฯนัดแถลงเดือด

"มท.1" จ่อรายงานผลสอบตึก สตง.ถล่ม ครม. "อิ๊งค์" ผวาซ้ำรอยสึนามิ สั่งเช็กทุกทุ่นเตือนภัยสึนามิฝั่งอันดามัน ด้าน "ดีเอสไอ" ยังใช้ไม้อ่อนวอนนอมินีไทย 3 ผู้ถือหุ้นใหญ่ บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ เข้าพบให้ข้อมูลดีกว่าหลบซ่อน “กมธ.ปภ.” ลงพื้นที่ถกสิทธิอาสากู้ภัย ขณะที่ ผบ.ตร. ผุด กก.สอบสวนสืบสวนลุยเก็บหลักฐาน "ซิน เคอ หยวน สตีล" ร่อน จ.ม.แจ้งสื่อเปิดโต๊ะแถลง 9 เม.ย.

เมื่อวันจันทร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังนายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ 1 เมษายน ในการแก้ไขปัญหาแผ่นดินไหวแล้วส่งผลให้อาคารของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่กำลังก่อสร้างพังถล่มลงมา โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสรุปผลการสอบสวนภายใน 7 วัน ทั้งนี้  นายอนุทินจะเข้ารายงานต่อนายกรัฐมนตรีในเช้าวันอังคารที่ 8 เม.ย. 2568 เวลา 08.30 น. ก่อนการประชุม ครม.     

 นายจิรายุระบุด้วยว่า การประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายกฯ มีข้อสั่งการให้ 8 กระทรวง อาทิ  กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงการต่างประเทศ เร่งศึกษากับผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศที่มีความพร้อมและอยู่ในแนวแผ่นดินไหว อาทิ ประเทศญี่ปุ่น, นิวซีแลนด์ หรือบางประเทศในสหภาพยุโรป รวมทั้งประเทศอิสราเอล

นายจิรายุระบุว่า ให้กระทรวงสาธารณสุขเตรียมแผนรับมือทั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติ อุบัติเหตุใหญ่ๆ และอุบัติภัยสำคัญ ว่าควรจะดำเนินการในรูปแบบไหนอย่างไร  ทั้งระบบโรงพยาบาลสนาม การปฏิบัติตัว การรองรับ และการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ อย่างไร กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เร่งสื่อสารกับนักท่องเที่ยวว่า การท่องเที่ยวในประเทศไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่อื่นๆ ในประเทศไทยได้ปกติ 

 “กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ระดมนักวิชาการธรณีวิทยาเพื่อรวบรวมข้อมูลในการจัดทำข้อเสนอแนะ และมาตรการที่ถูกต้องปลอดภัย พร้อมตรวจสอบอุปกรณ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันว่าใช้การได้มากน้อยเพียงใด  เช่น ชายฝั่งอันดามันที่เคยเกิดเหตุสึนามิ ที่เคยมีการวางทุ่นในทะเล ให้ไปสำรวจว่ายังใช้การได้อยู่หรือไม่ และให้นำกลับมารายงานที่ประชุมอีกครั้ง และสั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ บรรจุเรื่องการปฏิบัติตนในขณะแผ่นดินไหว และการเกิดอุบัติภัยต่างๆ เข้าไปในแบบการเรียนการศึกษาของเด็กและเยาวชน เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ และไม่เคยเกิดเหตุในลักษณะเช่นนี้มาก่อน” นายจิรายุระบุ 

นายจิรายุระบุด้วยว่า ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมตรวจสอบการเดินทางทุกมิติ ทั้งทางน้ำ  ทางบก ทางเรือ และทางอากาศ ว่าโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่มีพี่น้องประชาชนใช้บริการยังสามารถใช้บริการได้หรือไม่ มีความแข็งแรงและสามารถรองรับภัยธรรมชาติได้มากน้อยเพียงใด สำนักนายกรัฐมนตรีให้ร่วมมือกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สรุปมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต และให้ประชาสัมพันธ์เป็นศูนย์กลางในการกระจายข่าวสารอย่างถูกต้องและทั่วถึง โดยจะมีการรายงานความคืบหน้าต่างๆ และผลของการดำเนินคดีในที่ประชุม ครม.ในวันพรุ่งนี้ด้วย

