ตบจูบ!สยบรอยร้าว ‘อิ๊งค์’ไม่ติดใจ‘ลูกเนวิน’ ‘อนุทิน’ยอมขอโทษแล้ว

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ติดใจปม “ไชยชนก” ประกาศกลางสภาไม่เอากาสิโน บอกอยู่หน้ากล้องและมีหลายประเด็นอาจทำให้พูดสับสนได้  “อนุทิน” ย้ำขอโทษนายกฯ แล้ว ลั่นอย่ามองเป็นลูกใคร แค่เป็นความเห็นส่วนตัว ชี้เมื่อเรื่องผ่าน ครม.ที่นั่งร่วมประชุมแล้วต้องสนับสนุน แต่ยังไม่ได้คุยลูกเนวินเพราะเครียดอยู่ “ภูมิธรรม-อดิศร” ยังติดใจ ร่ายกลอนขับพ้นพรรคร่วมฯ “โฆษก พปชร.” เย้ยไม่กล้าเอาเรื่อง

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 เม.ย.2568 ยังคงมีความต่อเนื่องในกรณีนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์  ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.)   ประกาศกลางสภาผู้แทนราษฎรไม่รับร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ..... หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  ให้สัมภาษณ์ภายหลังสักการะศาลพระพรหม ศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตายาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล โดยหันไปกระเซ้านายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ว่าคุยกันหรือยัง ก่อนจะตอบว่าคุยกันแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วเข้าใจสิ่งที่นายไชยชนกพูดหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ได้กราบขออภัยท่านนายกฯ แล้ว” ขณะที่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า  นายอนุทินชี้แจงแล้วว่าไม่ใช่มติพรรค ซึ่งเข้าใจ ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น

เมื่อถามว่า เมื่อถึงเวลาโหวตพรรค ภท.จะให้เป็นเอกสิทธิ์ใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ไม่ เราสนับสนุนรัฐบาล นายไชยชนกต้องปฏิบัติตามมติพรรค เป็นเรื่องเข้าใจกันอยู่แล้ว ส่วนการพูดคุยกับนายไชยชนกนั้น นายไชยชนกเครียดอยู่ ให้เขาได้พักวันสองวัน

ถามอีกว่า นายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยไม่ติดใจในเรื่องนี้ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า จริงๆ แล้วคิดว่าไม่น่ามีอะไร อย่างนายไชยชนกเคยพูดคุยกันนอกรอบทราบว่าเป็นห่วงเรื่องภัยพิบัติต่างๆ เขาเป็นห่วงจริงๆ และการอภิปรายเมื่อวันที่ 9 เม.ย. มีหลายเรื่องหลายประเด็นอาจทำให้เกิดความสับสนได้ ให้เป็นเรื่องของพรรคภูมิใจไทยไปเคลียร์กันเอง แต่เข้าใจว่าเลขาธิการพรรค ภท.เคยมาพูดส่วนตัวว่าเป็นห่วงในเรื่องนี้ เข้าใจว่าเป็นแบบนั้น แต่มีหลายประเด็น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะคนรุ่นใหม่เหมือนนายไชยชนก จะมีโอกาสพูดคุยกันหรือไม่ นายกฯ  กล่าวว่า พูดคุยได้อยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไรกัน แต่ต้องบอกกับประชาชนว่าการไปอยู่หน้ากล้องหรือในสภามีแรงกดดัน ตนไปพูดก็ตื่นเต้น อาจมีหลายประเด็นที่พูดถึงได้ อาจไม่ได้ออกมาอย่างที่ตั้งใจ  มันเกิดขึ้นได้

เมื่อถามว่า ยังเชื่อมั่นว่าพรรคภูมิใจไทยจะคุมกันได้ นายกฯ กล่าวว่า ค่ะ ที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนั้น  คิดว่าพรรคร่วมรัฐบาลนโยบายต่างๆ ก็เสนอต่อรัฐสภาด้วยกัน คิดว่าน่าจะพูดคุยกัน ทำความเข้าใจ ไม่สนับสนุนเรื่องความขัดแย้งอยู่แล้ว เพราะประเทศจะไปต่อยาก อะไรคุยกันได้ก็คุยเป็นแบบนั้นดีกว่า ไม่อยากจะสมมุติต้องทะเลาะกัน ตื่นมาเราทำงานก็ไม่สดชื่น ไม่สดใส เจอหน้ากันก็จะแปลกๆ ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น

เมื่อถามว่า มีการมองกันว่าวันหนึ่งเป็นอีกอย่าง อีกวันหนึ่งก็อีกอย่าง เราจะรับสภาพตรงนี้อย่างไร ทำให้นายอนุทินที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบกล่าวว่า "ผมดีตลอด ไม่มีวันไหนไม่ดี" ด้าน น.ส.แพทองธารกล่าวว่า บางทีมันเป็นข่าวมากกว่า เป็นสิ่งที่ข่าวลือได้ยินมา สถานการณ์อาจเกิดขึ้นกับทั้งสองฝ่าย ทั้งสองพรรค ทั้งสองฝั่ง ซึ่งเราเป็นฝั่งเดียวกัน ทุกพรรคมีข่าวพรรคนั้นทำอย่างนั้น มีข่าวลือตลอดเวลาอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องของการเมือง เราต้องพูดคุยกันเยอะๆ เข้าใจกันเยอะๆ ก็จะช่วยได้

ก่อนหน้านี้ นายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า ได้ไลน์ไปแจ้งนายกฯ แล้วว่าสิ่งที่นายไชยชนกได้อภิปรายเป็นความเห็นส่วนตัว ซึ่งพรรคก็มีแนวทางในเรื่องนี้แล้ว

อย่ามองเป็นลูกใคร

เมื่อถามว่า นายกฯ โอเคและไม่ได้ติดใจอะไรใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า มันก็ไม่ดีหรอก เพราะก่อนที่สมาชิกพรรคจะขึ้นอภิปราย พรรคต้องอนุมัติก่อน ซึ่งกรณีเมื่อวานพรรคไม่ได้อนุมัติ

เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ครูใหญ่พรรค ในฐานะบิดานายไชยชนกแล้วหรือไม่  นายอนุทินกล่าวว่า ก็คุย แต่อย่างที่บอกว่านายไชยชนกเขาพูดในนามของเขาเอง อย่าไปมองว่าเป็นลูกชายของใคร ทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเองได้  ถ้าเขาพูดในนามพรรคเมื่อไหร่ค่อยเป็นประเด็น แต่นี่เขาพูดในนามส่วนตัวของเขา

ส่วนที่มองว่านายไชยชนกเป็นเลขาธิการพรรค  ไม่ใช่สมาชิกธรรมดานั้น นายอนุทินย้ำว่า นายไชยชนกไม่ได้พูดในนามพรรค เพราะพรรคไม่ได้มีมติ  ย้ำว่าพรรคมีแนวทางที่ชัดเจนจะสนับสนุนนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล กรณีนี้ก็เช่นกันร่าง พ.ร.บ.ทุกอย่างที่เข้าสู่สภาได้ก็ต้องผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐมนตรีของพรรค ภท.มีตั้ง 8 คน หนึ่งในนั้นเป็นหัวหน้าพรรค เมื่อร่างนี้ผ่าน ครม.เข้าสู่สภาก็เท่ากับหัวหน้าพรรค ภท.เห็นชอบแล้ว ซึ่งแบบนี้ถือเป็นมติพรรค แต่การที่อยู่ๆ มี สส.คนหนึ่งที่พอดีเป็นเลขาธิการพรรคแล้วลุกขึ้นอภิปรายในสิ่งที่ไม่ได้หารือกับพรรค อันนี้ต้องถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ เขามีสิทธิ์ ห้ามเขาไม่ได้

เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แล้วหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ต้องพูดคุยกับนายกฯ  ซึ่งได้เขียนข้อความผ่านไลน์ไปขออภัยท่านนายกฯ แล้ว คิดว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่ากระแสขับพรรคร่วมฯ จะกลับมาอีกครั้ง นายอนุทินกล่าวว่า ตรงนั้นไม่ห่วง อย่างที่บอกแนวทางของพรรค ภท.เรื่องนี้ผ่าน ครม.ไปแล้ว และเมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่นายกฯ เรียกพรรคร่วมรัฐบาลคุย ก็มีการแจ้งกันหมดแล้ว มีบางพรรคที่ 4-5 คนไม่เห็นด้วยก็แจ้งไว้ ซึ่งหัวหน้าพรรคบางพรรคบอกไม่มีปัญหา แต่ก็มีแถลงการณ์ออกมาไม่สามารถรับได้ ส่วนตนเองก็บอกว่าไม่ได้มีปัญหา พรรค ภท.ไม่เคยมีปัญหาแบบนี้ แต่ตอนนี้มีปัญหา 1 คนก็ต้องแจ้งนายกฯ และเป็นหน้าที่ของตนที่จะไปบอก สส.ทุกคนของพรรค อย่าไปมองว่านายไชยชนกเป็นลูกชายนายเนวิน เพราะนายไชยชนกพูดในสภาว่าเป็นราษฎรคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้บอกว่าเป็นผู้แทนราษฎร ซึ่งตรงนี้เราห้ามเขาไม่ได้  หน้าที่ตอนนี้ก็ต้องไปคุยกับเขา คุณได้แสดงท่าทีออกไปแล้ว แต่ถ้าพรรคมีมติคุณต้องโหวต จะสวนมติพรรคไม่ได้ ถ้าสวนกับพรรคพรรคก็มีกฎระเบียบที่จะดำเนินการเหมือนสมาชิกพรรคทุกคน

เมื่อถามว่า เป็นคนกลางลำบากใจหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ลำบากใจสิ เวลาต้องมาเป็นกันชนลำบากใจแน่นอน เพราะเป็นกันชนถูกชนก่อน เราจะให้คู่กรณีไปชนกันไม่ได้ ลำบากใจ แต่ก็เป็นหัวหน้าพรรค ก็ต้องทำตามตนเอง

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวในเรื่องนี้ว่า ไม่แน่ใจว่าตกลงแล้วคุณอนุทินหรือคุณไชยชนกใครเป็นหัวหน้าพรรค  เพราะในที่ประชุมหัวหน้าพรรคต่างๆ เราคุยกันชัดเจนแล้วว่า สิ่งที่เราทำ เราพยายามสร้างรายได้เข้าประเทศ แล้วมันจะไม่กระทบกระเทือนศีลธรรมทั้งหลายทั้งปวง เพราะเป็นเรื่องนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนคนไทยก็มีเงื่อนไขจริงๆ

อัดให้มีวุฒิภาวะ

“คุณไชยชนกก็เป็นเลขาธิการพรรคอยู่แล้ว ความเป็นเลขาธิการพรรค การร่วมมือกันด้วยหลักการ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว อยู่ๆ ประกาศผมชื่อไชยชนก เป็นลูกนายเนวินกับแม่กรุณา ถามว่าคุณไชยชนก ประกาศตัวกำลังจะบอกอะไร อยากถามจะบอกอะไร แล้วระหว่างคุณไชยชนกกับคุณอนุทิน ผมควรจะเชื่อใคร เพราะวันนั้นที่ไปแถลงคุณอนุทินเป็นหัวหน้าพรรค ก็คุยกันและเห็นพ้องกัน การเป็นเลขาธิการพรรคควรมีความเข้าใจ ไม่อยากจะบอกว่าวุฒิภาวะนะ ควรจะมีความเข้าใจมากกว่านี้ และควรทำอะไรที่มีความสุขุมรอบคอบมากกว่านี้" นายภูมิธรรมกล่าว

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวเช่นกันว่า คงต้องคุยกัน ก็ให้เขาว่ากัน

เมื่อถามว่า คนที่ต้องพูดคุยกันควรเป็นระดับไหน แกนนำหรือคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) นายชูศักดิ์กล่าวว่า ต้องถามคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบ

เมื่อถามว่า นายอนุทินระบุว่าเป็นการผิดคิว และไม่ใช่มติพรรค ภท. นายชูศักดิ์หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ให้คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบคิดดู เอาอย่างนั้นดีกว่า เป็นเพียงรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล แกนนำที่ร่วมรัฐบาลก็ต้องไปพูดคุยกันว่าท้ายที่สุดแล้วเป็นอย่างไร อย่าไปให้ความเห็นวิจารณ์เขาเลยว่าถูกหรือไม่ถูก ให้เขาว่ากันไป

เมื่อถามว่า จะเป็นแบบนี้บ่อยๆ ไหม นายชูศักดิ์กล่าวว่า ไม่ทราบ เมื่อถามว่าถือเป็นการส่งสัญญาณของพรรค ภท.หรือไม่ นายชูศักดิ์หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ไม่รู้

นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า การเป็นรัฐบาลผสม แต่ละพรรคการเมืองเห็นตรงกันคือแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง ในฐานะที่เป็นรัฐบาลผสมด้วยกัน ถ้าร่วมกันไม่ได้ก็ออกจากพรรคร่วมรัฐบาลไป ไม่ยากเลย ไม่ใช่ว่าแต่งหล่อแล้วด่าคนอื่น ยกตนข่มท่าน  ยกทั้งบิดามารดามาว่าลูกเต้าเหล่าใคร จนเดือดร้อนหัวหน้าพรรคบอกว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับความคิดเห็นของพรรค ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเป็นมิตรร่วมรบ เป็นรัฐบาลผสมด้วยกันมา  พรรคเพื่อไทยก็สนับสนุนภูมิใจไทย ได้เป็นรัฐบาลร่วมได้เป็น รมว.มหาดไทย ได้ดูแลกระทรวงศึกษาธิการ นายอนุทินทำหน้าที่ได้ดี แต่ว่าเลขาธิการพรรคของคุณที่ไปอภิปรายในสภาต้องตักเตือนกัน

 “ถามจริงๆ ไม่อยากร่วมรัฐบาลแล้วใช่ไหม ไม่อยากร่วมก็เอาตำแหน่งคืนมา ไม่ยากเลยนะ คุณอนุทินพยายามอธิบายว่าไม่เกี่ยวกับพรรค ผมก็อยากส่งความปรารถนาดีไปหารัฐบาลผสม โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย พฤติกรรมอย่างนี้ผมว่าเราในฐานะที่เป็นสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาล พรรคเพื่อไทยก็มีอารมณ์ความรู้สึก ไม่ใช่อยู่ๆ ให้คุณมาด่า” นายอดิศรกล่าว

นายอดิศรยังร่ายกลอนว่า “ไม่อยากร่วมรัฐบาลก็ออกไป ภูมิใจถอก ภูมิใจไทย รีบไสหัว อย่าเป็นเข้ขวางคลอง อย่าอนอัว อย่ายกตัวข่มคนอื่น มันคลื่นไส้”

เย้ยไม่กล้าหือ

ขณะที่ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีนายกฯ กล่าวปัดไม่ติดใจนายไชยชนกว่า คงไม่ใช่ไม่ติดใจ แต่ไม่มีปัญญาทำอะไรมากกว่า แค่นี้เขาเบียดท่านนายกฯ เป็นจำเลยสังคมไปแล้ว จะมีปัญญาทำอะไรเขาได้

พล.ต.ท.ปิยะยังกล่าวถึงกรณีการเลื่อน พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไปเข้าสภาในสมัยหน้าว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ประกาศชัดเจนว่าจะยืนเคียงข้างพี่น้องประชาชนในการคัดค้านไม่เอากาสิโน และยืนยันให้รัฐบาลต้องถอนญัตติ ไม่ใช่ถอยร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เนื่องจากเป็นกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ผู้ประกอบการกาสิโนเท่านั้น ประชาชนแทบไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย

 “อยากถามท่านนายกฯ ว่าเอนเตอร์เทนเมนต์ฯ  ที่นายกฯ พูดถึงนั้นหมายถึงเอนเตอร์เทนเมนต์เซ็นเตอร์ ที่เต็มไปด้วยตู้เกม ตู้หยอดเหรียญ ตู้สล็อต ตู้ปาจิงโกะ ที่มอมเมาเยาวชนอย่างนั้นเหรอ ถ้ารัฐบาลแน่จริง และมีความตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ ทำไมไม่ชักชวนเอนเตอร์เทนเมนต์เซ็นเตอร์หรือสวนสนุกแท้ๆ เช่น ดิสนีย์แลนด์ ยูนิเวอร์แซล ฯลฯ หรือส่งเสริมสวนสนุกของประเทศไทย เช่น ดรีมเวิลด์ สวนสยาม จังเกิ้ลสแปลช เป็นต้น ไม่ใช่เอนเตอร์เทนเมนต์หรือสวนสนุกบังหน้า แล้วเอาการพนันและผลประโยชน์แอบแฝงไว้เบื้องหลัง”.