กทม.ลุยขนซากตึกถล่ม คาดปลายเดือนเคลียร์ด้านบนออกได้หมด "ชัชชาติ" เผย "สมเด็จธงชัย" ประธานทำบุญสร้างขวัญกำลังใจ “ดีเอสไอ” เจอตัวน้องเขยมานัส หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ไชน่าเรลเวย์ฯ ยันชัดพนักงานขับรถส่งของ
เมื่อวันที่ 9 เมษายน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินงานรื้อถอนซากอาคาร สตง.ถล่ม และการค้นหาผู้ประสบภัยว่า การดำเนินการเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จากเป้าหมายภารกิจคือการเอาแผ่นปูนและเศษปูนที่อยู่โซน E ซึ่งอยู่ยอดบนลงมาให้ได้มากที่สุด ซึ่งเครื่องจักรหนักทำงานเต็มที่ ตอนนี้ขนย้ายเศษซากออกมาได้ประมาณ 26,000 ลูกบาศก์เมตร ใช้รถบรรทุกนำออก 21 คัน คาดว่าประมาณปลายเดือนนี้จะสามารถเคลียร์ในส่วนของด้านบนออกได้
อย่างไรก็ตาม เรื่องความหวังของผู้รอดชีวิตเรามีอยู่ตลอด เครื่องจักรทำงานตลอด ในส่วนของเจ้าหน้าที่ทุกคน ทางกรุงเทพมหานครดูแลอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องอาหาร ที่พักผ่อน มีห้องแอร์ให้นอน และเรื่องสุขอนามัยต้องเข้มข้นขึ้น ต้องมีการล้างมือและการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อต่างๆ เพราะในพื้นที่หน้างานเปรียบเสมือนเมืองเมืองหนึ่ง มีคนเป็นร้อยคนอยู่ในนั้น เรื่องความสะอาดและสุขอนามัยเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดูแล ทั้งนี้ ทางทีมสำนักอนามัยได้เข้าไปตรวจอยู่ตลอด เพื่อให้ทีมงานทุกคนปลอดภัย ส่วนเรื่องการถอนตัวของทีม USAR และ K9 ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงาน เพราะเป็นไปตามแผนอยู่แล้ว ตอนนี้เครื่องจักรหนักเป็นหลักและทำงานอยู่ตลอดเวลา
นายชัชชาติกล่าวว่า ในวันที่ 10 เม.ย. เวลา 13.00 น. จะมีการทำพิธีทางศาสนาและสวดมนต์เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ผู้รอดชีวิต ตลอดจนเป็นขวัญกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เข้ามาร่วมปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ โดยญาติผู้เสียชีวิตหลายคนไม่สบายใจและอยากเข้ามาทำพิธีกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ เพื่อขอให้เปิดทางนำร่างผู้ประสบเหตุที่ติดค้างอยู่ภายในออกมา ทั้งนี้ มีสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หรือสมเด็จธงชัย กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นประธานพิธีสงฆ์ พร้อมพระสงฆ์ 103 รูป ตามจำนวนผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุอาคารตึก สตง.ถล่ม ร่วมทำพิธี
สำหรับตัวเลขของผู้เสียชีวิตล่าสุดเวลา 10.00 น. วันที่ 9 เม.ย. เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ทำให้ตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่ 22 ราย สูญหาย 72 ราย ส่วนข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทางสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ได้รับศพผู้เสียชีวิตแล้ว 22 ราย, มีชิ้นส่วนมนุษย์ 14 ชิ้น สามารถตรวจพิสูจน์ยืนยันเอกลักษณ์บุคคลแล้ว 18 ราย คืนศพให้แก่ญาติแล้ว 14 ราย
วันเดียวกัน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ตนได้มอบหมายนโยบายให้พนักงานสอบสวนลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานและแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีนอมินี โดยยังคงเน้นการพิสูจน์ในความผิดเรื่องนอมินี การถือหุ้นอำพรางของคนไทย ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้สืบสวนจนพบเจอกับญาติ (น้องเขย) ของนายมานัส ศรีอนันท์ หนึ่งใน 3 คนไทยผู้ถือหุ้นในบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ในสัดส่วน 0.0003% ที่ จ.เพชรบูรณ์ แต่ไม่เจอตัวนายมานัส โดยญาติได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่านายมานัสทำอาชีพรับจ้างอยู่ภายในบริษัท มีรายได้ไม่เยอะ รับเป็นรายวัน มีการขับรถส่งของ-ยกของเท่านั้น เชื่อได้ว่าไม่ได้มีสถานะเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นภายในบริษัท
ทั้งนี้ ดีเอสไอพยายามทำงานให้เร็วที่สุด พยายามเร่งที่สุด หากติดตามจนเจอตัวพยานจะได้ทำการสอบสวนปากคำ ส่วนอุปสรรคในการติดตามพยานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับบริษัท โดยพบข้อมูลตามการรายงานว่ามีการย้ายสำนักงานหลายแห่งนั้น ยิ่งเป็นข้อสันนิษฐานและพยานหลักฐานได้ว่าบริษัทอาจไม่ได้มีการประกอบกิจการที่เป็นหลักเป็นฐานจริง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฝุ่นตลบ!นักเลือกตั้งย้ายพรรค
เลขาฯ กกต.รับเลือกตั้งหนนี้เหนื่อยแน่นอน “อนุทิน” การันตี ถ้าชนะ “เอกนิติ-ศุภจี-สีหศักดิ์” เ
‘ยธ.’จ่อคุ้ยMOUสิงคโปร์
“รุทธพล” รับกำลังตรวจผลการลงนามเอ็มโอยูสแกนม่านตากับสิงคโปร์
‘ราชินี’เสด็จฯ ‘พระราชทาน’ ‘เหรียญฮอกกี้’
พระราชินีพระราชทานเหรียญทองนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งหญิงทีมชาติไทย ในมหกรรมซีเกมส์ ครั้งที่ 33
จีน-เมกาแห่หย่าศึก/ไทยยํ้ากัมพูชาหยุดก่อน
สองชาติมหาอำนาจ "สหรัฐอเมริกา-จีน" ช่วงชิงเป็นตัวกลางหย่าศึกไทย-เขมร
เขมรจ้องวินาศกรรม แท่นเจาะน้ำมัน ศรชล.สั่งคุมเข้ม เนิน350ยังระอุ!
"รมว.กห." ยอมรับ "กัมพูชา" อาจมีความพยายามก่อวินาศกรรมแท่นขุดเจาะน้ำมัน
ศก.สู่ยุคโตตํ่า! คุมเข้มร้านทอง กดเงินบาทแข็ง
"ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ" ห่วงเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ยุคโตต่ำเป็น New Normal หลังกินบุญเก่ามานาน