วอนนอมินีไทย

พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า  หากดีเอสไอได้รับการประสานเพื่อเข้าพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง คาดว่าเจ้าหน้าที่กรมโยธาฯ จะดูในเรื่องของโครงสร้าง ส่วนสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) ที่ดูเรื่องเหล็กและปูนนั้น เราก็จะต้องประสานเช่นเดียวกัน เพราะทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ สมอ. ได้เข้าไปปฏิบัติในพื้นที่ก่อนแล้ว รวมทั้งต้องขอเอกสารสรุปผลรายงานการตรวจสอบคุณภาพเหล็กเส้นที่ใช้ในโครงการก่อสร้างด้วย ทั้งนี้ดีเอสไอจะได้มีการทำหนังสือประสานไปยังกรุงเทพมหานคร เพื่อขอเข้าพื้นที่และประสานการปฏิบัติร่วมกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษลงนามหนังสือ

 “อยากประชาสัมพันธ์ขอให้กรรมการผู้ถือหุ้นใหญ่ชาวไทยทั้ง 3 ราย ให้ความร่วมมือเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ เพราะการหลบซ่อนย่อมไม่เป็นผลดี อีกทั้งตอนนี้ยังไม่ได้มีรายใดเป็นผู้กระทำถูกหรือผิด เพียงแต่ต้องมีการอธิบายถึงสถานะของพวกเขา กับการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจขนาดใหญ่แบบนั้น นอกจากนี้ในเรื่องของการขยายผลไปดูฐานการฟอกเงินนั้น อันดับแรกหากจะมีความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน  จะต้องมีความผิดมูลฐานปรากฏก่อน ยกตัวอย่างหากมีประเด็นเรื่องคดีฮั้วประมูลเกิดขึ้น ก็จะขยายฐานความผิดเรื่องฟอกเงินได้ เป็นต้น หรือปรากฏตาม 28 ประเภทความผิดกฎหมายฟอกเงิน” พ.ต.ต.วรณันระบุ

พ.ต.ต.วรณันกล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการเสนอแต่งตั้งที่ปรึกษาคณะปรึกษาคดีพิเศษ โดยมติของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษว่า สำหรับคณะปรึกษาคดีพิเศษประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญหลายสาขารวม 6 ราย ประกอบด้วย 1.ที่ปรึกษาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสอบสวนและการฟ้องคดี คือ นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ ผู้ตรวจการอัยการและนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด 2.ที่ปรึกษาคดีพิเศษ ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการสอบสวนคดีพิเศษ คือ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ 3.ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบบัญชี  คือ น.ส.กนกไรวินท์ บุรินทร์นันท์ ผู้สอบบัญชีสรรพากร 4.ที่ปรึกษาคดีพิเศษที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) - Anti-Corruption Organization  of Thailand คือ รศ. ดร.ต่อตระกูล ยมนาค ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างวิศวกรโยธา 5.ดร.ธเนศ ศรีศิริโรจนากร ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างวิศวกรปฐพี เพื่อร่วมทำการสืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษในทุกมิติ

ถกสิทธิกู้ภัย

  ที่ศูนย์พักคอยญาติผู้ประสบเหตุจากกรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. เขตจตุจักร-หลักสี่ พรรคประชาชน พร้อมด้วย น.ส.ศนิวาร บัวบาน สส.แบบบัญชีรายชื่อ  พรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย สภาผู้แทนราษฎร เดินทางเข้าพูดคุยให้กำลังใจเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยที่ปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคาร

  น.ส.ศนิวารเปิดเผยว่า วันนี้มาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยเกี่ยวกับเรื่องสวัสดิการของเจ้าหน้าที่ รวมถึงเรื่องอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ ซึ่ง กมธ.จะมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือในวันที่ 9 เม.ย.นี้ อาทิ กรมทรัพยากรธรณี, กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, กรมอุตุนิยมวิทยา และกรุงเทพมหานคร (กทม.) เกี่ยวกับเรื่องเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น รวมถึงมาตรการป้องกันภัยพิบัติเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะแบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต รวมทั้ง กทม.ก็จะต้องชี้แจงในเรื่องของมาตรการการเยียวยา รวมถึงจะต้องชี้แจงในเรื่องที่พักอาศัยของประชาชน เช่นคอนโดฯ บ้านพักต่างๆ ในพื้นที่ กทม. รวมถึงจังหวัดอื่นๆ อีกด้วย

เมื่อถามว่า ส่วนในเรื่องเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยง และไม่มีประกันมารองรับความเสี่ยงจากการปฏิบัติหน้าที่จะมีวิธีการอย่างไร นายชยพลกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเหตุผลหลักที่ตนเดินทางเข้ามาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยในวันนี้ ว่าได้รับสิทธิอะไรแล้วบ้าง อยากให้รัฐบาลดูแลในส่วนไหน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลในส่วนไหน ของเจ้าหน้าที่ที่มาเสี่ยงชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้

