สรุปยอด3วัน ‘สงกรานต์’ดุ ตายแล้ว100

สงกรานต์อันตราย! ศปถ.สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนน 13 เม.ย. เกิด 296 ครั้ง บาดเจ็บ 299 คน เสียชีวิต 39 ราย สาเหตุขับรถเร็วร้อยละ 44.26 ตามด้วยดื่มแล้วขับ 29.05 รวม 3 วันเกิดอุบัติเหตุ 756 ครั้ง บาดเจ็บ 752 คน เสียชีวิตรวม 100 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมี 30 จังหวัด  กทม.สูงสุด 10 ศพ

เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2568 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายขจร ศรีชวโนทัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง ในฐานะประธานแถลงผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 ประจำวันที่ 13 เมษายน 2568 เปิดเผยว่า จากสถิติข้อมูลอุบัติเหตุในช่วง 3 วันที่ผ่านมา พบว่ายานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือรถจักรยานยนต์ และพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงที่สุดคือ การไม่สวมหมวกนิรภัย รองลงมาคือการดื่มแล้วขับ

ศปถ.ขอให้ทุกภาคส่วนเพิ่มความเข้มข้นในการกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ โดยใช้กลไกของพื้นที่ในการดำเนินการ อย่างการตั้งด่านชุมชนและด่านครอบครัวในการเฝ้าระวัง ตรวจตรา ป้องปรามและตักเตือนบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงให้ปฏิบัติตนให้ถูกต้อง สวมใส่อุปกรณ์นิรภัย และมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนก่อนขับขี่ยานพาหนะออกนอกชุมชน โดยหากพบผู้กระทำผิดและไม่ปฏิบัติตามคำตักเตือน ขอให้ประสานมายังสถานีตำรวจภูธรใกล้เคียงเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมถึงการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วปฏิบัติการเชิงรุก ด้วยการเคาะประตูบ้านเพื่อป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยง การออกตรวจพื้นที่ที่จัดให้มีการเล่นน้ำสงกรานต์และพื้นที่ที่มีการจัดงานประเพณี ไม่ให้มีการจำหน่ายหรือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในงาน ก่อนเดินทางออกจากงานจะต้องสวมใส่อุปกรณ์นิรภัยให้เรียบร้อย และจะต้องไม่มีอาการมึนเมาสุราโดยเด็ดขาด

ทั้งนี้ ขอให้จังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ขับขี่ที่ทำพฤติกรรมเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทางถนน 10 ข้อ (10 รสขม) ให้ความสำคัญกับการควบคุมดูแลการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาตามที่กฎหมายกำหนด และการไม่จำหน่ายให้กลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี โดยในกรณีที่เด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีดื่มแล้วขับจนทำให้เกิดอุบัติเหตุและมีผู้เสียชีวิต ให้มีการสืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่จำหน่าย หรือสนับสนุนให้เด็กดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ ให้สำรวจจุดเสี่ยง จุดเกิดเหตุซ้ำซาก ทางร่วมทางแยก และจุดกลับรถ เพื่อปรับปรุงและแก้ไขเส้นทางให้มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้รถใช้ถนนมากยิ่งขึ้น ตลอดจนปรับปรุงเครื่องหมายและเส้นจราจรให้มีความชัดเจน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากสภาพแวดล้อมในการเดินทาง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ และประชาชนผู้รับบริการและเดินทางสัญจรไปมา ขอให้ตั้งจุดตรวจและจุดบริการประชาชนในบริเวณที่ปลอดภัย ไม่กีดขวางเส้นทางจราจร มีระยะห่างจากขอบเส้นทางที่เหมาะสม  หลีกเลี่ยงการตั้งในพื้นที่ที่ถนนเปียกหรือมีน้ำขัง และจะต้องมีเครื่องหมาย กรวย หรือป้ายแสดงตำแหน่งจุดบริการ เพื่อให้ประชาชนเห็นได้อย่างชัดเจน

ด้าน พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประธานการประชุมอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี พ.ศ. 2568 กล่าวว่า เนื่องจากการสอบสวนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น พบว่านอกเหนือไปจากดื่มแล้วขับแล้ว ส่วนหนึ่งอุบัติเหตุทางถนนยังเกิดจากการง่วงแล้วหลับใน ที่มาจากการทานยาบางชนิดที่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงซึม จึงขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ข้อมูลการใช้ยา ว่ามียาชนิดใดบ้างที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึมและมีผลต่อการขับขี่ เช่น กลุ่มยาแก้แพ้ แก้คัน ลดน้ำมูก กลุ่มยาแก้ปวดอย่างแรง ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้ไอ ยากันชัก ยารักษาอาการปวดเส้นประสาท ยาต้านอาการท้องเสีย และหากประชาชนทานยาเหล่านี้ก็ไม่ควรขับรถโดยเด็ดขาด โดยขอให้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลนี้ผ่านทุกช่องทางของจังหวัด ทั้งเสียงตามสาย  ป้ายรณรงค์ และสื่อสังคมออนไลน์

นอกจากนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ณ จุดตรวจและจุดบริการประชาชน ตรวจเช็กการรับประทานยาของผู้ขับขี่ รวมถึงขอให้บุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง (Transport Safety Manager: TSM) ตรวจสอบการรับประทานยาเหล่านี้ของผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

ขณะที่นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี พ.ศ. 2568 กล่าวเพิ่มเติมว่า 14 เมษายน 2568 เป็นวันครอบครัว ประชาชนจึงมักเดินทางไปรดน้ำขอพรญาติผู้ใหญ่เพื่อความเป็นสิริมงคล บางส่วนอาจเดินทางไปไหว้พระตามวัดต่างๆ เพื่อให้ทุกการเดินทางในวันนี้เป็นการเดินทางที่ปลอดภัย ไม่มีความสูญเสีย สมาชิกครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าเพื่อเฉลิมฉลองวันครอบครัวอย่างมีความสุข ขอฝากให้ประชาชนผู้ขับขี่ยานพาหนะขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ไม่ขับรถเร็ว ไม่ดื่มแล้วขับ หากต้องการเปลี่ยนเลนขอให้ใช้สัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อให้สัญญาณกับยานพาหนะโดยรอบ รอจนได้ระยะที่ปลอดภัยแล้วจึงเปลี่ยนเลน ไม่ตัดหน้ากระชั้นชิด รวมถึงสวมใส่อุปกรณ์นิรภัย ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด  และมีน้ำใจกับผู้ร่วมใช้เส้นทาง

สำหรับข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 ประจำวันที่ 13 เมษายน 2568 ซึ่งเป็นวันที่สามของการรณรงค์ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 13 เมษายน 2568  เกิดอุบัติเหตุ 296 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 299 คน ผู้เสียชีวิต 39 ราย

สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 44.26 ดื่มแล้วขับ 29.05 และตัดหน้ากระชั้นชิด 17.91 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 85.85 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 81.42 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 37.84 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 32.09 ถนนในเมือง (เทศบาล) ร้อยละ 14.19 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 18.01-21.00 น. ร้อยละ 20.61 เวลา 15.01-18.00 น. ร้อยละ 16.89 และเวลา 12.01-15.00 น. ร้อยละ 16.55 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี ร้อยละ 21.89 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,754 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 51,017 คน

โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ภูเก็ต (15 ครั้ง)  จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ลำปาง (19 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ปทุมธานี สระแก้ว และเชียงราย  (จังหวัดละ 3 ราย)

สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 3 วันของการรณรงค์ (11-13 เมษายน 2568) เกิดอุบัติเหตุรวม 756 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 752 คน ผู้เสียชีวิตรวม 100 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 30 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ พัทลุง (28 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ ลำปาง (31 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (10 ราย).

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี

อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก

นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม