ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และร่าง พ.ร.ก.ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล แก้ปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมคืนเงินต่อผู้เสียหาย ยันบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจาฯ
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 8 เมษายน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่..) พ.ศ..... หรือ พ.ร.ก.ไซเบอร์ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เสนอ ซึ่งผ่านการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว โดยร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการเพิ่มมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์และมิจฉาชีพ โดยกำหนดให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ส่วนสาระสำคัญ อาทิ เมื่อปรากฏพยานหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีการใช้บริการโทรคมนาคมเพื่อกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ต้องแจ้งให้สำนักงาน กสทช. สั่งให้ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอื่น หรือผู้ให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้อง ระงับการให้บริการโทรคมนาคม
นอกจากนี้ กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายของข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือนำข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือนำข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ผิดกฎหมายออกจากระบบคอมพิวเตอร์ได้ เมื่อปรากฏข้อมูลว่ามีผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
นายจิรายุกล่าวว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะพิเศษยังได้แก้ไขเพิ่มเติมเรื่องการคืนเงินให้แก่ผู้เสียหาย โดยให้นำรายละเอียดที่เกี่ยวข้องในทุกขั้นตอน รวมทั้งหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคืนเงินให้แก่ผู้เสียหายกำหนดไว้ในกฎกระทรวง และเพิ่มเติมการดำเนินการกรณีที่ไม่มีผู้เสียหายหรือผู้ที่เกี่ยวข้องมายื่นคำร้องภายใน 10 ปีนับแต่วันที่ครบกำหนดที่ต้องยื่นคำร้องคัดค้าน หรือมีเงินที่เหลือภายหลังจากได้คืนเงินแก่ผู้เสียหายแล้ว ให้เงินดังกล่าวตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน แต่ไม่ตัดสิทธิเจ้าของเงินที่ขอรับเงินคืนจากกองทุนป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
รวมถึงแก้ไขเพิ่มเติมการกำหนดภาระการพิสูจน์ของหน่วยงานเอกชน โดยให้หน่วยงานเอกชนมีภาระการพิสูจน์เพื่อไม่ต้องมีความรับผิดในความเสียหายที่เกิดจากการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในกรณีที่พิสูจน์ได้ว่าได้ปฏิบัติตามมาตรฐานหรือมาตรการเพื่อป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีกำหนดโดยหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลแล้ว
นายจิรายุกล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบร่าง พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่...) โดยกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ประกอบธุรกิจอยู่นอกราชอาณาจักร แต่ให้บริการแก่บุคคลซึ่งอยู่ในราชอาณาจักรต้องได้รับอนุญาตตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลฯ รวมถึงกำหนดลักษณะที่ถือว่าเป็นการให้บริการแก่บุคคลซึ่งอยู่ในราชอาณาจักร เช่น มีการแสดงผลโดยผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นภาษาไทย สามารถเลือกชำระเงินเป็นสกุลเงินบาท มีการรับชำระเงินผ่านบัญชีเงินฝากหรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย หรือมีเงื่อนไขให้ใช้กฎหมายไทยเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับแก่ธุรกรรมซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือกำหนดให้ดำเนินคดีในศาลไทย เป็นต้น
ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดีอี กล่าวว่า หลังจาก ครม.เห็นชอบ จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อรอประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พระราชทานพรปีม้า เรี่ยวแรงดีสุขกายใจ
"กรมสมเด็จพระเทพฯ" อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงบาตรเนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2569
พ้น72ชม.ไม่วางใจ สั่งปีใหม่คุมเข้มชายแดน เขมรยังปล่อยโดรนป่วน
ครบกำหนดหยุดยิง ไร้ปะทะ แต่กัมพูชาส่งกำลังบำรุง-ปล่อยโดรนตลอดแนวชายแดน ละเมิดข้อตกลง
เศรษฐกิจโต2.2% ธปท.-ปปง.ตั้งทีม สอบธุรกรรมทอง
"แบงก์ชาติ" เคาะจีดีพีปี 68 โตแน่ 2.2% ชี้เศรษฐกิจเดือน พ.ย.ยังขยายตัว
ขยี้ส้มมีเทาผิดซ้ำแค่ขอโทษ
“นายกฯ” อวยพรปีใหม่คนไทย ขอทุกข์โศก-เคราะห์หมดไปปีนี้ เขินโดนถามปี 2569
เตือน‘สายตี้’โดนหนัก สกัดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่
เปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569
ฉายาสภาสูง‘รังของหนู’
ฉายาสภา 68 “รังหนอนสีเทา” ขณะที่สภาสูงคือ “รังของหนู”