น.ส.ศนิวารกล่าวอีกว่า พรรคประชาชนเล็งเห็นปัญหาในเรื่องนี้ จึงร่าง พ.ร.บ.อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยแห่งชาติ เพื่อให้เกิดมาตรฐานที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยควรจะได้รับสวัสดิการ รวมถึงผลประโยชน์ต่างๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการร่าง พ.ร.บ. นอกจากนี้ยังได้มาพูดคุยกับญาติผู้สูญหายว่าต้องการอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ซึ่งญาติร้องขออยากให้เจ้าหน้าที่มีการรายงานตัวเลขผู้สูญหาย ผู้เสียชีวิตตรงจุดพักคอยของญาติ เพราะญาติบางคนก็รออย่างใจจดใจจ่ออย่างมีความหวัง แต่กลับไม่ได้รับความคืบหน้าจากเจ้าหน้าที่

 ขณะที่ Mr. Lay Maung ทูตแรงงานเมียนมาประจำประเทศไทย ได้เดินทางมายังศูนย์พักคอยฯ เพื่อให้กำลังใจและตรวจสอบข้อมูลแรงงานชาวเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ทูตแรงงานเมียนมาระบุว่า จากข้อมูลเบื้องต้นมีแรงงานชาวเมียนมาที่ประสบเหตุการณ์นี้รวมทั้งสิ้น 33 คน ในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บและเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล 7 ราย เสียชีวิตแล้ว 2 ราย และยังคงสูญหายอีก 24 ราย ในส่วนของการเยียวยาต้องรอข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับจำนวนผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายที่แน่ชัด รวมถึงต้องมีการตรวจเทียบ DNA ก่อน จึงจะสามารถดำเนินการพูดคุยในเรื่องการเยียวยาต่อไปได้

สำหรับบริษัทที่แรงงานเมียนมากลุ่มนี้ทำงานอยู่มีทั้งหมด 4 บริษัท โดยหนึ่งในนั้นคือบริษัท อิตาเลียนไทยฯ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ เบื้องต้นสถานทูตได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันแล้วว่า หากได้ตัวเลขผู้ประสบภัยที่ชัดเจนก็จะดำเนินการพูดคุยถึงแนวทางการดูแลเยียวยาต่อไป นอกจากนี้บริษัทเหล่านี้จะช่วยดำเนินการให้ความช่วยเหลือแรงงานที่ถูกกฎหมายและมีประกันสังคม โดยจะประสานข้อมูลและให้การสนับสนุนในส่วนที่เกี่ยวข้อง

เก็บหลักฐาน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นำโดย พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. มีคำสั่งให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมจากคำสั่งแต่งตั้งเมื่อวันที่ 30 มีนาคม กรณีอาคารก่อสร้าง สตง.ทรุดตัวถล่ม ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 และคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 418/2556 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 เรื่องการอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญา การทำสำนวนการสอบสวน และมาตรการควบคุม ตรวจสอบเร่งรัดการสอบสวนคดีอาญา จึงแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเพื่อรับผิดชอบทำการสืบสวนในคดีดังกล่าวดังนี้

พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ เป็นรองหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยให้เป็นพนักงานสืบสวนสอบสวนผู้รับผิดชอบ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา  ร่วมกันทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งปวงในคดีอาญาดังกล่าวข้างต้นให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ตำรวจได้มีการประชุมหารือกับ ผอ.เหตุการณ์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่รับผิดชอบพื้นที่เกิดเหตุเพื่อขอเข้าเก็บหลักฐานในวันที่ 8 เมษายน  เวลาตั้งแต่ 08.00-11.00 น.เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเฉิน เจี้ยนฉี กรรมการบริษัท  และนายสมพัน ปันแก้ว กรรมการบริษัท ซิน เคอ หยวน  สตีล จำกัด ส่งจดหมายถึงสื่อมวลชนเรื่อง “ขอแถลงข่าวข้อเท็จจริง กรณีบริษัทฯ ถูกตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับกรณีผลิตภัณฑ์เหล็กเส้นที่ผลิตขึ้นโดย ไม่ครบถ้วนตามมาตรฐานของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม” ในวันพุธที่ 9 เมษายน  2568 เวลา 14.00 น. ณ ห้องลีลาวดี โรงแรมรามาการ์เด้น  ถนนวิภาวดีรังสิต บางเขน กรุงเทพมหานคร

ด้านนายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "พร้อมกัน…10 เมษา  เวลา 10 โมง เหล็กเส้นตกค่ามาตรฐาน" และมาตรการต่อไป นัดหมายสื่อมวลชนร่วมแถลงข้อเท็จจริงสู่สาธารณะ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.