‘บีโอไอ’เพิกถอนสิทธิ‘ซินเคอหยวน’

“ชัชชาติ” ยังมีความหวัง หลังกู้ภัยพบสัญญาณโซนบี “อนุทิน” ปรับเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิตรายละแสน “ทีมสุดซอย” บุกซินเคอหยวน หิ้วคอมพ์-อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาสืบ  ด้าน “บีโอไอ” มีมติเพิกถอนการใช้สิทธิประโยชน์  ตร.-ดีเอสไอเร่งเก็บหลักฐานปูน-เหล็ก “ปชน.”  ลุยหาความจริงความเชื่อมโยงคนใกล้ชิดผู้ใหญ่ใน สตง.

เมื่อวันที่ 11 เม.ย. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณีกู้ภัยปฏิบัติงานค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคาร สตง.  ระบุพบการส่งสัญญาณไฟขอความช่วยเหลือบริเวณโซน B ว่า จากรายงานเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุที่มาของแสงได้ แต่ถือว่ายังมีความหวัง แต่ทั้งนี้จะต้องเผื่อใจไว้บ้างจากระยะเวลาของการติดค้าง ตอนนี้จึงต้องชะลอภารกิจในการลดระดับความสูงของเศษซากอาคารบริเวณโซน B ไว้ก่อน ส่วนโซน A, C และ D ยังคงสามารถปฏิบัติงานได้ แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังไม่ให้กระทบกับจุดที่ยังมีการค้นหาในบริเวณโซน B  ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ได้ทำการเร่งขุดเจาะบริเวณดังกล่าวเพื่อทำโพรงเข้าสู่ด้านในได้แล้วประมาณ 1 เมตร จากที่คาดการณ์ความลึกไว้ที่ประมาณ 2-3 เมตร ซึ่งต้องรอการรายงานความคืบหน้าจากเจ้าหน้าที่อีกครั้ง

นายชัชชาติกล่าวด้วยว่า แม้จะเป็นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตนเองจะยังคงปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มที่ ตามเป้าหมายที่อยากจะนำทุกคนที่ติดค้างออกมาให้ได้  ซึ่งนับเป็นหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นขอให้คนไทยและชาว กทม.ทุกคนเล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างสนุกสนาน ในเวลาช่วงเทศกาลพักผ่อนให้เต็มที่ เรื่องนี้ผู้บริหาร กทม.จะดูแลเอง

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ผู้ว่าฯ กทม.ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ทราบแล้ว

 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวว่า อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้รายงานการช่วยเหลือฉุกเฉิน ซึ่งได้รับงบทดรองฉุกเฉินจากกรมบัญชีกลาง 200 ล้านบาท โดยจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากความเสียหายที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ อธิบดีกรม ปภ.ได้รายงานว่า  จะมีการปรับค่าช่วยเหลือจัดงานศพกรณีผู้เสียชีวิต จากรายละ 2 หมื่นบาท เป็น 1 แสนบาท ซึ่งได้รับความเห็นชอบโดยหลักการจากกรมบัญชีกลางแล้ว ขณะนี้อยู่ในเรื่องขั้นตอนเอกสาร โดยจะเริ่มทำให้เร็วที่สุด ส่วนผู้บาดเจ็บที่เข้าข่ายทุพพลภาพจะมีค่าตอบแทน ตนได้ให้นโยบายไปว่า ให้ช่วยเหลือเยียวยาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ไม่ให้เกินวงเงิน และเป็นการใช้งบประมาณของรัฐให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงเป็นประโยชน์สูงสุดด้วย

นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีกรมโยธาธิการและผังเมืองลงพื้นที่ตรวจสอบตึก สตง.ว่า ขณะนี้พอจะเห็นเหตุผลประกอบขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ยังไม่สามารถฟันธงอะไรได้ เพราะหากฟันธงทันทีอาจจะเกิดความไม่เป็นธรรมต่อผู้ที่ถูกกล่าวหา เพราะฉะนั้นต้องได้รับการยืนยันและพิสูจน์ด้วยหลักการวิทยาศาสตร์ หลักทางวิศวกรรมให้ชัดเจน เพื่อทำรายงานและดำเนินการตามบทกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่เป็นวิศวกร มีการคาดการณ์หรือไม่ว่าสาเหตุของอาคาร สตง.ถล่มเกิดจากอะไร นายอนุทินชี้ว่า มีหลายสาเหตุ แต่ต้องนำมาประกอบกัน และเป็นเรื่องคณะกรรมการตรวจสอบ หากตนพูดไปจะเป็นลักษณะในการชี้นำ เราต้องรอให้คณะกรรมการที่ประกอบไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิเป็นบุคคลที่เชื่อถือได้ในแวดวงวิชาการ สังคม และเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ที่ไม่สามารถมีใครโน้มน้าวหรือชี้นำได้  แต่มีการบอกเหตุเบื้องต้นมาในระดับหนึ่งแล้ว ตนก็ได้ย้ำถามไปว่า สรุปได้เลยหรือไม่ แต่ทางคณะกรรมการตรวจสอบได้ตอบกลับมาว่ายังไม่สามารถสรุปได้ เป็นเพียงสารตั้งต้น และจะเอาประเด็นนี้ขยายผลต่อไป และรับรองว่าจะต้องเห็นสาเหตุ

บีโอไอเพิกถอนสิทธิซินเคอหยวน

 “คือถ้าระดับศาสตราจารย์ทางวิศวกรรมศาสตร์ ถ้าท่านเขียนรายงานออกมาก็จะต้องมีข้อพิสูจน์ วิทยาศาสตร์ก็ต้องมีข้อพิสูจน์ในการคำนวณ เพื่อที่จะไม่ให้ใครโต้แย้งหรือเห็นต่างได้ เพราะการคำนวณด้วยหลักวิทยาศาสตร์ ไม่ต้องใช้เรื่องการสันนิษฐาน จะออกมาเป็นหลักทางวิศวกรรมศาสตร์ ทางคณิตศาสตร์ทุกอย่าง เป็นที่ชัดเจน” นายอนุทินระบุ

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ให้ทีมสุดซอยกระทรวงอุตสาหกรรมทำการปรับแผนด่วน จากเดิมจะไปร่วมเก็บหลักฐานที่บริเวณตึก สตง.ที่ถล่ม เป็นให้นำหมายศาลเข้าค้นบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด (SKY) ที่ จ.ระยอง พร้อมกับเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดมาสืบค้นหาข้อมูลให้ได้

นายเอกนัฏกล่าวว่า ตัวอย่างเหล็กใหม่ที่เก็บจากโรงงานที่มีคำสั่งให้หยุดดำเนินการตั้งแต่เดือน ธ.ค.67 ถึงปัจจุบัน จากการทดสอบคือไม่ผ่านมาตรฐานทั้งสองรอบ และไม่อนุญาตให้ทดสอบใหม่อีกเป็นรอบที่สาม และตัวอย่างเหล็กที่ทีมสุดซอย และ สมอ.ไปเก็บจากบริเวณตึกถล่ม ที่มีสื่อมวลชนเป็นพยานในวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา มีการตัดเหล็กด้วยอุปกรณ์จากเหล็กท่อนยาวที่ประเมินว่าไม่ได้รับผลกระทบจากการถล่ม โดยที่ไม่ได้คาดหมายว่าจะเจอเหล็กยี่ห้ออะไร แต่ผลปรากฏว่าเหล็กข้ออ้อยที่ตัดนำมาทดสอบนั้นมีของ SKY ที่ไม่ผ่านมาตรฐานจำนวน 2 รายการ ในขณะที่เหล็กของยี่ห้ออื่นผ่าน

"ไม่ว่าผลสอบสาเหตุของตึกถล่มโดยคณะกรรมการสอบสวนจะออกมาเป็นอย่างไร ผลทดสอบของเหล็ก SKY หรือซิน เคอ หยวน ก็ถือว่าสอบตกไปแล้ว แต่หากทางเจ้าพนักงานจะประสานเจ้าหน้าที่ของกระทรวงอุตสาหกรรมไปร่วมเก็บหลักฐานเพิ่มเติมให้สมบูรณ์ ก็ยินดีให้ความร่วมมือ" นายเอกนัฏย้ำ

รมว.อุตสาหกรรมกล่าวอีกว่า ก่อนหน้าทีมสุดซอยได้เข้าไปที่บริษัท SKY เพื่อตรวจสอบโรงงาน และได้ขอข้อมูลเกี่ยวกับเหล็กที่ถูกจำหน่ายออกไป แต่กลับพบความผิดปกติเกี่ยวกับกากฝุ่นแดงที่ปรากฏอยู่ในปริมาณราวๆ 40,000-50,000 ตัน ซึ่งเกินปริมาณที่เคยได้แจ้งไว้ในระบบไปหลายเท่า จึงได้มีคำสั่งให้ทางบริษัทชี้แจง แต่จนถึงวันนี้ข้อมูลที่ได้รับจากบริษัทเกี่ยวกับการจำหน่ายเหล็กกลับไม่เป็นประโยชน์ ส่วนเรื่องฝุ่นแดงก็ไม่ได้รับคำชี้แจงภายในระยะเวลาที่กำหนด จึงต้องมีการปรับแผนด่วน ไม่ให้มีการยืดระยะเวลา เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่กระทรวงต้องทำการตรวจสอบมาเปิดเผยสู่สาธารณชนอย่างเร็วที่สุด

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า  ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้มีหนังสือถึงบีโอไอ เมื่อวันที่ 4 เม.ย.68 แจ้งว่า บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายตาม พ.ร.บ.โรงงานอุตสาหกรรมฯ และ พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมฯ เมื่อวันที่ 11 เม.ย.68 บอร์ดบีโอไอที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลังเป็นประธาน ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณากรณีดังกล่าว และมีมติให้เพิกถอนการใช้สิทธิประโยชน์เป็นการชั่วคราว โดยไม่กระทบกับสิทธิประโยชน์ที่ได้ใช้ไปแล้วของบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ซึ่งได้รับการส่งเสริมในกิจการผลิตเหล็กแท่ง (Billet) ตามบัตรส่งเสริมเลขที่ 1235(2)/2556 ลงวันที่ 19 ก.พ.56

เลขาธิการบีโอไอกล่าวว่า ให้มีผลนับแต่วันที่คณะกรรมการฯ มีมติ จนกว่ากระทรวงอุตสาหกรรมจะมีหนังสือแจ้งมายังสำนักงานว่าอนุญาตให้บริษัทกลับมาดำเนินการผลิตได้ และหากกระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินการเพิกถอนหนังสือรับรองการประกอบกิจการโรงงานแล้ว สำนักงานจะนำเสนอคณะกรรมการเพื่อดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ในระหว่างที่กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานอื่นๆ ยังตรวจสอบรายละเอียดและดำเนินการตามกฎหมายไม่แล้วเสร็จ

เร่งเก็บหลักฐานปูน-เหล็ก

 “ที่ผ่านมาบีโอไอไม่ได้นิ่งนอนใจกับกรณีดังกล่าว โดยได้เข้าตรวจสอบโรงงานของบริษัท ซิน เคอ หยวนฯ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.68 เพื่อรวบรวมข้อเท็จจริง และได้มีหนังสือแจ้งเตือนให้บริษัทต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในบัตรส่งเสริม รวมทั้งต้องปฏิบัติตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด” เลขาธิการบีโอไอระบุ

วันเดียวกัน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก เดินทางลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจกำลังพลและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ซากอาคาร สตง.ที่ถล่มจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อ 28 มี.ค.68 ที่ผ่านมา  โดยกองทัพบกได้ส่งกำลังพล เครื่องมือ และยุทโธปกรณ์อย่างเต็มศักยภาพเข้าสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจตั้งแต่วันเกิดเหตุมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันจัดกำลังพล รวม 185 นาย พร้อมทั้งนำยานพาหนะและยุทโธปกรณ์ จำนวน 31 คัน เข้าสนับสนุนภารกิจกู้ภัย รื้อถอนซากอาคาร และค้นหาผู้รอดชีวิต ร่วมกับสำนักงานเขตจตุจักร ปภ.  อาสากู้ภัย จิตอาสา และส่วนราชการอื่นๆ

พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น.2) เปิดเผยภายหลังการเข้าร่วมเก็บพยานหลักฐานกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอว่า ขณะนี้ทีมงานได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างชิ้นส่วนจากจุดเกิดเหตุในแต่ละโซนจำนวน 12 ชิ้นต่อโซน ทั้งที่เป็นส่วนของเสาและพื้น เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ความผิดปกติของเนื้อปูนอย่างละเอียด โดยการเก็บตัวอย่างเป็นไปอย่างมีระบบ โดยใช้วิธีการเจาะพื้นให้มีลักษณะทรงกระบอก เพื่อให้ได้ตัวอย่างปูนที่เพียงพอต่อการตรวจสอบ   ซึ่งขณะนี้ได้มีการประสานงานไปยังหน่วยงานที่จะทำการตรวจพิสูจน์เรียบร้อยแล้ว โดยจะส่งตัวอย่างไปตรวจที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ส่วนผลการตรวจเหล็กบางส่วนได้ออกมาแล้ว แต่รายละเอียดอยู่ในสำนวนการสืบสวนสอบสวน

เมื่อถามว่า พบความผิดปกติหรือไม่ พ.ต.อ.ธิติพงศ์กล่าวว่า จากการตรวจสอบทางกายภาพในเบื้องต้น สามารถบ่งชี้ได้ถึงแหล่งที่มาของเหล็ก ล็อตการผลิต และลักษณะการผลิต เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญในขณะนี้ ส่วนการตรวจสอบทางเคมีของปูนนั้น ยังต้องรอผลการตรวจพิสูจน์อีกครั้ง นอกจากสถาบันพระจอมเกล้าแล้ว ยังได้มีการส่งตัวอย่างไปตรวจที่สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยด้วย  อยู่ระหว่างรอผลการตรวจเช่นกัน

ผบก.น.2 ยอมรับว่า ปัญหาและอุปสรรคในการทำงานขณะนี้ คือการแบ่งเวลาในการเข้าเก็บพยานหลักฐาน เนื่องจากต้องอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ยังคงปฏิบัติภารกิจค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการพูดคุยและวางแผนร่วมกันแล้ว

ด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า การเข้ามาเก็บพยานหลักฐานในครั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีการประชุม โดยมีการระบุแบ่งหน้าที่ในการเก็บหลักฐานบริเวณโซนต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดการซ้ำซ้อนของแต่ละหน่วยงาน โดยจะมีนิติวิทยาศาสตร์ ที่จะเข้ามาช่วยบันทึกวัตถุพยานต่างๆ เบื้องต้นจะเก็บทั้งหมด 48 ชิ้น ในพื้นที่ 4 โซน ทั้งที่มาจากพื้นและของเสาปูน ภายใต้ตามหลักวิชาการ ขณะเดียวกัน จะเน้นในการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนของปูนซีเมนต์ ส่วนเหล็กอยู่ระหว่างการดำเนินการเก็บหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อนำตรวจสอบสภาพเหล็ก

โฆษกดีเอสไอกล่าวว่า ทั้งนี้ ในช่วงระยะเวลาเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนฝ่ายตำรวจ รวมทั้งพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ได้มีการเก็บหลักฐานสำคัญไปในบางส่วนแล้ว แต่เพื่อให้ครอบคลุมและสมบูรณ์ทุกด้าน จึงได้มีการประชุมเข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติมอีก โดยมีพิสูจน์หลักฐานของตำรวจเป็นหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบพยานหลักฐาน ส่วนดีเอสไอจะเข้าไปดูในส่วนของการนำพยานหลักฐานมารวมกับสำนวนคดี  นอกจากนี้ หลังจากการเก็บพยานหลักฐานต่างๆ  จะมีการประชุมหารือกันอีกครั้ง สำหรับการเข้าเก็บพยานหลักฐาน จะใช้ระยะเวลาในช่วงเช้า ที่เครื่องจักรหนักหยุดทำงานชั่วคราว

วันเดียวกัน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) พร้อมด้วยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และนายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้สูญหายจากเหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม

นายวิโรจน์กล่าวว่า ในเรื่องของการตรวจสอบ เท่าที่ได้หารือกับนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะคณะกรรมาธิการติดตามตรวจสอบงบประมาณ คงต้องแกะรอยจาก 3 องค์ประกอบ ประกอบด้วย การออกแบบ, การควบคุมงาน และการตรวจรับงาน ส่วนอีกเรื่องที่ไม่สามารถทิ้งประเด็นได้ คือคุณภาพของวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง

นายวิโรจน์ระบุด้วยว่า มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าวิศวกรผู้ควบคุมมีความสัมพันธ์เรียกว่าเป็นคนตัวใหญ่ใน สตง. เบื้องต้นต้องให้ความเป็นธรรมกับชื่อที่ถูกพูดถึงอย่างประธาน คตง.  และเราต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ว่าบริษัทที่ปรึกษามีความเกี่ยวข้องโยงใยกับเครือข่ายครอบครัวตามที่ถูกตั้งข้อสังเกตหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ ก็ต้องให้ความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้เราไม่สามารถปล่อยให้คลุมเครือได้ เพราะหากบริษัทที่ปรึกษามีความเกี่ยวข้องกับประธาน คตง. จะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งเราจะต้องตรวจสอบให้สิ้นข้อสงสัย เพื่อความเป็นธรรมให้กับท่าน

เขากล่าวอีกว่า ได้พูดคุยกับนายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ซึ่งตอนนี้เรามีข้อสันนิษฐานว่าจำนวนแรงงานต่างชาติที่ตัวเลขระบุอยู่ระหว่างการสูญหายอาจน้อยกว่าความเป็นจริง เพราะมีนายจ้างจำนวนหนึ่งกลัวถูกดำเนินคดี กลัวว่าใช้แรงงานโดยไม่ขึ้นทะเบียน และไม่มีระบบประกันสังคม ซึ่งตนได้พูดคุยกับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ก็ยืนยันว่ากำลังดำเนินการ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.