ผู้ว่าฯสตง.เปิดปากเสียใจ แจงกมธ.ถูกต้องตามกม.

"ประธาน คตง." ยืนยันไม่นิ่งนอนใจเหตุตึก สตง.ถล่ม แต่ต้องทำงานรอบคอบ ผู้ว่าฯ สตง.ร่วมทำบุญใหญ่ที่อาคารถล่ม เปิดปากครั้งแรกรู้สึกเสียใจ เผยส่ง จนท.ไปร่วมงานศพทุกจว. ไปเยี่ยม รพ.ทุกคน จ่อแถลงหลังสงกรานต์ กมธ.กิจการศาลฯ-กมธ.ติดตามงบฯ เชิญ สตง.แจง รองผู้ว่าฯ  สตง.ยันดำเนินการทุกอย่างยึดหลักกฎหมาย ประกวดราคา 16 ราย "กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี" ชนะ ไม่รู้ "ไชน่า เรลเวย์" เข้ามาก่อสร้าง โยนเรื่องป้องกันแผ่นดินไหวกับผู้ออกแบบ 

ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ในโอกาสครบรอบ 25 ปี วันที่ 10 เมษายน พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ ประธาน กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เดินทางเข้าแสดงความยินดีกับสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ในโอกาสครบรอบ 25 ปี พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงเหตุการณ์อาคาร สตง.ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ สตง.ยังไม่มีการแถลงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า  ทางนายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าฯ สตง. จะแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดหลังสงกรานต์นี้ ซึ่งตนได้ให้นโยบายทุกส่วนให้ความร่วมมือทุกส่วนราชการอย่างเต็มที่ ในการเปิดเผยข้อเท็จจริงทั้งหมด และได้ดำเนินการภายในให้ข้อมูลทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี ยืนยันว่าในฐานะประธาน คตง. ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ

 “ใจเย็นนิดหนึ่ง เดี่ยวผู้ว่าการ สตง. ท่านจะชี้แจง ท่านดูอยู่ และประสานกับผู้ว่าฯ กทม. ในการดูแลค้นหาผู้สูญหาย” พล.อ.ชนะทัพกล่าว

เมื่อถามถึงกรณีมีนอมินีถือหุ้นในบริษัทคู่สัญญาของ สตง. พล.อ.ชนะทัพ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ทราบรายละเอียดเรื่องนี้ แต่จะมีการตรวจสอบภายใน สตง.อย่างแน่นอน ส่วนกรณีการตรวจสอบอาคารถล่ม ต้องดูผลการสอบสวนของคณะทำงานของนายกรัฐมนตรี ซึ่งขยายผลการสอบไปอีก 90 วัน

"ผมมีความห่วงใย และเสียใจอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น และทาง สตง.จะไปร่วมทำบุญใหญ่ในพื้นที่ตึกถล่มบ่ายวันนี้ ส่วนรายละเอีดยดขอให้รอทางผู้ว่าการ สตง.เปิดชี้แจงหลังสงกรานต์นี้ เพราะเป็นเจ้าของเรื่องโดยตรง ซึ่งไม่สามารถรีบได้ ต้องดูรายละเอียดเพิ่มเติม จะได้ไม่พลาดอีก ยืนยันว่าทุกอย่างต้องทำอย่างรอบคอบ ถ้าชี้แจงเร็วจะเสียหาย สตง.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็ทำเต็มที่เพื่อประชาชนและประเทศชาติ" พล.อ.ชนะทัพกล่าว

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่บริเวณโครงการก่อสร้างอาคาร สตง.แห่งใหม่  ถนนกำแพงเพชร 2 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานจัดพิธีสวดพระพุทธมนต์ เพื่อผู้ประสบภัยและผู้สูญหายเหตุแผ่นดินไหว กรณีตึก สตง.ถล่ม โดยมีสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (เจ้าคุณธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง  กรรมการมหาเถรสมาคม วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีเจ้าคณะกรุงเทพฯ เป็นผู้นำคณะสงฆ์กรุงเทพฯ จำนวน 103 รูป สวดพระพุทธมนต์ให้แก่ผู้ประสบภัยและผู้สูญหายที่ยังติดค้างภายใต้ซากอาคาร

โดยมีคณะผู้บริหาร กทม. ญาติผู้ประสบภัย เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งนายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าฯ สตง. เข้าร่วมพิธีด้วย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามนายมณเฑียรว่า อยากพูดอะไรหรือไม่ หลังเกิดเหตุการณ์นี้ ซึ่งนายมณเฑียรตอบเพียงว่า รู้สึกเสียใจ เมื่อถามต่อว่าได้พูดอะไรกับครอบครัวผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตหรือไม่ นายมณเฑียรระบุว่า เราไปงานศพทุกงานที่อยู่ทุกจังหวัด เราส่งเจ้าหน้าที่ไปแสดงความเสียใจและร่วมทำบุญให้กับผู้เสียชีวิต ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บตนกับผู้บริหารก็ไปเยี่ยมทุกโรงพยาบาลทุกคน

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หลังจากเกิดเหตุครั้งนี้ มีประชาชนมาทัวร์ลงที่ สตง.เพียงหน่วยงานเดียว อยากจะชี้แจงอะไรหรือไม่ นายมณเฑียรระบุว่า เราทำงานตลอดเวลา ตอนนี้ชีวิตคนกับเรื่องความสูญเสียเป็นเรื่องสำคัญ ฉะนั้นจะต้องดูแลเรื่องพวกนี้ก่อนว่าญาติพี่น้องที่เขาลำบาก และชีวิตคนที่สูญเสียไปเราจะทำอย่างไร และทุกครั้งที่คนของเราไปร่วมงานศพ เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ ญาติผู้เสียชีวิตก็บอกว่ามีเพียง สตง.ที่เข้าไปดูแลเขา ส่วนผู้ป่วยที่อยู่โรงพยาบาลเราก็ถือโอกาสไปเยี่ยมและได้พูดคุยกับพวกเขา โดยพวกเขาก็เข้าใจว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาพูดกับเรา

"ฉะนั้นสิ่งที่เราจะทำในวันนี้คือเราจะดูแล ซึ่งในส่วนของญาติเราได้ประสานใช้ล่ามที่ทำงานประจำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง พาญาติพวกเขาไปติดต่อตรวจ DNA และติดต่อเจ้าหน้าที่ในส่วนต่างๆ  และเป็นสิ่งที่เราทำมาตั้งแต่วันเกิดเหตุ ผมก็อยู่ที่นี่แหละ อยู่ตั้งแต่วันแรก ว่างก็มา วันแรกที่มาก็กลับถึงบ้านเที่ยงคืน ผมก็เดินผ่านน้องๆ กันทุกวัน"

ส่วน สตง.จะแถลงอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ นายมณเฑียรกล่าวว่า ก็คาดว่าจะแถลงในเร็วๆ นี้ เพราะตอนแรกเรารอคณะกรรมการสอบสวนของรัฐบาล แต่เมื่อเขาเลื่อนแถลงไป เราก็ต้องรอกำหนดวันใหม่ว่าจะแถลงวันไหน

สตง.ยันทำถูกต้องตามกม.

  ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน ที่มีนายสัญญา นิลสุพรรณ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นประธาน ได้เชิญผู้ว่าฯ สตง.มาชี้แจงภายหลังเกิดปัญหาด้านภาพลักษณ์ และความน่าเชื่อถือ พร้อมถูกตั้งคำถามถึงเรื่องความโปร่งใสจากเหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม แต่ผู้ว่าฯ สตง. ได้มอบหมายให้นายสุทธิพงษ์ บุญนิธ และนางพิมพา วภักดิ์เพชร รองผู้ว่าฯ สตง. พร้อมคณะมาชี้แจงแทน และถือว่าเป็นครั้งแรกที่ สตง.มาชี้แจงเรื่องนี้ 

โดยนายสุทธิพงษ์ชี้แจงว่า มั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ถนนสุดสายวิ่งมาที่  สตง. แมลงวันบินผ่านก็ด่าได้ วันนี้จึงอยากพูดข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น โดยโครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่พิเศษ เพราะฉะนั้นการก่อสร้างทั้งหมดต้องจ้างออกแบบและจ้างควบคุมงาน ส่วนเรื่องการป้องกันแผ่นดินไหว ต้องไปถามผู้ออกแบบ ซึ่งเขาก็บอกว่าดำเนินการแล้ว

นายสุทธิพงษ์กล่าวยืนยันว่า การดำเนินการทุกอย่างยึดหลักกฎหมาย ตั้งแต่จ้างผู้ออกแบบ มีการแต่งตั้งกรรมการจ้างออกแบบ ส่งหนังสือเชิญผู้ให้บริการมา 24 ราย แต่มายื่นข้อเสนอ 3 ราย จากนั้นคณะกรรมการพิจารณาตามเกณฑ์คะแนน พบว่าบริษัท บจก.ฟอ-รัม อาร์คิเทค และ บจก.ไมนฮาร์ท ประเทศไทย ได้รับคะแนน 91.12 คะแนน จึงอนุมัติจ้างออกแบบ ในวงเงิน 73 ล้านบาท จากนั้นคัดเลือกบริษัทควบคุมงาน คณะกรรมการฯ ได้ส่งหนังสือเชิญผู้ให้บริการจำนวน 19 ราย มี 5 รายที่ส่งข้อเสนอมา ระหว่างนั้น สตง.ได้ขอเข้าร่วมข้อตกลงคุณธรรมด้วย แต่คณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต แจ้งไม่คัดเลือกตึก สตง.เข้าร่วม

ขณะที่การจัดซื้อจัดจ้างก็เป็นไปตามเงื่อนไขของกรมบัญชีกลาง ซึ่งมีผู้เข้าประกวดราคา 16 ราย แต่ “กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี” เป็นผู้ชนะการประกวดราคา โดยไม่พบช่องว่ามีการฮั้ว และคำตอบที่ได้รับคือบริษัทดังกล่าวมีทุนและเทคโนโลยีจากจีน และบริษัทก็อ้างว่าทำงานได้ แม้จะได้งบประมาณตามที่เสนอราคาไว้ นอกจากนี้เพื่อความโปร่งใส สตง.ยังได้ทำ MOU กับ ACT องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)  เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบร่วมด้วย

นายสุทธิพงษ์กล่าวอีกว่า ระยะเวลา ก่อสร้าง 3 ปี ขยาย 2 ครั้ง เนื่องจากโควิดและมีการปรับรูปแบบ แต่นี่ 4 ปี เพิ่งได้ 33% เพราะผู้รับก่อสร้างมีปัญหาเรื่องทุน คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ จึงมีมติบอกเลิกสัญญา เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 แล้ว และอยู่ระหว่างการเสนอผู้มีอำนาจดำเนินการ แต่ปรากฏว่ามาเกิดเหตุเสียก่อน พร้อมยืนยันว่าไม่เคยรู้เรื่องบริษัทจีนที่มาร่วม เพราะอิตาเลียนไทยออกหน้ามาตลอด สตง.ยังดีอยู่เลยที่ได้บริษัทที่มีระดับเบอร์ 1 ของประเทศ

วันเดียวกัน ในการประชุม กมธ. ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ โดยมีนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ พร้อมเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงกรณีงบประมาณการก่อสร้างอาคาร สตง. ที่พังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว โดยผู้ว่าฯ สตง.ได้มอบหมายให้นายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ และนางพิมพา วภักดิ์เพชร รองผู้ว่าฯ สตง.เข้าชี้แจงแทน นอกจากนี้ ยังมีกรมบัญชีกลาง กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมสอบสวนคดีพิเศษ สภาวิศวกร การสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย

โดยนายสุทธิพงษ์ชี้แจงว่า ถ้ารู้ถึงสาเหตุติดถล่มคืออะไร จะง่ายต่อการหาคนผิดอย่างมาก แต่วันนี้ยังไม่สามารถตอบได้ จึงบอกได้เพียงว่า สตง.ได้ทำอะไรไปบ้าง ซึ่งพร้อมจะตอบคำถามทุกเรื่องที่ทุกคนสงสัย

จากนั้นนายสุทธิพงษ์ได้อธิบายถึงรายละเอียดงบประมาณ และกล่าวถึงความเข้าใจที่ผู้รับเหมาก่อสร้างในการประมูลโครงการก่อสร้าง บริษัทอิตาเลียนไทยฯ เป็นผู้ชนะการประมูล  ว่าทางบริษัทได้มีการยื่นผลงานการก่อสร้างอาคารสูงขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นผลงานของบริษัท อิตาเลียนไทยฯ จึงทำให้ทาง สตง.เข้าใจว่าผู้ดำเนินการก่อสร้างเป็นบริษัท อิตาเลียนไทยฯ เป็นหลัก ไม่ใช่บริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ ที่เข้ามาก่อสร้าง จนเกิดเหตุการณ์ตึกถล่มขึ้น

นายสุทธิพงษ์เปิดเผยช่วงหนึ่งว่า มีคำสั่งจากสำนักงานใหญ่ของ สตง.ตั้ง 3 ทีมงานไปตรวจสอบโครงสร้างตึกดังกล่าว ก่อนจะมีการตรวจโครงสร้างงวดที่ 23 จึงได้ข้อสังเกตมาให้แก้และปรับ  เนื่องจากยังไม่ได้เนื้องาน ไม่ว่าจะเป็นคณะของตนเองหรือคณะตรวจรับผู้ควบคุมงานได้เข้าไปดูพื้นที่ สตง. ตรวจใคร เราจะทำมากกว่าที่เราตรวจ เพราะเราผิดเมื่อไหร่ทัวร์มันจะลงมากกว่าปกติ  มันผิดจรรยาบรรณ

 “ถ้าผมจะสร้างบ้านเพื่อให้บ้านล้มทับคนของผม 2,400 กว่าคน ผมต้องเอาอำมหิตเบอร์ไหน ถ้าการออกแบบครั้งนี้เกิดจากความเผอเรอหรือประมาท ท่านกำลังจะฆ่าคน 2,400 คนนะครับ เคยมีคนกล่าวไว้ว่า แผ่นดินไหวไม่เคยฆ่าคน คนออกแบบนี่แหละเป็นคนฆ่าคน" นายสุทธิพงษ์กล่าว

ชงดีเอสไอเอาผิดบ.เหล็กเส้น

ที่กระทรวงอุตสาหกรรม นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงว่า ช่วงระหว่างเดือน พ.ย.2567-มี.ค
.2568 ที่ผ่านมา ทีมสุดซอยของกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ดำเนินการยึดอายัดเหล็กเส้นกลม เหล็กข้ออ้อย และเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ที่ไม่ได้มาตรฐานจากโรงงานผู้ผลิตในจังหวัดชลบุรี ระยอง ปราจีนบุรี นครราชสีมา และสระแก้ว จำนวน 7 ราย ซึ่งเป็นโรงงานร่วมทุนกับต่างชาติ 4 ราย และโรงงานไทย 3 ราย รวมมูลค่ายึดอายัด 361,413,115 บาท

"ก่อนหน้านี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ทำหนังสือเพื่อขอข้อมูลชี้แจงข้อเท็จจริงจากซิน เคอ หยวน ว่าได้ขายเหล็กล็อตที่มีปัญหาให้แก่ตัวแทนจำหน่ายรายใดไปบ้างหรือไม่ แต่กลับได้คำตอบเพียงแค่ว่าไม่ได้ขายเหล็กให้โครงการก่อสร้างตึก สตง.โดยตรง จึงไม่สามารถตอบได้ ซึ่งเท่ากับกระทรวงอุตสาหกรรมไม่ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ใดๆ ต่อประชาชน เพราะประชาชนมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย ว่ามีเหล็กเส้นที่มีปัญหาอยู่ในอาคารอื่นๆ อีกหรือไม่ ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจะมอบหมายให้ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) พิจารณาต่อไปว่าในกรณีนี้ถือว่าสามารถเอาผิดฐานไม่ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลตามมาตรา 56 พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมได้หรือไม่" นายพงศ์พล กล่าว

นายพงศ์พลกล่าวว่า ในส่วนของ มอก.20 เหล็กเส้นกลม และ มอก. 24 เหล็กข้ออ้อยที่ผลิตจากเตาหลอมเหล็กชนิด IF (Induction Furnace) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหลอมเหล็กแบบเก่า ซึ่งมีเสียงวิจารณ์วงกว้างถึงปัญหาเรื่องคุณภาพและความบริสุทธิ์ของเหล็ก โดยรัฐมนตรีกระทรวงอุตฯ ได้สั่งการให้ สมอ.ศึกษาแนวทางแก้ไข หรือยกเลิก  มอก. เหล็กเส้นจากเตาหลอมเหล็ก IF ชนิดนี้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสม่ำเสมอของมาตรฐานผลิตภัณฑ์เหล็กเส้นไทยในอนาคต

 ส่วนกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่า สมอ. ได้ต่ออายุใบอนุญาต มอก.ให้กับบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด เมื่อเดือนม.ค.2568 ที่ผ่านมานั้น นายพงศ์พล  ขอยืนยันอีกครั้งว่า เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง โดยข้อเท็จจริงคือบริษัทดังกล่าว ปัจจุบันยังถูกแจ้งเตือนก่อนสั่งพักใช้ใบอนุญาตฯ ตามมาตรา 40 กรณีผลิตภัณฑ์ไม่เป็นไปตามมาตรฐานห้ามผลิต ห้ามจำหน่าย สินค้าเหล็กเส้นที่ทดสอบไม่ผ่านมาตรฐาน ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ตามการยืนยันของ  สมอ.

"หลังจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะบูรณาการแลกเปลี่ยนและสนับสนุนข้อมูลร่วมกันเพื่อเอาผิดกับโรงงานผลิตเหล็กดังกล่าวตามกฎหมายของแต่ละหน่วยงาน ซึ่ง DSI สามารถรับเป็นคดีพิเศษได้ เนื่องจากมีความซับซ้อนและกระทบต่อระบบเศรษฐกิจภาพรวม กรณีนี้นับเป็นต้นแบบของการทำงานของหน่วยงานรัฐเพื่อสู้กับธุรกิจศูนย์เหรียญในประเทศไทย และกระทรวงอุตสาหกรรมจะดำเนินการกับโรงงานดังกล่าวตามกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ หากตรวจสอบพบว่ามีการผิดกฎหมายข้อใดจะดำเนินการให้ถึงที่สุด" นายพงศ์พลกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทบ.เดือดจัด ซัด‘เฮงรัตนา’ จอมลวงโลก

โฆษก ทบ.จี้นานาชาติจับตา “เฮง รัตนา” ผอ. CMAC กัมพูชา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บ่อนทำลายความไว้วางใจและสันติภาพในภูมิภาค ใช้จินตนาการปั้นแต่งเรื่องราวเพื่อหลอกลวงสังคมโลก

‘ราชินี’แรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่

ในหลวงพระราชทานถ้วยรางวัลนักกีฬาเรือใบ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 พระราชินีทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เรือวายุมีคะแนนดีที่สุดในการแข่งขัน

‘อนุทิน’ล่องลงใต้ ขออภัยผมผิดเอง

"อนุทิน" นำคณะ ครม.ลงใต้อีกรอบ เตรียมตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12

พท.ขึงขังซักฟอก อ้างเหตุเพราะมีคนตายปากกล้าขาสั่นท้าไม่กลัวยุบสภา

พรรคเพื่อไทยจะเอาทุกอย่าง ซักฟอกดิสเครดิตรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง บีบพรรคส้มตัดสินใจ เชื่อ "อนุทิน" ไม่ยุบสภา ไม่กระทบรัฐธรรมนูญ "สรวงศ์" ลั่น

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี